บทที่ 1 ดาวยั่วทะลุโลง

1751 Words
เสียงดนตรีที่ดังเป็นจังหวะเร่งเร้าพลันปรากฏร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งกำลังร่อนสะโพกหมุนเป็นวงกลม ก่อนจะขยับบั้นท้ายที่งดงามส่ายสะบัดเด้งขึ้นเด้งลงด้วยท่าทางยั่วสวาท สร้างความเสียวซ่านวาบหวิวให้แก่ผู้ที่ได้พบเห็นไม่น้อย ติ๊ง!!! "มียอดเงินโอนเข้า30000" "เปิดเนินอกโชว์หน่อยครับ" "ขอซื้อชั้นใน โอนแล้ว20000" ฉินมู่หลานที่กำลังใส่หน้ากากขนนกปิดบังใบหน้าเอาไว้ยืนมองยอดเงินในบัญชีที่เด้งเข้ามาในโทรศัพท์มือถือก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก เดือนนี้ยอดปังไม่เบา!! ฉินมู่หลานวัย20ปี มีอาชีพเป็นดาวยั่วบนเพจแห่งหนึ่ง ชื่อว่าเพจ Take care fan นามแฝงของเธอคือ angelbell ทุกๆวันเธอจะสวมหน้ากากขนนก พร้อมกับชุดบิกินีตัวจิ๋วสีชมพู มีปีกนกสยายอยู่ด้านหลัง กำลังเต้นยั่วยวนเหล่าชายหนุ่มที่มารอชมความงดงามและเซ็กซี่ของเธอ เธอไม่ได้ขายตัว เธอแค่โชว์เรือนร่างเพียงเท่านั้น "angerbell จะถอดแล้วนะคะ อื้อออ!!" ฉินมู่หลานส่งเสียงหวานครางกระเซ่า ก่อนจะค่อยๆปลดเปลื้องบิกินีตัวจิ๋วออกอย่างเย้ายวน "ขอดูบั้นท้ายโอนแล้ว30000" "ถอดชั้นในออกมาขายเร็วเข้า โอนนานแล้ว!!!" ปัง!!!! "เฮ้ยย!!" "เวรชิบ ใครยิงangelbellวะ?" ร่างของฉินมู่หลาน ค่อยๆล้มลงไปกองกับพื้น กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วห้อง มือปริศนายื่นไปปัดโน๊ตบุ๊คบนโต๊ะทิ้งจนมันดับลง ก่อนจะหันมามองฉินมู่หลาน "แก อึก เป็นใคร?" ร่างปริศนาค่อยๆเปิดผ้าที่คลุมใบหน้าออกอย่างช้าๆ ฉินมู่หลานดวงตาเบิกกว้างเมื่อได้เห็นใบหน้าของคนที่เข้ามาฆ่าเธออย่างชัดเจน "พี่!!" "ตายซะเถอะฉินมู่หลาน ฉันสัญญาว่าจะดูแลสมบัติของแกเป็นอย่างดี" "ไม่!!!" ปัง!!!! สิ้นสุดเสียงปืนร่างของฉินมู่หลานก็แน่นิ่งไป ฉินมู่ฟาง พี่สาวต่างแม่ของฉินมู่หลานก็ยกยิ้มเย้ยหยันด้วยความสะใจ แต่ไหนแต่ไรมา พ่อก็รักมันมากกว่าเธอมาตลอด สมบัติทุกชิ้นก็ให้แต่ฉินมู่หลาน ทั้งที่เธอเป็นลูกสาวคนโต เป็นลูกของภรรยาหลวง แต่พ่อกลับรักฉินมู่หลานที่เป็นลูกภรรยาน้อยมากกว่าเธอ ไปตายซะนังสารเลว!!! อยู่ไปก็อับอายต่อวงศ์ตระกูล เบื้องหน้าทำตัวเป็นคุณหนูผู้แสนดี แต่เบื้องหลังกลับมาอวดเรือนร่างให้ผู้ชายดู น่าขยะแขยงที่สุด!!! ตำหนักชินอ๋อง "พระชายาเอก เสวยยาถ้วยนี้เถิดเพคะ" หญิงสาวที่นอนซมอยู่บนเตียงส่ายหน้าไปมาด้วยความสิ้นหวัง นางคือฉินมู่หลาน พระชายาเอกของชินอ๋องมู่หรงเสี่ยวหมิง นางกับเขาอภิเษกสมรสกันมาปีกว่าแล้ว แต่เขากลับไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวนางเลยแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อไม่นานมานี้เขาก็แต่งพระชายารองอีกคนเข้าตำหนัก พระชายารองผู้นี้มีนามว่า เสี่ยวเยี่ยนจื่อ เป็นบุตรสาวของท่านเจ้ากรมพิธีการ นางเองเป็นบุตรสาวของท่านแม่ทัพ ตระกูลฉินทำความดีความชอบมากมาย ฮ่องเต้จึงพระราชทานตำแหน่งโหวให้แก่ตระกูลฉิน และพระราชทานสมรสแก่นางกับมู่หรงเสี่ยวหมิง เวลาผ่านไปปีกว่า เมื่อนางเองไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ไทเฮาจึงพระราชทานสมรสให้แก่เสี่ยวเยี่ยนจื่อ หลานสาวฝั่งมารดาของตนให้แก่มู่หรงเสี่ยวหมิงอีกคนหนึ่ง มู่หรงเสี่ยวหมิง มักจะเย็นชาใส่นางเสมอ ยามที่เขามาที่เรือนของนาง ก็จะทำราวกับว่านางไม่มีตัวตนในสายตาของเขา "พระชายาเอกเพคะ" "แค่กๆ หลิงหลิง เห็นทีข้าคงไม่รอดคืนนี้เป็นแน่ ข้าป่วยเรื้อรังมานานเหลือเกิน" "อีกครู่ ท่านอ๋องก็จะเสด็จมานะเพคะ" "เขาไม่มาหรอก ท่านอ๋องไม่เคยมีใจรักต่อข้า แค่กๆ" ฉินมู่หลานกระอักเลือดออกมาคำโต นางรู้สึกราวกับว่าทุกอย่างกำลังจะดับมืดลง ราวกับว่าช่วงชีวิตนางในตอนนี้ได้ดับสลายลงไปแล้ว "พระชายาเอก พระชายาเอก!!!! ฮืออ พระชายาเอกสิ้นลมแล้ว!!!" หลิงหลิงสาวใช้คนสนิทของฉินมู่หลาน ร้องไห้คร่ำครวญปานจะขาดใจ เสี่ยวเยี่ยนจื่อ พระชายารองที่ได้ยินเข้า ก็ยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ ตายซะได้ก็ดี!!!ตำแหน่งพระชายาเอกจะได้ตกเป็นของข้าเสียที!!! ด้านมู่หรงเสี่ยวหมิง เขากำลังกลับมาจากการประชุมลับกับฮ่องเต้ที่วังหลวง เมื่อกลับมาถึงก็ได้ยินเสียงนางกำนัลร้องไห้ดังระงมไปทั่วทั้งตำหนัก "เกิดอะไรขึ้น?" "ฮือออ ท่านอ๋องเพคะ พระชายาเอกสิ้นแล้วเพคะ!!!" มู่หรงเสี่ยวหมิงมีสีหน้าเรียบเฉย แววตาของเขาสั่นไหวเพียงครู่เดียว ก่อนจะกลับมาเป็นปกติเช่นเดิม "ส่งคนไปแจ้งต่อจวนตระกูลฉินว่าพระชายาเอกสิ้นแล้ว ส่วนงานศพของนางให้จัดอย่างสมเกียรติ" "พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง!!!" มู่หรงเสี่ยวหมิงเองก็รู้สึกรันทดในใจไม่น้อย ตั้งแต่แต่งนางเข้ามาในตำหนักอ๋อง เขาก็ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวนางเลย และยังเหินห่างกับนางไม่น้อย เขาไม่ได้มีใจชอบพอต่อนาง และกับพระชายารองและอนุคนอื่นๆเขาก็ไม่เคยมีใจรักใคร่ เขาคือชินอ๋องมู่หรงเสี่ยวหมิง เป็นน้องชายร่วมมารดาเดียวกับฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน เขาเก่งทั้งการศึกและการเดินหมากรุก รวมทั้งการวาดภาพ ฮ่องเต้ทรงรักเขามาก ให้อำนาจทางทหารฝากไว้กับเขาอย่างไว้วางใจ ในวังหลวงสะดวกสบายเช่นไร ในตำหนักอ๋องของเขาก็เป็นเช่นนั้น "ท่านอ๋อง นางกำนัลได้จัดการเปลี่ยนอาภรณ์และแต่งองค์ให้พระชายาเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ" "อืม พรุ่งนี้ข้าจะไปส่งนางเป็นครั้งสุดท้าย" "พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง" เมื่อองค์รักษ์คนสนิทเดินออกไปแล้ว มู่หรงเสี่ยวหมิงก็หยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาเปิดดู ภาพวาดแดนสวรรค์ "เสด็จพี่ช่างตาถึงยิ่งนัก ภาพวาดที่ส่งมาใหม่นี่งดงามเหลือเกิน" มู่หรงเสี่ยวหมิงนั่งมองภาพสตรีเปลือยกายตรงหน้าด้วยสายตาที่ล้ำลึก หลายวันก่อนเสด็จพี่มู่หลงเสี่ยวเฉินผู้เป็นฮ่องงเต้ ได้สั่งคนให้นำภาพวาดแดนสวรรค์มามอบให้แก่เขา เขามีรสนิยมที่แปลกประหลาดอย่างหนึ่ง คือเขาชอบดูภาพสตรีเปลื้องอาภรณ์ นอนอ้าขาจนกว้างสุด และอริยาบทต่างๆที่ชวนเย้ายวนแก่สายตาเขา แต่สตรีรอบกายเขา มีแต่พวกเขินอาย รักในการสงวนท่าที เขาเป็นสามีนางนะ อ้าให้ดูเสียหน่อยจะเป็นไรไป!!! มู่หรงเสี่ยวหมิงรับรู้ได้ถึงแก่นกายภายในร่มผ้าที่แข็งดุนดัน เขาค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ออกจนหมด ก่อนจะใช้ฝ่ามือหนาใหญ่ จับแท่งเอ็นร้อนที่ใหญ่และยาว ชักรูดขึ้นลงอย่างเชื่องช้า แล้วจึงเร่งจังหวะให้ถี่รัวเร็วขึ้น "อ่าส์!!!ซี๊ดดดดด" เขายกขาข้างหนึ่งขึ้นมาเหยียบบนเก้าอี้ ฝ่ามือใหญ่ชักแท่งเอ็นสวรรค์เข้าออกอย่างถี่เร้า สายตาก็มองไปยังภาพวาดของสตรีที่อ้าขาทั้งสองข้างกว้างจนสุด เผยให้เห็นร่องกลีบบุปผาที่งดงามตายิ่งนัก "ซี๊ดด!!เสียวลำเหลือเกิน โอววว!!!" น้ำเมือกสีขาวขุ่นไหลทะลักพุ่งไปโดนหนังสือภาพวาดแดนสวรรค์จนเปรอะเปื้อนไปหมด มู่หรงเสี่ยวหมิงรู้สึกเสียวกระสันจนถึงขีดสุด  เขาเก็บพับหนังสือหน้านั้นเอาไว้ โดยไม่เช็ดทำความสะอาด เขาจะให้มันเลอะเช่นนี้ เพื่อที่เขาจะได้จำเอาไว้ว่าหน้าไหนเขาได้ดูไปแล้ว เขาไม่ชอบดูภาพซ้ำ เช้าวันรุ่งขึ้น พิธีเคลื่อนขบวนศพของพระชายาเอกฉินมู่หลานกำลังเคลื่อนไปที่สุสานอย่างยิ่งใหญ่ ผู้คนต่างออกมายืนดูและไว้อาลัยแก่พระนาง น่าสงสารเหลือเกิน ยังสาวยังสวยแท้ๆแต่กลับอายุสั้นเช่นนี้!!! บิดามารดาของนาง ทำได้เพียงร้องไห้คร่ำครวญให้กับโชคชะตาที่แสนอาภัพของบุตรสาว ฉินมู่หลานเป็นบุตรสาวคนโตของจวนตระกูลฉินอายุปีนี้ก็ยี่สิบหนาวแล้ว และนางมีน้องชายหนึ่งคนนามว่าฉินมู่หลง อายุเพียง12ขวบปี มู่หรงเสี่ยวหมิง สวมชุดสีขาวไว้ทุกข์ ขี่ม้านำขบวนเพื่อส่งนางไปสู่ปรโลกอย่างสมเกียรติ "แค่กแค่ก ทำไมมันแคบงี้วะเนี่ย?!!" ฉินมู่หลานลืมตาตื่นขึ้นมา ก่อนจะพบว่าตนเองกำลังนอนอยู่ในสถานที่แคบๆแห่งหนึ่ง เมื่อนางตั้งสติและสังเกตไปรอบๆก็พบว่า เวรชิบ!!!โลงศพนี่หว่า ใครเอาฉันมานอนในนี้!!! ฉินมู่หลานตั้งสติพยายามคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น นางถูกพี่สาวฆ่าตายนี่นา? ถูกฆ่าตายตอนที่กำลังอยู่ในห้อง แล้วทำไม? นางรีบสำรวจตามร่างกาย ก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก  ยังไม่ตายนี่!!สงสัยจะฝันไป ต้องออกไปจากโลงบ้าๆนี่ก่อน!!คนภายนอกจะได้รู้ว่านางยังมีชีวิตอยู่ กึก กึก!!โครม ฉินมู่หลานที่มีใบหน้าซีดเซียว พยายามใช้กำลังสุดแรงก่อนจะกระแทกฝาโลงศพจนกระเด็นเปิดออก นางค่อยๆลุกขึ้นมานั่งมองไปโดยรอบด้วยสายตาที่มึนงง แห่อะไรกันวะเนี่ย ใครตายเหรอ? "วร้ายยย!!!ผีพระชายาทะลุโลงแล้ววววว!!!" "โอววว อยู่ไม่ได้แล้ว เฮี๊ยนแน่ๆถึงกับเปิดโลงลุกขึ้นมานั่งเชียวหรือ?" "ใครไม่ไปอั๊วะไปแล้วเด้ออออ!!!!" ผู้คนต่างพากันวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงจนฉินมู่หลานรู้สึกแปลกใจ มู่หรงเสี่ยวหมิงที่เห็นผู้คนวิ่งหนีกันเป็นพรวนก็หันกลับมามองทันที ก่อนที่ดวงตาของเขาจะเบิกกว้างด้วยความตกใจ ฉินมู่หลานหันไปสบตากับมู่หลงเสี่ยวหมิงเข้าพอดี อือหื้อ!!ความหล่อทะลุตามากๆ อยากจะเอามาทำสามีเสียจริงเชียว นั่นถ่ายหนังเหรอ?มีนางเอกรึยังจ๊ะ? "ฮายยยย สุดหล่อ!!!" "เจ้ายังไม่ตายรึมู่หลาน!!!!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD