หงซือกวน

918 Words
ภายใต้ท้องฟ้าอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ บนแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ของผืนพนาไพร เหล่าสัตว์น้อยใหญ่ล้วนเคยออกมาหากินทั่วบริเวณ แต่ทว่าบัดนี้ แผ่นดินเขียวชอุ่มภายใต้แผ่นฟ้าไร้ขอบเขต กลับชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงฉาน ตลบอบอวลไปด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวน ที่แสดงถึงความเจ็บปวดจากทัณฑ์ทรมาน เต็มไปด้วยกลิ่นสาบสางจากคาวโลหิตคล้ายธารารินไหล เศษซากของกองทัพกลาดเกลื่อนกระจัดกระจาย มองไปทางใดล้วนมีแต่เศษซากแห่งความตายหลังความวุ่นวายของความเสียหายย่อยยับแห่งแว่นแคว้น และภายใต้สิ่งแวดล้อมที่บ่งบอกถึงกลิ่นอายความอำมหิตและหายนะครั้งใหญ่ มีหนึ่งบุรุษผู้สง่างามกำลังยืนอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางซากปรักหักพังนั่น เขาเพียงยืนอยู่บนซากศพนับร้อยนับพันราวกับเป็นบัลลังก์แห่งจอมมารที่สรรค์สร้างมาจากเลือดเนื้อของศัตรู เขามีนามว่า หงซือกวน หงซือกวน บุรุษหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่ แม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องเกรงใจ ผู้ที่ไม่เคยมีใครกล้าต่อกร เขาเป็นผู้นำของกลุ่มอิทธิพลมืดฝ่ายอธรรมที่ใหญ่ที่สุด เป็นประมุขสำนักหมื่นโลกันตร์ จ้าวแห่งยุทธภพด้วยวัยเพียงสิบแปดปี ครั้งนั้นปรมาจารย์ทิฮู้หงวนโส่ย ผู้ที่เปรียบเสมือนเทพแห่งสงคราม ได้รับให้เขาเป็นศิษย์เอกเพียงหนึ่งเดียวและได้มอบหมายให้เขาได้ดูแลสำนักของยุทธภพถึงสามสำนักด้วยกัน สามสำนักนั้นล้วนโดดเด่นยิ่งใหญ่ มีสำนักย่อยนับร้อยพัน ทว่าหงซือกวนนั้นกลับไม่นำพา เขามิประสงค์ให้มันแบ่งแยกแตกสาขา จึงยุบทั้งสามสำนักเข้าด้วยกันและใช้ชื่อว่า สำนักหมื่นโลกันตร์ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ผ่านมาแล้วนับสิบปี หงซือกวน ในวัยหนุ่มฉกรรจ์ยี่สิบแปดปี ก็ยังคงเป็นเอกบุรุษเสมอมา เขาเป็นบุคคลที่ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้ ทั้งยังไม่กล้าแม้แต่จะสบตา หากมีใครกล้าเข้ามา มันผู้นั้นจะต้องเปลี่ยนร่างกายเป็นด้านชาและกลายร่างเป็นสายธาราที่ไหลบ่าด้วยธารโลหิตของตัวมันเอง ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาคมคายแผ่ซ่านภยันอันตรายร้ายกาจของหงซือกวน สายตาคมกริบดุดันไม่เคยมีวี่แววล้อเล่นอยู่ในนั้น ริมฝีปากหยักได้รูปมิเคยมีใครได้เห็นมันแย้มยิ้มผลิบาน รูปร่างของเขาสูงโปร่งกำยำล่ำสัน แต่ทว่าช่างปราดเปรียว เพียงเสี้ยวเวลาเดียวเท่านั้น ที่เขาใช้เยื้องย่างพาดผ่านแต่ละหนแห่ง และความรวดเร็วที่ย่างกรายของเขานั้นหาได้มีใครตามได้ทันไม่ ภายในสำนักหมื่นโลกันตร์ที่รายล้อมไปด้วยสมุนลูกพรรคที่มีหน้าตาดำทะมึนท่าทางน่ายำเกรงอยู่เต็มพื้นที่ “คารวะท่านประมุข” เสียงทุ้มต่ำดังกังวานของเหล่าสมุนต่างพร้อมใจกันทำความเคารพหงซือกวนยามเมื่อร่างสูงสง่าของเขาย่างกรายก้าวเท้าพาดผ่าน หงซือกวนเพียงปรายสายตาคมเฉี่ยวดุดันเป็นเชิงยอมรับการคารวะแค่เพียงเท่านั้น ทุกคนในที่นี้ก็พร้อมใจกันก้าวถอยหลังไปคนละหนึ่งก้าวสองก้าวในทันที เพื่อเปิดทางให้แก่ท่านประมุขได้เดินผ่านตัวไป กลิ่นอายมรณะแผ่กำจาย รังสีสังหารทัณฑ์ทรมานแผ่ปกคลุมไปในทุกที่ ที่หงซือกวนเคลื่อนกายพาดผ่าน และมันก็เป็นอยู่อย่างนั้นเสมอมา วันเวลาหมุนเวียนเคลื่อนขับทุกสรรพสิ่งหมุนเวียนเคลื่อนผ่านจากทิวากาลเปลี่ยนเป็นรัตติกาลอยู่หลายเพลา ภายในห้องอันใหญ่โตโอ่อ่าที่ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นกำยานคละคลุ้ง บรรยากาศอึมครึม มีโต๊ะชงชาลวดลายเขี้ยวเล็บอสรพิษรอบด้าน มีเก้าอี้ตัวใหญ่ไม่ต่างจากแท่นประทับของโอรสสวรรค์ ที่สลักลวดลายอันทรงพลังน่าเกรงขามของกรงเล็บแหลมคมและเกล็ดมังกรปิกัน[1]จำนวนสามสิบหกแผ่น[2] ที่เดิมทีมีท่านประมุขนั่งอยู่ แต่บัดนี้กลับกลายเป็นความว่างเปล่า ไร้ร่างทรงอำนาจของท่านประมุขนั่งอยู่ตรงนั้น “ท่านประมุขหายไปที่ใดกัน” เสียงทุ้มต่ำของสมุนคนสำคัญแห่งสำนักหมื่นโลกันตร์ผู้หนึ่งเอ่ยถามไปยังสมุนอีกคนหนึ่งด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดใคร่รู้ “ท่านประมุขไปฝึกวิชาห้ามผู้ใดย่างกรายไปรบกวนจนกว่าท่านประมุขจะเดินทางกลับมาด้วยตัวเอง” สมุนอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างรู้เรื่องราวของท่านประมุขเป็นอย่างดี เนื่องจากว่าเขาเป็นถึงสมุนมือขวาของท่านประมุขหงซือกวน “อืม...” สมุนอีกคนรับคำอย่างรู้งานเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าสำนักหมื่นโลกันตร์จะไร้ประมุขนั่งประจำอยู่ตรงโต๊ะลวดลายน่ากลัว แต่ก็ใช่ว่าจะมีใครที่จะสามารถรุกล้ำย่างกรายเบียดเบียนเข้ามาได้โดยง่าย ด้วยเพราะว่าท่านประมุขหงซือกวนของพวกเขานั้น ย่อมมีหูมีตาอยู่รอบทิศครอบคลุมอยู่ทั่วทั้งใต้หล้าได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แน่นอนว่าน้ำบ่อย่อมไม่ยุ่งกับน้ำคลอง หากแต่ปลาในน้ำกลับมุดดินแทรกซึมไปทั่วทุกหัวระแหง... [1] มังกรปิกันเป็นมังกรที่รักในการใช้พละกำลัง เป็นการแสดงความดุร้าย [2] มังกรจีน มีเกล็ดสีเขียวเข้มทั่วทั้งบริเวณลำตัวรวมทั้งสิ้น 117 เกล็ด ซึ่งเกล็ดมังกรจำนวน 81 แผ่น มีคุณสมบัติเป็นหยางซึ่งเป็นเกล็ดที่มีความดี เกล็ดมังกรจำนวน 36 แผ่น มีคุณสมบัติเป็นหยินซึ่งจะเป็นเกล็ดที่มีความชั่ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD