บทที่ 1 ไม่ยอม
บทที่ 1
ไม่ยอม
‘วันที่ 20 เดือนนี้ แกต้องกลับมาแต่งงานกับหนูเพียงดาว’
“อะไรนะครับพ่อ แต่งงาน? พ่อจะให้ผมแต่งงานนี่นะ”
‘ใช่ แกต้องกลับมาแต่งงานกับหนูดาวในวันที่ 20 เดือนนี้ ถ้าแกไม่กลับมา แกก็ไม่ต้องกลับมาอีกเลย ปีกกล้าขาแข็งแล้วนี่’
“พ่อล้อผมเล่นใช่ไหมเรื่องแต่งงาน อยากให้ผมกลับก็บอกตรงก็ได้ ไม่เห็นจะต้องยกเรื่องแต่งงานมาล้อเล่นเลย”
‘ฉันไม่ได้ล้อเล่น แกต้องกลับมาแต่งงานในวันที่ 20 เดือนนี้ ถ้าแกไม่กลับมา ก็ไม่ต้องกลับมาอีกต่อไป’
เมฆาฟังน้ำเสียงดุดันของพ่อเลี้ยงพสุธาพ่อของเขาแล้วรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแน่ ๆ
“ก็ได้ผมจะกลับ แต่ผมไม่แต่งงานกับยัยคนนั้นเด็ดขาด”
เสียงเข้มดังออกจากปากชายหนุ่มหน้าคมเข้มที่หล่อบาดใจสาวๆ แต่ตอนนี้มันบิดเบี้ยว คิ้วขมวดเข้าหากัน มือกำโทรศัพท์เครื่องบางในมือแน่นจนกลัวว่ามันจะแหลกคามือเขาได้
‘ก็แล้วแต่แก จะกลับหรือไม่กลับ จะแต่งหรือไม่แต่งก็เรื่องของแก ฉันไม่เคยบังคับอะไรแกได้อยู่แล้วนิ’
คราวนี้เสียงที่ตอบกลับมากลับเป็นเสียงที่ดูเหมือนคนพูดกำลังอารมณ์ดี น้ำเสียงเหมือนไม่แคร์ ไม่สนใจความต้องการเขาสักนิด
ชายหนุ่มที่พอได้ยินก็เลือดขึ้นหน้า ไม่เคยบังคับงั้นเหรอ พูดมาได้ ไม่เคยบังคับ ไม่เคยไม่บังคับต่างหาก
“พ่อไม่ต้องมาพูดดีเลย ยังไงผมก็ไม่แต่ง” เมฆายังย้ำจุดเดิม
‘ไม่แต่งก็ไม่แต่งสิ เดี๋ยวฉันแต่งเองก็ได้’
“อะไรนะครับ พ่อจะแต่งงานเหรอ แต่กับใคร แต่งกับน้าอรเหรอ”
เมฆาถามออกไปด้วยความตื่นเต้น เพราะพ่อเขาเป็นโสดมาตั้งแต่เขาอายุได้ 5 ขวบ เขายังจำได้ว่าพ่อเขาเสียใจมากที่ไม่สามารถช่วยชีวิต แม่อินทร์อรของเขาได้ ในตอนที่มีโจรมาปล้นไร่ แล้วแม่ของเขาวิ่งไปรับกระสุนปืนแทนพ่อของเขา พ่อของเขาเสียใจมากจนไม่ทำอะไรอีกต่อไป งานในไร่ก็ทิ้งให้หัวหน้าคนงานช่วยดูแลแทน ยังดีที่หัวหน้าคนงานเป็นคนดีและเป็นคนเก่ง ถึงสามารถทำให้ไร่โชคอนันต์ยังยืนหยัดได้มาจนทุกวันนี้
ส่วนพ่อไม่ทำอะไรเอาแต่กอดรูปถ่ายแม่เขาไว้ แม้แต่เขาที่ตอนนั้นยังเด็กพ่อเขาก็ไม่สนใจ ยังดีที่เขามีน้าอร น้องสาวของแม่มาช่วยเลี้ยงเขามาคอยกอดเขาเวลาที่เขาคิดถึงแม่อิน
เขาเคยเชียร์ให้พ่อขอน้าอรแต่งงาน เพราะเขารู้ว่าระหว่างพ่อกับ น้าอร มันมีอะไรมากกว่าพี่เขยกับน้องเมียทั่วๆ ไป ซึ่งเขาก็ยินดีที่จะได้น้าอรมาเป็นแม่อร
‘ใช่ ฉันจะแต่งงานถ้าแกไม่แต่ง แต่ไม่ได้แต่งกับน้าอรของแกหรอกนะ แล้วฉันก็จะยกไร่นี้ให้เป็นสินสอดในการแต่งงานด้วย ส่วนน้าอรของแก เห็นว่าถ้าฉันแต่งงานเขาจะกลับไปอยู่ที่บ้านของเขาที่เกาะสมุยนี่’
‘พ่อเลี้ยงคะ พ่อเลี้ยงใกล้เสร็จหรือยังค่ะ....อุ้ย ขอโทษค่ะ’
‘ไม่เป็นไรหรอก ฉันกำลังใกล้จะเสร็จแล้ว หนูดาวล่ะเสร็จหรือยัง’
‘ดาวก็ใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ’
‘งั้นเรามาเร่งกันเถอะ จะได้รีบเสร็จกันสักที จะได้รีบกลับบ้าน’
‘ค่ะพ่อเลี้ยง’
เสียงของพ่อเลี้ยงพสุธาหรือพ่อเลี้ยงดิน กับเสียงผู้หญิงที่เล็ดลอดเข้ามาในสาย ยิ่งทำให้เมฆาหรือเมฆสงสัยมากขึ้น ถ้าพ่อไม่แต่งกับน้าอร แล้วพ่อจะแต่งงานกับใครวะ แล้วอะไรคือใกล้เสร็จ? เสร็จอะไร? แล้วเสียงผู้หญิงที่ไหนวะ? เพียงดาวเหรอ?
ไม่รอช้าเมฆากำลังจะเอ่ยถามพ่อออกไปว่าพ่อจะแต่งงานกับใคร แล้วคำว่า ‘ฉันจะแต่งงานถ้าแกไม่แต่ง’ และ อะไรคือใกล้เสร็จ ทั้งหมดนี่มันหมายความว่ายังไง แต่...
“พ่อ..ที่พ่อพูดหมายความว่า.......”
ติ้ง!!!!
“อ้าว..อะไรวะ ทำไมจู่ๆ พ่อก็ตัดสายทิ้งเฉยเลย”
เมฆาบ่นกับตัวเองเบาๆ เขาเหลือบมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ ตอนนี้ที่แคนาดาเป็นเวลาเที่ยงที่เมืองไทยน่าจะห้าโมงเย็น ไม่รอช้าเขากดโทรศัพท์ออกไปหาคนที่เมืองไทยอีกครั้ง
‘หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในเวลานี้’
“พ่อปิดเครื่อง? ปิดทำไมวะ เมื่อกี้ยังคุยอยู่เลย”
เมฆามองมือถือในมือด้วยความสงสัย ก่อนจะกดออกอีกสองสามครั้ง แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ‘หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในเวลานี้’ เมฆากดโทรศัพท์อีกครั้ง คราวนี้มีคนรับสายของเขาสักทีและคนที่รับสายก็ไม่ใช่พ่อของเขา
‘ตาเมฆ นั่นตาเมฆใช่ไหมลูก’
เสียงผู้หญิงที่ใจดีที่สุดในโลกของเมฆาดังขึ้น
“ครับน้าอร นี่ตาเมฆของน้าอรเองครับ คิดถึงน้าอรที่สุดเลยครับ”
‘คิดถึง แต่ไม่ยอมกลับบ้านเลยนะคะ นี่หายไปเกือบ 5 ปีแล้วนะคะ เมื่อไรจะกลับมาให้น้าอรกอดให้หายคิดถึงจ๊ะ’
“อีกไม่นานหรอกครับ เดี๋ยวผมก็กลับแล้ว น้าอรรอกอดผมได้เลย ผมคิดถึงฝีมือการทำกับข้าวของน้าอรที่สุดเลยครับ”
‘คิดถึงก็รีบกลับมานะคะ’
“อ่อ น้าอรครับ เมื่อกี้ผมคุยกับพ่อ พ่อจะให้ผมกลับไปแต่งงานกับยายเพียงดาว เพียงดิน อะไรนั่น น้าอรพอจะรู้ไหมครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
‘น้าก็ไม่รู้นะจ๊ะ พ่อเลี้ยงคงเห็นว่าเมฆโตแล้วน่าจะมีครอบครัวได้แล้วมั้ง เห็นเพื่อนของพ่อเลี้ยงมีหลาน พ่อเลี้ยงคงอยากจะมีหลานบ้าง’
อรอินทร์เอ่ยบอกหลานชาย ทั้งๆ ที่เธอก็รู้ว่าทำไมพ่อเลี้ยงพสุธาถึงอยากให้เมฆาแต่งงานกับเพียงดาวที่เป็นเพียงลูกหัวหน้าคนงานในไร่เท่านั้น แต่เธอไม่สามารถบอกกับหลานชายได้ เพราะรู้ว่าถึงบอกไปหลานชายของเธอก็คงไม่ยอมที่จะเข้าใจ
“แล้วนี่พ่อไปไหนครับ ผมคุยกับพ่อยังไม่รู้เรื่องก็ตัดสายไป”
‘พ่อเลี้ยงยังอยู่ที่สำนักงานจ๊ะ ช่วงนี้งานเยอะ พ่อเลี้ยงกลับบ้านก็ช่วงค่ำๆ หรือบางทีก็ค้างในไร่เลยก็มี’
งานยุ่งหรืออะไรยุ่งวะ ถึงขนาดค้างที่ไร่เลยเหรอ
เมฆาคิดตามคำพูดของน้าอร และพาลให้คิดถึงเสียงผู้หญิงที่ได้ยินตอนโทรศัพท์คุยกับพ่อของเขา ใครวะ
“แล้วพ่อบอกว่าพ่อจะแต่งงานเองถ้าผมไม่แต่ง นี่พ่อจะแต่งงานกับ น้าอรเหรอครับ ผมดีใจมากๆ เลย มิเสียแรงที่เชียร์มาตลอดเวลา 24 ปี”
‘พ่อเลี้ยงจะแต่งงานหรือไม่แต่ง คงไม่เกี่ยวกับน้าหรอกจ้ะ เพราะ วันนั้นน้าคงไม่ใช่เจ้าสาวของพ่อเลี้ยง’
น้ำเสียงของน้าสาวดูเศร้าสร้อยจนเมฆารู้สึกได้ ถ้าพ่อไม่แต่งกับ น้าอร แล้วพ่อจะแต่งกับใคร?
“แล้วพ่อจะแต่งกับใครครับ” คำถามที่สงสัยถูกส่งออกไป
‘ก็คงแต่งกับว่าที่เจ้าสาวของเมฆนั่นแหละ’
“แต่งกับยายเพียงดินนั่นนะเหรอ เป็นไปไม่ได้”
‘เขาชื่อเพียงดาวไม่ใช่เพียงดิน แล้วทุกอย่างก็เป็นไปได้ และถ้าเมฆไม่กลับมาแต่งงาน พ่อเลี้ยงก็จะเข้าพิธีเป็นเจ้าบ่าวแทนเมฆ เห็นว่าจะ จดทะเบียนสมรสด้วยนะ ถ้าถึงเวลานั้นเมฆกลับมาเมืองไทยคงไม่ได้เจอน้าอีกแล้ว น้าคงไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป อ้อ แค่นี้นะเมฆ น้าจะไปทำกับข้าว ทำไว้ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าพ่อเลี้ยงจะกลับมากินข้าวด้วยไหม’
ติ๊ง!!!