ตอนที่ 2 องค์ไท่จื่อ
ปัง!!
"...เอ๊ะ!..เปิดประตูนะ ซวงอี้ ไห่อิง พวกเจ้าปิดประตูได้เช่นไร ข้ายังอยู่ข้างในเห็นหรือไม่ พวกเจ้าจะปิดประตูอย่างนี้ไม่ได้" เด็กหญิงตัวกลมวิ่งตามสหายไปที่ประตูด้านหน้า ทว่าเมื่อไปถึงประตูบานใหญ่ก็ถูกปิดลงแล้ว นอกจากจะปิดแล้วคนด้านนอกยังเอาไม้มาขัดเอาไว้ไม่ให้เด็กหญิงได้เปิดออกมาอีกด้วย
"ข้ารู้แล้วว่าเจ้ายังไม่ออกมา เพราะข้าตั้งใจจะขังเจ้าให้อดตายอยู่ที่นี่อย่างไรเล่า" เสียงเล็กแหลมของเด็กหญิงด้านนอกตอบออกไปอย่างสะใจ
"เพราะเหตุใดต้องทำกับข้าเช่นนี้ ข้าไปทำสิ่งใดให้พวกเจ้ากัน ปล่อยข้านะ! ไม่เช่นนั้นหากฮองเฮาและเสด็จป้าของข้ารู้เข้า พวกเจ้าจะต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน" หยางหลิงเซียงตะโกนขู่ออกไปอย่างไม่ยินยอม นางเป็นถึงหลานสาวลู่กุ้ยเฟยเชียวนะ จะยอมให้ทั้งสองมาข่มเหงได้อย่างไรกัน
"ฮ่าฮ่า..ไม่ต้องมาขู่พวกข้าเสียให้ยาก จะไม่มีผู้ใดมาเจอเจ้าทั้งนั้น เพราะอีกเดี๋ยวเจ้าก็จะถูกวิญญาณแค้นของพระสนมบีบคอตายอยู่ที่นี่นั่นแหละ" ซวงอี้หนึ่งในเด็กหญิง หัวเราะออกมาอย่างสะใจ นางริษยาหยางหลิงเซียงมาตลอด ในเมื่อมีโอกาสเหตุใดนางจะต้องปล่อยอีกฝ่ายไปเล่า?
"ใช่แล้ว หลิงเซียงเอ๋ยข้าได้ยินมาว่า วิญญาณพระสนมน่ากลัวนัก ความจริงแล้วตำหนักร้างแห่งนี้ ไม่มีผู้ใดกล้าผ่านมาหรอกนะบรื๋อ..พูดไปแล้วก็ขนลุก ท่านแม่ข้าเล่าให้ฟังว่า พระสนมผู้นั้นทำความผิดจึงถูกลงโทษให้มาสำนึกตนที่ตำหนักแห่งนี้ ใครจะไปคิดเล่าว่าพระสนมผู้นั้นจะใจเด็ดยิ่งนัก ถึงกับกัดลิ้นปลิดชีวิตตนเอง กว่าจะมีผู้มาพบร่างของนางก็บวมอืดเสียแล้ว ซวงอี้เรากลับกันเถิด ข้ากลัวแล้ว"
"ก็ได้ เราไปกัน" เด็กสาวอีกคนพยักหน้ายิ้มให้กันอย่างสะใจ ยิ่งได้ยินเสียงลนลานของเด็กด้านใน ทั้งสองก็ยิ่งมีความสุข
"เดี๋ยวสิ ปล่อยข้าออกไปก่อนนะ" เมื่อได้ยินเสียงของทั้งคู่ชวนกันออกไป หยางหลิงเซียงก็เริ่มร้อนรนขึ้นมา นางหันไปมองด้านหลังอย่างหวาดกลัว ขนแขนก็ลุกชัน
"ไม่ปล่อย ใครใช้ให้เจ้าทำตัวน่ารังเกียจกันเล่า รูปร่างก็อวบอ้วนแต่ยังกล้าแย่งความดีความชอบจากฮองเฮาไปเป็นของตนเองแต่เพียงผู้เดียว น่าชังนัก จงตายเป็นผีรับใช้วิญญาณพระสนมเถิด"
เสียงหัวเราะของซวงอี้ และไห่อิงไกลออกไป หยางหลิงเซียงก็ยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้นไปอีก เด็กหญิงเริ่มทุบประตู และกรีดร้องอย่างหวาดหวั่น นางไม่รู้ว่าตนเองร้องไห้และกรีดร้องอยู่อย่างนั้นนานเพียงใดแล้ว แต่เมื่อมีแรงนางก็ยังคงร้องเรียกอยู่อย่างนั้น
ความมืดมิดเริ่มโรยตัวเข้าปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ เด็กหญิงร้องไห้จนสลบไป และก็สะดุ้งตื่นขึ้นมากรีดร้องอย่างนี้ซ้ำ ๆ ป่านนี้จะมีผู้ใดรู้หรือไม่ว่านางหายตัวไป หรือทุกคนจะคิดว่านางกลับจวนสกุลหยางพร้อมบิดาไปแล้ว?
ยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหล ความหวาดกลัวเกาะกินจิตใจ หรือนางจะต้องจบชีวิตลงที่นี่?
ตุ๊บ!!
"กรี๊ด....ช่วยด้วย!!..ช่วยด้วย..ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย ปล่อยข้าออกไป ฮื้อ..ได้ยินไหม ข้ากลัว เสด็จป้าเพคะ หลานอยู่ในนี้ ซวงอี้ ไห่อิง ปล่อยข้าออกไปนะ ฮื้อ...ข้ากลัวแล้ว ปล่อยข้าออกไป" หยางหลิงเซียงทรุดตัวลงนั่งกับพื้น มือเล็กยกขึ้นกุมศีรษะตนเองเอาไว้ ใบหน้าซุกลงไปที่หัวเข่า
เสียงอะไรบางสิ่งที่ดังอยู่ด้านบนทำเอาเด็กหญิงแทบเสียสติ ปากเล็ก ๆ พร่ำร้องออกมาไม่หยุด
"อย่ากินหม่อมฉันเลย หม่อมฉันไม่อร่อยเลยสักนิด พระสนมไปกินผู้อื่นเถิดเพคะ"
"นั่นใคร!!..เสียงใครอยู่ข้างในนั้น"
เหมือนแสงสว่างสาดส่องเข้ามาในหัวใจของเด็กหญิง จากที่สิ้นหวังท้อแท้ นางกับได้ยินเสียงของคนผู้หนึ่ง พร้อมกับประตูตำหนักที่เปิดออก แสงจากโคมไฟส่องเข้ามา
เด็กหญิงเงยหน้าขึ้นก่อนจะหรี่ตาเพราะแสงไฟนั้น ร่างกลมลุกขึ้นจากพื้น ก่อนจะวิ่งออกไปหาคนผู้นั้นอย่างดีใจ ปากเล็ก ๆ ก็พร่ำร้องไม่หยุด
ไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างกลมร่างหนึ่งก็ถลาเข้ามากอดเอวเขาไว้ จ้าวตี๋เฟย เซถอยหลังไปเล็กน้อยจากการพุ่งเข้าใส่อย่างไม่ทันได้เตรียมตัว
"ฮื้อ ๆ ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย"
"ก็ไม่ใช่ว่าข้ากำลังช่วยเจ้าอยู่หรือ เจ้าเป็นใครกัน เหตุใดจึงถูกขังอยู่ที่นี่" จ้าวตี๋เฟยดันเด็กหญิงออกจากเอวของตนเอง ทว่าความหวาดกลัวของเด็กหญิงมากจนเกินไป นอกจากไม่ปล่อยแล้วมือเล็ก ๆ นั่นกลับเกาะแน่นยิ่งขึ้น จ้าวตี๋เฟยถอนหายใจออกมา ก่อนจะยกมือขึ้นตบลงไปที่แผ่นหลังเล็กนั่นเบา ๆ อย่างปลอบใจ
"ข้าชื่อหลิงเซียง ข้าถูกซวงอี้กับไห่อิงหลอกมาขังไว้ที่นี่...เอ่อ.." ยังไม่ทันได้บอกให้พี่ชายตัวโตได้ฟังจนจบ ท้องของหลิงเซียงก็ส่งเสียงร้องออกมาเสียอย่างนั้น
"หึหึ..เจ้าคงหิวกระมัง เอาขนมเซาปิ่งของข้าไปกินรองท้องก่อนเถิด ดูเจ้าคงหิวมากแล้ว" จ้าวตี๋เฟยตัดใจส่งขนมของตนเองให้กับเด็กหญิงตรงหน้า
เพราะได้ยินคำว่าของกินหยางหลิงเซียงจึงรีบเงยหน้าขึ้นมา เมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ช่วยตนเองเอาไว้ พลันเด็กหญิงก็รู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก เหตุใดพี่ชายผู้นี้ถึงได้หล่อเหลาราวเทพเซียนเช่นนี้กัน?
แต่เพราะท้องที่ร้องขึ้นมาอีกครั้ง นางจึงเลือกที่กลืนความอายนั้นลงไป ก่อนจะยื่นมือน้อย ๆ ไปรับขนมแสนอร่อยนั้นมากัดกิน เพียงแต่ปลายลิ้นสัมผัสกับเนื้อขนมเด็กหญิงก็ร้องไห้ออกมาด้วยความอร่อย
จ้าวตี๋เฟยส่ายหน้าอย่างขบขัน เมื่อเห็นใบหน้าแดง ๆ นั้นกินไปร้องไป อีกทั้งยังเอ่ยขอบคุณเขาไม่หยุดหย่อน
เมื่อเห็นว่าเด็กหญิงเริ่มตั้งสติได้แล้ว เขาจึงถามเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้ง หยางหลิงเซียงเองก็เล่าทุกอย่างออกไปจนหมดเช่นกัน นางโดนสหายสองคนหลอกมาเล่นสำรวจตำหนักร้าง ก่อนที่จะรู้ตัวว่าโดนหลอก ก็ตอนที่ตัวเองติดอยู่หลังประตูเสียแล้ว
"เพราะเจ้าตัวอ้วนกลมเกินไปน่ะสิจึงได้วิ่งตามผู้อื่นไม่ทัน ต่อไปก็รู้จักลดน้ำหนักลงเสียบ้างเข้าใจหรือไม่?"
เด็กหญิงยังไม่ทันได้ตอบสิ่งใดออกมา ก็ได้ยินเสียงเสด็จป้าของนางและเหล่านางกำนัลวิ่งมาทางนี้เสียก่อน
"เซียงเซียง...เอ่อ..องค์รัชทายาท" ลู่กุ้ยเฟยก้มศีรษะลงให้กับจ้าวตี๋เฟย ก่อนจะคว้าหลานสาวเข้ามากอดเอาไว้
" อืม..นี่คงเป็นหลานสาวของลู่กุ้ยเฟยกระมังนางถูกหลอกมาขังที่นี่ ข้าบังเอิญผ่านมาเจอพอดี"
เมื่อเห็นว่าคนอื่น ๆ มาตามหาเด็กหญิงผู้นี้แล้ว จ้าวตี๋เฟยจึงขยับออกมาและเตรียมตัวกลับ
"ขอบพระทัยเพคะที่ทรงช่วยเซียงเซียงของหม่อมฉัน เซียงเซียงคำนับองค์รัชทายาทเสียสิ" หยางหลิงเซียงยัดขนมคำสุดท้ายเข้าปาก ก่อนจะหันไปเบิกตามองพี่ชายตรงหน้าอย่างตกใจ เข่าเล็ก ๆ กระแทกลงที่พื้นเสียงดัง พร้อมกับศีรษะที่ก้มลงไปจรดพื้น
"เซียงเซียงคารวะองค์รัชทายาทเพคะ"