“ผมอยู่กรุงเทพฯ ส่วนคุณอยู่ราชบุรี ถ้าให้คุณขับรถมาหาผมสัปดาห์ละสามวัน ดูเหมือนจะทารุณคุณมากไปหน่อย ให้ผมไปหาคุณที่ฟาร์มดีไหม?”
พรรษาฟังแล้วหน้าเสีย เธอไม่อยากให้คนรอบข้างรู้เห็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับธเนศ ชายหนุ่มสังเกตเห็นสีหน้าของเธอแล้วก็นึกเคืองเพราะคิดว่าเธอคงไม่อยากให้ผู้ชายที่ตามจีบเธอพวกนั้นรู้เห็นพฤติกรรมเลวๆ ของเธอ
“สัญญานี้ ฉันขอปิดเป็นความลับค่ะ ให้รู้กันเฉพาะเรา”
“ผมคิดไว้แล้วเชียวว่าคุณเป็นผู้หญิงที่ชอบทำเรื่องงุบงิบ มีความลับซ่อนอยู่เยอะแยะ ราวกับวัวสันหลังหวะ”
พรรษาคอแข็ง ส่งสายตาไม่พอใจไปยังธเนศ “แล้วแต่คุณจะคิดค่ะ แต่ความสัมพันธ์ของเราต้องปิดไว้เป็นความลับ ถ้าคุณทำไม่ได้ ข้อตกลงนี้เป็นอันยกเลิก”
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “คุณคงไปเสนอโปรเจกกับภาคิณไว้แล้วสินะ ป่านนี้เอ็มวีพีคงจะคิดทำผลิตภัณฑ์จากนมเหมือนวินเนอร์แล้วมั้ง?”
หญิงสาวตกใจที่เขามาแอบตามดูเธอ แสดงว่าที่เธอนั่งคุยกับภาคิณในร้านนี้ อยู่ในสายตาของเขา “ค่ะ คุณภาคิณบอกว่ากำลังจะทำโปรเจกนี้อยู่เหมือนกัน ถ้าฉันรอได้”
“พรรษา คุณเป็นคนเข้ามาหาผมก่อน และยังเสนอตัวเอง คิดจะกลับคำเหรอ?”
“เงื่อนไขของฉันก็บอกคุณไปแล้วนี่ค่ะ ฉันต้องการให้ความสัมพันธ์ครั้งนี้เป็นความลับ”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นโบก “ได้ ผมปรับเองก็แล้วกัน ในเมื่อคุณอยากให้ความสัมพันธ์ของเราเป็นความลับ คุณเข้ากรุงเทพฯ น่าจะง่ายกว่า จะได้ไม่มีคนรู้เห็น เพื่อไม่ให้กระทบกับเวลาทำงานและช่วงไปเรียนของลูกสาวคุณ คุณก็มาวันสุดสัปดาห์ก็แล้วกัน ผมเช็คดูแล้ว บ้านคุณไม่ไกลจากคอนโดผม ขับรถแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว”
“คอนโดของคุณอยู่ไหนคะ?”
“เดอะสกายเก้าเก้า”
หญิงสาวได้ยินก็พยักหน้า คอนโดมิเนียมหรูหราราคาแพงที่คนธรรมดาไม่มีโอกาสได้เหยียบย่างเข้าไป เธอเคยขับรถผ่านหลายหน
“รู้จักค่ะ ไม่ไกลจริงๆ”
“สามคืนพอดี ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ คุณค่อยกลับเช้าวันจันทร์ ที่ฟาร์มของคุณมีญาติพี่น้องคอยช่วยงานอยู่เยอะไม่ใช่เหรอ? ถ้าคุณบอกพวกเขาว่าต้องเข้ามาทำงานให้กับวินเนอร์ พวกเขาไม่น่าจะมีปัญหา”
“คุณจะให้ฉันอยู่กับคุณทั้งวันเสาร์และอาทิตย์เลยเหรอคะ?”
“ตอนกลางวัน คุณไปดูแลลูกสาวคุณได้ แต่หนึ่งทุ่ม คุณจะต้องมาที่คอนโดของผม อยู่จนถึงหกโมงเช้าค่อยกลับ”
“ค่ะ ฉันตกลง”
“ดี ผมเตรียมเอกสารมาให้คุณเซ็นแล้ว”เขายื่นซองใส่ที่ใส่กระดาษไม่กี่แผ่นเอาไว้ “คุณเซ็น ผมเซ็น แล้วเก็บไว้คนละชุด”
“คุณเตรียมเอาไว้เหมือนจะมั่นใจว่าฉันจะตกลงเลยนะคะ” หญิงสาวก้มลงดึงเอกสารออกมาอ่าน ในรถเปิดไฟเอาไว้สว่างพอจะมองเห็นตัวอักษรได้อย่างชัดเจน
“ก็อย่างที่คุณคาดเอาไว้ ผมสืบเรื่องของคุณมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะภาระหนี้สินหรือคนที่เกี่ยวข้องกับคุณทั้งหมด ผมไม่ได้ไว้ใจคนอื่นง่ายๆ หรอกนะ”
“ค่ะ ฉันรู้” หญิงสาวรับปากกาจากเขาไปเซ็นชื่อ ในสัญญาระบุไว้ว่าเธอจะต้องมาปรนนิบัติรับใช้เขาเป็นเวลาสามเดือน “ในส่วนรายละเอียดแล้วแต่จะตกลงกัน นี่หมายความว่าต่อไปถ้าคุณสร้างเงื่อนไขเพิ่ม ฉันก็ต้องตกลงเหรอคะ?”
“ผมไม่ใช่คนชอบเอาเปรียบคนอื่นหรอก คุณจะให้ผมเขียนสัญญาว่าคุณจะมาขึ้นเตียงกับผมสัปดาห์ละสามวัน แบบนั้นมันผิดกฎหมายนะคุณ กลายเป็นว่าผมซื้อประเวณีล่ะก็เสียชื่อแย่เลย”
พรรษาหน้าเจื่อน “ขอโทษค่ะ ฉันลืมคิดไป”
“คุณกับผม โตๆ กันแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความยินยอมของทั้งสองฝ่าย คนอย่างผมคงไม่ต้องลำบากข่มเหงให้คุณยอมหลับนอนด้วยหรอก” ชายหนุ่มเชิดหน้าขึ้น
พรรษาหน้าร้อนผ่าว รู้สึกเหมือนถูกเขาประชด การทำแบบนี้ก็เหมือนกับเธอมาขายตัวให้เขา แต่หากไม่ใช้วิธีนี้กว่าจะตื้อให้เขาตกลงได้คงอีกนาน ที่สำคัญเธอร้อนใจกับภาวะการเงินที่ชักหน้าไม่ถึงหลังมาก
“ในเมื่อคุณเซ็นสัญญาแล้ว ผมไม่เอาเปรียบคุณนะ หลังจากที่เรานอนด้วยกันครั้งแรก ผมจะให้เงินคุณหนึ่งล้านเพื่อให้คุณไปใช้หมุนก่อน”
“แต่ฉัน...” เธออ้าปากจะเถียงว่าตนเองไม่ได้เรียกร้องเงินทอง
“ผมรู้ คุณจะบอกว่าคุณไม่คิดจะเอาเงินผม เงินนี่ ผมยินดีให้เองล่ะ ผมรู้นะ ตอนนี้คุณยังไม่จ่ายค่าแรงคนงาน ถ้าจะรอจนถึงช่วงที่ผมซื้อน้ำนมดิบจากคุณ คนงานที่ฟาร์มแสนรักคงจะหนีหมดกันพอดี”
ทุกอย่างเป็นความจริงอย่างที่เขาพูด พรรษาจำต้องพยักหน้ารับ “ค่ะ ถ้างั้นฉันจะรับเอาไว้”
“เงินหนึ่งล้านนี้ ผมไม่ได้ให้คุณเปล่าๆ หรอกนะ ผมมีเงื่อนไข”
“เงื่อนไข?” หญิงสาวทวนผมอย่างงงๆ
“ใช่ คุณต้องสัญญาว่าจะไม่เปิดโอกาสให้ปลัดเกียรติกุลสนิทสนมกับคุณ ต่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นความลับ แต่ผมก็ไม่ต้องการให้เพื่อนมีความหวังกับผู้หญิงแบบคุณ ฉะนั้น คุณต้องหาทางปฏิเสธเขาให้ชัดเจน”
พรรษาผงะ เขากลัวว่าเธอจะหลอกใช้ปลัดหนุ่มคนนั้นจนถึงกับให้เงินเธอหนึ่งล้านเพื่อให้ปฏิเสธอีกฝ่าย
“ฉันไม่เคยให้ความหวังปลัดเกียรติอยู่แล้วค่ะ แต่เขายังไม่เคยสารภาพความรู้สึก จู่ๆ ฉันจะไปปฏิเสธเขาได้ยังไงคะ?”
“งั้นคุณก็ต้องหลีกเลี่ยงการติดต่อกับเขา ไม่ต้องพูดคุยและพบปะ หรือไม่ก็บอกเขาไปว่าคุณมีคนที่คบอยู่แล้ว”
พรรษาปรายตามองเขา “คุณไม่นับว่าเป็นคนที่คบกับฉันนะคะ เราเป็นแค่คู่นอนกันค่ะ พอครบสามเดือนก็ต่างคนต่างไป”
“แล้วแต่คุณ คุณจะพูดยังไงก็ได้กับเกียรติ ขอเพียงให้เขาตัดใจจากคุณก็พอ คุณทำได้ใช่ไหม?”
“เพื่อเงินหนึ่งล้าน ฉันทำได้แน่นอนค่ะ คุณวางใจได้”
“เราตกลงกันจบแล้ว คุณกลับไปได้ ผมปักหมุดคอนโดไว้ให้คุณแล้ว ผมจะแจ้งพนักงานเอาไว้ว่าคุณเป็นแขกของผม รหัสเข้าห้องคุณต้องเก็บเป็นความลับ” ธเนศทำหน้าเหมือนไม่อยากคุยกับเธอต่อ
“ค่ะ เจอกันวันศุกร์” เธอลุกขึ้น ถือเอกสารที่เขาเซ็นชื่อให้แล้วลงไปจากรถ
ธเนศให้แม่บ้านเข้าไปในทำความสะอาดคอนโดของเขาจนเอี่ยมอ่อง เขาสั่งให้เปลี่ยนชุดเครื่องนอนใหม่ที่หอมสะอาด วิษณุที่ควบคุมการทำความสะอาดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เขาพอจะสังเกตเห็นว่าธเนศตื่นเต้นกับข้อตกลงที่ทำกับพรรษา
“คุณธเนศจะพาแฟนมาอยู่ด้วยเหรอคะ?”
“ครับ แฟนบอสมาเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์”
วิษณุไม่ได้อธิบายสถานสภาพพิเศษของพรรษาให้กับแม่บ้านได้รู้ ที่ผ่านมาบอสของเขาไม่เคยพาผู้หญิงเข้ามานอนที่นี่ มักจะพาผู้หญิงไปนอนตามโรงแรมโดยเฉพาะโรงแรมในเครือที่ตระกูลศราวุฒิกุลถือหุ้นเพื่อปิดข่าวไม่ให้ชีวิตส่วนตัวรั่วไหล พรรษาเป็นผู้หญิงคนแรกที่ธเนศนัดให้มาที่นี่ วิษณุรู้สึกได้ว่าธเนศน่าจะมีความรู้สึกเป็นพิเศษกับพรรษา
พอทุกอย่างเรียบร้อย เลขาหนุ่มก็ถ่ายภาพส่งไปรายงานให้บอสได้ทราบ
“อย่าลืมเตรียมเสื้อผ้าพอให้เธอได้ใช้ในห้องฉันด้วยล่ะ”
“ไม่ลืมครับ ผมส่งวรรณไปซื้อเรียบร้อยแล้ว” วิษณุหมายถึงวรรณา ผู้ช่วยของเขา การใช้ให้ผู้หญิงไปซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงน่าจะเหมาะกว่า
วรรณากลับมาพร้อมกับเสื้อคลุม รองเท้าสำหรับสวมในบ้าน รองเท้าแตะ ผ้าขนหนูผืนเล็กผืนใหญ่ เน็ตคลุมผมสำหรับสวมอาบน้ำ เสื้อยืด กางเกงขาสั้น กางเกงขายาวผ้านิ่มและชุดนอน
“วรรณเตรียมทุกอย่างที่คาดว่าผู้หญิงต้องใช้มาครบค่ะ สบู่เหลวอาบน้ำ เลือกสูตรอ่อนโยนและยี่ห้อที่ดีที่สุดตามรีวิว แต่โฟมล้างหน้ากับเครื่องสำอางต้องรอให้เธอบอกก่อนว่าเธอใช้ยี่ห้อไหน ซื้อมาสุ่มสี่สุ่มห้า ถ้าเธอไม่ใช่ก็จะเสียเงินทิ้งค่ะ”
“ดีมาก วรรณ ขอบใจนะ”
ผู้ช่วยเลขาหญิงทำหน้าอยากรู้อยากเห็นเต็มแก่ “พี่นิวเตรียมของพวกนี้เพราะจะชวนแฟนมาอยู่ด้วยเหรอคะ?”
********************