คอนโด P
พรึ่บ!!
“เฮ้อออออ” ฉันทิ้งตัวลงที่นอนก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างแรงวันนี้เหนื่อยมากแต่ก็ยังดีที่ได้เงินมาเยอะ แต่ก็ต้องเอาซื้อสีและอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อให้สะดวกกับการทำงานมากขึ้นด้วย พรุ่งนี้ก็ต้องไปเรียน...ใช้ก็ต้องใช้อีก
“ทำไมไม่เลือกเรียนอะไรที่มันง่าย ๆ นะ?” ฉันได้แต่บอกตัวเองแต่ก็ทำตามหัวใจตลอดก็คนมันชอบนิแม้เหนื่อยก็ต้องทำ...
เห็นว่าฉันอยู่คอนโดไม่ได้แปลว่าฉันมีเงินหรอกนะที่นี่เป็นคอนโดเล็ก ๆ เท่านั้นค่าเช่าก็เท่าไหร่มีหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องน้ำมีห้องนั่งเล่นที่รวมกับห้องครัว แต่ฉันไม่ค่อยได้ทำอาหารเท่าไหร่หรอกเพราะไม่มีเงิน ชีวิตคนจนมันก็แบบนี้แหละทั้งหมดเพราะคนพวกนั้นนั่นแหละ เหอะ!!!
“น่าสมเพชฉิบหาย” ฉันได้แต่บ่นโชคชะตาแต่จะทำยังไงได้นอกจากใช้ชีวิตต่อไป
Rrr
เสียงโทรศัพท์ของฉันร้องดังทั้งที่กำลังเคลิ้มหลับแล้วแท้ ๆ
“อือ” ฉันรับสายก่อนจะส่งสายไปแค่นั้นเพราะเหนื่อยจนพูดไม่ออกแล้ว
(ไอ้พริกว่างป่ะวะ?!) น้ำเสียงที่ส่งมาแสดงถึงความร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด ฉันเอาโทรศัพท์ออกจากหูเพื่อดูชื่อว่าใครโทรมา
“ทำไม?” เมื่อรู้แล้วก็ถามกลับไปเขาชื่อพี่ชัช เป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยเรียนจบไปหลายปีแล้วและทำงานที่คลับแห่งหนึ่งเป็นผู้จัดการหาพนักงานหรือนักร้องให้ร้าน
(มาร้องเพลงให้หน่อยพอดีนักร้องที่ร้านประสบอุบัติเหตุมาร้องไม่ได้)
“เหนื่อย...”
(ให้สองเท่าเลย!นะ!ช่วยพี่หน่อยเถอะไอ้พริก)
“จะนอนแล้วพี่คิดว่าฉันทำงาน...”
(สามเท่า!!พี่ให้มึงสามเท่าเรารู้กันสองคน)
“สิบนาทีเจอกัน...” ฉันบอกก่อนจะลุกจากที่นอนแม้ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องไปเพราะงานคือเงินและเงินคืองาน...
พรึ่บ!!
คลับ SP
ฉันก้าวขาเข้ามาที่คลับในโรงแรมแห่งหนึ่งมันเป็นแหล่งหรือสถานที่ที่รวบรวมทุกอย่างเอาเอาไม่ว่าจะโรงแรม คลับ และคาสิโนถูกกฎหมายแห่งแรกในประเทศก็อยู่ที่นี่ด้วยเพราะงั้นมาที่นี้เท่ากับครบ!
ฉันเคยมาร้องเพลงที่นี่อยู่บ้างแต่ไม่บ่อยเพราะมันไม่ใช่สไตร์ของฉัน เนื่องจากที่นี่เป็นสถานที่ของคนที่มีระดับหรือเศรษฐีนั่นเอง ส่วนฉันมันโลโซไม่ค่อยเข้ากับที่นี่ไหร่ตั้งแต่สไตร์การแต่งตัวแล้วแหละ
“ไอ้พริก ๆ ทางนี้!!” ขณะที่ฉันกำลังเดินอยู่เสียงของพี่ชัชก็เรียกฉันเสียงดังและรีบเรียกฉันไปอย่างเร่งรีบ
“ร้องตอนไหน?” ฉันเมื่อมาถึงตัวของพี่แกฉันก็ถามเวลาที่ต้องขึ้นร้องเพราะตอนนี้มันเกือบสองทุ่มแล้ว
“สองทุ่มเพราะงั้นรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งหน้าก่อนเถอะ” พรึ่บ! พี่ชัชดันหลังของฉันให้เดินเพราะตอนนี้มันใกล้เวลาขึ้นเวทีแล้ว
“เออ ๆ เข้าใจแล้วใจเย็นดิให้เวลาทำใจหน่อยดิพี่ก็รู้ว่าการแต่งตัวของที่นี่...” มันค่อนข้างโป๊แค่เป็นนักร้องยังเกือบโชว์ทั้งหมดอยู่แล้ว
“เอาน่ายังไงก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรมึงอยู่แล้ว” เหมือนจะปลอบใจ เพราะการเป็นนักร้องของที่นี่จะสิทธิต่างจากพนักงานทั่วไปนิดหน่อย
“ขอชุดไม่โป๊มากนะ”
“ได้ ๆ เลยน้องรัก^^”
10 นาทีต่อมา...
“กูบอกว่าไม่โป๊ไงพี่ -_-” ตอนนี้ฉันกำลังทำหน้าเซ็งเพราะชุดที่ใส่อยู่เดรสรัดรูปผ่าข้างอีก!! แถมยังสายเดี่ยว!!
“เอออออ ทนหน่อยเถอะนะเพื่อเงินสามเท่าเลยนะสามเท่า!” เขามากระซิบข้างหูของฉันเพราะเรื่องเงินสามเท่ามีแค่ฉันกับเขาเท่านั้นที่รู้
“เฮ้อออ” แล้วฉันเลือกอะไรได้มาขนาดนี้แล้ว สู้สิวะ!!อีพริก!!
“ได้เวลาแล้วป่ะสู้!!เพื่อเงิน” เมื่อทำใจได้แล้วฉันก็เดินไปที่เวทีซึ่งตอนนี้นักดนตรีรออยู่แล้ว....
(เสี่ยเปลว)
หลายชั่วโมงต่อมา
“อึก ๆ”
แกร๊ง!
เสียงของก้อนน้ำแข็งที่กระทบแก้วเมื่อเหล้าหมดเพราะผมกลืนมันลงท้องไปหมดแล้ว วันนี้เสียงเพลงฟังลื่นหูกว่าทุกวันและเมื่อมองลงไปก็พบกับนักร้องที่ไม่คุ้นตาเท่าไหร่สงสัยจะมาใหม่ละมั้ง หึ สงสัยต้องตบรางวัลไอ้ชัชหน่อยเพราะมันหานักร้องได้ถูกใจผมฉิบหายเลย
“เสี่ยเปลวคะแอนนี่อยากได้กระเป๋าจังค่ะ” เสียงของผู้หญิงข้าง ๆ ผมพูดเสียงออดอ้อนลูบไล้ที่แผลงอกของผมก่อนจะขอกระเป๋า
“เท่าไหร่?” ผมถามเสียงเรียบโดยไม่ละสายตาออกจากหน้าเวที ยัยนั่นแม่งมีเสน่ห์ฉิบและจากประสบการณ์ผมรับรองเลยต้องมีตัวผู้จ้องกินเธอหลังจากลงเวทีแน่นอน
“500,000 ค่ะ”
“กระเป๋ามึงทำมาจากหนังควายหรือไง?” ผมถามแต่แค่ห้าแสนกระจอก
“แหม...ก็มันแบรนด์เนมนิคะแอนนี่อยากได้ง่ะ*0*”
“หึ อยากได้ก็เอาไปสิ...” ผมบอกก่อนหยิบแก้วเหล้าที่เธอผสมให้มาดื่ม
“น่ารักที่สุด ฟอดดดดด” เหอะ!! ทำเป็นดีใจไปเถอะ
“และไม่ต้องเสนอหน้ามาอีกละ” หมับ!!
“กรี๊ดดด!!สะเสี่ยเปลว!!” เธอร้องเสียงหลงเมื่อผมกระชากหัวของเธอออกจากหน้าตัวผม
“ได้กระเป๋าแล้วก็ออกไปซะ! กูเหม็นน้ำหอมนึกน้ำเน่าไป!” ผมไล่เธอก่อนจะโยนเงินปึกหนึ่งเท่าไหร่ไม่รู้ไม่ได้นับ
ปึก!!
“จะไปดี ๆ หรือไปแบบไม่ได้อะไรเลย?”
“ปะไปแล้วค่ะ” เธอหยิบเงินก้อนนั้นก่อนจะรีบออกไปจากห้องวีไอพีของผม
“เหอะ!!เสี่ยเปลวกูนึกว่าเป็นคนผลิตแบงค์ไอ้ฉิบหายแจกเก่ง~” เสียงเพื่อนของผมที่มันมองเหตุการณ์ทั้งหมด
“แล้วไล่ทำไมละ?”
“กูไม่ชอบพวกไม่ซื่อสัตย์” ผมพูดเสียงเรียบตอบกลับไอ้เพ้นท์ไป
“ทำไมหรือยัยนั่นไม่ได้เป็นเด็กมึงคนเดียว?” มันถามอย่างสงสัย
“เรื่องนั้นกูไม่สนใจหรอกแต่ที่กูเกลียดคือการเอาเรื่องกูไปขายเป็นหนอนบ่อนไส้...” จะเมียใครเด็กใครผมไม่สนใจหรอกเพราะผมไม่ได้บังคับพวกเธอมาแต่สิ่งที่ผมเกลียดคือการเข้ามาหาผมเพื่อผลประโยชน์มาล้วงความลับและเอาไปขาย... พวกหนอนสกปรก ถุ๊ย!!
“แต่มึงยังใจดีเนอะให้เงินหนอนนนนไปซะด้วย”
“มึงคิดงั้นเหรอ?”
“หึ” ผมขำในลำคอก่อนจะยิ้มมุมปากนิดหน่อย ทุกคนคิดว่าคนทรยศมันจะได้ใช้เงินผมเหรอ?? ไม่มีทาง
“มึงมันร้ายยยยยย”
“เฮ้ยยยย วันนี้เพลงเพราะนะเนี่ยลื่นหูกูสุด ๆ ไปเลย” เสียงเพื่อนอีกคนของผมเข้ามาก่อนจะพูดเสียงดัง
“ไม่ได้แค่ลื่นหูมึงนะไอ้เปลวที่ไม่สนใจอย่างอื่นนอกจากนมยังนั่งฟังจนไล่ผู้หญิงไปคนละ...และกูว่าอีกไม่นานเดี๋ยวมันเรียกมาทริปหนัก” หึ ไอ้เพ้นท์มันพูดอย่างรู้ใจใครทำผมพอใจเท่าไหร่ก็จ่ายไม่อั้น
“ทริปได้...แต่อย่าเอาก็พอ”
“?” ผมมองไอ้เคนที่พูดเหมือนรู้จักนักร้องคนนั้น
“ทำไมวะ?” และไม่ใช่แค่ผมที่สงสัย
“เดี๋ยวจะโดนต่อยปากแตกเอา” มันพูดก่อนจะหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม
“ปากแตกเหรอ....?” ผมพึมพำนิดหน่อยก่อนจะพูดต่อ
“กูไม่กลัวหรอกเพราะอาจจะมีอย่างอื่นแตกก่อนแทน หึ”