“จะยืนค้ำหัวผู้ใหญ่อยู่อีกนานไหม แล้วเมื่อไหร่จะเข้ามาไหว้ฉันซึ่งเป็นย่าของเธอ แล้วนั่นก็พ่อของเธอไงล่ะ”
กัณหาหันไปมองน้องด้วยความแปลกใจ ที่เห็นครอบครัวพ่อมาหาถึงที่ แม้จะไม่เคยเจอหน้ากันจัง ๆ แต่ก็รู้ดีว่าทั้งสองเป็นย่ากับพ่อ ส่วนอีกคนคือสะใภ้ผู้สูงส่งของย่า
เพราะยายไม่ได้ปิดบังอะไรเรื่องผู้ให้กำเนิดของหลานรัก จึงบอกเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง แถมยังบอกด้วยว่าบ้านอยู่ที่ไหน
และนั่นทำให้เธอชวนชาลีไปยืนเมียงมองคฤหาสน์หลังใหญ่ของพ่อมาหลายปีดีดัก หากไม่เคยเข้าไปแสดงตัวใด ๆ ด้วยรู้ดีว่าครอบครัวพ่อไม่ปรารถนาจะมีลูกหลานที่เกิดจากคนรับใช้อย่างแม่
ความทุกข์ยากในการดำเนินชีวิต ทำให้เธอเก็บความเสียใจน้อยใจเกี่ยวกับครอบครัวพ่อเอาไว้เงียบ ๆ คนเดียวมาตั้งแต่จำความได้แล้ว
“สวัสดีค่ะ”
สองพี่น้องยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม กัณหาทรุดตัวลงนั่งอยู่ไกลสุดของระเบียง เพื่อรอฟังว่าธุระของพ่อกับย่าคืออะไร ส่วนชาลีนั้นเลี่ยงเดินไปไขกุญแจบ้าน
ไม่นานก็ได้น้ำกับยากันยุงเป็นขดที่จุดแล้วออกมา ตามด้วยยกพัดลมเก่า ๆ ออกมาเปิดไล่ร้อนให้ แล้วเขาถึงได้นั่งลงข้าง ๆ พี่ มองยุพาพรที่เอาแต่จ้องมองพี่สาวไม่วางตา
“ยายเธออาการเป็นยังไงบ้าง”
ยุพาพรเลือกที่จะยกเอาเรื่องนี้มาคุยก่อน เพราะเพิ่งจะรู้จากปากเพื่อนบ้าน ตอนมานั่งรอหลานที่ตัวเองไม่เคยคิดจะยกฐานะหลานให้แม้จนนิดเดียว เพราะรังเกียจเลือดคนใช้ที่มีในตัวคนเป็นแม่เข้ากระดูกดำ
“ยังไม่ฟื้นค่ะ ต้องรอดูอาการวันต่อวัน”
กัณหาก็เลือกที่จะตอบสั้น ๆ ยุพาพรส่งสัญญาณให้ลูกชายเริ่มต้นบอกเรื่องที่ตั้งใจมาได้ เพราะเห็นแล้วว่าหลานสาวคนแรก มีหน้าตาและหุ่นละม้ายคล้ายคลึงกับหลานสาวคนที่สองไม่น้อย
คงจะพอตบตาไอ้บ้าเงิน ที่บังอาจตามมาแก้แค้นในเรื่องเก่า ๆ ที่จบไปนานแล้วได้ แต่ลูกกลับทำอ้ำอึ้งด้วยไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงจนผู้แม่ต้องออกโรงเองด้วยความรำคาญ
“งั้นฉันจะไม่อ้อมค้อมนะ จะเข้าธุระสำคัญเลย ฉันรู้ว่าเธอต้องการเงินไปเป็นค่ารักษายาย ส่วนฉันก็ต้องการให้เธอไปทำงานให้ เอาเป็นว่าฉันจะรับผิดชอบค่ารักษาเองทั้งหมด ไม่ว่ายายเธอจะฟื้นมาวันไหนก็ตาม และฉันจะให้เงินเดือนเธอสามหมื่น ในระหว่างไปทำงานให้ฉัน พร้อมกับบ้านและที่ดินซึ่งดีกว่าสลัมนี่แน่นอน”
“งานอะไรคะ แล้วต้องทำนานแค่ไหน”
ครอบครัวพ่อกลับไปนานแล้ว เพื่อนบ้านต่างก็หลับสบายไปแล้วเพราะเลยเที่ยงคืนมาหลายนาทีแล้ว แต่บ้านหลังน้อย มีสี่ชีวิตต่างนั่งนิ่งอยู่ระเบียง ช่วยกันครุ่นคิดหาทางออกสำหรับปัญหาอันหนักอึ้งตอนนี้
“ใจเย็น ๆ นะนิ่ม ปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางแก้ไข ถ้าเราไม่ยอมแพ้เราต้องเจอแน่”
ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าไม่มีทางเลือกอื่น ธีระนัยก็ยังปลอบใจคนรัก เพื่อไม่ให้ยอมแพ้ แต่ทุกคนก็ย่อมรู้ดี โดยเฉพาะกัณหาว่าตัวเองเท่านั้น เป็นกุญแจดอกสำคัญ ที่จะช่วยไขปัญหานี้ไปได้
อนิจจา! ทำไมชะตาชีวิตถึงได้โหดร้ายถึงเพียงนี้ ความฝันที่เคยวาดไว้ ว่าสักวันพ่อกับย่าจะตามหาวันนี้เป็นจริงขึ้นมาแล้ว
แต่ไม่ได้มารับไปอยู่ด้วยเพื่อให้มีชีวิตที่ดีกว่าอย่างที่วาดหวังไว้ ตรงกันข้าม มันคงจะเป็นชีวิตที่ย่ำแย่กว่าอย่างไม่ต้องสงสัย กับการต้องไปเป็นคู่นอนของชายแปลกหน้า ที่ไม่รู้จักมาก่อน สองปีจะต้องทนทุกข์ทรมาน เพื่อแลกกับชีวิตยาย ซึ่งเป็นเสมือนทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ตอนนี้
เพราะยายเลี้ยงเธอกับน้องมาตั้งแต่แบเบาะ แล้วยายก็กลายเป็นทั้งแม่และพ่อให้ เมื่อแม่ทอดทิ้งลูกอย่างเธอที่มีวิโรจน์เป็นพ่อ ทิ้งน้องอย่างชาลีที่มีคนขับรถสองแถวเป็นพ่อไป และไม่เคยหวนกลับมาหาอีกเลย สองพี่น้องจึงรู้จักแต่อ้อมกอดของยายเพียงเท่านั้น
ยายผู้ยอมเหนื่อยยาก ทำขนมขายเพื่อเลี้ยงหลานทั้งสองมายี่สิบกว่าปี ยายผู้เสียสละขนมหวาน อาหารอร่อย เพื่อเก็บไว้ให้หลานทั้งสองได้กินจนอิ่มท้อง
ยายที่เสียสละด้วยการใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ เพื่อเก็บเงินไว้ซื้อชุดนักเรียนให้หลานทั้งสอง ได้ใส่ของใหม่จะได้ไม่อายเพื่อนในโรงเรียน และอีกล้านความเสียสละ ที่ยายมีให้หลานทั้งสอง
ก็แล้วทำไมหลานอย่างเธอจะเสียสละให้ยายไม่ได้ เพราะถ้ามีใครมายื่นข้อเสนอในแบบเดียวกันนี้ให้น้อง เธอเชื่อว่าน้องคงจะไม่ลังเลที่จะตัดสินใจอย่างเธอด้วยซ้ำ ดวงหน้าเศร้าหมองจึงหันไปหาคนรักและเพื่อนพร้อมกับส่งยิ้มบาง ๆ ให้ก่อนเอ่ย
“นัยกับชลกลับบ้านเถอะ พรุ่งนี้ต้องไปสัมมนาด้วยกันไม่ใช่เหรอ ทางนี้เดี๋ยวเราจะหาทางแก้ปัญหาเอง ไปเถอะเที่ยงคืนกว่าแล้ว”
“ฉันดีใจนะที่เธอฉลาดเลือก และดีใจด้วยที่ยายของเธอฟื้นแล้ว แต่ฉันจำเป็นต้องรีบเตรียมการ เพื่อให้เธอดูคล้ายคลึงกับยัยมิวมากที่สุด เริ่มด้วยการไปเข้าครอสชุบตัวให้เหมือนนักเรียนนอกซะก่อน เธอถึงจะต้องมาที่นี่ทุกเช้า ตอนเย็นค่อยกลับบ้านไปหาน้องกับยาย แต่มีเวลาแค่เดือนเดียวเท่านั้นนะ เอาล่ะ เธอให้น้องชายกลับไปได้ และถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องมาที่นี่อีก”
สองพี่น้องไม่ใคร่จะพอใจในน้ำคำ และท่าทางของยุพาพรนัก โดยเฉพาะชาลี รีบหนีกลับทันที แม้จะห่วงพี่สาวอยู่บ้างก็ตาม แต่เย็นก็จะได้เจอได้พูดคุยกัน เขาถึงไม่แยแสที่จะอยู่ในคฤหาสน์หลังงามสักนิด
“แม่รสพาไปจัดการให้เรียบร้อยนะ ส่วนตาโรจน์โทรให้คำตอบฝ่ายโน้นได้ ว่าเราตกลงทุกอย่าง อีกหนึ่งเดือนจะพาคนไปส่ง”