นางร้ายหน้าสวย
“นางร้ายหน้าสวย อักษรย่อปอปลา กำลังซุ่มปลูกต้นรักกับพระเอกต่างช่อง อักษรย่อนอหนู”
ปกป้องกดอ่านลิงก์ข่าวที่เพื่อนส่งมาให้ เรื่องวงการบันเทิงเขาไม่รู้หรอกว่าใครเป็นพระเอกช่องไหน ดังระดับไหน ขนาดบอกชื่อนามสกุลเต็มๆ เขายังไม่รู้จักเลย ดังนั้นเรื่องตัวย่ออย่าหวังว่าเขาจะรู้ แต่การที่ลิงก์นี้ถูกส่งมาถึงเขา ปกป้องจึงรู้ทันทีว่าต้องเป็นปิ่นมุก และคอมเมนต์ที่ยาวเป็นพืดก็ยืนยันได้ว่าไม่ผิดตัว
เขาโยนโทรศัพท์ไว้บนแฟ้มเอกสารบนโต๊ะอย่างไม่ไยดี จากนั้นก็หมุนเก้าอี้ตัวใหญ่ไปทางผนังกระจก ตวัดขาไขว่ห้าง ดวงตาคมกริบมองไปยังทิวทัศน์เมืองหลวงของประเทศไทยยามเย็น
“ถ้าฉันเป็นพ่อเป็นแม่ ฉันจะไม่ตั้งชื่อลูกชายว่านิ้วโป้ง มันทัให้เห็นภาพอะไรบางอย่างที่ดูสั้นๆ” ปกป้องเหลือบตามองเงาของเพื่อนที่สะท้อนรางๆ อยู่บนผนังกระจก
“ใครมันจะไปใหญ่เหมือนโปกหำเป้งล่ะวะ” แดนเทพ เพื่อนสมัยปริญญาตรีที่ถูกปกป้องซื้อตัวจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้วยค่าตัวมากกว่าเดิมสองเท่าให้มาเป็นผู้ช่วยคนสนิทหัวเราะเมื่อพูดถึงฉายาที่ปกป้องประกาศอย่างภูมิใจตอนไล่จีบสาวๆ ในมหาวิทยาลัย
“แน่นอน เรื่องนี้ฉันไม่รับความเห็นต่าง” ปกป้องยักไหล่
“พระเอกคนนี้คารมดีนะ” แดนเทพบอกในสิ่งที่ใครๆ ก็รู้ ยกเว้นปกป้อง ก่อนจะหยุดพูดเมื่อเลขาฯ หน้าห้องเดินยกถาดใส่กาแฟร้อนสองที่กับของว่างเข้ามา เขาผายมือให้วางบนโต๊ะทำงานของท่านประธานได้เลย
“เอกสารพวกนี้ภัคเอาออกไปได้หรือยังคะ” ภัคจิราถามอย่างนอบน้อมเพราะเห็นแฟ้มหนาสองเล่มถูกปิดไว้เรียบร้อยและถูกดันไว้ตรงหัวโต๊ะ
“ยัง รีบเหรอ” ปกป้องหันขวับมามองหน้าเลขาฯ เสียงที่เขาใช้สะท้อนความขุ่นเคืองออกมาจากก้นบึ้ง
“ปะ...เปล่าค่ะ” ภัคจิราตอบเสียงสั่น สองมือกุมกันตรงเป้า
“ผมเพิ่งลงจากเครื่องเมื่อเช้า โทรศัพท์เข้าสายแทบไหม้ คนโน้นคนนี้เอาดอกไม้มาให้ไม่หยุด คุณคิดว่าเอกสารปึกใหญ่ขนาดนี้สองปึกผมจะอ่านเสร็จเหรอ ออกไปก่อน ใครรอไม่ไหวก็ให้เข้ามาหาผม” นอกจากตอนนี้ต้องรับมือกับอาการเจ็ตแล็กแล้ว เขายังต้องมาเจอเรื่องที่ทำให้ตะขิดตะขวงใจ
“ค่ะๆ ขอโทษค่ะ” ภัคจิรารับคำแทบไม่ทัน ก่อนจะค้อมตัวเดินขาสั่นออกไปอย่างรวดเร็ว
“ทำไมต้องเกรี้ยวกราด มันเป็นหน้าที่ที่เลขาฯ จะต้องตามงาน” แดนเทพส่งกาแฟถ้วยที่สามของวันให้เพื่อนสนิท และหยิบอีกถ้วยเดินไปนั่งที่โซฟา
“เขาก็เห็นว่ามีแขกเข้ามาหาไม่หยุด แล้วก็เป็นเขาเองที่ต่อสายลูกค้าเข้ามาให้ฉัน” ปกป้องยกกาแฟขึ้นดื่มดับอารมณ์
“ก็จริง เราสองคนรับแขกที่เข้ามาแสดงความยินดีกับการมานั่งเก้าอี้ท่านประธานของนาย จนป่านนี้ยังไม่ได้ออกไปกินข้าวเลย” แดนเทพพยักหน้า นอกจากกาแฟกับของว่างเล็กๆ น้อยๆ พวกเขายังไม่ได้กินอาหารจานหลักกันเลย
“ฉันว่าพ่ออาจจะไว้ใจข้าเก่าเต่าเลี้ยงมากเกินไป ฉันเห็นเอกสารบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลของแผนกบัญชี” ปกป้องเดินมาหาแดนเทพ ทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างกันและหลับตาลง
“นี่วันแรกก็จับพิรุธได้เลยเหรอ สมแล้วที่พ่อขอร้องให้กลับมาทำงานทันทีที่เรียนจบปริญญาโท” แดนเทพชื่นชมเพื่อน ไม่เชิงว่าปกป้องจะทำงานวันแรก ความจริงแล้วเขาคุ้นเคยกับพนักงานที่นี่พอสมควรตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยเพราะพยัคฆ์มักให้เขามาช่วยงานในฐานะที่เรียนบริหาร เรียกได้ว่าเดินตามรอยพ่อมาเป๊ะๆ และในฐานะหนึ่งในผู้สืบทอดกิจการ ปกป้องถือว่าเป็นการสร้างประสบการณ์ไปในตัวจึงไม่เคยเกี่ยงงอน
ปีนี้พยัคฆ์บิดาของปกป้องอายุหกสิบแปด อายุเป็นเพียงตัวเลขเป็นอย่างไรก็ดูได้จากหนุ่มใหญ่คนนี้ เพราะใบหน้าของพยัคฆ์เหมือนเพิ่งผ่านวัยหนุ่มมาหมาดๆ พยัคฆ์ยังคงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการของบริษัทอยู่ แต่ได้แบ่งกิจการทั้งหมดให้กับลูกๆ ทั้งห้าคนรับผิดชอบ โดยศูนย์รวมของครอบครัวยังคงอยู่ที่ปากช่อง ซึ่งที่นั่นมีพลอยใสดูแลกิจการปุ๋ย ส่วนแพรสวยดูแลธุรกิจนม ในขณะที่ปกป้องนั่งแท่นท่านประธานอยู่ที่สำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ นะโมกับน้ำมนต์ยังเรียนอยู่ที่อังกฤษ แต่ก็มีเก้าอี้ท่านประธานรอทั้งสองคนอยู่
“แจ็กพ็อตว่ะ สุ่มเปิดเอกสารปุ๊บก็เจอการเบิกจ่ายที่มีพิรุธ พอสะดุดอย่างนึงมันก็ไม่ไว้ใจไปหมด ฉันคงไม่จ้างคนไว้โกงบริษัทต่อ”
“มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ” แดนเทพวางถ้วยกาแฟ หยิบโทรศัพท์ของเขามาเปิดไลน์ที่ดังขึ้น
“คอยสอดส่องยายปิ่นปิ๊นแทนฉันก็พอแล้ว น่าเบื่อจริงๆ เมื่อไรจะจบมหาวิทยาลัยวะ จะได้หมดภาระสักที”
เรื่องหมั้นหมายปากเปล่าระหว่างพ่อของเขากับแม่ของปิ่นมุกเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่น่ารำคาญสิ้นดี แต่นั่นยังไม่ผูกมัดเท่ากับการที่ตัวปกป้องเผลอไปรับปากอาเฟย่าขณะน้ำเมาเข้าปาก ว่าจะช่วยเป็นผู้ปกครองให้ตอนที่ยายตัวแสบบอกว่า ถ้าเข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่งเมื่อไรตนเองจะเข้าวงการบันเทิงด้วย เธอถูกทาบทามมาตั้งแต่ตามแม่ไปกองถ่ายเมื่อนานมาแล้ว และผู้จัดละครก็ไม่ได้ละความเพียร ยังคงโทร.ติดต่อมาเป็นระยะๆ ซึ่งเฟย่าได้ผัดผ่อนมาตลอดทั้งที่ลูกสาวอยากเจริญรอยตามแม่
เขายืดอกรับว่าจะดูแลปิ่นมุกให้จนกว่ายายตัวแสบจะจบมหาวิทยาลัยตอนกำลังเมาได้ที่ ผลมันก็เลยอีนุงตุงนังมาจนถึงตอนนี้
เจ้าตัวก็เหลือเกิน มีบ้านตายายใหญ่โตก็ไม่อยู่ ดันอยากใช้ชีวิตอิสระตามประสาวัยรุ่นเหมือนเขาซึ่งเป็นผู้ชายลุยๆ ที่พ่อซื้อคอนโดฯ ให้
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันไม่พอ อาเฟย่ากับอาภูผายังลงทุนซื้อคอนโดฯ ห้องฝั่งตรงข้ามห้องของปกป้องให้อีก ตอนที่ปิ่นมุกเข้าปีหนึ่ง ปกป้องอยู่ปีสาม เขามีเวลาดูแลปิ่นมุกสองปี พอจบแล้วเขาก็ไปเรียนต่ออังกฤษ ส่วนชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยที่เหลืออีกสองปีของปิ่นมุก เขาใช้เงินแก้ปัญหาด้วยการจ้างเพื่อนที่ไว้ใจได้ให้ดูแลแทน ซึ่งอาเฟย่าก็ไม่ได้มีปัญหา นั่นเท่ากับว่าพอปกป้องขึ้นเครื่องบินลัดฟ้า เขาก็หมดภาระหน้าที่โดยปริยาย
แต่เรื่องกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด...
ระหว่างที่เขาคร่ำเคร่งกับการเรียนต่างแดน แต่ละวันที่เพื่อนส่งไลน์มารายงาน เขาได้แต่ถอนใจ ปิ่นมุกเป็นยายตัวร้ายเสมอต้นเสมอปลาย สมกับบทบาทในจอทีวีได้รับนั่นแหละ
“อีกปีนึง” แดนเทพหัวเราะหึๆ สมน้ำหน้าเขา ตอนแรกปกป้องคิดว่ากลับไทยมาปิ่นมุกจะเรียนจบไปแล้วหนึ่งปี แต่นี่ดันไม่จบ
“เพราะมัวแต่โดดเรียนไงถึงไม่จบสักที” ปกป้องส่ายหัว ปิ่นมุกเรียนตั้งนานไม่จบ ส่วนปราบซึ่งเป็นน้องชายจบสามปีครึ่ง กำลังเตรียมไปต่อปริญญาโทที่อเมริกา
“ก็ดารานี่เนอะ ไม่เคยเห็นหรือไงว่าบางคนอายุจะสามสิบเพิ่งจบตรี เรียนๆ ดร็อป หรือไม่ก็ย้ายที่ ใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยได้คุ้มเวอร์” แดนเทพพูดเสียทุกอย่างแย่ลงในความรู้สึกของปกป้อง
“ทำตัวตามสบายแบบนี้ไง ภาระฉันถึงไม่จบไม่สิ้นสักที ยิ่งพูดยิ่งหมดกำลังใจ เอาเป็นว่าใช้วิธีเดิมแล้วกัน ไอ้เทวดา นายสอดส่อง ถ้ามีอะไรแปลกๆ ก็มาบอกฉัน เดี๋ยวฉันสั่งลูกน้องไปจัดการเหมือนทุกครั้ง”
นี่ละคือสิ่งที่อาเฟย่ากลัว วงการมายาถ้าไม่เชี่ยวพอตัว ก็จะตกเป็นเหยื่อเสือสิงห์เอาง่ายๆ ปกป้องแนะนำให้อาเฟย่าหาผู้จัดการส่วนตัวดูแลไปให้จบๆ แต่ปิ่นมุกปฏิเสธ เธออยากรับงานเอง อยากเป็นอิสระ
“ก็นี่ไง ‘อะไรแปลกๆ’ ข่าวล่ามาแรง” แดนเทพหันโทรศัพท์ให้ดูข่าวที่เพิ่งส่งลิงก์ให้ปกป้อง
“ข่าวนี้เป็นการต้อนรับการกลับมาของฉันเลยนะ ถ้าเป็นพระเอกน้ำดี ชอบเข้าวัดทำบุญ ปล่อยนกปล่อยปลา ก็ปล่อยให้เขาได้เจอกับปิ่นปิ๊นซะบ้าง แล้วจะรู้ว่านรกมีจริง” ปกป้องอ้าปากหาว
“นางเอกในช่องที่เคยแสดงด้วยโดนพระเอกคนนี้สอยมาหมด” แดนเทพเริ่มกล่าวถึงสรรพคุณแรกของพระเอกหน้าหยกนั่น
“ปิ่นปิ๊นเอาตัวรอดได้มั้ง พิษสงเยอะอยู่” ปกป้องพูดอย่างไร้ความกังวล
“เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น” แดนเทพร่ายสรรพคุณข้อต่อไป
“นายก็รู้ว่าปิ่นปิ๊นก็เปลี่ยนคนควงบ่อย แต่ไม่มีใครทนได้ น้องฉันคงแพรวพราวพอตัว” เขาไม่ว่าเลยที่เธอจะมีแฟน ขอแค่อย่าเอาตัวไปอยู่ในอันตรายก็พอ และก็ขอให้ผู้ชายคนนั้นดูแลเธอได้ แต่เท่าที่ผ่านมาคบกันไม่ถึงเดือนก็เห็นเปลี่ยนคนควงอีกแล้ว
“ไม่ชอบใส่ถุง” แดนเทพเอ่ยสรรพคุณทางยา คิดว่าปกป้องจะต้องตกใจ แต่ก็ไม่