EP 1

1147 Words
รัก VS กตัญญู   “โรงพยาบาลนี่ดีนะหล่อน ใครเจ็บบางตายส่งมาที่นี่รอดทุกราย เรื่องค่ารักษาไว้ค่อยคิดทีหลัง เอาชีวิตคนไว้ก่อน ลูกชายเพื่อนฉันเกิดอุบัติเหตุเมื่อสามเดือนก่อน จะตายแหล่ไม่ตายแหล่แล้ว พวกกู้ภัยหามมาส่งที่นี่รอดอย่างปาฏิหาริย์ จำไว้นะหล่อนถ้าคนในบ้านเป็นอะไรเอามาที่นี่เลย อ้อ!!! ห้างนั้นก็จะมีซัมเมอร์เซลพรุ่งนี้นะหล่อน อย่าลืมเตรียมเงินไว้ล่ะ ร้านข้าวต้มนั่นก็อร่อยมาก ฉันกินประจำไว้วันหลังเรามากินกันนะ...” ‘กัณหา ปานประธีป’ กับ ‘ชาลี ยอดสกุล’ สองพี่น้องคนละพ่อต่างหันไปยิ้มให้กันน้อย ๆ เมื่ออาเจ้ในสองแถวจ้อไม่หยุด จนคนในรถหูชาไปตาม ๆ กัน “เฮ้อ!!! สบายหูจังเลยน้อพี่นิ่ม เบื่อจริงเวลานั่งรถมาเจอยายสองเจ่นั่นน่ะ” ลงจากสองแถวได้ชาลีวัยยี่สิบปีเต็มก็บ่นน้อย ๆ พลางยื่นมือไปช่วยพี่สาวถือถุงอาหารสดกับข้าวของสำหรับให้ยายทำขนมไว้ขายวันต่อไป สองพี่น้องเดินตามตรอกเล็ก ๆ ความมืดเริ่มเคลื่อนเข้ามา เพราะใกล้จะหนึ่งทุ่ม เกือบห้าร้อยเมตรก็ถึงย่านชุมชน ทั้งสองก้าวเดินไปตามสะพานไม้เก่า ๆ อย่างคล่องแคล่ว ลัดเลาะไปเรื่อยอีกห้าร้อยเมตรก็ถึงบ้านหลังน้อย ซึ่งเป็นวิมานของสามชีวิตมาหลายปีดีดัก จนชาชินกับกลิ่นน้ำคลำเหม็น ๆ ไปโดยปริยาย  “ยายไปไหนนะ ทำไมเปิดบ้านทิ้งไว้ ไม่กลัวใครเข้ามาฆ่าข่มขืนเลยหรือไง” ชาลีบ่นไปตามเรื่องเมื่อก้าวขึ้นระเบียงไม้เก่า ๆ ไม่เห็นยายนั่งตัดใบตองรออยู่เหมือนทุกวัน “สงสัยจะทำกับข้าวอยู่ในครัวมั้ง กลิ่นแกงเผ็ดหอมฟุ้งเชียว” กัณหาวางกระเป๋าสะพายไว้โต๊ะกลางหน้าทีวี แล้วชะโงกคอไปหลังบ้าน ที่จัดสรรเป็นครัวไว้หุงหาอาหาร เพราะจำได้ว่าเย็นนี้ยายจะทำเมนูโปรดของน้องรอ ร่างสูงร้อยเจ็ดสิบในชุดกางเกงขาเดฟผ้ามันสีเทากับเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายทางสีฟ้าอ่อน ต้องนิ่งอยู่กับที่เมื่อเดินเข้าครัวแล้วเห็นแกงในหม้อตั้งไฟเดือดปุด ๆ อยู่ “ยาย!!! หนุ่ม! เร็วเข้า ยายเป็นอะไรไม่รู้!!!” แล้วเห็นยายนอนฟุบอยู่กับพื้น จึงร้องเรียกน้องส่วนตัวรีบวิ่งเข้าไปพลิกยายให้หงายขึ้นอย่างยากลำบาก หากไม่มีน้องวิ่งมาช่วย “ยาย!!! จะทำไงดีล่ะพี่นิ่ม” ชาลีตกใจไม่น้อยไปกว่าพี่ คิดไม่ออกว่าจะทำยังไง “พาไปโรงพยาบาลดีกว่าหนุ่ม ปิดเตาแล้วไปตามลุงเลื่อนมาช่วยเร็ว ๆ นะ” แล้วบ้านหลังน้อยของสามยายหลาน ก็มีเพื่อนบ้านในระแวกใกล้เคียงต่างวิ่งมาช่วยกันหามยายจำปาที่ไม่ได้สติ ส่งโรงพยาบาลที่กัณหามักจะได้ยินสองเจ้บรรยายสรรพคุณให้ฟังในสองแถวหลายรอบทันที เพราะใกล้สุดบวกกับความเป็นห่วงในชีวิตยาย โดยไม่ได้คำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่จะตามมาเลย “คนไข้เส้นเลือดในสมองแตกต้องผ่าตัดด่วนครับ ญาติช่วยเซ็นเอกสารยินยอมด้วยนะครับ” กัณหารีบทำตามคำแพทย์ทันที ปล่อยหน้าที่การเดินไปส่งเพื่อนบ้านให้เป็นของน้อง ส่วนตัวเองนั่งรออยู่หน้าห้องผ่าตัดด้วยความกังวล “นิ่ม!!! ยายเป็นยังไงบ้าง” ‘ธีระนัย นิยม’ มีสีหน้าเป็นกังวลไม่น้อย เมื่อมาถึงหน้าห้อง “เป็นไปได้ยังไงน่ะนิ่ม เมื่อเช้ายังทำขนมอยู่ดี ๆ เลย” ‘ชลธิชา แสงชัย’ ที่เดินหน้าตื่นมาพร้อมกันอดสงสัยไม่ได้เมื่อกัณหาถ่ายทอดคำบอกของแพทย์ทุกอย่างไปให้คนรักกับเพื่อนรู้ “ไม่รู้เหมือนกันชล ต้องรออย่างเดียวเท่านั้น” น้ำตาแห่งความหวาดกลัวว่ายายจะจากไปไหลออกมาอีกขณะบอกเล่า “ทำใจดี ๆ ไว้นะนิ่ม ทุกอย่างต้องเรียบร้อย”  ธีระนัยทรุดตัวลงนั่งข้างแฟน ดึงมือทั้งสองขึ้นมากุมไว้เพื่อให้กำลังใจ เพียงเท่านั้นกัณหาก็โผลเข้าไปซบอกเขาแล้วร้องไห้ออกมาอย่างยากจะเก็บกดเอาไว้ได้อีกต่อไปแล้ว วงแขนแข็งแรงโอบกอดคนรักด้วยความสงสาร มือก็ลูบแผ่นหลังไปมาเพื่อปลอบประโลม ชาลีกับชลธิชาหันไปมองกันด้วยใบหน้าเศร้า เมื่อเห็นอาการของคู่รักที่ไม่เคยทอดทิ้งกัน นับตั้งแต่ทั้งสองเรียนอาชีวจนจบต่อปริญญาในภาคเสาร์อาทิตย์ แถมยังต้องทำงานหาเงินส่งเสียตัวเองเรียนไปด้วย รวมเวลาที่คบกันมาก็เข้าปีที่สี่แล้ว “ผลการผ่าตัดเรียบร้อยดีครับ ต้องรอให้คนไข้ฟื้นก่อน หมอถึงจะตอบได้ว่าอาการเป็นยังไง ญาติกลับบ้านไปพักก่อนนะครับ ถ้ามีอะไรด่วนทางโรงพยาบาลจะโทรแจ้ง” ตีสองแล้วยายถึงถูกพาเข้าไปอยู่ในห้องซีซียู แพทย์ถึงได้ออกมาแจ้งผล ธีระนัยกับชลธิชาไปส่งสองพี่น้อง แล้วค้างที่บ้านด้วยเลย วันรุ่งขึ้นหลังกินมื้อเช้าแล้วทุกคนตรงมาโรงพยาบาลทันที เพราะเป็นวันหยุดพอดี เลยไม่ต้องทำงาน ส่วนชาลีก็ไม่ได้ไปเรียน แต่ต้องทำงานที่คาร์แคร์ ซึ่งเป็นการหารายได้พิเศษอยู่แล้ว “ตอนนี้ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ห้าแสนเก้าค่ะ ยังไม่คิดค่ารักษาวันนี้นะคะ ไม่ทราบว่าญาติสะดวกจะชำระเลย หรือว่าจะรอให้ถึงวันเช็คเอ้าท์ทีเดียวคะ” “เอ่อ! งั้นรอก่อนดีกว่าค่ะ” กัณหาส่งยิ้มจาง ๆ ให้พยาบาล ก่อนจะเดินนำทุกคนไปนั่งหน้าห้องซีซียูดังเดิม ชาลีเป็นกังวลไม่น้อยในอาการยาย และค่ารักษาที่รู้ดีว่าพี่ไม่มีจ่ายเป็นแน่ “หนุ่มจะไปทำงานก่อนนะพี่นิ่ม แล้วจะลองขอยืมเงินเถ้าแก่ด้วย เผื่อจะได้มาเพิ่มกัน” กัณหาพยักหน้าให้น้องอย่างเสียไม่ได้ ด้วยรู้ดีว่าไม่มีทางที่น้องจะทำอย่างที่บอกไว้ได้ หรือถ้าได้เถ้าแก่ก็คงจะให้ยืมไม่กี่หมื่นบาทเป็นแน่ “เรามีเงินสดแปดหมื่นนะนิ่ม กลับไปจะขอยืมพ่อกับแม่เพิ่มอีก นิ่มไม่ต้องห่วงนะ เราต้องผ่านเรื่องพวกนี้ไปได้แน่” ธีระนัยส่งน้ำเสียงหนักแน่นและไม่คิดจะเสียดายเงินที่เก็บมาตั้งแต่เริ่มทำงานควบคู่ไปกับการเรียส ปวส. และปริญญาตรี ซึ่งพอ ๆ กับกัณหาที่ทำแบบเดียวกัน และมีเงินเก็บจำนวนไม่มากเกินกันสักเท่าไหร่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD