" ไอ้เวย์ !! มึงช่วยกูด้วย ! "
" โอ้ยยย มึงเลิกเกาะขากู ...ปล่อยกูไอ้ชิ !! " ไอ้เวย์เรียกชื่อผมลากเสียงยาวไปถึงเชียงใหม่
" กูช่วยงานมึงเมื่อวานนะ มึงต้องช่วยกูดิว้าา!~ "
" กูจะไปช่วยอะไรมึงได้วะ มึงดันไปเก็บแมวตัวนั้นมาเองนะ เขาตามหามึง ...มึงก็ดันไปเจอเขาแล้วมึงก็เป็นคนมาพาเองด้วย! นั่นคือพรมลิขิตแล้ว เชื่อกูสิ!! "
" ก็ใครจะไปรู้ว่าเขาเป็นราชาปีศาจเล่าา โดนซัดสะบักสะบอมซะขนาดนั้น "
" กูไม่รู้ นี่เป็นชะตาของมึง ท่านรานิลเลือกมึง !! มึงต้องทำตามข้อสัญญาของสองเผ่า ...มึงคือผู้ถูกเลือก!! ปล่อยกู!! กูมีงานเข้า กูจะไปล่าปีศาจกิ้งก่ากับไอ้เฟยแล้ว!! "
" กูไปด้วยยยย ! "
ผลั๊วะ !!
" โอ้ยยย ! " ไอ้เวย์สะบัดขาถีบผมจนล้มหงายหลังอย่างรำคาญใจ ซึ่งผมตอนนี้ก็ได้ลงไปนอนหงายเงิบกับพื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
" โทษทีว่ะมึง ไงกูรอเป็นเพื่อนเจ้าสาวนะ ! "
ฟิ้ววว ! ว่าจบไอ้เวย์ก็กระโดดหนีหายไปในความมืด ทิ้งให้ผมนั่งคุกเข่าน้ำตาไหลรินแหมะๆ ลงบนพื้นอย่างน้าเวทนา
ผมไม่คิดเลยว่าการที่ผมเป็นทาสแมว มันจะนำพาความซวยมาให้ผม ปู่บอกว่าทางเเราและเผ่าแมวได้ทำพันธะสัญญาสงบศึกกันมาช้านานแล้ว ยังไงซะ ัวเด็ดตีนขาดยังไงผมก็ต้องเข้าพิธีกับเขา
ปัดโธ่เอ้ยยย !! ปีศาจสาวสวยหมวยเอ็กซ์สะบึมบึ้มบั้มก็มีเยอะแยะ ทำไมไม่ไปเลือกเอาวะ !! สัญญาบ้าบอนี่ไม่ต้องไปยึดติดกับมันนักก็ได้
คอยดูนะ ถ้าผมได้ขึ้นเป็นเจ้าสำนักแทนปู่เมื่อไหร่ ผมจะแก้ข้อสัญญาบ้าบอนี้ให้หมดเลยคอยดู !
ผมกระทืบเท้าปึงปังเดินกลับห้องของตัวเอง ทั้งๆ ที่เวลานี้ผมจะต้องออกไปล่าปีศาจเหมือนกับไอ้เวย์ และคนอื่นๆ แต่นี่ผมกลับต้องมาโดนกักตัวเพื่อเตรียมตัวออกเรือนไปกับใครที่ไหนก็ไม่รู้ เหอะ ! นี่มันไม่ต่างอะไรกับการคลุมถุงชนของคนปกติทั่วไปเลย ปู่นะปู่ ...เลี้ยงผมมาได้ตั้งยี่สิบปี พอมาวันนี้กลับจะยกผมให้คนอื่นไปซะงั้น
เมี๊ยวววว
" เฮ้ย ...เจ้านิล ! แกหายไปไหนมา มานี่มาเร็ว ! " ผมเรียกเจ้านิลให้เดินเข้ามาหาผม มันทำตามอย่างว่าง่าย มันเข้ามาคลอเคลียผมเหมือนทุกครั้ง ผมบอกเลยว่าผมไม่เคยถูกใจแมวตัวไหนเท่ามันมาก่อน ผมอุ้มมันให้ขึ้นมานั่งบนตัก แล้วก็เอาจมูกไปถูไถกับจมูกของมันอย่างเคยๆ
เอ่อ ... แต่ เดี๋ยว นะ !! นี่มันไม่ถูก !!!
ป๊องงงง !!
" อ้ะ ! เฮ้ยย ! " เพียงชั่วพริบตา เจ้าแมวดำแสนรักของผมก็กลับกลายเป็นชายร่างกายกำยำ ผมยาวปล่อยพริ้วไหวถึงกลางหลัง ผิวขาว บวกกับดวงตาสีอำพันที่ห่างออกไปจากใบหน้าของผมไม่ถึงเซน
...นี่มันใกล้เกินไปแล้ว !!
" เจ้าชอบข้าในร่างนั้นมากกว่าร่างนี้งั้นรึ ?? "
" มะ ไม่ใช่ ...เอ้ยย ! ใช่ เหวออ ! " ผมที่กำลังตกใจและตกตะลึงไปกับดวงตาคู่สวยคู่นั้นจนไม่ทันระวังตัว จึงโดนเขาผลักลงไปนอนราบกับฟูกที่นอน เขาใช้น้ำหนักตัวทั้งหมดทาบทับลงมาบนร่างของผม หนำซ้ำกลิ่นไอปีศาจอันหอมหวานจากตัวเขากำลังทำให้สมองผมเบลอไปหมด
" กลิ่นกายข้า หอมใช่หรือไม่ ? " เขากระซิบเสียงกระเส่าที่ข้างหู จนผมต้องหลับตาปี๋พร้อมกับส่ายหน้ารัวๆ เพื่อเรียกสติ
" ไม่ ...ท่านจะเข้ามาจู่โจมผมแบบนี้ไม่ได้ ถอยไปเถอะครับ " ผมพูดร้องขอโดยที่ยังคงไม่ลืมตามองเขา
" เจ้ารู้หรือไม่ว่า ...กลิ่นนี้มีเพียงเจ้าที่สัมผัสถึงมันได้ "
" ไม่ๆๆ ผมไม่รู้ ...แต่ตอนนี้ท่านต้องปล่อยผมไปก่อน "
" หึ หึ ...เจ้าช่างน่ารักไม่เคยเปลี่ยน " หัวใจผมกระตุกวูบไปกับคำหวานรื่นหูเมื่อครู่ แต่ก็ไม่ลืมที่จะหลับตาปี๋อยู่อย่างนั้นเพื่อปฏิเสธทุกสิ่งเร้าต่างๆ ภายนอก
เขาใช้มือเรียวแตะสัมผัสหน้าผากของผม ไล้ไปตามบริเวณกรอบหน้า ลามไปหยอกล้อเล่นกับใบหู แล้วหยุดลูบไล้อยู่ที่บริเวณต้นคอ ทุกอณูของผมมันซาบซ่านไปกับทุกบริเวณที่เขาจับต้อง จนไม่รู้แล้วว่าตอนนี้ผมแสดงสีหน้าแบบไหนออกมา
" เจ้ายั่วยวนข้าด้วยสีหน้าเช่นนี้รึ ..ยอดดวงใจข้า "
" ผมเปล่า!! ผมไม่ได้ ....!!! "
ริมฝีปากเรียวบางดั่งพระจันทร์เสี้ยวของเขากดทับลงมาที่ริมฝีปากอิ่มของผมอย่างไม่ทันตั้งตัว ดวงตาที่หลับอยู่ในตอนแรกของผมกลับเบิกโพลงด้วยความตกใจ
" ข้าขอมัดจำจุมพิตอันแสนหวานจากเจ้าไว้ก่อน ...จะได้หรือไม่ "
" ถะ ถะ ...ถ้าผมไม่ยอมล่ะ! "
" หากเจ้าไม่ยอม ...ข้าก็หาได้ยอมไม่ "
นัยตาสีอำพันจ้องมองลึกเข้ามาที่นัยตาของผม เหมือนมันจะบอกว่า ' ยังไงซะผมก็ต้องเป็นของเขา '
" ดวงจิตเจ้าจะไม่ปฏิเสธข้า ...ร่างกายเจ้าก็เช่นกัน " สิ้นประโยคลึกลับที่ถึงแม้จะทำให้ผมงงงวยอยู่บ้าง แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น เพราะมันถูกแทนที่ด้วยจุมพิตที่แสนหวานจากคนตรงหน้าไปเสียแล้ว
และมันถูกทุกอย่าง ที่เขาบอกว่าร่างกายผมจะไม่ปฏิเสธเขา เขาค่อยๆ ขยับริมฝีปากขบลิ้มชิมรสทั้งบนและล่างอย่างละเมียดละไม ราวกับว่านี่คือขนมหวานจานโปรด ผมที่ตอนนี้สมองเบลอไปด้วยด้วยฤทธิ์ของกลิ่นไอปีศาจที่หอมสุดจะทนไปเสียแล้ว ลิ้นร้อนถูกส่งเข้ามาตวัดเกี่ยวลิ้นของผมอย่างเนิบนาบ และอ่อนโยน ผมไม่ปฏิเสธที่จะอ้าปากรับรสลิ้นนั่น ทั้งหมดนี้ทำผมหลงเข้าไปในห้วงของรสจูบอันแสนหวานนี้ได้อย่างง่ายดายนัก
" อื้ออ~ "
เสียงครางเบาๆ ดังลอดลำคอของผม นั่นทำให้เขายิ่งได้ใจ มือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนลงไปคลายปมเสื้อคลุมที่เป็นชุดนอนที่ผมชอบใส่เป็นประจำ เป็นโชคดีอยู่อย่างหนึ่งคือผมมักจะใส่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวบางๆ ไว้ด้วยทุกครั้ง เขาค่อยๆ สอดมือเข้าไปใต้ชุด สัมผัสเข้าที่ซิกแพ็กน้อยๆ ของผมอย่างเบามือ ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาที่หน้าอก พร้อมๆ กับเสื้อคลุมที่หลุดออกไปด้วย เขาเสือกตัวเข้ามาแทรกหว่างขาของผมอย่างเอื่อยเฉื่อยและค่อยเป็นค่อยไป กลิ่นกายเขาเหมือนยากล่อมประสาทที่ทำให้ผมเลื่อนลอยไปไม่มีที่สิ้นสุด เขาซุกไซร้ซอกคอผมสูดดมกลิ่นกายอย่างไม่รู้จีกพอ ก่อนจะค่อยๆ กดลงต่ำลงไปเรื่อยๆ พรมจูบทั่วร่าง ลามไปจนถึงท้องน้อย ผู้รู้สึกได้ถึงอาการตึงหน่วงที่แกนกาย สายตาผมมองทุกการกระทำของเขาอย่างไม่อาจวางตา ใจที่เต้นระส่ำดั่งกลองเพลนี้ก็ไม่อาจควบคุมได้ เขาจับขาข้างหนึ่งของผมค่อยๆ ยกขึ้นอย่างทะนุถนอม และผมก็ต้องตกใจตาเบิกโพลงอีกครั้งกับสิ่งที่เขาทำ
จุ๊บ !
เขาจูบลงบนหลังเท้าของผมอย่างแผ่วเบาแต่หนักแน่น ก่อนจะใช้สายตาเฉี่ยวคมสีอำพันนั้นจ้องมองมาที่ผม แล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน หน้าผมร้อนผะผ่าวเสียยิ่งกว่าตอนเขาจูบโอ้โลมผมเสียอีก
" ทะ ท่านทำอะไร "
" ...ข้าจะรอ วันที่เราได้เข้าหอตามประเพณี ...เมื่อถึงวันนั้น ขอเจ้าจงมอบทุกสิ่งของเจ้าให้กับข้า " คำว่าทุกสิ่งที่เขาหมายถึงผมก็พอจะรู้ว่ามันคืออะไร
ก่อนจะไปเขาฝากรอยจูบแสนอบอุ่นไว้ที่หน้าผากของผม ก้อนเนื้อข้างซ้ายของผมมันทำงานอย่างหนักในค่ำคืนนี้ ผมที่เพิ่งเคยเจอกับเขา แต่ความรู้สึกส่วนลึกมันกลับบอกว่าเขาคือคนที่คุ้นเคย ยิ่งใกล้เขามากเท่าไหร่เหมือนผมยิ่งถูกดูดเข้าไปในห้วงแห่งความฝัน ฝันนั้นที่เคยมีผมกับเขาเคียงคู่กันมาแล้วนานแสนนาน