ในที่สุด มธุรสลดาก็ยอมบอกทางไปคอนโดเพื่อนโดยดี แต่ว่ามันกลับทำให้คนขับรถหงุดหงิดกว่าเดิมเป็นพันเท่าเมื่อข้อมูลที่เธอบอกนั้นมั่ว ตอนแรกที่เขาขับรถไปตามทางที่เธอบอก หญิงสาวเห็นคอนโดไหนก็คิดว่านั่นเป็นคอนโดเพื่อน เจ้าตัวอ้างว่าจำได้ แต่พอเขาขับไปที่คอนโดนั้นเจ้าตัวก็บอกว่าไม่ใช่ที่นี่ จำผิด แล้วก็ขับวนหาไปเรื่อยๆ จนจะครบทุกคอนโดในย่านนี้แล้วเธอก็บอกว่าไม่ใช่ แล้วสุดท้ายเขาก็วนพาเธอกลับมาที่เส้นทางเดิมเพื่อตระเวณกลับมาดูคอนโดที่เคยขับผ่านไปแล้วอีกรอบ คราวนี้เขาขับช้าๆ ชะลอให้เธอเรียกความทรงจำเต็มที่แต่ก็ไม่ใช่สักที่ จนวนมารอบที่สาม เขาก็ค่อยหายใจหายคอโล่งขึ้นมาเมื่อเธอบอกว่า
“นั่นไงพี่ชิน น้ำผึ้งเจอแล้วที่นี่แหล่ะคอนโดของเพื่อนน้ำผึ้ง” เธอชี้ไปที่คอนโดหรูที่ตั้งตระหง่านอยู่ เขาจึงเลี้ยวรถเข้าไปทันที
ต้องให้วนสามรอบเลยเชียว ถึงจะหาพบ
“น้ำผึ้งมีกุญแจ และก็มีการ์ดเข้าคอนโดด้วยค่ะ” เธอชูกุญแจพร้อมการ์ดห้อยพวงกุญแจการ์ตูนมีกระดิ่งดังกรุ๋งกริ๋งๆ ให้เขาดู เขาพยักหน้ารับ ก่อนที่จะลงจากรถมาช่วยเธอหอบข้าวของมากมายประดามีหิ้วขึ้นคอนโดตามเธอไป
คอนโดนี้ถือว่ามีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีมาก หากไม่มีการ์ดจะเข้าไม่ได้ มีห้องรับรองแขกอยู่นอกคอนโดและมียามหน้าคอนโดเฝ้าอย่างเคร่งครัด ที่ลิฟท์มีช่องเสียบการ์ดพิเศษที่จะพาลิฟต์ไปยังชั้นตามหมายเลขห้องที่ระบุในการ์ดอีกต่างหาก
เมื่อมาถึงที่ห้องตามหมายเลขที่ระบุในการ์ดมธุรสลดาก็ไขกุญแจห้องแต่ไขเท่าไหร่ห้องก็เปิดไม่ได้ ชยธรจึงอาสาที่จะไขให้แต่เขาก็ไขไม่ออกเช่นกัน ดูหมายเลขห้องจนแน่ใจว่าไม่ได้ไขผิดจึงลองกดกริ่งดูเผื่อว่ามีคนอยู่ในห้องนั้น ข้อสงสัยของทั้งสองจึงคลายลงเมื่อ ประตูห้องเปิดออกมา ตามด้วยชายร่างสูงใหญ่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ลำตัวเปียกโชกเปิดประตูออกมา
“พวกคุณเป็นใคร”
ทั้งชยธรและมธุรสลดาต่างมองหน้ากันด้วยความงุนงง
“ห้องนี้ห้อง แปดห้าเจ็ดของทรายแก้วใช่หรือเปล่าคะ” เธอถาม ชายคนนั้นนิ่วหน้าขมวดเป็นปมก่อนจะตอบ
“ห้องนี้ห้องแปดห้าเจ็ดครับ แต่เป็นของผม แล้วผมก็ไม่รู้จักคนที่ชื่อทรายแก้วด้วย”
“เป็นไปได้มั้ยครับว่าคุณจะซื้อห้องนี้ต่อจากเธอ” ชยธรถาม
“ไม่แน่นอนครับ เพราผมซื้อห้องนี้ตั้งแต่เปิดขายเลย ห้องไม่เคยมีใครใช้มาก่อน”
“ถ้าอย่างนั้นคงมีการเข้าใจผิดแล้วค่ะ ขอโทษนะคะ” มธุรสลดาขอโทษหน้าเจื่อนๆ มองหมายเลขห้องที่กุญแจที มองที่เหนือประตูห้องทีด้วยความงุนงง
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ” ชายหนุ่มแปลกหน้าถามอย่างมีน้ำใจเมื่อเหลือบมองไปเห็นถุงข้าวของที่ทั้งสองคนถือเต็มไม้เต็มมือ
“ไม่เป็นไรครับ คือเกิดการผิดพลาดเรื่องกุญแจห้องนิดหน่อย ถ้าอย่างนั้นเราก็ขอรบกวนคุณเท่านี้นะครับ” ชยธรตอบแทนก่อนจะพยักหน้าให้มธุรสลดาเดินตามออกมา เมื่อเห็นว่าห้องปิดประตูแล้วเขาจึงเริ่มยิงคำถามกับเธอ
“ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะ เพื่อนคุณให้กุญแจมายังไง” เขาถาม นึกดีใจเหลือเกินที่วันนี้เขามากับเธอด้วย ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าเธอจะปลอดภัยหรือเปล่าถ้าต้องเจอสถานการณ์ล่อแหลมอย่างนี้
“ไม่รู้สิคะ ทรายแก้วก็เคยพาน้ำผึ้งมาพักที่นี่ตั้งหลายครั้ง ก็อยู่ห้องนี้ด้วย น่าแปลกที่เป็นอย่างนี้ เดี๋ยวน้ำผึ้งโทรหาทรายแก้วดีกว่าค่ะ” เธอกดโทรศัพท์มือถือโทรออก แล้วก็ทำหน้าเจื่อนกว่าเดิม เมื่อไม่สามารถติดต่ออีกฝ่ายได้เลย
“น้ำผึ้งว่า น้ำผึ้งคงต้องไปนอนที่โรงแรมแล้วล่ะค่ะ โทรหาทรายแก้วก็ไม่ติด เข้าห้องที่คอนโดก็ไม่ได้” เธอบอกเขา
“กลับบ้านที่สระบุรีดีกว่ามั้ยน้ำผึ้ง จะไปพักที่โรงแรมทำไมให้เปลือง”
“น้ำผึ้งบอกแล้วไงคะว่าจะไม่กลับบ้าน ยังไงๆ พ่อก็ไม่อยู่บ้าน อีกอย่างน้ำผึ้งจะไปเที่ยวที่อื่นต่อเลยด้วย ไม่ต้องกลับดีกว่าค่ะ”
“งั้นเอาอย่างนี้ไหม ถ้าน้ำผึ้งไม่รังเกียจไปพักที่คอนโดพี่มั้ย เอ่อ คอนโดพี่ที่กรุงเทพฯ น่ะ มีสองห้องนอน อย่าไปพักที่โรงแรมให้มันเปลืองเงินเลย” เขารีบอธิบาย กลัวหญิงสาวเข้าใจผิดเป็นอย่างอื่น
“ก็ดีค่ะพี่ชิน วันนี้น้ำผึ้งชอปกระเป๋าฉีกไปแล้ว ประหยัดก็ดีเหมือนกัน”