พบคนพาล 2

1506 Words
“ถ้ายังฤทธิ์เยอะอย่างนี้ ฉันจับตีก้นจริงๆ ด้วย” เขาขู่เสียงเข้ม เสียงนี้ยิ่งคุ้นหูจนผมเกิดอาการสยิว ใช่ ผมทั้งสยิวและเสียวบริเวณท้องน้อย ก่อนที่อะไรในกางเกงผมมันจะพองขึ้น! “บัดซบ! คุณจะทำแบบนั้นไม่ได้” ผมร้องห้าม แต่มันสายไปเสียแล้ว เป็นตอนนั้นที่บั้นท้ายผมถูกสิ่งอุ่นๆ ที่แข็งขันดันเข้ามาชิดร่องก้น!! ผมช็อกและยืนนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น ไม่อยากให้เขารู้ว่าน้องชายผมกำลังแข็ง และแข็งมากเสียด้วย “ว่าไง ยังจะดื้อกับฉันไหม” เสียงเขาเข้ม และเซ็กซี่เร้าใจ “แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งหรือทำอะไรผมแบบนั้น” “ไม่มีสิทธิ์อย่างนั้นรึ หึๆ” ให้ตายเถอะ เสียงหัวเราะท้ายประโยคเขาชวนให้ผมทั้งเสียวสันหลังและลุ่มหลง นี่ผมคงบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่หวั่นไหวต่อคนแปลกหน้า และจากนั้นสิ่งที่ไม่ควรเกิด มันก็เกิดขึ้น เมื่อเขาล็อกแขนผมเอาไว้ ทั้งที่ผมไม่ใช่คนอ่อนแอ แถมแรงเยอะมากเสียด้วย แต่เขาเหมือนมีพลังลึกลับ จับผมอยู่จนนิ่งไม่สามารถเคลื่อนไหว ก่อนเริ่มออกแรงทำโทษผมจริงๆ มือใหญ่ฟาดก้นผมอย่างแรง และผมไม่ใช่เด็กแปดขวบนะ เมื่อถูกคนตัวโตฟาดก้นไม่ยั้ง ผมเลยทั้งอับอายและโมโห อึดใจต่อมาผมจึงถูกปล่อยตัวให้เป็นอิสระ ส่วนคนตัวโตแค่ยักไหล่ราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเรื่องสั่งสอนเด็กเล็กที่ดื้อไม่รู้จักฟังความผู้ใหญ่ “ถ้าผมไม่ต่อยคุณให้ลงไปนอนนับดาวอยู่บนพื้น อย่ามาเรียกผมว่าไอ้ตะวันเลย” ผู้ชายตัวสูงนอกจากไม่มีอาการโกรธใดๆ เขายังยืนมองผมและส่งยิ้มร้ายกาจแบบยั่วใจอีกด้วย “เอาละ รีบกลับขึ้นรถดีไหม ขืนยังชักช้านายได้ตกรถแน่ๆ” ผมมีสติอยู่บ้างเลยเก็บอาการบ้าเลือดของตนเอาไว้ และไม่วายชี้หน้าเขาเพื่อข่มขู่ “ผมหวังว่าจะไม่เห็นคุณบนรถคันเดียวกันอีก ไอ้...” ผมกำลังจะด่าเขาแต่ยั้งสติไว้ทัน เพราะคนมองผม มองราวกับผมเป็นคนผิด เฮ้ย! มันบ้าบอสิ้นดี ผมถูกทำร้ายและต้องการความเป็นธรรมนะโว้ย “คุณเป็นใคร ทำไมถึงทำเรื่องเหี้ยๆ กับผม” ผมกลับมาซักเขาต่อ มันคงเป็นทางเดียวที่ทำให้หายขุ่นเคืองใจ “ฉันทำเพราะหวังดี อย่างอแงแล้วเลิกโวยวายเสียที อายคนอื่นเขาบ้าง เดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าฉันรังแกเด็ก” “มันไม่ใช่การรังแกโว้ย คุณข่มเหงผมทั้งร่างกายและจิตใจ!” ดวงตาคมๆ ของเขามองผมแบบฉงน ก่อนปล่อยเสียงหัวเราะพรืดใหญ่ออกมา “ฉันเคยคิดนะว่านายจะโตกว่านี้ แต่ที่ไหนได้เด็กมากเลย และที่โตๆ นั่นคงมีแต่...ตัวกับ...” ผมสะดุดต่อคำพูดเขาอีกหน ตายักษ์ปักหลั่นเนี่ยเป็นใคร ทำไมพูดจากวนประสาทผมได้ตลอด และดูเหมือนเขาจะรู้จักผมเสียด้วย “ผมไม่อยากมีปัญหา แยกย้ายกันแค่นี้ เรื่องที่เกิดขึ้นผมคิดเสียว่าเป็นคราวซวยที่เจอคนอย่างคุณ!” “โอเคๆ อย่าหัวร้อนไปกว่านี้เลย รับรองคืนนี้นายไม่ถูกฉันลักหลับบนรถแน่ๆ แต่ตอนเช้านายอาจได้กินไข่ต้มฟองโต กับหม่ำเนื้อวัวดุ้นยักษ์ มันเป็นรสชาติคุ้นปากคุ้นลิ้นนายไม่ใช่เหรอ...ตะวัน!” เขาเอ่ยจบก็มิวายก้าวมาใกล้ผม ผมกำหมัดแน่น หากเข้ามาตอแยผมอีก งานนี้เขาต้องร่วงลงไปนอนนับดาวตั้งแต่เลขศูนย์ไปจนถึงร้อยแน่ แต่คนตัวโตก็มือไวอย่างกับลิง เขายื่นมือมาบีบบั้นท้ายผม บีบแบบจงใจแสดงกิริยาหยาบคายให้ผมต้องเกลียดขี้หน้าเขาหนักกว่าเดิมอีกหลายเท่า! “ใช้ได้ แน่นดีนี่หว่า แบบนี้คงเด้งดีไม่หยอกเวลาควบม้า!” สิ้นวินาทีนั้นผมจึงปล่อยหมัดออกไป แต่มันพลาดเป้า นอกจากไม่ถูกใบหน้าหล่อของเขา กลับเป็นผมเสียเองที่ถูกผลักจนเกือบเสียหลักล้มลงบนพื้น “เก็บแรงไว้นะไอ้น้อง หนทางข้างหน้าฉันรับรองได้เลยว่า นายยังต้องเสียน้ำอีกเยอะ!” เอ่ยจบ เขาก็หัวเราะเสียงน่าเกลียด และก้าวจากผมไป แวบนั้นผมต้องเสียวสันหลังวาบ ด้วยได้ยินเสียงใครบางคนเรียกเขา “เอ่อ...เฮียหนอนคะ จะกลับพร้อมพวกเราหรือว่าให้รถตู้ไปส่งดี” ฉิบหาย...เฮียหนอนอย่างนั้นรึ! คนชื่อพิเรนทร์แล้วยังมีพฤติกรรมชวนหลอนเช่นนี้ คงมีในโลกไม่กี่คน ใช่แน่ เขาคือ สลิล ดำรงวัฒนาบริบูรณ์ ผมยกมือขึ้นกุมหน้าตนเอง ตอนนี้สิ่งเดียวที่อยากทำคืออยากหนีไปจากที่นี่ รุ่งเช้าวันใหม่ ผมถอนหายใจออกมาอีกหลายหน และรถสามล้อเครื่องก็พาผมมาส่งถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย แต่พอลงจากรถได้ผมก็หมดแรงเอาเสียดื้อๆ เพราะอาการปอดแหกเล่นงานอย่างหนัก จู่ๆ เกิดอาการกลัวหากต้องพบหน้าตาเฮียหนอนขึ้นมา เพราะยังหลอนที่เขาจูบปาก และเอ่อ...ใช้มือใหญ่บีบก้นผม แถมเลื้อยเข้าไปถึงจุดเร้นลับอันบริสุทธิ์ของผมด้วย และสดๆ ร้อนๆ ก็เมื่อคืน คนโรคจิตแบบนี้ผมไม่อยากเข้าใกล้ที่สุด แต่เมื่อรับปากพี่คีย์ ผมคงต้องทำทุกอย่างให้สำเร็จ คนอย่างผมใช่จะมีทางเลือกมากนัก ‘เข้าไปไหว้ย่า และบอกว่านายเป็นเพื่อนของพี่ เอ๊า จะเป็นแฟนเลยก็ได้ จากนั้นก็เอาของขวัญให้ท่าน ทำหน้าที่แค่นี้ได้ไหม’ คำพูดของพี่คีย์ย้อนเข้ามาในหัวผม และผมจำต้องเล่นบทคนซื่อ ทำหน้าที่เป็นบุรุษไปรษณีย์ส่งของ เมื่อประตูบ้านใหญ่เปิดรับผม และเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจก็เกิดขึ้น พื้นที่บ้านของย่าเปรมใจมีต้นไม้ร่มรื่นมาก และผมรู้สึกสนุกที่ได้เดินเล่นในที่กว้างๆ แต่ความคิดหนึ่งมันแวบเข้าหัว ถ้าผมจ๊ะเอ๋กับตาเฮียหนอนขึ้นมาแล้วผมจะหลบหน้าเขาอย่างไร “น้องรอที่นี่นะคะ เอ่อ ไม่ทราบว่าจะรับเครื่องดื่มอะไรดี” พี่สาวคนดูแลบ้านชื่อแสงดาวบอกผม อีกฝ่ายอายุคงราวๆ สี่สิบกว่าๆ ผมยิ้มกว้าง ขอบคุณน้ำใจของพี่ดาว “น้ำเย็นๆ สักแก้วก็พอครับ” “แต่ตอนนี้เป็นมื้อสาย เอาขนมด้วยไหม พอดีมีสาคูไส้หมูด้วย คุณย่าท่านให้หลานๆ ช่วยกันทำ” พี่ดาวบอก “เอ่อ เกรงใจจังครับ” ผมบอกไปอย่างนั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็หิวอยู่มาก ยังไม่ได้กินอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย “ไม่หรอกค่ะ บ้านนี้อาหารการกินเพียบ เลี้ยงไม่อั้น” “พี่ใจดีจัง” “อุ๊ย ไม่ใช่พี่หรอกค่ะ คุณย่าท่านต่างหากเอ็นดูทุกคน โดยเฉพาะหลานๆ นี่ก็รอคุณคีรีอยู่ ป่านนี้แล้วไม่เห็นมา” พออีกฝ่ายเอ่ยถึงตรงนี้ ผมจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ๆ ติดกัน “น้องดูท่าทางไม่สบายใจนะคะ มีอะไรหรือเปล่า” “โอ้ ไม่ครับ ผมแค่เอาของจากพี่คีย์มาส่งให้คุณย่าก็เท่านั้น” “แค่นั้นจริงๆ เหรอคะ อันที่จริงพี่ได้ยินข่าวว่าวันนี้คุณคีรีจะเปิดตัวแฟน!” ผมหน้าถอดสีทันที ใครกันเป็นคนปล่อยข่าวนี้ คงไม่ใช่พี่คีย์หรอกนะ “เอ อันนี้ไม่รู้นะครับ ผมแค่มาส่งของ” “แต่ถ้าน้องมีอะไรอยากบอกพี่ บอกเลยน้า พี่เลี้ยงคุณคีย์มาตั้งแต่เด็ก รู้ใจกันมาก และอย่างน้องเนี่ย บอกตรงๆ สเปกทั้งพี่ชายน้องชายเลย” เมื่อพี่ดาวเอ่ยถึงตรงนั้นเธอก็ต้องรีบปิดปากตนเองอย่างเร็ว เพราะมีเสียงเด็กชายวิ่งมาทางนี้ พวงแก้มยุ้ยของเขากระเพื่อมขึ้นลง ก่อนจะมาหยุดยืนตรงหน้าผม “จ๊ะเอ๋ ขโมยที่ไหนเข้าบ้าน!” ไข่ต้มหรือรักสมุทรว่าแล้วก็ชี้มือมาทางผม “ปละ เปล่า พี่เอาของมาส่งให้คุณย่าครับ” เขาหรี่ตามองผม บางส่วนมีเค้าของพี่คีย์ โดยเฉพาะริมฝีปากบางสีสดและคางมนๆ บอกให้รู้ว่าโตขึ้นต้องหล่อเหลาเอาการ ทั้งหมดนี้คงได้มาจากคนเป็นแม่ เพราะเฮียหนอนเน่าถึงหล่ออย่างไรก็ไม่ควรมีลูกหน้าตาน่ารักน่าชังอย่างนี้ “น้องชื่ออะไรครับ” “ไข่ต้มอะ ละ ลูกปะป๊า” “ปะป๊า” ผมทวนคำเด็กชาย “ช่าย ป๊าคนเก่ง หล่อด้วย” เขาว่าพร้อมกับทำท่าอวดกล้าม ผมได้ยินแล้วก็ขำไม่ออก และแน่นอนพ่อของเขาคือผู้ชายที่ผมเกลียดขี้หน้าที่สุดในโลก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD