แม้ว่าการกลับมาซื้อของรอบสองนั้นมธุรสลดาจะอ้างว่าเหลือเพียงแค่ซื้อของใช้เล็กน้อยแต่ทั้งสองก็ใช้เวลาเลือกเฟ้นหาข้าวของนานกว่าสองชั่วโมง จนเวลาที่โอปเรเตอร์ประกาศเตือนว่าห้างใกล้จะปิดทำการแล้ว มธุรสลดาจึงยุติการเดินเลือกซื้อของ ชยธรเดินตามร่างเล็กที่เดินปราดเปรียวว่องไวเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ไวกว่าเดิมเพราะเปลี่ยนรองเท้าใหม่แล้วก็อดนึกไม่ได้ว่า เธอนั้นชอบซื้อของเสียจริง เดินเข้าร้านไหนก็หยิบมาจ่ายเงินเสียแทบทุกร้าน ถ้าเธอมาอยู่ที่เมืองไทยแล้วมาเดินห้างสรรพสินค้านี้ทุกวัน ผลประกอบการของห้างทั้งปีคงดีขึ้นเป็นกองเลยทีเดียว
แต่ก็แปลกที่เขากลับไม่เบื่อเลยที่จะเดินตามถือของ หรือช่วยตัดสินใจเลือกข้าวของที่เธอไม่อาจตัดสินใจเองได้ คงเป็นเพราะความช่างจำนรรจาของเธอเองก็ได้ที่ไม่ได้ทำให้เขาเบื่อการเดินตามผู้หญิงซื้อของอย่างที่เคยคิดเอาไว้
เพราะตลอดเวลาที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าด้วยกัน เขายังไม่เห็นเธอหยุดพูดกับเขาเลย
“คุณชินจัง น้ำผึ้งว่าน้ำผึ้งต้องหิวอีกรอบตอนดึกๆ แน่เลยค่ะ ใช้พลังงานไปเยอะอย่างนี้” เมื่อเดินออกมาที่บันไดเลื่อนกลางห้างหญิงสาวก็บ่นอุบอิบอยู่คนเดียว แล้วก็มองเครื่องประดับสวยๆ แปลกตาในตู้โชว์แถวบันไดเลื่อนด้วยความสนใจ เธอทำงานเกี่ยวกับการออกแบบอัญมณี เมื่อเห็นเครื่องประดับต่างๆ จะต้องสนใจตลอด เขายังไม่ทันได้ตอบว่าอะไรก็มีคนเดินเข้ามาสะกิดแล้วทักทาย
“ชิน” หญิงสาวผู้มาใหม่เรียกชื่อเล่นเขาอย่างสนิทสนม
“อ้าว มะลิ ไม่เจอกันนานเลยสบายดีมั้ย” เขาตอบกลับไป มะลิหรือมัลลิกาเป็นหนึ่งในฝ่ายพิสูจน์อักษรของสำนักพิมพ์ของภูมิภัทรเพื่อนสนิทของเขา ทั้งเขา ภูมิภัทรและมัลลิกาเคยเรียนมาด้วยกันจึงสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ
“สบายดีสิ มาทำอะไรที่กรุงเทพฯ เนี่ย” มัลลิกาถามเพราะตั้งแต่ภูมิภัทรแต่งงานชยธรก็มาที่กรุงเทพฯ น้อยครั้งกว่าเดิม บางเดือนแทบไม่โผล่หน้ามาให้เห็นเลย
“พี่ชินขา” เสียงหวานจนชวนขนลุกเอ่ยแทรกขึ้นมากลางวงพร้อมกับร่างเล็กที่มายืนกอดแขนชยธรอย่างสนิทสนมกว่า
มัลลิกามองผู้มาใหม่อย่างงุนงง เธอนึกว่าชยธรมาคนเดียวเสียอีกจึงได้ปรี่เข้ามาทักเพราะอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับรีสอร์ทชยธรก่อนจะวางแผนเที่ยวปีใหม่ของสำนักพิมพ์ในสิ้นปีนี้ ยังนึกดีใจอยู่เลยที่เจอเจ้าของรีสอร์ทที่นี่จะได้ไม่ต้องไปเจรจาหรือดูสถานที่กันถึงสระบุรี มัลลิการู้เลยว่าผู้มาใหม่คนนี้อาจจะหึงเธอกับชยธรจึงแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอย่างนี้ เห็นแล้วก็งง เธอไม่ยักรู้ว่าชยธรมีแฟนแล้ว ไปแอบคบกันตั้งแต่ตอนไหน น่าสงสัยเสียจริง
“เอ่อ มะลินี่คุณน้ำผึ้งเป็น”เขาพูดไม่ทันจบมธุรสลดาก็เอ่ยแทรกออกมา
“เป็นแฟนพี่ชินค่ะ” ชยธรก้มลงมองหน้าของคนที่เกาะแขนอยู่แทบจะทันที เห็นแววตาเจ้าเล่ห์ของเธอแล้วก็รู้ว่าตนเองนั้นโดนเอาคืนเข้าให้แล้ว
“พี่เป็นเพื่อนพี่ชินใช่ไหมคะ น้ำผึ้งยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” มธุรสลดารีบพูดจาทักทายกับมัลลิกาก่อนที่ชยธรจะได้ทันปฏิเสธ
“อ๋อ ค่ะ พี่ชื่อมะลิค่ะ เป็นเพื่อนสมัยเรียนของชิน”
“เหรอคะ ยังจำกันได้ด้วยเนาะ พี่มะลินี่ความจำดี๊ดีนะคะ” หญิงสาวเจื้อยแจ้วต่อ ฝ่ายมัลลิกานั้นคิดว่าอีกฝ่ายกำลังหึงหวงแฟนอยู่ ก็อยากปลีกตัวออกมาให้สบายใจ แต่แฟนเพื่อนก็ยังชวนคุยอยู่จึงต้องเสวนากันท่ามกลางบรรยากาศที่มัลลิกาอยากจะเรียกว่ามาคุ เธอนั้นไม่อยากโดนหึงหวงโดยที่เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ก็ยังปลีกตัวออกมาไม่ได้
ส่วนชยธรนั้น ไม่ต้องพูดถึง เขาได้แต่ยืนใบ้กิน เหงื่อตกทันทีที่มีแฟนโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวมาก่อนเลย
“พี่ชินเขาน่ารักนะคะ น้ำผึ้งร้ากกกก รัก” คุยกันกับมัลลิกาไปเธอก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงหวานหยด แถมยังยืนยันความรักที่มีต่อชยธรด้วยการเขย่งเท้าขึ้นจุ๊บแก้มเขาโชว์รอบหนึ่ง ชยธรที่ยืนนิ่งเพราะหาที่แทรกพูดไม่ได้ถึงกลับหน้าเปลี่ยนสีเป็นสีแดงขึ้นมา เขาได้แต่คาดโทษคุณหนูน้ำผึ้งอยู่ในใจ ขณะที่มธุรสลดานั้นสนุกเหลือเกินที่ได้เล่นบทนี้
“รู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไป” เขาถามด้วยความไม่พอใจเมื่อมานั่งที่รถด้วยกันแล้ว แต่เขาไม่ยอมขับรถออกไปเพราะต้องการคุยกับเธอให้รู้เรื่องกันเสียก่อน
“นึกว่าจะลืมซะแล้ว เห็นไม่พูดถึงตั้งนาน พี่ชินขา” มธุรสลดาลากเสียงหวานหยด แกล้งยั่วประสาทเขา
“ไม่เล่นแล้วนะ คุณน้ำผึ้ง”
“แหม อย่าอารมณ์เสียสิคะ เดี๋ยวหน้าเหี่ยวมาจะแย่เอานะคะ แค่เวลาทำร้ายใบหน้าเราก็แย่พออยู่แล้ว เราอย่าเครียดเพิ่มรอยย่นให้หน้าดีกว่า อันที่จริงคุณชินจังไม่ควรจะโกรธน้ำผึ้งเลยนะคะ น้ำผึ้งก็แค่เห็นว่าพี่คนนั้นเค้าชอบคุณชินจังแล้วท่าทางคุณชินจังก็ไม่ได้ชอบเค้า น้ำผึ้งเลยปฏิเสธให้ไงคะ”
“หา คิดได้ยังไงเนี่ยคุณ ผมเป็นเพื่อนกันกับเขาไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดหรอกนะ แล้วทำไมคุณต้องไปบอกเขาด้วยว่าเราเป็นแฟนกันทั้งๆ ที่เราเพิ่งรู้จักกันแค่วันนี้ล่ะฮึ”
“งั้นก็แสดงว่าเรารู้จักกันนานๆ ก็เป็นแฟนกันได้เหรอคะ” เธอถามแล้วก็หัวเราะขึ้นมาอย่างพอใจ ที่ทำให้เขาควันออกหูได้สำเร็จ ดูจากท่าทางงุ่นง่านจนทำอะไรไม่ถูกของเขาแล้วเธอก็ยิ่งสนุกที่จะแกล้งเขามากขึ้นไปอีก
“คุณน้ำผึ้ง” น้ำเสียงห้วนๆ เรียกชื่อเธอออกมาอย่างหมดความอดทน
“ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณชินจังไม่เห็นความหวังดีของน้ำผึ้ง น้ำผึ้งยอมขอโทษคุณชินจังก็ได้ค่ะ”
“ก็ดีที่รู้ตัวว่าผิด แต่เรื่องนั้นผมไม่ได้ติดใจหรอก ผมแค่บอกว่าคุณพูดเล่นทุกอย่างก็จบ แต่ที่ผมอยากจะพุดกับคุณคือเรื่องที่คุณหอมแก้มผม คุณอาจจะติดวัฒนธรรมแบบฝรั่งมาเลยไม่ถือ แต่ที่นี่คือเมืองไทย บ้านเมืองเขาถือกัน คุณกำลังทำสิ่งที่ไม่เหมาะที่ผู้หญิงดีๆ คนหนึ่งจะทำ”
“คุณชินจังไม่พอใจใช่ไหมคะที่น้ำผึ้งทำอย่างนั้น”
“ใช่ มันไม่เหมะสมที่จะทำอย่างนี้ คราวหลังอย่าทำอีก”
“ถ้าคุณชินจังไม่สบายใจเรื่องที่น้ำผึ้งเปิดซิงแก้ม น้ำผึ้งก็จะรับผิดชอบก็ได้ค่ะ บอกค่าสินสอดมาเลยค่ะ น้ำผึ้งจะบอกพ่อมาขอ”
อามิตตาพุทธพุทธโธ นัมโม สังโฆคนที่ละความโกรธได้คือมนุษย์ ชยธรท่องบทธรรมมะอยู่คนเดียวในใจ ก่อนที่จะเลือกออกรถกระชากอย่างแรงจนคนข้างหลังหัวเกือบทิ่มเอาความสะใจเล็กน้อย เขาเลือกขับรถต่อไปโดยไม่พูดไม่จาต่อความยาวสาวความยืดกับเธออีก
ถ้ารู้ว่าต้องเหนื่อยสมองอย่างนี้เขาคงจะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนกว่านี้สักหน่อย ไม่แน่บางทีถ้ารู้ล่วงหน้าว่าคนที่ต้องตนเองจะต้องคุ้มครองเป็นตัวป่วนขนาดนี้ให้ค่าจ้างเป็นล้านเขาคงต้องปฏิเสธ คงไม่ได้มาทำให้ฟรีๆ อยางที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่นอน
นิ้วก้อยเล็กๆ ยื่นมาข้างๆ หน้าเขาให้พออยู่ในระดับสายตา เขาชำเลืองมองเธอแว่บหนึ่งแล้วก็ส่ายหัว ทำเรื่องไว้ไม่ใช่น้อย พอจะไถ่โทษก็แค่ยื่นนิ้วก้อยมาเท่านั้น มันบอกวุฒิภาวะได้ดีทีเดียว แม่เด็กน้ำผึ้งไม่รู้จักโตเอ๊ย
“พี่ชินขา เอ๊ยคุณชินจัง ดีกันนะน้ำผึ้งขอโทษ”
“ไม่ต้องมาขอโทษผมไม่ได้โกรธ ถอยไปนั่งดีๆ เลย ผมไม่ชอบคนกวนเวลาขับรถ” เขาตอบดุๆ เธอไป ตอนแรกที่เจอกันเขาอาจจะเกรงๆ เธอหน่อยจึงพูดจาดีด้วยความนอบน้อม แต่พอไม่กี่ชั่วโมงผ่านไปเขาก็รู้ว่าเธอไม่ใช่คนเจ้ายศเจ้าย่างที่ต้องนอบน้อมเข้าหา เธอเป็นเพียงแค่เด็กไม่รู้จักโตที่ต้องโดนดุโดนสั่งสอนอย่างที่บิดาของเธอบอกมาจริงๆ
“น้ำผึ้งไม่เชื่อว่าคุณชินจังไม่ได้โกรธ ดูสิหน้าตึ๊งตึง”
“ผมยอมรับก็ได้ว่าโกรธ แล้วคราวหลังก็ไม่ต้องทำอย่างนี้อีกนะ ถ้าหากว่าคุณไม่อยากให้ผมโกรธอีกครั้ง”
“ค่ะ น้ำผึ้งสัญญา” เธอบอกอย่างกระตือรือร้น
“อ้อ ยังมีอีกอย่างที่ผมอยากจะให้คุณทำให้ผม”
“อะไรเหรอคะ คุณชินจังบอกมาเลย น้ำผึ้งจะทำให้ หลายอย่างก็ได้”
“ไม่เป็นไร ผมแค่อยากจะขอให้คุณเลิกเรียกผมว่าคุณชินจังได้ไหม เรียกว่าพี่ชินก็ได้” ผู้กองหนุ่มบอกถือโอกาสนี้ให้เธอเลิกเรียกตนเองด้วยชื่อคิกขุอาโนเนะนั่นเสียที
“ได้ค่ะพี่ชินขา”
“เรียกชินเฉยๆ ก็ได้ อย่ามีขาต่อเลยมันขนลุก” เขาหัวเราะที่เธอนั้นช่างสรรหาเรื่องปวดหัวให้เขาเหลือเกิน จนเขาอดที่จะหัวเราะไม่ได้ “บอกทางไปคอนโดเพื่อนคุณมาดีกว่า เลิกแกล้งผมได้แล้ว” เขาดักคอเธออย่างรู้ทัน
“ไม่ได้แกล้งแม้แต่น้อย”
“แต่แกล้งมากน่ะสิ ผมมาคุ้มครองคุณ แทนที่คุณจะเห็นว่าเป็นคนที่มีประโยชน์ต้องพูดจาด้วยดีๆ แต่คุณกลับแกล้งเอา แกล้งเอา ผมว่าผมไปขอถอนตัวกับท่านชิษณุรักษ์แล้วให้คนอื่นมาทำแทนดีมั้ย” เขาแกล้งขู่เธอเล่นๆ บ้าง
“แหม รักดอกจึงหยอกเล่น ก็เห็นพี่ชินทำหน้าเหมือนเบื่อโลกมาก น้ำผึ้งก็หวังดีอยากให้อารมณ์ดีขึ้นไงคะ”
“ให้อารมณ์ดีขึ้นเพราะเส้นเลือดในสมองแตกตายเหรอ” เขาถาม ปกติแล้วเขาก็ยิ้มแย้มแจ่มใสดีอยู่หรอก ยกเว้นตอนอยู่กับเธอนี่แหล่ะ ที่เขาออกอาการเบื่อโลกบ่อยๆ
“พี่ชินอย่าเรียกน้ำผึ้งว่าคุณสิคะ มันไม่เหมาะกับที่น้ำผึ้งเรียกพี่ชินว่าพี่ชินเลย”
คนขับรถแทบหัวทิ่ม เมื่อเธอเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน เรื่องเก่ายังไม่ทันจะเจรจากันรู้เรื่องเสียด้วยซ้ำ
“อืม บอกทางมาเถอะ น้องน้ำผึ้ง” เขาประชด
“วู้ น่ารักที่สุดเลย น้ำผึ้งช้อบชอบคนตามใจเนี่ย”
เอากับคุณเธอสิ ชยธรกุมหัว เขาเชื่อมั่นเลยว่าชีวิตของเขาหลังจากเจ็ดวันนี้ไป ต้องอยู่อย่างไร้ความสุขสงบแน่