ซามูร์เป็นคนที่ตื่นแต่เช้าตรู่เป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อคืนหลังจากที่พาน้ำค้างเข้าพักผ่อน จนเจ้าตัวหลับสนิทไปแล้ว ซามูร์จึงลุกขึ้นไปนั่งทำอุปกรณ์ดักจับสัตว์ท่ามกลางแสงจันทร์ พลางสลับมองใบหน้าหวานที่นอนหลับอยู่ในเพิงที่พักอย่างสบาย
ซามูร์เริ่มมีความรู้สึกกับน้ำค้างหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดออกมาดีหรือไม่ แต่ถ้าหากน้ำค้างกลับบ้านเกิดของตนเองไม่ได้ ยังไงก็ต้องพากลับไปที่เผ่ากรีนเคิร์กอยู่ดี แล้วถ้าหากต้องส่งตัวน้ำค้างให้ไปเป็นเมียของเก็งเคอร์ จิตใจของเขาจะรับไหวไหม
หรือควรจะแตกหักกับเก็งเคอร์ไปเลย และแย่งชิงตัวน้ำค้างมาเป็นของตัวเองอย่างเห็นแก่ตัวแทน ใบหน้านิ่งเคร่งขรึมคิดหนักขึ้นทุกวัน ยิ่งได้ใกล้ชิดกับน้ำค้างยิ่งไม่ต้องการจะยกน้ำค้างให้ใครหน้าไหนทั้งสิ้น
ช่วงที่ฟ้ายังไม่ทันสว่างดีเท่าไร ร่างสูงก็ได้ค่อยๆ ผละตัวออกจากร่างเล็กที่กอดก่ายกันอยู่ แล้วลุกขึ้นมาเตรียมตัวหยิบอาวุธเดินออกไปทางทิศใต้อย่างเงียบเฉียบ
ซามูร์รีบออกไปวางกับดักในเวลาเช้ามืดเช่นนี้ จะได้รีบไปรีบกลับมาก่อนน้ำค้างจะรู้สึกตัวตื่นแล้วหาตนเองไม่เจอ อาจจะแตกตื่นเอาได้
คนเคยชินกับการตื่นเช้า จึงเคยชินกับใช้ชีวิตประจำวันเช่นนี้ การที่ได้เข้าร่วมเป็นหน่วยสำรวจทำให้ใช้ชีวิตแบบที่ต้องคอยระแวดระวังตัวให้ดีตลอดเวลา ซึ่งไม่ต่างจากหน่วยพลทหารสักเท่าไรนัก
แต่จะดีหรือร้ายตรงที่ว่าต้องออกเดินทางไปตามทิศต่างๆ รอบๆ เขตแดนของพื้นที่ของตนเองนานนับเดือนนี่แหละ การมีทีมพลสำรวจนี้ก็เพื่อออกสำรวจและสังเกตสิ่งผิดปรกติ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นมาหรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นการเฝ้าระวังภัยให้เผ่าชนิดหนึ่งนั่นเอง
ดวงตาคมหันไปมองเสียงอืออ้าที่กำลังขยับตัวตื่นนอนขึ้นมาแล้ว พร้อมกับทำท่าราวกับจะลุกขึ้นนั่ง แต่ทว่ากลับเลือกที่จะทิ้งตัวลงนอนไปอีกครั้งแทน
ซามูร์ส่ายหน้าไปมาให้กับคนที่ร่วมอาศัยอยู่ด้วยกันมานานหลายเดือน จนรู้สึกเคยชินกับคนตรงหน้าอย่างช่วยไม่ได้
ทว่าก็ยังรู้สึกเป็นห่วงน้ำค้างที่ต้องมาใช้ชีวิตในป่า แต่ยังทำตัวเหมือนคนต่างแดนมาเที่ยวป่าซะงั้น แบบนี้จะใช้ชีวิตได้ลำบากในภายภาคหน้าหากยังไม่คิดจะปรับตัว
หรือที่จริงเจ้าตัวยังหวังว่าตัวเองจะกลับบ้านเกิดในต่างแดนได้ในเร็ววันกันแน่ ทว่าซามูร์กลับคิดต่างเพราะแลดูหนทางมันจะไม่ง่ายเลยสักนิด
เมื่อซามูร์คิดว่ากว่าน้ำค้างจะยอมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็คงจะอีกสักพักใหญ่ๆ เลย ขายาวจึงออกเดินมุ่งไปทางที่วางกับดักเอาไว้ตั้งแต่รุ่งสาง
เผื่อว่าการเดินกลับไปดูครั้งนี้ หวังว่าจะได้อะไรสักอย่างติดมือกลับมาทำอาหารเตรียมไว้ให้คนขี้เซาตื่นขึ้นมากินได้แบบทันทีโดยไม่ต้องรอ
"ซามูร์.."
คนในเพิงที่พักเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ ยิ่งตอนที่มองหาคนที่ควรจะอยู่ใกล้กับตัวเองกลับหายตัวไปจนต้องร้องเรียกหาราวกับเด็กน้อย ยามที่ตื่นนอนแล้วต้องร้องเรียกหาแม่ก่อนเป็นอันดับแรก
น้ำค้างเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง กวาดตามองหาคนที่ตนเองส่งเสียงเรียกหาแล้วก็ไม่มีแม้แต่เงา ใบหน้าขาวเริ่มตื่นตระหนกขึ้นมาจนต้องพาตัวเองออกเดินดูรอบๆ เพิงที่พัก
"ซามูร์!" ขาเรียวออกเดินเซะซะตามทางไปเรื่อยเท่าที่จะเดินไปได้
น้ำค้างเลือกที่จะเดินไปตามทางเส้นทางเดียวกับเมื่อวาน ที่ซามูร์พาเดินไปเรียนรู้เรื่องสมุนไพรกับการหาอาหารด้วยกัน จนกระทั่งขาเรียวลากเดินเข้าป่าลึกไปเรื่อยๆ จนมันดูเงียบสงบวังเวงอย่างน่าใจหาย
☘
หลังจากที่น้ำค้างลุกออกจากเพิงที่พักไปได้ไม่นานนัก ก็ได้มีร่างชายปริศนาสองคนได้ปรากฏตัวออกมาด้อมๆ มองๆ อาณาบริเวณที่มีร่องรอยของกองฟืนก่อไฟที่เหมือนเพิ่งจะทำอาหารไว้ไม่นานมานี้ และเมื่อก้าวเดินมาไม่ไกลก็ได้พบกับเพิงที่พักอาศัยทำง่ายๆ ซึ่งน่าจะใช้อาศัยนอนเพียงชั่วคราว
สองชายปริศนาผู้มาเยือนใหม่ แอบลอบมองจดจ้องพลางย่อตัวลงต่ำแล้วพยายามสอดส่องสายตากวาดมองไปรอบๆ ให้ทั่วอาณาบริเวณ ทว่ากลับไร้ร่างเงาร่างของผู้ที่ทำเพิงที่พักอาศัยแห่งนี้ขึ้นมา
สองขาที่เหยียบย้ำลงบนพื้นดินนิ่ม ก่อนจะลอบย่องเข้าไปดูแถวหน้าเพิ่งที่พัก เมื่อมองส่องดูให้ดีแล้วก็ไม่พบว่ามีคนอยู่ในนี้ แต่กลับมีร่องรอยของคนที่เคยพักในเพิงหลังนี้มาก่อนแน่นอน
ริมฝีปากเข้มขบเม้มแน่นพลางสบถจิ๊จ๊ะไม่พอใจออกมาราวกับพลาดไปนิดเดียว ก่อนที่จะพากันผละตัวออกเดินทางไปตามหาคนที่ถูกหมายหัวเอาไว้ต่อไป
"ซามูร์~"
ดวงตากลมล็อกแล่ก มองไปบริเวณรอบๆ ที่ดูอึมครึม ไอหมอกหนาลงมาปกคลุมหนาทึบ จนทำเอาใจตุ้มๆ ต่อมๆ หายใจไม่สะดวก
น้ำค้างจึงเลือกที่จะเดินย้อนกลับไปตามทางเดิมแทน ทว่าเมื่อยิ่งเดินป่าลึกเข้าไกลมากเท่าไร แต่กลับยังไม่เจอคนที่ตนออกตามหาสักทีเลย
ฝ่ามือใหญ่หิ้วปลายขาสองข้างของสิ่งที่เคยมีชีวิตมาก่อน จะนำติดมือมาทำอาหารให้คนกินยาก แต่เมื่อเดินกลับมาจนถึงกองฟืนที่มันได้มอดดับสนิทลงไปแล้ว
ซามูร์จึงต้องเริ่มต้นก่อไฟที่ริบหรี่ลงไปแล้วให้ลุกโชนขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้ทำอาหารต่อ
ระหว่างที่รอกองไฟลุกขึ้นมาใหม่ จึงลุกขึ้นเดินออกไปทางริมธารน้ำเสียก่อน เพราะต้องไปจัดการตัวโปรตีนแบบที่ไม่ให้เหลือเค้าโครงเดิม และต้องสะอาดจนไร้กลิ่น ก่อนนำมาทำอาหารให้น้ำค้างกินด้วย
"มันเหม็นคาว ข้ากินไม่ได้หรอก"
ริมฝีปากหยักยกสูงขึ้นทันที ยามที่ได้นึกถึงใบหน้าที่แทบจะร้องไห้ทุกครั้งยามเมื่อได้เห็นของน่ากิน แต่พอลองเอาเข้าปากแล้วก็บ่นอุบออกมาว่ากลืนไม่ลงทุกครั้ง
พร้อมกับท่าประจำ ที่มักจะแสร้งว่าอยากร้องไห้ออกมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่มันดูน่าหมั่นไส้ ราวกับคนเรื่องมาก แต่มันก็ดูน่ามันเขี้ยวในเวลาเดียวกันเช่นกัน แต่คงเพราะเป็นน้ำค้างนั่นแหละ ซามูร์ถึงยอมตามใจ
เมื่อขายาวที่ต้องเดินผ่านเพิงที่พักอยู่แล้ว ดวงตาคมจึงขอแอบโฉบแวะมองคนที่ยังน่าจะหลับอุตุอยู่ให้สบายใจหายห่วง ทว่ากลับต้องใจกระตุกวาบทันที เมื่อคนที่ควรจะนอนหลับอยู่ในเพิงที่พัก แต่กลับไม่มีอยู่ตรงนี้เสียแล้ว
ซามูร์หันซ้ายแลขวาอย่างเลิ่กลั่ก มือใหญ่ปล่อยทิ้งเจ้าตัวโปรตีนลงพื้นอย่างไม่ไยดี ใบหน้าเคร่งเครียดพยายามกวาดสายตามองหาคนที่หายตัวไปก่อนสิ่งอื่นใด
แต่สิ่งที่ทำให้ซามูร์เกิดอาการตระหนกได้มากกว่าเดิม นั่นคือร่องรอยการย่ำพื้นดิน จากรอยฝ่าเท้าที่ดูมีขนาดใหญ่กว่ารอยเท้าของน้ำค้างแน่นอน
สองขาแกร่งรีบออกเดินไปทางลำธาร ริมฝีปากหยักพึมพำวอนขอให้เจอน้ำค้างตรงที่คนดื้อชอบออกไปแช่น้ำเล่นแบบทุกครั้งด้วยเถอะ แต่กลับไม่มีร่างขาวยิ้มสวยกลางลำธารเลยสักนิด
จนทำให้ก้อนใจบีบอัดรัดแน่น จนแทบจะหายใจไม่ออก ซามูร์รีบก้าวเท้าเปลี่ยนทิศทางการเดิน เพื่อออกตามหาน้ำค้างให้เจอให้ไวที่สุด
"น้ำค้าง.."
ซามูร์เลือกใช้เส้นทางเดินที่ตนได้เคยพาน้ำค้างเดินไปด้วยกัน ทั้งการหาของกินและการหาสมุนไพรมาทำยาเวลารู้สึกว่าตัวเองป่วย
คนเดินเร็วจ้ำขายาวฉับ ๆ สองตาคมดุเอาแต่สอดส่องมองหาร่างเล็กไปทั่วบริเวณ คิ้วเข้มขมวดผูกกันเป็นปม จนใบหน้าแทบจะเรียกได้ว่าดูโหดสำหรับคนที่ได้พบเห็นแน่นอน
หมับ!
"ซามูร์.." น้ำเสียงที่เปล่งเสียงเรียกชื่อดังขึ้นมา ตามมาพร้อมกับแรงโถมกอดจากการทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมด ที่ทำเอาคนถูกสวมกอดถึงกับออกอาการซวนเซเล็กน้อย
"กว่าจะหาเจอ ไปไหนมาอ่าาา" เสียงพูดยานคางที่มีเพียงหนึ่งเดียวที่ชอบพูดแบบนี้ใส่กัน ซามูร์เลยต้องยืนนิ่งๆ ปล่อยให้น้ำค้างได้กอดรัดจนเจ้าตัวพอใจเอง
"ซามูร์.."
น้ำค้างเรียกคนที่ถูกกอดจนยืนตัวแข็งทื่อไปแล้ว มือเล็กจึงคิดจะผละตัวออกก่อน เพื่อจะได้เดินไปสวมกอดด้านหน้าแทน
แต่กลับกลายเป็นว่าซามูร์เป็นฝ่ายเอี้ยวตัวหันหลังกลับมาหาน้ำค้างอย่างทันควัน พร้อมกับออกแรงกอดรัดคนที่ตัวเองเดินตามหาอย่างเป็นห่วงแทบตาย แขนแกร่งโอบเอวเล็กจนน้ำค้างตัวลอยแทบจะเหยียบพื้นดินไม่ติดเลย
น้ำค้างรู้สึกว่าเงยใบหน้าแสนลำบากมาก ทั้งที่อยากจะเงยหน้ามองคนที่กอดรัดตนเองอยู่ จนกระดูกแทบจะแตกหักอยู่รอมร่อแล้ว
"เจ็บ ซามูร์ ปล่อยก่อน ข้าหายใจมะออกอ่าา" ฝ่ามือเล็กพยายามแกะแขนแกร่งให้ขยับคลายแรงกอดรัดแน่นๆ ออกบ้าง
ซามูร์ยอมผละตัวออก จึงได้เห็นรอยยิ้มแผล่ของน้ำค้างที่ช้อนสายตาขึ้นมามองกันด้วย ฝ่ามือใหญ่ขยับไปจับเส้นผมที่ร่วงหล่นลงมาปรกใบหน้าชื้นเหงื่อเอาไปทัดใบหูให้
"ข้าหาเจ้าตั้งนานแหนะ" น้ำค้างบู้บี้ปากบ่นอุบเช่นทุกครั้ง จนโดนร่างสูงดึงเข้ามากอดเต็มรักอีกครั้ง โดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย
"ซามูร์ ไม่เห็นตอบข้าเลยว่าไปไหนมา ข้านึกว่าเจ้าจะทิ้งข้าซะแล้ว ยิ่งคิดข้ายิ่งกลัวเลยรู้ปะ เพราะเมื่อวานเจ้าเพิ่งจะสอนให้ข้าหาอาหารเองอีกต่างหาก" น้ำค้างบ่นยืดยาวสาวความในใจออกมาให้คนที่ยืนกอดกันฟัง
มือใหญ่ละขึ้นมาวางแปะลงบนศีรษะกลม พลางออกแรงขยับอย่างแผ่วเบา ลูบไล้กันอย่างปลอบใจ ก่อนจะยอมอ้าปากพูด หลังจากที่นู้สึกโล่งใจและได้เจอน้ำค้างแบบปลอดภัยกลับมา
"ข้าไม่มีวันทิ้งเจ้า" ใบหน้าเข้มที่ยังติดความวิตกกังวลขยับเข้าไปใกล้กับใบหน้าหวาน ที่ได้ช้อนมองกันอย่างตาแป๋วพร้อมฉีกยิ้มกว้างมาให้อีกรอบ
ทว่าเมื่อซามูร์นึกขึ้นได้ว่าตนเองให้สัญญากับคนตรงหน้าไว้ จึงรีบดึงใบหน้าออกแล้วเปลี่ยนทิศไปจุ๊บลงบนหัวกลมๆ แทน
"ข้าไปหาอาหารมา เจ้าหิวรึยัง" น้ำค้างพยักหน้าหงึกหงัก พลางแบบมือโชว์ในสิ่งที่ได้พบเห็นตามรายทางแล้วอดใจให้ไม่แวะเก็บมาไม่ได้เลย
ในมือเล็กมีทั้งรวงดอกไม้สีขาวที่ส่งกลิ่นหอมรัญจวนใจ กับใบไม้ที่นำไปต้มแล้ว จะมีกลิ่นและรสชาติเหมือนชาอู่หลงด้วย
ดวงตาคมก้มมองเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหยิบนำพวงดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ขึ้นมาทัดที่ใบหูของคนที่เก็บมา ซามูร์โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้แล้วสูดดมกลิ่นดอกไม้ที่ถูกติดอยู่กับใบหูขึ้นสีระเรื่ออยู่นานสองนาน ก่อนจะเอ่ยประโยคเรียบง่ายออกมา
"เหมาะกับเจ้าดี"
ยิ่งเมื่อได้ยินประโยคชวนใจสั่นด้วยแล้ว จากริ้วแดงที่เริ่มปรากฏขึ้นบนใบหูได้ลามขึ้นมาจนถึงใบหน้าหวานให้แดงก่ำราวกับลูกตำลึงสุกไปแล้ว
จนทำเอาน้ำค้างนิ่งอึ้ง ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปสบตามองคนที่เข้ามาพูดประโยคอะไรแบบนี้ใส่เลยแม้แต่น้อย
ทว่ายังไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะน้ำค้างก็เพิ่งจะรู้ในวันนี้นี่เองว่าเจ้ายักษ์แรงเยอะคนนี้นั้น ไม่ได้เป็นแค่คนที่นิ่งเงียบธรรมดาแบบที่เคยคิดเอาไว้อีกต่อไปแล้ว
แต่กลับกลายเป็นคนที่ร้ายเหลือทางวาจา ซึ่งมันมีผลต่อการทำงานหนักของหัวใจยามได้ยินเสียเหลือเกิน
"ดอกไม้สีขาว งดงามบริสุทธิ์ กลิ่นหอมช่างเย้ายวนชวนหลงใหล..
..หากใครได้ครอบครองไว้ คงสุขล้นหัวใจเปรมปรีดิ์เสียเหลือเกิน"