บทที่ 2 ขอศึกษาขนาดก่อนชิม

1291 Words
ฉินมู่หลานที่กำลังโบกมือให้มู่หรงเสี่ยวหมิง พลันนางรู้สึกเจ็บร้าวที่บริเวณศีรษะอย่างรุนแรงจนต้องยกมือเรียวงามขึ้นมานวดคลึงที่หว่างคิ้ว  ภาพเหตุการณ์ของร่างเดิมปรากฎขึ้นในหัวของนางเป็นฉาก "ข้าแต่งเจ้าเข้ามาเป็นภรรยา แต่ข้าไม่เคยรักเจ้า เจ้าเข้าใจใช่หรือไม่?" "ขอเพียงได้เคียงข้างท่านอ๋อง ชาตินี้ต่อให้ต้องอยู่เหมือนตายทั้งเป็นหม่อมฉันก็ยอมเพคะ" สตรีที่ใบหน้างดงามจนแทบล่มเมืองได้ กำลังกราบกรานขอร้องอ้อนวอนความรักจากบุรุษที่อยู่ตรงหน้าด้วยความปราถนาที่แรงกล้า นางมีนามว่า ฉินมู่หลาน ชื่อเดียวกับนาง แล้วยังมีใบหน้าที่คล้ายกับนางเป็นอย่างยิ่ง นี่นางข้ามเวลามาเกิดใหม่ในอดีตเช่นนั้นหรือ "ฉินมูหลานระวัง!!!" "วร๊ายยย!!!" ฉินมู่หลานที่กำลังยกมือขึ้นนวดที่หว่างคิ้วและคิดถึงภาพเหตุการณ์ในอดีตจึงไม่ทันระวังตัวว่าตนเองกำลังจะร่วงตกลงมาจากโลงศพ มู่หรงเสี่ยวหมิงรีบกระโดดพุ่งทะยานเข้าไปรับร่างของนางเอาไว้ได้อย่างทันเวลา ภาพของบุรุษและสตรีสองคน ที่กำลังลอยละล่องอยู่บนท้องฟ้า ช่างดูเป็นภาพที่งดงามไม่น้อย ฉินมู่หลานโอบรอบคอของมู่หรงเสี่ยวหมิงเอาไว้แน่น ก่อนจะลอบสังเกตมองใบหน้าของเขา ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาราวกับเทพสวรรค์ ท่วงท่าที่งดงามราวกับเทพบุตร เอื้อก!! ฉินมู่หลานลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่ หล่อจัง!!เกิดมาไม่เคยพบเจอใครหล่อเท่านี้มาก่อนเลย อยากได้ จะเอา จะเอา!!! ร่างของทั้งสองทะยานลงสู่พื้นดินอย่างงดงาม มู่หรงเสี่ยวหมิงหันหน้าไปสบตากับฉินมู่หลานด้วยแววตาที่เรียบเฉย "ข้าจะพาเจ้ากลับตำหนัก ดวงเจ้าช่างแข็งไม่น้อยที่รอดตายมาได้เช่นนี้" ฉินมู่หลานมองมู่หรงเสี่ยวหมิงด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม "สุดหล่อ คุณเป็นใครหรือคะ?" "ถามประหลาด ข้าชินอ๋องมู่หรงเสี่ยวหมิง สามีของเจ้า!!" ฉินมู่หลานยกมือขึ้นป้องปากด้วยความตื่นเต้น นี่สวรรค์!!ส่งให้นางตายจากโลกอนาคตเพื่อย้อนเวลามาอยู่กับสามีที่หล่อขนาดนี้เชียวหรือ ยอมตายอีกหลายรอบเลยเจ้าค่ะ!!! "จ้องหน้าข้าทำไม?" มู่หรงเสี่ยวหมิง หันมาเอ่ยถามฉินมู่หลานด้วยความสงสัย ตอนนี้เขาพานางขึ้นมานั่งบนรถม้าเพื่อกลับตำหนักชินอ๋อง  ฉินมู่หลานมองใบหน้าของมู่หรงเสี่ยวหมิงอย่างไม่ลดละ ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ๆเขา จนมู่หรงเสี่ยวหมิงต้องถอยร่นหนีจากนาง เขาไม่เคยเข้าใกล้สตรีใดเลยแม้แต่น้อย และถึงแม้เขาจะมีรสนิยมชอบดูรูปวาดสตรีเปลือยกายที่วาดจากหอคณิกา แต่เขาก็ไม่เคยย่างกายเข้าไปที่นั่นเลยแม้แต่น้อย  เขาเพียงวาดฝันว่าอยากให้ภรรยาของตนทำท่าทางเลียนแบบภาพวาดเหล่านั้นให้เขาดูบ้าง เสด็จพี่มู่หรงเสี่ยวเฉิน มักชอบส่งภาพเหล่านี้มาให้เขาดูบ่อยครั้ง และอยากให้เขาลองเข้าไปหาความสำราญกับสถานที่แห่งนั้นบ้าง เขาแค่ชอบดูรูปวาด ไม่ได้ชอบนางคณิกาเหล่านั้น "ท่านพี่อ๋อง!!" มู่หรงเสี่ยวหมิงหันไปมองฉินมู่หลานด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขาเอ่ยถามอะไรนางไว้ "ว่าอย่างไร จ้องหน้าข้าทำไม?" "ก็ท่านพี่อ๋องหล่อนี่เพคะ หม่อมฉันขอมองไม่ได้หรือ?" "กล่าววาจาอะไรของเจ้า!!! ขึ้นมายังไม่ทันไรก็คิดยั่วยวนข้าแล้วหรือ?" "ไม่ได้ยั่วนะเพคะ ก็แค่มองความหล่อของท่านพี่อ๋องเฉยๆ" "หึ!!เจ้าอย่ามาออดอ้อนข้าให้ยากเลย ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วว่าข้าไม่มีวันรักเจ้า" "เจ้าค่ะ ไม่รักก็ไม่รัก" ฉินมู่หลานพยักหน้าด้วยสายตาที่เศร้าสลด ถึงว่าสิ ภาพในหัวมันบอกกับนางว่า เขาไม่เคยรักนางเลยแม้แต่น้อย มู่หรงเสี่ยวหมิงปรายตามองฉินมู่หลานด้วยสายตาที่เฉยชา เหตุใดนางจึงฟื้นขึ้นมาได้ เขาจำได้ว่านางตายไปแล้วมิใช่หรือ? หรือว่านางแกล้งตายเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา ฉินมู่หลานมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน? "มู่หลาน" "เจ้าคะท่านพี่อ๋อง" "เจ้าแกล้งตายใช่หรือไม่?" ฉินมู่หลานหันไปมองมู่หรงเสี่ยวหมิงด้วยแววตาที่ครุ่นคิด เจ้าของร่างเดิมนางนิสัยร้ายกาจจนถึงขนาดที่ถูกเขากล่าวหาว่าแกล้งตายเชียวหรือ? "ข้าถามเจ้าไม่ได้ยินหรือ?" "ไม่ได้แกล้งเพคะ ตายจริงเพคะ" "แล้วเหตุใดเจ้าจึงฟื้นขึ้นมาเช่นนี้?" "ไม่รู้สิเพค่ะ คงเพราะความปราถนาก่อนตายของหม่อมฉัน ที่อยากจะร่วมหลับนอนกับท่านพี่อ๋องสักครั้ง จึงฟื้นขึ้นมากระมังเพคะ" "เหลวไหล ใยเจ้าจึงกล่าววาจาเช่นนี้ แล้วยังเรียกข้าว่าท่านพี่อ๋อง เหตุใดจึงพูดภาษาประหลาดเช่นนี้ เจ้าไม่ใช่ฉินมู่หลาน!!!" "ใช่สิเพคะ ตอนที่ตายหม่อมฉันได้ไปพบเจอกับอีกโลกหนึ่งมาเพคะ จึงจำภาษาเหล่านั้นมาใช้" ฉินมู่หลานโกหกหน้าตายอย่างไร้พิรุธ มู่หรงเสี่ยวหมิงที่พยายามจะจับผิดท่าทีของนางก็ทำได้เพียงถอนหายใจออกมา นางคงตายไปแล้วจริงๆ แต่ฟื้นขึ้นมาสติจึงฟั่นเฟือนเช่นนี้ "กลับตำหนักแล้วข้าจะส่งหมอหลวงไปตรวจอาการของเจ้าอย่างละเอียด ท่านพ่อท่านแม่ของเจ้าทราบแล้วว่าเจ้าฟื้น รอเจ้าหายดีจะเข้ามาเยี่ยมเจ้าที่ตำหนักอ๋อง" "เจ้าค่ะ โอะ!!" "ฉินมู่หลาน มือเจ้า!!!" เพราะรถม้าเกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อย จึงทำให้ร่างของฉินมู่หลานเอนเอียงมาซบลงที่แผงอกของเขา ส่วนบั้นท้ายงอนงามของนางก็เด้งขึ้นมานั่งทับที่ต้นขาแกร่งของเขา แต่ทว่ามือของนางกลับกอบกุมจับแท่งเอ็นร้อนของเขาจนเต็มมือ "อุ๊ย!!ท่านพี่อ๋อง ใหญ่จังเจ้าค่ะ" "มู่หลาน!!" "อย่าขยับนะเจ้าคะ!!!รถม้าสั่นอีกแล้วเจ้าค่ะ อ่ะ อื้อออ!!!" "เจ้าจะครางทำไม!!" "อุ๊ย!!รถม้าสะเทือนเจ้าค่ะ!!!แท่ง เอ่อ... แท่งของท่านมันถูไถกับบั้นท้ายข้าเจ้าค่ะ อ๊าส์" "มันไม่ใช่เพราะรถม้าสะเทือน แต่เพราะเจ้าจับของข้าไปถูไถที่บั้นท้ายของเจ้า!!!" "จริงหรือเจ้าคะ?" "น่าด้านยิ่งนัก เจ้าฟื้นมาแล้วเหตุใดจึงหน้าหนาเช่นนี้!!! โอว ซี๊ดดด มู่หลาน!!!" ฉินมู่หลานพลิกร่างบางลงจากต้นขาแกร่งของเขา แล้วจึงรีบล้วงมือเข้าไปใต้ร่มผ้าของมู่หรงเสี่ยวหมิงด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะใช้ฝ่ามือเรียวงาม จับแท่งเนื้อเอ็นร้อนรูดชักขึ้นลงอย่างเพลิดเพลิน "รถม้าสะเทือนเจ้าค่ะ โอะ!!มือข้าหยุดไม่ได้เลยเจ้าค่ะท่านพี่อ๋อง!!" "เจ้าทำอะไรข้า ซี๊ดดด!!" ร่างของมู่หรงเสี่ยวหมิงบิดเกร็งด้วยความเสียวกระสัน ด้านฉินมู่หลานก็ตั้งหน้าตั้งตาชักลำแท่งเอ็นร้อนอย่างตั้งอกตั้งใจ สายตาก็พิจารณาขนาดของลำมังกรในมือไปด้วย ไม่รักนางก็ไม่เป็นไร ไหนๆก็ตกเป็นสามีของนางแล้ว ขอจับเล่นหน่อยนะเพคะท่านอ๋องขาา รอบนี้ขอศึกษาขนาดก่อนนะเพคะ แต่ว่า ดูๆไปแล้วน่าจะพอดีกับปากของนางนะ หรือจะลองดูดดูก่อนดี?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD