รถม้าเคลื่อนมาจอดที่หน้าตำหนักจวนอ๋องแล้ว มู่หรงเสี่ยวหมิงรีบจัดการเสื้อผ้าของตนเองให้เข้าที่ ก่อนจะปรายตามองฉินมู่หลานด้วยสายตาโกธรเคือง
"เจ้าเห็นหรือไม่ว่ามันเลอะ!!"
"หม่อมฉันก็บอกแล้วว่าจะดูดออกให้ พระองค์ก็เล่นตัวนี่เพคะ"
"มู่หลาน ฝากไว้ก่อนเถอะ!!ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าลวนลามข้าได้เป็นครั้งที่สอง"
"เพคะ"
"พระชายาเอก!!ฮือ พระชายาเอก!"
ฉินมู่หลานหันไปมองสาวใช้นางหนึ่งที่วิ่งเข้ามากอดนางเอาไว้ พร้อมกับร้องไห้ปานจะขาดใจ
"เจ้าเป็นใครกัน?"
"หม่อมฉันหลิงหลิง สาวใช้คนสนิทของพระชายาอย่างไรเล่าเพคะ"
"อ้ออออ"
ไม่รู้จักหรอก อ้อ ไปก่อน!!
"พาพระชายาเอกไปพักในเรือน อีกครู่หมอหลวงจะเข้าไปตรวจดูอาการ"
"เพคะท่านอ๋อง"
หลิงหลิงพยุงฉินมู่หลานเข้าไปในเรือนอย่างระมัดระวัง พระชายาเอกของนางเจ็บป่วยมาตั้งแต่ยังเด็ก ร่างกายจึงค่อนข้างบอบบางไม่น้อย
"พี่หญิง ฟื้นแล้วหรือเพคะ ข้าเป็นห่วงพี่หญิงแทบแย่"
ฉินมู่หลานหันไปมองสตรีน้อยนางหนึ่ง ที่วิ่งเข้ามาจับมือของนางเอาไว้ด้วยสายตาห่วงใย
"ภวายพระพรพระชายารองเพคะ"
พระชายารองหรือ?
ฉินมู่หลานหันไปมองมู่หรงเสี่ยวหมิง ก่อนจะลอบเบ้ปากน้อยๆ
เมียเยอะซะด้วย ร้ายกาจไม่เบา!!!
เสี่ยวเยี่ยนจื่อส่งยิ้มอ่อนหวานให้ฉิมมู่หลานด้วยสายตาที่ไร้เดียงสา แต่ฉินมู่หลานกลับมองนางกลับด้วยสายตาที่เรียบเฉย
"ถ้าเสแสร้งแล้วมันเหนื่อย เจ้าก็เป็นตัวของตัวเองเถิดนะ"
เสี่ยวเยี่ยนจื่อยืนอ้าปากค้างอยู่กับที่ ในขณะที่ฉินมู่หลานพยักหน้าให้หลิงหลิงพานางกลับเรือน
นางสัมผัสได้ถึงความไม่จริงใจของสตรีน้อยนางนั้นได้อย่างชัดเจน รอยยิ้มที่งดงาม แววตาดูเหมือนไร้เดียงสา แต่หากสังเกตดูดีดีจะพบกับความอิจฉาริษยาอยู่ในนั้น
เหมือนกับพี่สาวของนาง ที่ใช้ปืนยิงนางจนถึงแก่ชีวิต โดยไม่คิดถึงความเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกันมาเลยแม้แต่น้อย
ไม่นานนักก็มีท่านหมอ มาตรวจดูอาการของนางอย่างละเอียด ร่างนี้อ่อนแอไม่น้อย นางต้องทนดื่มยาต้มขมนี้ลงคออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ท่านแม่ทัพฉินบิดาของฉินมู่หลานส่งของบำรุงมากมายมาที่ตำหนักชินอ๋องจนนางเองกินใช้ไม่หมด จึงได้ให้หลิงหลิงนำไปแบ่งเอาไง้ที่เรือนท่านอ๋อง ให้นางกำนัลต้มให้เขาดื่มเพื่อบำรุงร่างกาย
เสี่ยวเยี่ยนจื่อกลับไปที่เรือนด้วยความขุ่นเคืองไม่น้อย แต่ก่อนฉินมู่หลานรักเอ็นดูนางเหมือนน้องสาวมาตลอด แต่ทว่าวันนี้สายตาที่มองนาง กลับดูห่างเหินและเย็นชา หรือว่าฉินมู่หลานจะไปล่วงรู้สิ่งใดมา
"เยี่ยนจื่อ"
"ท่านอ๋อง"
เมื่อพบว่าเป็นมู่หรงเสี่ยวหมิงที่มาหานางถึงเรือน ใบหน้างอง้ำเมื่อครู่ ก็กลับมาสดใสร่าเริงอีกครั้ง
"วันนี้ข้าจะมาค้างกับเจ้า ขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกเจ้าก่อน"
"ไม่เลยเพคะท่านอ๋อง เชิญท่านอ๋องนั่งพักให้หายเหนื่อยสักครู่เถิดเพคะ"
เสี่ยวเยี่ยนจื่อเทชาร้อนอย่างดีใส่ถ้วยส่งให้แก่มู่หรงเสี่ยวหมิง ก่อนจะปรนนิบัติคอยดูแลเรื่องสำรับยามเย็นให้แก่เขา
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่ท่านอ๋องกับนางจะได้ร่วมหลับนอนด้วยกัน
มู่หรงเสี่ยวหมิงเองก็พยักหน้าให้นางอย่างอ่อนโยน อย่างไรเสียนางก็เป็นถึงหลานสาวฝั่งมารดาของไทเฮาผู้เป็นเสด็จแม่ของเขา
เสี่ยวเยียนจื่อมีศักดิ์เป็นญาติผู้น้องของเขา นางเป็นบุตรสาวของฮูหยินเอกตระกูลเสี่ยว มารดาของนางเป็นน้องสาวของเสด็จแม่ของเขา
หลังจากรับสำรับเย็นเรียบร้อยแล้ว เสี่ยวเยี่ยนจื่อก็ปรนนิบัติมู่หรงเสี่ยวหมิงให้อาบน้ำ ก่อนที่นางจะมานั่งรอเขาบนเตียงนอน
มู่หรงเสี่ยวหมิง มองเสี่ยวเยี่ยนจื่อ ที่สวมชุดนอนปกปิดถึงลำคอ มองเขาด้วยสายตาเขินอาย
เขาทิ้งตัวลงนั่งที่ข้างกายของนาง เสี่ยวเยี่ยนจื่อก้มหน้างุด ใบหน้าแดงก่ำ ไม่กล้าสบตามู่กับหรงเสี่ยวหมิง
เขาค่อยๆยื่นมือไปเพื่อจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของนางออก แต่ทว่าเสี่ยวเยี่ยนจื่อกลับบิดกายหลบหนีจากเขา
"ท่านอ๋อง เยี่ยนจื่ออายเจ้าค่ะ"
อายอีกแล้ว!!!
"เช่นนั้นเจ้าก็นอนอายไปเถิด ข้าจะไปอ่านตำราต่อ"
มู่หรงเสี่ยวหมิงสะบัดชายเสื้อเดินออกมาจากเรือนนอนของเสี่ยวเยี่ยนจื่อด้วยความหงุดหงิดใจ
ระหว่างทางสายตาของเขาก็พบเข้ากับฉินมู่หลานกำลังยืนรับลมอยู่ริมระเบียงทางเดิน ที่เรือนนอนของนาง
เมื่อสังเกตดีดีเขาก็พบว่า วันนี้นางสวมชุดนอนบางเบา เผยให้เห็นเนินอกที่ใหญ่ล้นทะลักออกมา
นางนมใหญ่ขนาดนี้เชียวหรือ?เหตุใดเขาจึงไม่เคยเห็นมาก่อน
ฉินมู่หลานรับรู้ได้ว่าถูกมู่หรงเสี่ยวหมิงจับจ้อง นางค่อยๆยกชายกระโปรงของตนเองให้สูงขึ้น เผยให้เห็นเรียวขาขาวนวลเนียนของนาง มู่หรงเสี่ยวหมิงราวกับถูกดึงดูดสายตาโดยไม่รู้ตัว เขาจ้องมองนางอย่างไม่อาจละสายตาได้เลยแม้แแต่น้อย
"อื้อออ วันนี้ยังไม่ได้บริหารนมเลย ไม่ได้เสียแล้ว เดี๋ยวหย่อนยานไปจะเสียของเปล่าๆ!!"
ฉินมู่หลานค่อยๆใช้มือเรียวงามบีบเคล้นคลึงยอดอกงามของตนเอง จนเนินอกของนางแทบจะล้นทะลักออกมานอกชุดนอนที่บางเบาตัวนั้น เรียวขางามค่อยๆยกขึ้นเหยียบบนเก้าอี้ ก่อนจะเด้งเอวขึ้นลงเป็นจังหวะ
มู่หรงเสี่ยวหมิงขมวดคิ้วมุ่น
นางกำลังทำสิ่งใดกัน?
แต่จะว่าไปก็น่าดูไม่น้อย!
"อุ๊ย!!ท่านพี่อ๋อง"
ฉินมู่หลานแกล้งทำเป็นตกใจเมื่อได้พบกับมู่หรงเสี่ยวหมิง เขาค่อยๆเดินมาหานางก่อนจะจ้องมองนางด้วยสายตาสงสัยใคร่รู้
"เจ้าทำสิ่งใดอยู่ เหตุใดจึงต้องแอ่นเอวขึ้นลง แล้วจับเอ่อ... จับ"
"อ้อ หม่อมฉันบริหารทรวงอกน่ะเพคะ"
"หืม?"
"หม่อมฉันกลัวมันหย่อนยานน่ะเพคะ จึงต้องดูแลเสียหน่อย อื้อออ อ่าส์!!"
ฉินมู่หลานขยับเด้งเอวงามให้ขึ้นลงอย่างถี่เร้าพร้อมกับส่งเสียงหวานครางกระเซ่า มู่หรงเสี่ยวหมิงมองตามเอวงอนงามของนางที่เด้งขึ้นเด้งลงอย่างไม่ละสายตา
เหมือนสตรีในภาพวาดเหล่านั้นเลย หากเขาควักแท่งมังกรออกมารูดชักแล้วปล่อยพิษของมันราดรดบนตัวนางคงจะดีไม่น้อย
ความคิดช่างอุบาทว์สิ้นดี!!!
"ดึกดื่นป่านนี้ไม่รู้จักหลับจักนอน ออกมาส่ายเอวเด้งขึ้นเด้งลง เจ้านี่ช่างหน้าไม่อายมากขึ้นทุกวัน"
"ท่านพี่อ๋องระวังเจ้าค่ะ!!"
"มู่หลาน!!โอะ อื้อหือ!!!"
ฉินมู่หลานมองไปเห็นเสี่ยวเยี่ยนจื่อกำลังวิ่งมาทางที่นางกับมู่หรงเสี่ยวหมิงยืนอยู่ จึงยื่นมือไปดึงร่างของเขาเข้ามาหาตัวนาง แล้วกดศีรษะของเขาเข้ามาแนบกับเนินอกงามของนาง ใบหน้าของมู่หรงเสี่ยวหมิงซุกลงไปในร่องอกของนางจนเขาแทบหายใจไม่ออก เขาได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวของนางลอยมาแตะจมูก ช่างสร้างความตื่นเต้นแก่เขาไม่น้อย
"ท่านอ๋องเพคะ!!!"
"โอะ น้องหญิง ขออภัยเจ้าด้วย พอดีว่าท่านอ๋องกำลังเสวยนมอยู่"