พรรษาลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ พอแจ้งชื่อ พนักงานก็ยิ้มน้อยๆ
“คุณพรรษา มาบันทึกลายนิ้วมือก่อนนะคะ คราวหน้าจะได้สแกนผ่านเข้าประตูหน้าได้เลย”
หญิงสาวผ่านขั้นตอนการยืนยันเป็นผู้ร่วมอยู่อาศัยกับเจ้าของห้องหรูแล้วก็กดลิฟต์ขึ้นไปยังห้องพักของธเนศ
ปิ๊งป่อง! ปิ๊งป่อง!
เธอกดออดสองครั้ง ก่อนจะกดรหัสเข้าไปข้างใน ธเนศที่นั่งเก๊กท่ารออยู่ที่โซฟาแสร้งเลิกคิ้วหันมามอง
“คุณจะเข้ามาอยู่แล้ว ทำไมต้องกดออดด้วย?”
“ก็เป็นการเตือนให้คุณรู้ตัวไงค่ะ เกิดคุณกำลังถอดเสื้อถอดผ้าอยู่จะได้รู้ว่ามีคนกำลังจะเข้ามา”
“ผมไม่หวงหรอกนะ ยังไงๆ คุณก็จะได้เห็นร่างกายของผมทั้งหมดอยู่แล้ว” เขายักไหล่ เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาแขวนผนัง “คุณมาตรงเวลาดีนะ หนึ่งทุ่มเป๊ะ ผมกำลังคิดอยู่เชียวว่าถ้าคุณทำตัวโยกโย้ไม่รักษาเวลาจะต้องปรับให้คุณอยู่ต่ออีกหนึ่งชั่วโมง”
หญิงสาวเม้มปาก “คุณกะจะเอาให้คุ้มเลยเหรอคะ?”
“อืม...ผมเป็นนักธุรกิจนะ ไม่มีทางยอมค้าขายขาดทุนหรอก” เขาลุกขึ้นเดินมายืนตรงหน้าพรรษา
ปลายผมของเขายังเปียกอยู่ กลิ่นแชมพูปนกับกลิ่นสบู่หอมอ่อนๆ ลอยอวลมาเข้าจมูก พรรษาใบหน้าร้อนผ่าว เธอพยายามข่มใจให้สงบ
“คุณรีบไปอาบน้ำเถอะ คืนนี้เป็นครั้งแรกของเรา สมควรจะทำความรู้จักกันนานสักหน่อย ห้องน้ำในห้องนอนนะ น่าจะมีของใช้คุณอยู่หลายอย่าง”
พรรษาสีหน้าเข้มขึ้นกว่าเดิม คำพูดของเขามีนัยที่ชวนให้เธอวาบหวาม หญิงสาวกุมหน้างุดไปในห้องนอน เธออาบน้ำไปก็จินตนาการจนเตลิด ในใจก็นึกลุ้นว่าคืนนี้เขาจะทำกับเธอแบบไหนบ้าง?
เธอหยิบเอาชุดนอนที่ไม่ค่อยได้ใส่ออกมาสวม แทนพงษ์ดึงเอาชุดนอนแบบกะโปรงสั้นเหนือเข่าแนวเซ็กซี่ที่เธอไม่เคยสวมมายัดใส่ในกระเป๋าเดินทางพร้อมทั้งสั่งให้เธอเอาออกมาใช้พิชิตศึกในคืนนี้
‘ชุดนอนไม่ได้นอน สำหรับผู้ชายที่ผ่านผู้หญิงมาโชกโชนอย่างธเนศ ถ้าแกทำตัวหน่อมแน้ม พี่ว่าเขาคงรำคาญแน่’
พรรษาเชื่อแทนพงษ์ พอเธอเดินออกมาจากห้องนอนอีกครั้ง ธเนศถึงกับกลืนน้ำลายถือแก้วไวน์ค้างไว้ เขาดับไฟห้องกลาง จุดเทียนไว้บนโต๊ะ จ้องรอให้เธอเปิดประตูออกมา พอมองเห็นชุดนอนสีขาวบางที่มองเห็นชุดชั้นในสีแดงได้ชัดเจน ชายหนุ่มก็รู้สึกว่าไวน์ที่ดื่มเข้าไปไม่กี่แก้วทำเอาร่างกายรุ่มร้อน
“มาดื่มไวน์ด้วยกันก่อนสิ ผมยังไม่ได้คุยกับคุณเป็นเรื่องเป็นราวเลย”
พรรษาจงใจเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ ชายหนุ่มนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวกลางห้อง เทียนสีแดงสามแท่งบนเชิงเทียนส่องแสงวอมแวม ชุดนอนของเธอคอกว้าง ชายหนุ่มเผลอมองความเนียนละมุนแล้วแทบจะกลับคำพูด เขาเริ่มไม่อยากจะพูดคุยดื่มไวน์แล้ว แต่อยากจะอุ้มเธอขึ้นเตียงไปตอนนี้เลย
“ดื่มหน่อยก็ดีค่ะ เราเพิ่งพบกันครั้งแรก จะได้ลดความกระดากลงบ้าง”
เขายิ้มน้อยๆ หยิบแก้วว่างของเธอมาแล้วรินไวน์ให้ พรรษามองดูชายหนุ่มหล่อเหลาที่สวมเสื้อยืดและกางเกงขายาวตัวโคร่งตรงหน้า ตอนที่เขาไม่ได้สวมชุดเป็นทางการดูเป็นหนุ่มน้อยหน้าใสที่น่าคลอเคลีย เธอรีบหยุดความคิดลามกที่มีต่อเขาเอาไว้
“ผมจะบอกนิสัยการนอนของผมไว้ก่อนนะครับ ผมไม่ชอบให้คนมานอนใกล้ เตียงในห้องนอน ผมสั่งทำขนาดใหญ่พิเศษ คุณกับผมนอนคนละมุมยังเหลือพื้นที่สบายๆ”
“ค่ะ ฉันเห็นแล้ว ยังนึกแปลกใจว่าเตียงของคุณใหญ่มาก มากกว่าที่ฉันเคยเห็นมา”
“ผมตื่นตอนตีห้าครึ่งตรงเวลาทุกวัน ถ้าผมตื่น คุณก็ต้องตื่นด้วยและคุณก็ต้องช่วยเก็บเตียงให้เป็นระเบียบเรียบร้อย การใช้ข้าวของในคอนโดหากเป็นของส่วนตัวของผม ให้คุณถามผมก่อนทุกครั้ง”
“ค่ะ ฉันรับทราบ” เธอกระดกไวน์ลงไปจนหมดแก้ว
“ท่าทางคุณจะดื่มเก่งใช้ได้นะ” เขายิ้มคล้ายจะเยาะ พอนึกถึงตอนที่เธอนั่งพูดคุยและดื่มอยู่กับภาคิณก็เคืองขึ้นมา
“ก็ไม่ได้เก่งมากมายอะไรค่ะ เรียกว่าเป็นสายดื่มย้อมใจดีกว่า”
สองหนุ่มสาวผลัดกันบอกสิ่งที่ตนเองชอบและไม่ชอบ
“ผมแพ้กุ้ง ถ้ากินแล้วจะผื่นขึ้นทันที และถ้ากินมากก็อาจจะไข้ขึ้นด้วย”
“แล้วอาหารทะเลอย่างอื่นล่ะค่ะ”
“ก็พอได้นะ แต่กุ้งนี่อาจจะเอาชีวิตผมได้ เรื่องนี้ผมปิดเป็นความลับเพราะกลัวมีคนคิดร้าย ก็เลยบอกคนอื่นแค่ว่าไม่ชอบอาหารทะเล”
“ฉันไม่ชอบกินปลาค่ะ ฉันเป็นสายเนื้อก็ว่าได้”
ธเนศรินไวน์ให้เธอครั้งแล้วครั้งเล่า ส่วนพรรษาก็พยายามดื่มเพื่อจะทอดเวลาในการขึ้นเตียงกับเขาให้ช้าออกไป พอไวน์หมดไปหนึ่งขวด ธเนศที่เห็นเธอหน้าแดงคอแดงก็พอใจ รีบเปิดไวน์อีกขวดที่วางไว้ข้างๆ
“สองขวด คุณก็น่าจะไหวนะ”
“ฉัน....ฉันไหวน่า...” เธอสะอึกเล็กน้อย ยื่นแก้วไวน์ให้กับเขา
พอดื่มขวดที่สองไปเกือบครึ่ง พรรษาก็เริ่มนั่งโงนเงน หน้าและตาแดง มองธเนศด้วยสายตาแปลกๆ
“คุณเมาแล้วเหรอ?”
“ไม่ๆ ฉัน...ก็...แค่...มึนๆ...ร้อนๆ”
เธอตาเยิ้มมองเขาวางแก้วไว้น์บนโต๊ะ ขยับขึ้นมานั่งบนตักเขา กอดคอชายหนุ่มเอาไว้แน่น เขาแทบจะกลั้นหายใจ เธอคงไม่รู้ว่าสายตาของเธอเชิญชวนให้เขาอยากจะฉีกทึ้งชุดนอนของเธอให้ขาดเดี๋ยวนี้
“ไหนว่าคุณดื่มเก่ง? ยังไม่ถึงสองขวดก็เมาแล้ว”
เธอไม่สนใจคำพูดนั้นของเขา หญิงสาวใช้สองมือประคองใบหน้าของเขาเอาไว้ ยิ้มหวานให้ “คุณหล่อจังเลย” เธอพูดจบก็ก้มลงจูบเขาอย่างร้อนแรง
ธเนศตะลึงเขายื่นมือไปวางแก้วไวน์ลงแทบไม่ทัน เธอโถมร่างใส่จนเขาต้องนอนหงายทับหมอนอิงด้านหลัง เขาจูบตอบเธอด้วยความพอใจ มือใหญ่สองข้างลูบไล้บั้นเอวเลยต่ำไปถึงบั้นท้าย ชายชุดนอนถูกถลกขึ้น มือของเขาบีบต้นขาเธอเบาๆ เธอเปลี่ยนท่าโดยใช้คร่อมบนร่างเขา
“คุณจะเริ่มตอนนี้เลยเหรอ?” เขาพึมพำเมื่อเธอจูบไล่ไปตามแนวคาง
“อือ...เริ่มเลยก็ดี คุณน่ากินขนาดนี้ อิอิ” เธอหัวเราะน้อยๆ
“ได้ ผมก็อยากแล้ว” เขาเสียงสั่นพร่า
ธเนศเปลี่ยนเป็นฝ่ายรุก จูบเข้าที่ใบหูนุ่มของหญิงสาว มือใหญ่สองข้างสอดไปถึงบราเซียร์ที่ห่อหุ้มก้อนเนื้ออวบพอดีมือ แรงเคล้นของเขาทำให้เธอรู้สึกว่าความร้อนวูบวาบจากฤทธิ์ไวน์ถูกกระตุ้นให้ระอุขึ้นไปอีกขั้น
ธเนศเอื้อมมือไปปลดตะขอเสื้อตัวน้อยที่แผ่นหลังบาง เขาสอดมือเข้าใต้บราเซียร์แล้วขยำอย่างเร่าร้อน ชายหนุ่มถดศีรษะต่ำลง มุดเข้าไปในชุดนอน ใช้สองมือกดแผ่นหลังให้หญิงสาวแอ่นอกเข้าหา เธออ้าปากครางเมื่อเขาใช้ทั้งปากทั้งมือ สองมือที่บีบบนที่เท้าแขนโซฟาเกร็งเล็กน้อย
ในห้องมีเสียงหอบหายใจของชายหนุ่มและหญิงสาวดังสลับกัน กางเกงในสีแดงตัวน้อยถูกพรรษาใช้ปลายเท้าสะบัดทิ้ง เธอแหงนหน้าร้องพึมพำเรียกชื่อธเนศอยู่สองสามครั้ง สะโพกกระตุกเบาๆ
“ผม...ร้อน...มาก” เขาลุกขึ้นนั่ง กระชากชุดนอนบางๆ ของเธอติดปลายมือโยนหวือลงพื้น
พรรษาดึงชายเสื้อเขาขึ้น ชายหนุ่มช่วยดึงต่อออกทางศีรษะ มือของเธอลูบคลำที่เป้ากางเกงของเขาร้องอูยออกมา ร่างของทั้งสองนั่งหันหน้าประกบเข้าหากันอยู่บนโซฟา ใบหน้าของเขาซุกอยู่ตรงคอของหญิงสาว แนบริมฝีปากที่ต้นคอแล้วเม้มเข้าเบาๆ ก่อนจะประคองร่างอวบอิ่มในเอนกายลง เขายื่นมือหยิบห่อถุงยางอนามัยที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงขาสั้น
“คุณรอบคอบดีจัง” หญิงสาวนอนบิดกายยิ้มหวาน
“ผมยังไม่อยากเป็นพ่อโดยไม่ได้ตั้งตัวหรอกนะ”
เขาก้มลงจูบเธออีกคราหนึ่ง ธเนศรู้สึกว่าเขาอยากจะครอบครองหญิงสาวตรงหน้าจนปวดไปทั้งกาย มือของเขาสั่นน้อยๆ ขณะที่สวมถุงยางอนามัย
พรรษาเป็นผู้หญิงที่เขาชอบตั้งแต่แรกเห็น เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าเธอจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาเสนอตัวให้เขาเอง และตอนนี้....เธอกำลังจะเป็นของเขา
กางเกงตัวน้อยบนร่างชายหนุ่มห้อยอยู่ข้อเท้าข้างหนึ่ง สองร่างค่อยๆ แนบช่วงล่างเข้าหาสนิท โซฟายวบยาบจากช้าเป็นเร็วแข่งกับเสียงครางของหญิงสาวและเสียงหายใจแรงของชายหนุ่ม
...ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล เขากับเธอแค่เพิ่งเริ่มต้น....
******************