วันต่อมาเมื่ออันนพและปิยะนุชออกไปทำงานและเปียไปโรงเรียนแล้ว มนต์มีนาจึงขับรถพามันเดย์ไปหาเพื่อนพริตตีที่เธอไว้ใจฝากกระเป๋าแบรนด์เนมไว้ ตลอดเวลาที่มนต์มีนาท้องเธอไม่เคยบอกใคร การพูดคุยกับเพื่อนก็เป็นการคุยผ่านทางแอปพลิเคชันสนทนาและโทร. คุยแบบไม่เห็นหน้า นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพาลูกไปหาเพื่อนสนิท
เมื่อมาถึงร้านอาหารที่นัดหมาย แม่ลูกอ่อนลงจากรถ หยิบเป้อุ้มเด็กจากที่นั่งข้างคนขับมาสวมเข้ากับตัว ก่อนเดินมาเปิดประตูด้านหลังคนขับฝั่งผู้โดยสารเพื่ออุ้มลูกออกมาจากคาร์ซีตมาใส่เป้อุ้มด้านหน้า ส่วนบนหลังสะพายกระเป๋าเป้ที่บรรจุข้าวของเครื่องใช้สำหรับเจ้าตัวเล็กเวลาออกนอกบ้าน จากนั้นจึงเดินเข้าไปในร้านที่เพื่อนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
มนต์มีนาพาลูกชายตัวขาวอวบอ้วนเข้ามาในร้าน วันนี้เธอเลือกชุดหมูน้อยสีชมพูพิกเล็ตให้ลูกใส่ เพิ่มความน่ารักน่าชังด้วยรองเท้าผ้าใบกับหมวก สองขาป้อมแขว่งไปมาตามแรงเดินของผู้เป็นแม่ ภาพคุณแม่หุ่นสวยที่มีเป้อุ้มลูกอยู่ด้านหน้าและด้านหลังมีเป้อีกใบสะพายอยู่เข้ามาในร้านเรียกสายตาให้คนหันไปมองได้ขณะหนึ่ง แต่กันยาหรือ ‘กลอย’ ที่มองเห็นเพื่อนสาวอุ้มเด็กมาด้วยแบบนี้ก็ถึงกับอึ้ง เพราะเธอไม่คิดว่าการที่ไม่ได้เจอเพื่อนร่วมสายงานเดียวกันช่วงระยะหนึ่งอีกฝ่ายจะมีลูกน่ารักน่าชังขนาดนี้แล้ว
“มี่ นี่...”
กลอยเบิกตาจ้องมองด้วยความตะลึง แต่เมื่อเห็นหน้าลูกหมูสีชมพูของเพื่อนสาวแล้วก็อดชื่นชมในความน่ารักไม่ได้ แถมตอนนี้เจ้าตัวน้อยยังทำหน้าทะเล้นแลบลิ้นเล็ก ๆ ออกมาส่งเสียงอ้อแอ้เหมือนจะทักทายเพื่อนของผู้เป็นแม่
“ลูกเราเอง”
มนต์มีนาช่วยยืนยันข้อสงสัยจากสีหน้ากันยาจากปากเธอเอง
“มีตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกกันเลย นี่ถ้ารู้นะจะไปหาบ่อย ๆ แล้ว ทำไมไม่บอกล่ะมี่”
กันยาบ่นให้ไม่จริงจังนักเพียงได้เห็นหน้าลูกชายตัวอวบของเพื่อนก็หลงรักเต็มเปา จากนั้นทั้งสองก็พูดคุยกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องความเป็นอยู่ของตัวมนต์มีนาตอนนี้ และเรื่อง...พ่อของลูก ที่เธอบอกว่า
“เลิกกันนานแล้ว”
กันยารู้ว่ามนต์มีนาคบกับจวินมาหลายปี แต่ตอนที่หญิงสาวเลิกกับผู้ชายคนนี้เธอไม่ปริปากบอกเรื่องนี้กับใครเลย ทำให้เพื่อนสนิมอดถามไม่ได้เรื่องจวินกับลูก
“แล้วเขารู้รึเปล่ามี่ว่าแก...”
“เราตกลงกันได้ ไม่มีปัญหาอะไร แล้วก็ขอร้องนะกลอย ถ้าเจอเพื่อนของเขา อย่าเอ่ยปากเรื่องลูกของเรา เราไม่อยากมีปัญหาตามมาอีก กว่าจะผ่านพ้นมาได้โคตรยากเย็น”
กันยาพยักหน้ารับอย่างเข้าใจหัวอก ไม่ใช่มนต์มีนาคนเดียวที่เผชิญกับการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่พ่อของเด็กไม่ยอมมาร่วมรับผิดชอบ พริตตีอีกหลายคนก็ล้วนเป็นเช่นนี้ บางคนมีลูกตั้งแต่อายุยี่สิบ เลิกกับแฟนแล้วเข้ามาทำอาชีพพริตตี บางคนเกิดตั้งท้องขึ้นมาไม่อยากทำแท้งให้เป็นบาปก็เลือกเก็บลูกไว้ คงสถานะแค่เป็นพ่อกับแม่เท่านั้น ฝ่ายชายส่งเสียบ้างไม่ส่งเสียบ้าง ซึ่งปัจจุบันมันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
“ตอนนี้เราอยากหาคอนโดอยู่กับลูกสองคน ไม่อยากมีปัญหากับพี่สาวที่อยู่กับครอบครัวของเขาอะ”
มนต์มีนาระบายเรื่องทุกข์ใจให้เพื่อนฟังแต่ตอนนี้ไม่รู้สิ่งที่เธอพูดเข้าหูเพื่อนบ้างไหม เพราะกลอยเอาแต่ฟัดมันเดย์ของเธออยู่นั่น
“ฮะ? เมื่อกี้ว่าอะไรนะมี่”
กลอยยิ้มแห้ง ๆ ก่อนจะก้มหน้าฟัดแก้มยุ้ย ๆ ของหลานชายอีกครั้ง รำพันว่า “เจอกันวันเดียวหนูก็ตกป้าแล้วเหรอลูกมันเดย์ โอ๊ย น่ารักอะไรอย่างนี้ ใจป้าละลายหมดแล้ว”
^
^
^
***พักหายใจหายคอไม่กี่ตอน เดี๋ยวเริ่มมาม่าใหม่นะค้า ชอบเจ้าเดย์อย่าลืมกดติดตา คอมเมนต์มาด้วยนะคะ