ภายในห้องสีขาวสะอาดตา ในห้องตกแต่งอย่างสวยงามด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง รอยยิ้มแสนหวานเป็นภาพของริตาถูกแขวนไว้ฝาผนัง ตามโต๊ะก็เต็มไปด้วยรูปคนรักของเขา ชายหนุ่มตอนนี้ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง เขากำลังนั่งเหม่อลอยมองภาพวันวานในอดีตที่ผ่านมา ภาพความจำของเขาและหญิงคนรักที่ได้สร้างความสุขร่วมกันมันทำให้เขาทุกข์ระทมเป็นอย่างมาก ยิ่งมองใบหน้างามบนรูปภาพที่ติดฝาผนังจิตใจเขายิ่งแหลกสลายไม่มีชิ้นดี ดวงตาพร่ามัวที่ถูกบดบังไปด้วยม่านน้ำตามองไปรอบๆห้องนั่งเล่นด้วยความระลึกถึง
" ฮึก ไม่อยากจะเชื่อเลยริตา ฮึก ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณจะทิ้งผมแบบนี้ ฮึก " เขาใช้มือกุมขมับตัวเองแล้วเอนตัวลงที่โซฟาใหญ่ เขาไม่อยากจะเชื่อ ว่าเธอฆ่าตัวตาย เธอไม่มีทีท่าว่าอยากจะจากโลกใบนี้ไปเลยสักนิด
" มันเพราะอะไรวะ? ฮึก ตอบผมทีริตาว่ามันเพราะอะไร? " เขานั้นสับสนไม่น้อยกับการตายของริตา เขาไม่เข้าใจว่าเธอฆ่าตัวเองด้วยเหตุผลอะไร เขาไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย ว่าเธอไม่ได้ถูกฆาตกรรม
แกรก....
ภาสกรเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับมองมาที่ใบหน้าของราชัน เขาถอนหายใจออกมาแรงๆก่อนจะปิดประตูลงแล้วเดินมาหาเพื่อนของตน
" แม่มึงโทรบอกกูว่ามึงเอาแต่หมกหมุ่นอยู่ที่ห้องริตา "ภาสกรมองหน้าเพื่อนรัก ที่นั่งสะอื้นร่ำไห้อย่างโศกเศร้า
" ฮึก ออกไป กูอยากอยู่คนเดียว " เขาเอ่ยปากไล่เพื่อนซ้ำยังไม่มองหน้าภาสกรเลยสักนิด
" กูไม่ได้มาเพื่อให้มึงไล่กูนะไอ้ราชัน "
" ฮึก กูบอกให้ออกไป! " เขากระแทกน้ำเสียงหนักหน่วงใส่หน้าเพื่อนอย่างไม่ใยดี เวลานี้เขาไม่ต้องการใครทั้งนั้น
" เฮ้อ.. โอเคกูจะไป แต่ก่อนไปขอสั่งอะไรหน่อย แดกข้าวที่กูซื้อมาให้ด้วย กูไม่อยากไปงานศพมึงนะไอ้ชัน "
" ฮึก " ราชันเหล่หางตามองหน้าภาสกรเล็กน้อยแล้วเม้มปากตัวเองเขาสูดลมหายใจเข้า-ออกแล้วเช็ดคราบน้ำตาที่เปื้อนแก้มทั้งสองออก
" กูเข้าใจมึงนะไอ้ชัน กูรู้ว่ามึงเสียใจ แต่ช่วยแดกข้าวแดกปลาหน่อยเถอะวะ แม่มึงเป็นห่วงนะเว้ย!! กูก็เป็นห่วงมึงด้วย อีกอย่างนะริตาคงไม่พอใจที่เห็นมึงเป็นแบบนี้ "
" แล้วกูพอใจมากหรอวะที่ริตาทิ้งกูไปแบบนี้ ฮึก กูไม่เข้าใจ กูงง กูสับสน มันมีเหตุผลอะไรวะที่ริตาทำกับกูแบบนี้! "
" เธอก็คงมีเหตุผลของเธอแหละ "
" แล้วกูอ่ะ ฮึก แม่งมันไม่ยุติธรรมกับกูเลยไอ้กร! ฮึก กูไม่เชื่อว่าเธอฆ่าตัวตาย! "
" ตำรวจเขาสรุปสำนวนคดีแล้วนะ ว่าริตาฆ่าตัวตาย กูไม่รู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แต่กูเชื่อว่าเธอมีเหตุผลของเธอ แต่เหตุผลอะไร กูก็คิดไม่ออกเลย"
" ฮึก! ทำไมถึงใจร้ายกับกูได้ขนาดนี้ ฮื่อ เหตุผลบ้าบออะไร! "
ภาสกรนั้นไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาทำได้แต่ปลอบใจเพื่อนอยู่ข้างๆ แต่สิ่งที่ราชันพูดมันก็มีน้ำหนักที่ทำให้ภาสกรคิดเหมือนกันว่ามันเพราะเหตุผลอะไรที่ริตาถึงได้ฆ่าตัวตายแบบนั้น ชายหนุ่มทั้งสองครุ่นคิดอยู่บนโซฟาใหญ่กลางห้องหรูอย่างขุ่นเคืองใจ เพราะทั้งสองฝ่ายก็ต่างหาเหตุผลไม่ได้ทั้งคู่
ในช่วงเวลาพลบค่ำ หญิงแม่บ้านที่ราชันจ้างมาทำความสะอาดภายในห้องของริตาเก็บกวาดห้องอย่างชำนาญมือ เธอทำความสะอาดทุกอย่างอย่างเบามือ แม่บ้านรักษาความปลอดภัยของข้าวของไม่ให้แตกหักอย่างดีที่สุด เธอกวาดทุกซอกทุกมุมก่อนจะพบกับของบางอย่าง
กิ๊งงงง!!!
กำไลข้อมือสีเงินกระเด็นออกมาจากใต้โซฟา หญิงแม่บ้านรีบหยิบขึ้นมาเพ่งพิจารณาดูก่อนจะตัดสินใจนำไปให้กับราชันที่กำลังนั่งดื่มไวน์อยู่ที่ขอบสระภายในห้องหรู
" คุณราชันคะ "
" หื้อ " เขาตอบด้วยเสียงแผ่วๆแล้วเหล่ตามองหญิงแม่บ้านที่เดินเข้ามาหาเขา
" ป้าเจอกำไลอันนี้ตกอยู่ใต้โซฟาค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นของคุณริตาหรือเปล่า " เธอยื่นกำไลส่งให้กับราชันแล้วยิ้มเล็กน้อยอย่างสำรวม
" กำไลหรอ? " ชายหนุ่มจับมันมาดูด้วยความงุนงงเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาริตานั้นไม่เคยใส่กำไลมือเลยสักครั้ง
" เอ่อ.. ป้าทำอาหารไว้เรียบร้อยแล้วนะคะ อีกเดี๋ยวป้าจะกลับแล้ว ยังไงคุณราชันก็อย่าลืมทานข้าวนะคะ "
" อืม " เขาตอบสั้นๆก่อนจะวางกำไลลงที่โต๊ะข้างๆแล้วยกไวน์ขึ้นดื่มต่อ
หลังจากที่หญิงแม่บ้านกลับไป ราชันก็เอาแต่นั่งดื่มไวน์จนหมดไปหลายขวด เมื่อคิดได้ว่าแม่บ้านเจอกำไลข้อมือจากใต้โซฟา เขาก็รีบหันไปมองมันและหยิบขึ้นมาดูอีกครั้ง
เขาพลิกกำไลไปมาก่อนจะสังเกตเห็นว่ามันมีชื่อสลักอยู่ด้านในข้อมือ ราชันใช้ไฟฉายในมือส่องอ่านชื่อที่ถูกสลักนั้น ดวงตาทั้งสองเริ่มกระพริบถี่ขึ้นเมื่อเขาค่อยๆเริ่มปะติดปะต่อเหตุการณ์ที่หน้าจะเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นในวันที่ริตาตาย
" วันนั้น... " ภาพเหตุการณ์ได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง ในช่วงเวลาใกล้เย็นตอนที่เขากำลังประชุมงานสำคัญในบริษัท
ติ๊งงง!
เสียงไลน์ดังขึ้นเป็นชื่อของริตาที่ส่งข้อความมาหาเขาเพื่อบอกกล่าวกับการเลื่อนนัดที่จะเจอกันในวันนั้น
" วันนี้ริตามีนัดกับเพื่อน อาจจะดึกหน่อยนะคะ " ราชันยกมือถือของตนขึ้นมากดตอบข้อความของแฟนสาวเขาทันที
" นัดอะไร "
" ก็..เมาส์มอยตามประสาผู้หญิง ? "
" ที่ไหน "
" ร้านประจำค่ะ "
" ให้ผมไปส่งไหม "
" ทำยังไงดีริตาให้ผิงมารับแล้วน่ะสิคะ " ราชันยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยแล้วกัดปากตัวเองด้วยความหมั่นเขี้ยวหญิงในแชท
" ถ้าอย่างนั้นตอนกลับคุณก็ควรปฏิเสธเพื่อนคุณนะครับว่าจะกลับเอง "
" ฮ่าๆๆ ไว้เจอกันนะคะ "
ราชันที่นั่งนึกคิดถึงเหตุการณ์ค่อยๆจำได้ว่าก่อนหน้านั้นริตาได้พูดว่าเพื่อนของเธอจะมารับ นั้นแปลว่าริตาไม่ได้อยู่คนเดียวแต่มีเพื่อนของเธออีกคนที่อยู่ด้วย และคนคนนั้นก็คือเจ้าของกำไลอันนี้
ชายหนุ่มกำกำไลข้อมือไว้แน่นด้วยความขุ่นเคืองใจ ปมที่เขาสงสัยค่อยๆคลายออกมาทีละนิด ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เชื่อว่าริตาจะฆ่าตัวตาย และแน่นอนว่าเขาคิดถูก
ตู้ด ตู้ด ตู้ด
ปลายสายโทรไปยังภาสกรเพื่อนของเขาด้วยแววตาเยือกเย็น ไม่นานภาสกรก็รับสาย
" ไอ้กร " เขาเอ่ยชื่อเพื่อนด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
" ตอนกูอยู่เสือกไม่คุยกับกู พอกูกลับแล้วโทรมาทำไมครับไอ้ราชัน "
" มึงช่วยอะไรกูอย่างหนึ่งได้ไหมวะ? "
" อะไรวะ? "
" ตามหาคนชื่อผิงเพื่อนริตาให้กูที "
" ผิง? ทำไมวะ มีอะไรหรือเปล่า? "
" มีแน่เพราะกูมั่นใจว่าริตาไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่ริตาถูกฆ่าตายต่างหาก! "
ดวงตาคับแค้นใจของราชันจ้องมองที่กำไล ก่อนจะเอ่ยตอบกลับเพื่อนของเขาอย่างมั่นอกมั่นใจ เพราะเรื่องที่เขาปะติดปะต่อนั้นมันมีสิทธิ์ที่จะเป็นไปได้เกือบเต็ม 100% และหากมันเป็นอย่างที่เขาคิด แน่นอนว่าเขาจะไม่มีวันยอมให้ผิงได้มีชีวิตที่สงบสุข
( จบบทที่ 1 )