ขาดบ้าง ห่างบ้าง ถึงกับจะลงแดงตายเลยหรือไงครับคุณหนูมิว อย่าเที่ยวแสดงอาการร่าน ๆ ไม่ถูกที่ถูกทางนัก ระวังจะถูกหามไปลงแขกข้างทางซะล่ะ เอ๊ะ! หรือว่าจะชอบ หรือว่าคุณเป็นนิวโฟมาเนีย ถึงได้ออกเร่หาผู้ชายมาไว้ปรนเปรอไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักพอ แถมทีละคนก็ไม่ได้ ต้องเป็นฝูง
บอกไว้ก่อน ผมคงจะตอบสนองอารมณ์ส่วนนี้ของคุณไม่ได้หรอก คุณคงต้องนั่งหง่าว นอนหง่าวทรมานไปจนกว่าจะถึงสองปีเลยล่ะ จากนั้นจะไปแรด ไปร่าน ไปแบให้ฝูงไหน หรือก๊งแก๊งไหนเอาก็เชิญตามสบาย ผมไม่สน ไม่แคร์ และไม่เสียดาย”
“หยุดนะ!!! คุณต้องการอะไรกันแน่!!! ถึงต้องคอยมาด่ามาว่าฉันอยู่แบบนี้”
เมื่ออดทนกับถ้อยคำเหยียดหยามไม่ไหว จึงตอกกลับไปด้วยน้ำเสียงหนัก ๆ ใบหน้าดุดัน พร้อมทั้งขยับกายหนี เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ ๆ
“ผมนี่เหรอต้องการ!! ไม่ใช่คุณหรอกเหรอที่อยากจนตัวสั่น ผมถึงจะมาสองตัณหาให้นี่ไง ว่าแต่จะดัจจริตถอยหนีไปทำไมไม่ทราบ อีตัวชั้นต่ำในคราบสาวไฮโซอย่างคุณ น่าจะรีบวิ่งเข้ามาตะครุบผู้ชายทุกคนที่หลงเข้ามาหาด้วยซ้ำไม่ใช่เหรอ เอ๊ะ! หรือว่ากลัวผมจะดีกรีไม่ถึง แรงไม่มากพอ ลีลาอ่อนหัด
ฮ่า ๆ ๆ อย่าห่วงไปเลยครับคุณหนูมิว ของบางอย่างหรือเรื่องบางเรื่อง หรือคนบางคน ถ้าไม่ได้ลองก็ไม่รู้หรอกว่ามีทีเด็ดยังไง ว่าแต่เราอย่าเสียเวลาเลยนะ มาเริ่มทำความรู้จักกันดีกว่า ว่าเราสองคนชอบแบบไหน ยังไง รุนแรงเร่าร้อนสักแค่ไหน หรือต้องเบิ้ลกันกี่สิบหน หรือจะนอนเอากันไปยันเช้า”
“ไม่!!! ออกไปให้พ้น!!! ฉันไม่ต้องการ!!!”
สองมือรีบผลักอกที่กำลังจะยกแขนขึ้นมารวบไว้จนสุดแรงเกิด ชาครีย์ถึงกับเซถอยหลังไปสองสามก้าว กัณหารีบมองไปยังประตูเพื่อหวังพาตัวเองออกไปจากห้องนี้
ออกไปให้ห่าง ๆ ผู้ชายปากร้ายที่เพิ่งแน่ใจในวินาทีนี้เองว่า ไม่สามารถจะทำใจร่วมหลับนอนได้ด้วยเด็ดขาด เพราะเกลียดชังหน้าบึ้งตึง ดุดัน เกลียดชังในน้ำคำดูถูกเหยียดหยามของเขาอย่างที่สุด
“จะไปไหน!!!” ชาครีย์รีบกระโดดไปคว้าแขนเอาไว้ เมื่อเห็นคุณหนูขาวีน หนีด้วยการวิ่งขึ้นเตียงแล้วกระโจนไปหาประตู
“ปล่อยนะ!!! อย่ามายุ่งกับฉัน!!! ออกไปให้พ้น ๆ ฉันเกลียดคุณ!!!”
เจ้าของแขนทั้งสะบัดและขืนตัวไว้ เมื่อถูกเขาลากแล้วเหวี่ยงแรง ๆ จนเซล้มไปหาเตียง
“เล่นละครเป็นสาวไร้เดียงสาได้แนบเนียนไม่เบานี่!!! หรือว่าชอบปลุกอารมณ์ด้วยวิธีนี้!!! จะได้เพิ่มรสชาติ...”
ยังไม่ทันพูดจบ เขาก็ต้องหลบอย่างรวดเร็ว เมื่อกล่องทิชชู รีโมททีวี แจกันดอกไม้ และของทุกชิ้นบนโต๊ะหัวเตียง ถูกอีกคนเขวี้ยงมาใส่ไม่ยั้งจนหมดเกลี้ยง
เขาถึงได้ยืนยิ้มอย่างสมเพชให้ ก่อนจะย่างสามขุมเข้าไปหา ร่างในชุดนอนบางเบา ลุกขึ้นเตรียมวิ่งหนีอีกรอบ แต่ก็ถูกเขากางแขนออกกั้นไว้แล้วดันแรง ๆ กลับจนเซกลับไปที่เก่าอีก
เขารีบตามไปค่อมไว้ กดสองแขนไว้กับที่นอน ก่อนจะส่งยิ้มเย้ยหยัน พร้อมกับประโยคดูถูกดูแคลนอีกไม่มีหยุดหย่อน กัณหาพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดอย่างที่สุด
และบอกตัวเองไว้ในวินาทีนี้เลยว่า ถ้าหลุดออกจากห้องนี้ได้เมื่อไหร่ บ้านที่มียายกับน้องอยู่จะเป็นจุดหมายต่อไป
เพราะไม่คิดว่าจะทนอยู่กับผู้ชายปากร้ายได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว แม้จะไม่รู้ว่าผลตามมาจากการหนีจะเป็นยังไง แต่เธอก็พร้อมจะรับมัน อย่างมากก็แค่หาเงินล้านกว่าไปคืนย่า
และได้ความโกรธเกลียด ที่พ่อกับย่าคงจะมีให้เพราะทำงานไม่สำเร็จ แต่จะแคร์ไปทำไมกัน ในเมื่อคนทั้งสองไม่เคยรักไม่เคยเอ็นดูเลือดแค่ก้อนเดียวอย่างเธออยู่แล้ว
“สงสัยจะชอบทำตัวแบบดาราญี่ปุ่นนะ ที่กว่าจะถูกเอาได้ก็ต้องเสแสร้งแกล้งทำเป็นหวาดกลัวไอ้พระเอกหน้าเหี้ยม ๆ แต่ไอ้นั่นใหญ่ยาวอย่าบอกใคร แล้วอย่าลืมร้องครวญครางตั้งแต่วินาทีแรกที่ถูกผมจิ้มไปจนถึงนาทีสุดท้ายที่น้ำแตกด้วยล่ะ คงได้รสชาติแปลกพิลึก”
“ออกไปให้พ้นนะ!!!”
เมื่อสรุปให้ตัวเองได้ดังนั้น เท้าบางจึงยกถีบหนัก ๆ ไปที่หน้าท้อง จนร่างสูงใหญ่หงายหลังตกเตียงไป กัณหาไม่รอช้ารีบวิ่งไปคว้ากระเป๋าเงินกับมือถือบนโต๊ะเครื่องแป้ง แล้ววิ่งไปหาประตูเปิดออกอย่างรวดเร็ว เพื่อหมายจะไปจากที่นี่ให้พ้น ๆ แต่ไปถึงแค่บันไดเท่านั้น ก็ถูกเขาวิ่งตามมาแล้วกระชากลากถูอย่างแรง
“จะไปไหน!!! สะดีดสะดิ้งนักนะ!!! คิดว่าผมจะพิศวาสคุณนักหนาเหรอ!!! มาทำเรื่องของเราให้จบ ๆ ไปดีกว่า”
“ไปให้พ้น!!! อย่ามายุ่งกับฉัน!!!”
มืออีกข้าง ที่ว่างจากการถือกระเป๋ากับไอโฟนรีบเกี่ยวราวบันไดเอาไว้อย่างเหนียวแน่น แต่มันก็เหนียวไม่พอเพราะแรงอีกคนมีมากกว่าหลายเท่านัก
เมื่อเขากระชากแขนแรง ๆ จนร่างในชุดนอนล้มลงกับพื้น ก่อนจะถูกเขาลากไปอย่างไม่ไยดี ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าผิวบาง ๆ จะเสียดสีพื้นหินอ่อนจนเสียงดังอี๊ดอ๊าดหลายต่อหลายครั้งเลย
“คุณเล่นละครเป็นอีตัวญี่ปุ่นมามากพอแล้ว!!! และผมก็ไม่ชอบเป็นพระเอกหน้าเหี้ยมแบบนั้นด้วย!!! แต่ผมชอบเป็นพระเอกไทย อยากได้นางเอกแบบไทย ๆ ที่เรี่ยวแรงน้อย จับนิดผลักหน่อยก็ล้มไปหาเตียง แล้วนอนแน่นิ่งรอให้ผมเอาไอ้หนูจิ้มพรวด ๆ ไปหามากกว่า!!!”
“ออกไป!!! อย่ามายุ่งกับฉัน!!! ฉันเกลียดคนป่าเถื่อนอย่างคุณ!!! ได้ยินมั้ย ว่าฉันเกลียดและไม่มีวันจะยอมเด็ดขาด!!!”
เมื่อถูกลากแล้วโยนไปใส่เตียง โดยมีเขาขึ้นไปค่อมร่างกดแขนไว้อีกครั้ง ปากที่ว่างจึงด่าทอใส่เขาไม่ยั้ง สองขาก็ถีบไปหาร่างใหญ่หลายครั้งจนเขาทนความเจ็บไม่ไหว จึงยกขาอันหนักอึ้งไปทับเอาไว้