พบ
" ไอ้ชิ มึงรีบๆ ตามมาทางนี้สิวะ เดี๋ยวมันก็หนีกันไปหมดหรอก ! " เสียงตะโกนดังลั่นมาจากบุคคลด้านหน้า ที่ตอนนี้วิ่งกระโดดข้ามหลังคาบ้านหลังนั้นหลังนี้อย่างชำนาญ
ส่วนตัวผมเองก็ตามหลังไปแบบติดๆ แต่ไอ้เวย์มันก็ยังไม่วายเร่งผมอยู่นั่น
" ไอ้เวย์ มึงก็อย่าเร่งกูให้มาก นี่กูอุตส่าห์สละเวลาตีป้อมของกูมาช่วยงานมึงเลยนะ "
ฟึบบบ ฟิ้วววว !
เราสองคนกระโดดลอยตัวผ่านยอดไม้ต้นแล้วต้นเล่า สายตาก็เหลือบมองบรรยากาศและผู้คนที่บางตาเบื่องล่างไปด้วย
" มึงก็อย่าบ่นให้มาก ...กูได้กลิ่นไอปีศาจลอยมาแล้ว แม่งกลิ่นโคตรแรง! ระดับ sr ไม่ก็ ssr ชัวร์ "
ว่าจบไอ้เวย์ก็เร่งความเร็วในการวิ่งกระโดดข้ามหลังคาฝ่าดงตึกเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ผมเองก็เริ่มได้กลิ่นไอปีศาจลอยมาเตะจมูกบ้างแล้วเหมือนกัน
แต่แปลก ...ผมเพิ่งเคยได้กลิ่นไอปีศาจแบบนี้เป็นครั้งแรก กลิ่นมันต่างจากปีศาจตัวอื่นที่ผมเคยเจอ
กลิ่นนี้มัน ...หอมแปลกๆ
พวกเราวิ่งข้ามตึก ซอกแซกเข้าออกไปตามซอยเปลี่ยว จนใปถึงบริเวณชานเมืองที่มีแต่ป่า ตอนแรกพวกผมคิดว่ามันจะอยู่ในเมืองเสียอีก แต่พอตามกลิ่นมาเรื่อยๆ เผลอแป๊บเดียวก็เลยออกมานอกเมืองแล้ว
" ไอ้ชิ มึงไปดูทางนั้น กูจะดูทางนี้เอง ...ระวังตัวด้วย "
ผมพยักหน้ารับคำเพื่อนหงึกๆ ก่อนจะแยกตัวออกไปอีกด้านหนึ่งของป่า กลิ่นไอปีศาจเมื่อครู่ยังคงตลบอบอวลอยู่รอบๆ บริเวณนี้ไม่จาง มันคงเป็นปีศาจที่ระดับไม่ต่ำว่า ssr อย่างที่ไอ้เวย์บอกแน่ๆ อีกอย่าง กลิ่นไอปีศาจมันมีมากกว่าหนึ่ง
แกร๊ก!
ผมหันขวับไปทิศที่ได้ยินเสียงความผิดปกติทันที ผมไม่อยากจะอวดเลยว่านักล่าปีศาจอย่างพวกเรานอกจากจะมีจมูกที่ดีผิดมนุษย์มนาแล้ว หูและตายังไวกว่าคนทั่วไปอีกด้วย
อีกทั้งวันนี้เป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวง และกลมโตส่องแสงสีเหลืองส้มนวลสวยเป็นพิเศษ ก็ยิ่งทำให้พลังของพวกผมเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว
แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่พวกผมที่มีพลังที่มากขึ้น ...สิ่งนี้ก็เป็นผลดีกับพวกปีศาจด้วยเช่นกัน
ฟิ้วววว !! ปัก!
ขวับบบ !
" ฮึกก ...บ้าเอ้ย! " ไม่ทันที่ผมได้ระวังตัว ก็มีลูกศรจากคันธนูปริศนามาจากทางทิศใต้ พุ่งแหวกอากาศมาด้วยความเร็ว มันตั้งใจจะให้ปักเข้าที่อกผม แต่ครั้งนี้คงไม่ได้สมใจมันแน่ เพราะลูกธนูมันทำได้เพียงแค่ถากแขนผมไปเท่านั้น
" ไอ้ชิ ! เห้ย! บาดเจ็บหรอวะ ? เห็นตัวมันมั้ย? "
ไอ้เวย์กระโจนออกมาจาพุ่มไม้ของอีกฝั่ง ก่อนจะตาลีตาเหลือกเข้ามาจับแขนผมที่โดนทำร้ายเมื่อครู่
" กูไม่เป็นไร ...ยังไม่เห็นตัวว่ะ แต่ลูกธนูมาจากทางทิศนั้น ...ตามไปก็รู้ "
พวกผมสองคนยักหน้าให้กันก่อนจะจับอาวุธในมือของตัวเองให้แน่นยิ่งขึ้น และวิ่งตรงไปยังทิศที่ลูกธนูนั่นแหวกอากาศมา
ผมสองคนวิ่งลัดเลาะเข้ามาในป่าลึกพอตัว ตามกลิ่นไอปีศาจมาจนถึงริมลำธาร และก็เป็นไปตามคาดพวก ผมเจอมันแล้ว! เลยรอดักซุ่มอยู่หลังพุ่มไม้เพื่อรอจังหวะเข้าชาร์จเหมาะๆ
" นี่อย่าบอกนะว่าปีศาจขอความช่วยเหลือจากนักล่าปีศาจ เพื่อให้มาปราบปีศาจ ...เนี่ยอ่ะนะ ?? "
นี่ถ้าผมไม่เห็นกับตา ผมก็คงไม่เชื่อ เพราะภาพตรงหน้าพวกผมคือปีศาจอะไรสักอย่างที่ผมเห็นไม่ชัดนัก กำลังถูกไล่ต้อนโดยนางปีศาจจิ้งจอก จนตกลงไปในลำธาร แต่โชคดีที่เป็นช่วงน้ำตื้น ยังไงก็ไม่มีทางจมน้ำแน่
" เออว่ะ กูก็เพิ่งเคยเห็น ตอนแรกที่เห็นสัญญาณขอความช่วยเหลือ กูยังงงว่าคนบ้าอะไรมาเดินเล่นในป่าตอนนี้ แต่สงสัยจะจนมุมจริงๆ ว่ะ แค่ดูฝีมือยิงธนูได้ไกลขนาดนั้น กูว่าไอ้ตัวที่มีเรื่องกับนางปีศาจจิ้งจอกนี่ได้ตายแน่ " ไอ้เวย์สาธยายยาวเหยียด
แต่ตอนนี้หูผมดับไปแล้ว ได้ยินล่าสุดแค่ไม่กี่คำที่ออกจากปากมัน เพราะผมสนใจกับภาพต่อสู้ของปีศาจทั้งสองเสียมากกว่า
' นั่นมัน ...แมวนี่หว่า !! '
ผมคิดในใจ และพลันร่างกายก็ไปพร้อมๆ กับความคิดเสียด้วย ผมรีบกระโจนออกจากพุ่มไม้โดยไม่ทันได้บอกกล่าวหรือวางแผนอะไรกับคู่หูของผมเลย
" เห้ย!! ไอ้ชิ !! มึงบ้ารึไงวะ ! เวรเอ้ย! "
ผมไม่ฟังแล้วว่ามันจะด่าอะไรผม เพราะตอนนี้ปีศาจแมวน้อยเหมียวๆ เงี้ยวๆ กำลังโดนไล่ต้อนจนไม่มีที่ให้หนีได้อีกแล้ว นางปีศาจจิ้งจอกนั่นใช้ทวนกวัดแกว่งใส่ร่างน้องเหมียวอย่างเร็ว ถึงจะโดนบ้างไม่โดนบ้าง แต่ก็ได้เลือดอยู่ไม่น้อย
เคร้ง ! เคร้ง ! คว้างง ! ฉั๊วะ ! ฟิ้วววว !
ด้วยความเร็วที่ได้ชื่อว่าเป็นที่หนึ่งของกลุ่มเหล่านักล่าปีศาจอย่างผม จึงไม่มีทางปล่อยให้ทวนของนางปีศาจนี่ทิ่มแทงพุงน้องเหมียวได้อีกต่อไปแล้ว !!
ย้ากกกก!!
เคร้ง !
ผมชักดาบคาตานะคู่ใจออกมายากด้านหลัง ตั้งกาดรับกระบวนท่าทวนของนางปีศาจจิ้งจอกที่กำลังจะฟาดฟันลงมาที่พุงของน้องเหมียว
" หึ ! ฝีมือมีแค่นี้รึไง ! "
" แก ไอ้นักล่าปีศาจ ! เข้ามาสอดไม่เข้าเรื่อง !!"
ว่าจบ นางจิ้งจอกสาวก็ฟาดทวนลงมาที่ผมอีกครั้ง ผมเองก็ป้องกันได้อย่างสบายเช่นครั้งแรก
นางปีศาจจิ้งจอกเด้งตัวถอยหลังกลับไปตั้งหลักบนโขดหิน แล้วตั้งท่ากำลังจะโจมตีมาอีกครั้ง แต่ไม่ทันหรอกครับ
คู่หูผมมานู่นแล้ว
ย้ากกกกก!!
ฟ้าววว ฉั๊วะ!!
" กรี๊ดดดดดดด !! ไอ้นักล่าปีศาจชั่ว ฝากไว้ก่อนเถอะ "
นางปีศาจจิ้งจอกใช้จังหวะช่องโหว่ และความเร็วของมัน หนีกลับเข้าไปในพุ่มไม้อีกฝั่ง และอาศัยความมืดพรางตัวหนีไปได้อย่างรวดเร็ว
" ตามมั้ย?? " ไอ้เวย์เอียงคอถาม สายตามันบ่งบอกว่าอยากจะตามไปฟันนางจิ้งจอกนั่นอีกสักสองสามแผล
" กูว่าไม่ต้องแล้วล่ะ มันคงกลัวหัวหดไปอีกนาน " ผมว่าพลางเดินเข้าไปหาแมวน้อยที่ตอนนี้ตัวเปียกปอนนอนหนาวสั่นอยู่ริมลำธารฝั่งโน้น
แฮ่ก ๆ ๆ ง๊าวว~!
เสียงแหบพร่าระคนหมดแรงดังออกมาจากเจ้าเหมียว ผมรู้ดีว่ามันคือปีศาจ แต่กลิ่นไอปีศาจของมันอ่อนมาก ระดับพลังของมันไม่มีทางสร้างปัญหาให้ใครได้เป็นแน่
" ไอ้ชิ มึงอย่าบอกนะว่า... "
" กูจะเลี้ยงแมวตัวนี้ "
" แต่มันเป็นปีศาจนะเว้ย ! "
ผมไม่ฟังคำใครอีกแล้ว ผมค่อยๆ ช้อนตัวเจ้าเหมียวขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนอย่างเบามือ ลมหายใจมันหอบถี่เหมือนเหนื่อยจะขาดใจ เห็นแบบนี้แล้ว ทาสแมวอย่างผมไม่มีทางปล่อยมันให้ตายที่นี่แน่
ฟึบบบบ!!
ผมวิ่งกระโจนไปตามยอดไม้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้จุดหมายของผมคือกลับสำนัก และช่วยชีวิตเจ้าเหมียวน้อยกลอยใจนี้เท่านั้น !
" โอ้ยย! กูล่ะปวดหัว ถ้ารู้ว่ามีปีศาจแมวไม่พาแม่งมาหรอก ...มึงไปคุยกับอาจารย์ปู่คมเองก็แล้วกันนะ ! "