เสียงดนตรีที่ดังเป็นจังหวะเร่งเร้าพลันปรากฏร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งกำลังร่อนสะโพกหมุนเป็นวงกลม ก่อนจะขยับบั้นท้ายที่งดงามส่ายสะบัดเด้งขึ้นเด้งลงด้วยท่าทางยั่วสวาท สร้างความเสียวซ่านวาบหวิวให้แก่ผู้ที่ได้พบเห็นไม่น้อย
ติ๊ง!!!
"มียอดเงินโอนเข้า30000"
"เปิดเนินอกโชว์หน่อยครับ"
"ขอซื้อชั้นใน โอนแล้ว20000"
ฉินมู่หลานที่กำลังใส่หน้ากากขนนกปิดบังใบหน้าเอาไว้ยืนมองยอดเงินในบัญชีที่เด้งเข้ามาในโทรศัพท์มือถือก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก
เดือนนี้ยอดปังไม่เบา!!
ฉินมู่หลานวัย20ปี มีอาชีพเป็นดาวยั่วบนเพจแห่งหนึ่ง ชื่อว่าเพจ Take care fan นามแฝงของเธอคือ angelbell ทุกๆวันเธอจะสวมหน้ากากขนนก พร้อมกับชุดบิกินีตัวจิ๋วสีชมพู มีปีกนกสยายอยู่ด้านหลัง กำลังเต้นยั่วยวนเหล่าชายหนุ่มที่มารอชมความงดงามและเซ็กซี่ของเธอ เธอไม่ได้ขายตัว เธอแค่โชว์เรือนร่างเพียงเท่านั้น
"angerbell จะถอดแล้วนะคะ อื้อออ!!"
ฉินมู่หลานส่งเสียงหวานครางกระเซ่า ก่อนจะค่อยๆปลดเปลื้องบิกินีตัวจิ๋วออกอย่างเย้ายวน
"ขอดูบั้นท้ายโอนแล้ว30000"
"ถอดชั้นในออกมาขายเร็วเข้า โอนนานแล้ว!!!"
ปัง!!!!
"เฮ้ยย!!"
"เวรชิบ ใครยิงangelbellวะ?"
ร่างของฉินมู่หลาน ค่อยๆล้มลงไปกองกับพื้น กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วห้อง มือปริศนายื่นไปปัดโน๊ตบุ๊คบนโต๊ะทิ้งจนมันดับลง ก่อนจะหันมามองฉินมู่หลาน
"แก อึก เป็นใคร?"
ร่างปริศนาค่อยๆเปิดผ้าที่คลุมใบหน้าออกอย่างช้าๆ ฉินมู่หลานดวงตาเบิกกว้างเมื่อได้เห็นใบหน้าของคนที่เข้ามาฆ่าเธออย่างชัดเจน
"พี่!!"
"ตายซะเถอะฉินมู่หลาน ฉันสัญญาว่าจะดูแลสมบัติของแกเป็นอย่างดี"
"ไม่!!!"
ปัง!!!!
สิ้นสุดเสียงปืนร่างของฉินมู่หลานก็แน่นิ่งไป ฉินมู่ฟาง พี่สาวต่างแม่ของฉินมู่หลานก็ยกยิ้มเย้ยหยันด้วยความสะใจ
แต่ไหนแต่ไรมา พ่อก็รักมันมากกว่าเธอมาตลอด สมบัติทุกชิ้นก็ให้แต่ฉินมู่หลาน ทั้งที่เธอเป็นลูกสาวคนโต เป็นลูกของภรรยาหลวง แต่พ่อกลับรักฉินมู่หลานที่เป็นลูกภรรยาน้อยมากกว่าเธอ
ไปตายซะนังสารเลว!!! อยู่ไปก็อับอายต่อวงศ์ตระกูล เบื้องหน้าทำตัวเป็นคุณหนูผู้แสนดี แต่เบื้องหลังกลับมาอวดเรือนร่างให้ผู้ชายดู น่าขยะแขยงที่สุด!!!
ตำหนักชินอ๋อง
"พระชายาเอก เสวยยาถ้วยนี้เถิดเพคะ"
หญิงสาวที่นอนซมอยู่บนเตียงส่ายหน้าไปมาด้วยความสิ้นหวัง นางคือฉินมู่หลาน พระชายาเอกของชินอ๋องมู่หรงเสี่ยวหมิง
นางกับเขาอภิเษกสมรสกันมาปีกว่าแล้ว แต่เขากลับไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวนางเลยแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อไม่นานมานี้เขาก็แต่งพระชายารองอีกคนเข้าตำหนัก พระชายารองผู้นี้มีนามว่า เสี่ยวเยี่ยนจื่อ เป็นบุตรสาวของท่านเจ้ากรมพิธีการ
นางเองเป็นบุตรสาวของท่านแม่ทัพ ตระกูลฉินทำความดีความชอบมากมาย ฮ่องเต้จึงพระราชทานตำแหน่งโหวให้แก่ตระกูลฉิน และพระราชทานสมรสแก่นางกับมู่หรงเสี่ยวหมิง
เวลาผ่านไปปีกว่า เมื่อนางเองไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ไทเฮาจึงพระราชทานสมรสให้แก่เสี่ยวเยี่ยนจื่อ หลานสาวฝั่งมารดาของตนให้แก่มู่หรงเสี่ยวหมิงอีกคนหนึ่ง
มู่หรงเสี่ยวหมิง มักจะเย็นชาใส่นางเสมอ ยามที่เขามาที่เรือนของนาง ก็จะทำราวกับว่านางไม่มีตัวตนในสายตาของเขา
"พระชายาเอกเพคะ"
"แค่กๆ หลิงหลิง เห็นทีข้าคงไม่รอดคืนนี้เป็นแน่ ข้าป่วยเรื้อรังมานานเหลือเกิน"
"อีกครู่ ท่านอ๋องก็จะเสด็จมานะเพคะ"
"เขาไม่มาหรอก ท่านอ๋องไม่เคยมีใจรักต่อข้า แค่กๆ"
ฉินมู่หลานกระอักเลือดออกมาคำโต นางรู้สึกราวกับว่าทุกอย่างกำลังจะดับมืดลง ราวกับว่าช่วงชีวิตนางในตอนนี้ได้ดับสลายลงไปแล้ว
"พระชายาเอก พระชายาเอก!!!! ฮืออ พระชายาเอกสิ้นลมแล้ว!!!"
หลิงหลิงสาวใช้คนสนิทของฉินมู่หลาน ร้องไห้คร่ำครวญปานจะขาดใจ เสี่ยวเยี่ยนจื่อ พระชายารองที่ได้ยินเข้า ก็ยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ
ตายซะได้ก็ดี!!!ตำแหน่งพระชายาเอกจะได้ตกเป็นของข้าเสียที!!!
ด้านมู่หรงเสี่ยวหมิง เขากำลังกลับมาจากการประชุมลับกับฮ่องเต้ที่วังหลวง เมื่อกลับมาถึงก็ได้ยินเสียงนางกำนัลร้องไห้ดังระงมไปทั่วทั้งตำหนัก
"เกิดอะไรขึ้น?"
"ฮือออ ท่านอ๋องเพคะ พระชายาเอกสิ้นแล้วเพคะ!!!"
มู่หรงเสี่ยวหมิงมีสีหน้าเรียบเฉย แววตาของเขาสั่นไหวเพียงครู่เดียว ก่อนจะกลับมาเป็นปกติเช่นเดิม
"ส่งคนไปแจ้งต่อจวนตระกูลฉินว่าพระชายาเอกสิ้นแล้ว ส่วนงานศพของนางให้จัดอย่างสมเกียรติ"
"พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง!!!"
มู่หรงเสี่ยวหมิงเองก็รู้สึกรันทดในใจไม่น้อย ตั้งแต่แต่งนางเข้ามาในตำหนักอ๋อง เขาก็ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวนางเลย และยังเหินห่างกับนางไม่น้อย
เขาไม่ได้มีใจชอบพอต่อนาง และกับพระชายารองและอนุคนอื่นๆเขาก็ไม่เคยมีใจรักใคร่
เขาคือชินอ๋องมู่หรงเสี่ยวหมิง เป็นน้องชายร่วมมารดาเดียวกับฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน เขาเก่งทั้งการศึกและการเดินหมากรุก รวมทั้งการวาดภาพ ฮ่องเต้ทรงรักเขามาก ให้อำนาจทางทหารฝากไว้กับเขาอย่างไว้วางใจ ในวังหลวงสะดวกสบายเช่นไร ในตำหนักอ๋องของเขาก็เป็นเช่นนั้น
"ท่านอ๋อง นางกำนัลได้จัดการเปลี่ยนอาภรณ์และแต่งองค์ให้พระชายาเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
"อืม พรุ่งนี้ข้าจะไปส่งนางเป็นครั้งสุดท้าย"
"พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง"
เมื่อองค์รักษ์คนสนิทเดินออกไปแล้ว มู่หรงเสี่ยวหมิงก็หยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาเปิดดู
ภาพวาดแดนสวรรค์
"เสด็จพี่ช่างตาถึงยิ่งนัก ภาพวาดที่ส่งมาใหม่นี่งดงามเหลือเกิน"
มู่หรงเสี่ยวหมิงนั่งมองภาพสตรีเปลือยกายตรงหน้าด้วยสายตาที่ล้ำลึก หลายวันก่อนเสด็จพี่มู่หลงเสี่ยวเฉินผู้เป็นฮ่องงเต้ ได้สั่งคนให้นำภาพวาดแดนสวรรค์มามอบให้แก่เขา
เขามีรสนิยมที่แปลกประหลาดอย่างหนึ่ง คือเขาชอบดูภาพสตรีเปลื้องอาภรณ์ นอนอ้าขาจนกว้างสุด และอริยาบทต่างๆที่ชวนเย้ายวนแก่สายตาเขา
แต่สตรีรอบกายเขา มีแต่พวกเขินอาย รักในการสงวนท่าที
เขาเป็นสามีนางนะ อ้าให้ดูเสียหน่อยจะเป็นไรไป!!!
มู่หรงเสี่ยวหมิงรับรู้ได้ถึงแก่นกายภายในร่มผ้าที่แข็งดุนดัน เขาค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ออกจนหมด ก่อนจะใช้ฝ่ามือหนาใหญ่ จับแท่งเอ็นร้อนที่ใหญ่และยาว ชักรูดขึ้นลงอย่างเชื่องช้า แล้วจึงเร่งจังหวะให้ถี่รัวเร็วขึ้น
"อ่าส์!!!ซี๊ดดดดด"
เขายกขาข้างหนึ่งขึ้นมาเหยียบบนเก้าอี้ ฝ่ามือใหญ่ชักแท่งเอ็นสวรรค์เข้าออกอย่างถี่เร้า สายตาก็มองไปยังภาพวาดของสตรีที่อ้าขาทั้งสองข้างกว้างจนสุด เผยให้เห็นร่องกลีบบุปผาที่งดงามตายิ่งนัก
"ซี๊ดด!!เสียวลำเหลือเกิน โอววว!!!"
น้ำเมือกสีขาวขุ่นไหลทะลักพุ่งไปโดนหนังสือภาพวาดแดนสวรรค์จนเปรอะเปื้อนไปหมด มู่หรงเสี่ยวหมิงรู้สึกเสียวกระสันจนถึงขีดสุด
เขาเก็บพับหนังสือหน้านั้นเอาไว้ โดยไม่เช็ดทำความสะอาด เขาจะให้มันเลอะเช่นนี้ เพื่อที่เขาจะได้จำเอาไว้ว่าหน้าไหนเขาได้ดูไปแล้ว เขาไม่ชอบดูภาพซ้ำ
เช้าวันรุ่งขึ้น พิธีเคลื่อนขบวนศพของพระชายาเอกฉินมู่หลานกำลังเคลื่อนไปที่สุสานอย่างยิ่งใหญ่ ผู้คนต่างออกมายืนดูและไว้อาลัยแก่พระนาง
น่าสงสารเหลือเกิน ยังสาวยังสวยแท้ๆแต่กลับอายุสั้นเช่นนี้!!!
บิดามารดาของนาง ทำได้เพียงร้องไห้คร่ำครวญให้กับโชคชะตาที่แสนอาภัพของบุตรสาว ฉินมู่หลานเป็นบุตรสาวคนโตของจวนตระกูลฉินอายุปีนี้ก็ยี่สิบหนาวแล้ว และนางมีน้องชายหนึ่งคนนามว่าฉินมู่หลง อายุเพียง12ขวบปี
มู่หรงเสี่ยวหมิง สวมชุดสีขาวไว้ทุกข์ ขี่ม้านำขบวนเพื่อส่งนางไปสู่ปรโลกอย่างสมเกียรติ
"แค่กแค่ก ทำไมมันแคบงี้วะเนี่ย?!!"
ฉินมู่หลานลืมตาตื่นขึ้นมา ก่อนจะพบว่าตนเองกำลังนอนอยู่ในสถานที่แคบๆแห่งหนึ่ง เมื่อนางตั้งสติและสังเกตไปรอบๆก็พบว่า
เวรชิบ!!!โลงศพนี่หว่า ใครเอาฉันมานอนในนี้!!!
ฉินมู่หลานตั้งสติพยายามคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น นางถูกพี่สาวฆ่าตายนี่นา? ถูกฆ่าตายตอนที่กำลังอยู่ในห้อง แล้วทำไม?
นางรีบสำรวจตามร่างกาย ก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ยังไม่ตายนี่!!สงสัยจะฝันไป ต้องออกไปจากโลงบ้าๆนี่ก่อน!!คนภายนอกจะได้รู้ว่านางยังมีชีวิตอยู่
กึก กึก!!โครม
ฉินมู่หลานที่มีใบหน้าซีดเซียว พยายามใช้กำลังสุดแรงก่อนจะกระแทกฝาโลงศพจนกระเด็นเปิดออก นางค่อยๆลุกขึ้นมานั่งมองไปโดยรอบด้วยสายตาที่มึนงง
แห่อะไรกันวะเนี่ย ใครตายเหรอ?
"วร้ายยย!!!ผีพระชายาทะลุโลงแล้ววววว!!!"
"โอววว อยู่ไม่ได้แล้ว เฮี๊ยนแน่ๆถึงกับเปิดโลงลุกขึ้นมานั่งเชียวหรือ?"
"ใครไม่ไปอั๊วะไปแล้วเด้ออออ!!!!"
ผู้คนต่างพากันวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงจนฉินมู่หลานรู้สึกแปลกใจ
มู่หรงเสี่ยวหมิงที่เห็นผู้คนวิ่งหนีกันเป็นพรวนก็หันกลับมามองทันที ก่อนที่ดวงตาของเขาจะเบิกกว้างด้วยความตกใจ
ฉินมู่หลานหันไปสบตากับมู่หลงเสี่ยวหมิงเข้าพอดี
อือหื้อ!!ความหล่อทะลุตามากๆ อยากจะเอามาทำสามีเสียจริงเชียว นั่นถ่ายหนังเหรอ?มีนางเอกรึยังจ๊ะ?
"ฮายยยย สุดหล่อ!!!"
"เจ้ายังไม่ตายรึมู่หลาน!!!!"