โรงพยาบาล
หญิงสาวทั้งสองเข้ามาในโรงพยาบาลอย่างรีบเร่ง ปลายฝีเท้าบนส้นรองเท้าสูง 3 นิ้วก้าวขาเรียวยาวอย่างร้อนรนไปยังห้อง 708 เล็บยาวสีแดงสดจิกกดลงที่ฝ่ามือตัวเองแน่น รู้สึกโล่งใจที่รู้ว่าขนมผิงนั้นยังไม่ตาย แต่เมื่อทั้งสองก้าวขามาถึงต้นทาง หญิงสาวทั้งสองก็ต้องหยุดชะงักปลายเท้าอยู่กับที่ทันทีเมื่อสังเกตเห็นว่ามีชายสองคนยืนอยู่หน้าห้องพักฟื้นของขนมผิง
" คุณราชัน? " หญิงสาวคนหนึ่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะก้าวขาถอยหลังไปยืนอยู่ข้างกำแพงทางเดิน
" เขารู้จักยัยผิงด้วยงั้นหรอ? " หญิงสาวอีกคนชะโงกหน้าออกไปมองราชันกับภาสกรเล็กน้อยแล้วยกคิ้วขึ้นสูงด้วยความสงสัย แต่ก็ยังไม่อยากออกไปตอนนี้เพราะอยากรู้เหตุผลกับการมาของชายทั้งสองคนก่อน
ด้านราชันเมื่อเขาได้รับข่าวจากภาสกรว่าขนมผิงได้รับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เขาก็รีบขับรถมาทันที เพราะอยากเห็นโฉมหน้าของคนที่รู้เหตุการณ์เรื่องที่ริตาตาย
" เธอประสบอุบัติเหตุในวันเดียวกันกับวันที่ริตาตาย " ภาสกรเอ่ยบอกราชันถึงการมารักษตัวของขนมผิง
" อุบัติเหตุอะไร "
" ได้ยินมาว่าเธอขับรถผ่าไฟแดงแล้วพุ่งไปชนกับรถกะบะก่อนจะพลิกคว่ำไปชนกับต้นไม้ข้างทางอีกที "
" ขับรถผ่าไฟแดงงั้นหรอ? "
" อืม.. ในกล้องวงจรปิดเห็นได้ชัดว่าเธอขับรถมาด้วยความเร็ว เหมือนกำลังขับหนีอะไรบางอย่าง "
ยิ่งภาสกรพูดขึ้นมาแบบนั้นมันยิ่งทำให้ราชันเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวต่อได้ สภาพของเธอตอนนี้มันบ่งชี้ชัดว่าเธอคงหนีอะไรบางอย่างจนขับรถชนกับกะบะรุนแรงแบบนั้น และมันเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเธอกำลังหนีเรื่องที่ริตาตาย
" แล้วสรุปมึงให้กูตามหาเธอทำไมวะ " ภาสกรนั้นยังคงสงสัยกับกาที่ราชันให้เขาตามหาขนมผิง ทั้งๆที่เขาก็ไม่รู้จักเธอมาก่อน
" เพราะผู้หญิงคนนี้คือผู้หญิงคนสุดท้ายที่อยู่กับริตา ก่อนที่ริตาจะตายไง! " เขาตอบเพื่อนไปอย่างเรียบนิ่งแล้วจ้องมองขนมผิงอยากเยือกเย็น
" มึงรู้ได้ยังไงว่าเป็นเธอที่อยู่กับริตา "
" ริตาบอกกู "
" ฮ้ะ? "
" ตอนนี้กูยังไม่มั่นใจเต็มร้อย แต่รอกูได้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่คอนโดก่อนเถอะ! กูไม่เอาคนที่ฆ่าเมียกูไว้ทำแม่แน่! "
ราชันนั้นคับแค้นใจไม่น้อยที่เริ่มได้รู้ปมการตายของริตา เขาจ้องมองใบหน้าหญิงสาวที่นอนแน่นิ่งไม่ได้สติราวกับคนอาฆาตแค้น หากเป็นเธอจริงขนมผิงจะไม่มีวันได้มีชีวิตสงบสุข เขาจะทรมานเธอทุกวิถีทาง ทรมานให้สมกับการที่เธอพรากริตาไปจากเขา
" แต่ยังไงมึงก็หน้าจะให้ทางตำรวจเขาจัดการนะเว้ย "
" ถ้าเป็นผู้หญิงคนนี้จริงๆ กูไม่ปล่อยให้กฏหมายสะสางความแค้นของกูหรอก เพราะกฏหมายมันคงทำให้กูไม่สะใจพอในสิ่งที่เธอทำกับกูและริตา! "
" เฮ้อ... เวรกรรมจะสั่งสอนเธอเองแหละ มึงอย่าไปยุ่งกับเธอเลย ดูจากสภาพเธอตอนนี้ก็แย่แล้ว "
" แย่หรอวะ 'หึ' แค่นี้มันยังไม่แย่กับสิ่งที่เธอทำหรอก กรรมที่เธอควรได้รับมันต้องหนักกว่านี้เยอะ และกูเนี่ยแหละที่จะเป็นกรรมที่ตามสนองเธอเอง! "
ภาสกรนั้นยังไม่มั่นใจกับสิ่งที่ราชันบอกสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ปักใจเชื่อ เพราะน้ำหนักเหตุผลมันก็พอมีอยู่บ้าง ชายหนุ่มทั้งสองยืนมองหญิงสาวภายในห้องที่ต่างฝ่ายก็ต่างแบ่งแยกคนละความรู้สึก
ภาสกรนั้นยังคงสงสัยแต่ก็สงสารเธอไม่น้อยที่เธอได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ แต่สำหรับราชันนั้นนัยแววตาของเขามันมีแต่ความแค้นใจกับสิ่งที่เธอได้กระทำลงไป ต่อให้มันยังไม่เต็มร้อยแต่เขาก็เชื่อหมดใจว่าเธอคือฆาตกร
" คุณสองคนมาทำอะไรที่นี่หรอคะ " น้ำเสียงเล็กหวานใสของแก้วเก้าเอ่ยถามเมื่อเดินมาหยุดอยู่ข้างๆชายทั้งสอง พร้อมกับหญิงสาวอีกคนที่เดินตามเข้ามา
" คุณแก้วเก้า คุณพราวพิรา เอ่อ.. สวัสดีครับ " ภาสกรรีบพูดทักทายหญิงสาวทั้งสองตรงหน้าอย่างรุกรี้รุกรนเล็กน้อย เพราะแก้าเก้ากับพราวพิรานั้นเป็นดาราแถวหน้าของเมืองไทย
" สวัสดีค่ะคุณภาสกร คุณราชัน " พราวพิราเอ่ยยกยิ้มขึ้นหวานๆเพื่อเป็นการทักทายชายทั้งสอง
" สวัสดีครับ " ราชันเอ่ยปากทักทายกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เพราะเขาก็รู้จักเธอมาผ่านๆจากริตาเหมือนกัน
" ว่าแต่.. คุณสองคนมาทำอะไรที่นี่หรอคะ? "
" เอ่อ.. อ๋อ เราสองคนแค่แวะมาดูคุณโยษิตานะครับ ได้ข่าวว่าเธอประสบอุบัติเหตุ "
" ไม่ยักจะรู้นะคะว่าคุณภาสกรรู้จักยัยผิงด้วย "แก้วเก้าพูดขึ้น พร้อมกับจ้องหน้าชายทั้งสองสลับไปมา
" ก็พึ่งจะรู้จักนี่แหละครับ หากริตาไม่บอกผมวันนั้น ผมก็คงไม่ได้จักเธอ " ราชันตอบกลับด้วยเสียงนิ่งเรียบแล้วเหล่ตามองโยษิตาไปด้วย
" อ๋อ.. รู้จักจากริตานี่เอง ยังไงฉันเสียใจด้วยนะคะกับการจากไปของริตา เฮ้อ.. ฉันตกใจไม่น้อยเลยล่ะค่ะที่รู้ว่าวันนั้นเธอจะมาไม่ถึงร้านประจำของเรา "
" ร้านประจำของเรา? นี่คุณแก้วเก้า.. "
" อ๋อ.. พอดีวันนั้นเรามีนัดกันน่ะค่ะเป็นเรื่องธรรมดาของสาวๆที่จะปาร์ตี้กันนิดหน่อย ริตาชวนแก้วกับพราวไปด้วย ตอนแรกแก้วกับพราวก็ว่าจะแวะไปรับ แต่ริตาปฏิเสธเพราะบอกว่าเธอนัดยัยผิงให้ไปรับแล้ว แต่แก้วก็ไม่คิดนะคะว่าจะเกิดเรื่องกับทั้งสองคน "
" ใช่ค่ะ พราวอุตส่าห์คุยกับแก้วไว้แล้วนะคะ แต่ริตาไม่ให้ไปรับ" พราวเอ่ยเสริม
คำพูดของแก้วเก้ากับพราวพิรามันยิ่งทำให้ราชันปักอกเชื่อว่าโยษิตาเป็นฆาตกรฆ่าหญิงคนรักของเขา เขากลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อยแล้วเม้มปากตัวเองแน่นเพื่อกลบความรู้สึกแค้นใจที่มีต่อขนมผิง
" คุณทั้งสองเป็นเพื่อนกับผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ยครับคุณแก้วเก้า คุณพราวพิรา " ราชันเอ่ยปากถามแล้วเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงตนเอง
" ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ? " แก้วเก้าพยักหน้า พร้อมกับมองใบหน้าคมคายชายตรงหน้า
" ผิงกับริตาเธอทั้งสองเคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกันบ้างหรือเปล่าครับ? " คำถามของราชันทำให้แก้วเก้ากับพราวพิราเงียบไปครู่หนึ่ง แก้วเก้ากระพริบตาถี่แล้วยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบคำถาม ส่วนพราวพิรากลับเงียบแทน
" มันก็พอมีแหละค่ะ แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของกลุ่มเพื่อนทุกกลุ่มที่จะมีทะเลาะกันบ้าง ยิ่งกลุ่มของเรามีแต่ผู้หญิง มันก็ต้องมีเรื่องขัดใจ ไม่ถูกใจกันบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา "
" งั้นเหรอครับ? "
" ยัยผิงเป็นคนอารมณ์ร้อนค่ะ หากไม่พอใจอะไรก็จะทำร้ายข้าวของบางครั้งก็เคยทำร้ายร่างกายแก้วกับพราวด้วยนะคะ กับเรื่องแค่ว่าแก้วกับพราวไปคุยกับคุณดุรงค์แฟนเก่าของเธอ "เเก้วเก้าพูดพลางมองหน้าของราชัน พราวพิรากลับฟังเงียบๆ ไม่เอ่ยคำพูดใดๆออกมา
" จริงเหรอครับ? "
" ค่ะ แต่มันก็นานแล้วแหละค่ะ แก้วไม่ค่อยสนิทกับผิงเท่าไหร่ แต่ริตาจะสนิทมากกว่า ว่าแต่คุณราชันมีอะไรหรือเปล่าค่ะ? "
" ไม่มีหรอกครับ ผมก็อยากรู้อะไรบางอย่าง "
" ค่ะ งั้นแก้วขอตัวเข้าไปเยี่ยมเพื่อนก่อนนะคะ เสียใจด้วยจริงๆนะคะกับเรื่องริตา "
ครับ" ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ
"ไปกันเถอะพราว"
"ค่ะ ไปเยี่ยมยัยผิงก่อนนะคะคุณราชัน" เธอบอกราชันด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่มแล้วยิ้มให้เล็กน้อย ก่อนที่ทั้งสองจะเปิดประตูห้องเข้าไปหาขนมผิง
" ไปเยี่ยมเธอกัน "
" อืม " ราชันพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในห้องพร้อมภาสกร
ภาสกรมองหน้าเพื่อนตนเองที่กำลังจ้องมองโยษิตาผ่านกระจกสี่เหลี่ยมที่ประตูอย่างเลือดเย็น ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความเคียดแค้น มือหนาทั้งสองกำหมัดแน่นเหมือนพร้อมจะฆ่าแกงเธอได้ทุกวินาที
" รอให้ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดก่อนดีกว่านะไอ้ชัน ให้แน่ใจก่อนว่าวันนั้นผู้หญิงคนนี้อยู่กับริตาจริงๆ " เขาจับบ่าเพื่อนเพื่อเรียกสติให้ใจเย็นลง
" กูจะฆ่าเธอให้ตายทั้งเป็น เอาให้สมกับที่เธอก็ฆ่ากูทั้งเป็นเหมือนกัน! "
(จบบทที่ 2 )