น้ำค้างยู่ปากทันทีหลังจากที่ดวงตากลมโตมองไปทางใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่ได้มีชายร่างรักษ์นั่งเหลาไม้ไผ่ทำลูกธนูอยู่
"ไอ้บ้านั่นเอะอะเดี๋ยวจูบอย่างเดียวเลย ฮึ้ย!" มือเรียวเผลอขยับจับไปยังบริเวณปากของตนเองอย่างเผลอไผล
คนนอนบ่นนุ้บนิ้บนึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้ว ดวงหน้าก็ขึ้นริ่วสีแดงลามขึ้นมาจนถึงใบหูขาวให้เปลี่ยนสีทันที
หากจังหวะนั้น น้ำค้างไม่เลือกที่จะกัดปากที่ตะกุมตะกรามเอาแต่ตะโบมจูบกันอยู่นั่นมันต้องเตลิดไปไกลอีกแน่ เลยต้องดึงสติให้ได้เลือดซิบกันคืนไปซะบ้าง
หากไม่ทำเช่นนั้น มีหวังเมื่อคืนไม่ได้กินอาหารต่อแน่นอน แต่จะได้กินอย่างอื่นกันแทนแน่นอน
เฮ่ออ
แววตาสับสนของน้ำค้าง เอาแต่คิดอย่างปลงไม่ตก ว่าเรื่องระหว่างเราทั้งคู่มันคืออะไรกันแน่ การที่ได้อยู่ด้วยกันบ่อยๆ แบบนี้ดูมันจะค่อยๆ เลยเถิดมากขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วด้วยสิ
ระหว่างที่น้ำค้างนอนก่ายหน้าผากคิดไม่ตก ถึงกับต้องสะดุ้งจนตัวโยน เมื่อถูกน้ำเสียงเข้มทุ้มที่เขาเพิ่งจะนึกถึงอยู่เดินดุ่มๆ เข้ามาเรียกหากัน
"โอ๊ะ ตกใจหมด"
"น้ำค้าง เจ้าตื่นแล้วรึ" ซามูร์เยี่ยมหน้าเข้าไปใกล้กับคนที่เพิ่งจะตื่นได้ไม่นาน
น้ำค้างไม่ยอมตอบ แต่รีบผุดลุกขึ้นนั่งก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สองขาเรียวรีบก้าวเท้าเดินหนีคนที่เข้ามาปลุกกันด้วยการเดินหนีไปล้างหน้าแทน
ซามูร์เดินตามหลังคนที่ไม่ยอมตอบไม่หือไม่อือด้วย ไปแบบติดๆ ดวงตาคมเอาแค่จ้องมองทุกอิริยาบถของคนตัวเล็ก
เมื่อน้ำค้างวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าบ้าง วักกรอกเข้าปากกลั้วคอจนเสร็จแล้ว จึงได้หันหน้ากลับมาปะทะเข้ากับสายตาที่ยังคงจับจ้องมองกันอยู่ก่อนหน้าอย่างหลบเลี่ยงไม่ได้เลย
ดวงตากลมล่อกแล่ก จนเผลอไปมองริมฝีปากบวมเจ่อห้อเลือดของคนตรงหน้าที่ถูกเขาออกแรงขบกัดเข้าไปอย่างจังเมื่อคืน จนได้กลิ่นสนิมคาวคลุ้งตีขึ้นจมูกจนรู้สึกผิดเหมือนกัน
"น้ำค้าง.." ฝ่ามือใหญ่คว้าข้อมือเล็กที่ทำท่าจะเมินหน้าเดินหนีกันไปอีก
"โกรธเหรอ ขอโทษ ต่อไปนี้ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว" น้ำเสียงอ่อนลงจากคนที่รั้งข้อมือกันไว้
ทำเอาน้ำค้างใจอ่อนยวบ ยอมหันมาสบมองเผชิญหน้ากันแบบตรงๆ ได้สักที มือเรียวยกขึ้นแตะสัมผัสลงบนแผลที่ห้อเลือดตรงริมฝีปากล่างของซามูร์
"ข้าขอโทษ ที่ทำเจ้าแรงไปเหมือนกัน" แววตาสับสนเลือกที่จะหลุบมองลงไปที่พื้นอย่างไม่กล้าสู้หน้า
"อื้อ ไม่เป็นไร ข้าไปหาเห็ดอันใหม่มาให้เจ้าแล้ว ไปกินกัน" หลังจบประโยค น้ำค้างจำต้องเดินตามแรงรั้งของฝ่ามือใหญ่ที่ไม่ยอมปล่อยออกจากกันเลย
หลังจากการทานอาหารฉบับเรียบง่าย ซึ่งมีเห็ดย่าง ปลาย่าง และกล้วยสุก มื้อสายของวันนี้จบสิ้นลงไปแล้ว ซามูร์บอกว่าวันนี้จะสอนการใช้ชีวิต และการเอาตัวรอดให้กับน้ำค้างได้เรียนรู้ติดตัวเอาไว้
อย่างเช่นการหาอาหาร การหาใบยาสมุนไพร ที่สามารถนำใช้แก้พิษไข้หรือพวกโรคง่ายๆ ได้ เผื่อจะได้จำแล้วนำเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินได้บ้างนั่นเอง
น้ำค้างได้ยินประโยคนี้แล้วก็รู้สึกใจหายแปลกๆ มันวูบโหวงที่หัวใจขึ้นมาเฉียบพลัน ราวกับว่าซามูร์จะหายไปแล้วให้ปล่อยตนเองถูกทิ้งอยู่กลางป่าอย่างโดดเดี่ยวยังไงยังงั้น
"น้ำค้าง อันนี้กินได้ รสชาติจะออกเปรี้ยวๆ ฝาดๆ ลองชิมดู" ซามูร์แกะเปลือกไม้ของต้นอะไรสักอย่างออกมาขยี้ ทำให้มันเหมือนเป็นใยหยวกกล้วย แล้วจึงยื่นให้น้ำค้างหยิบใส่ปากลองชิมดู
"กินแก้อะไร" ใบหน้าฉงนมองสิ่งที่อยู่ในฝ่ามือใหญ่ตรงหน้า แต่ยังไม่ยอมหยิบขึ้นมาใส่ปากทันที เพราะมัวแต่กังวลไม่แน่ใจในความปลอดภัย
"แก้ไอ แก้กระหายน้ำ" ซามูร์ขยับมือยกให้สูงขึ้น จนแทบจะติดจมูกคนที่ยังคงเอาแต่มองดูมันนิ่งเฉย ยังกับว่ามันดูน่ากลัวเสียเหลือเกิน
"ไม่เอาอ่ะ กลัวขม" ใบหน้างอแงราวกับเด็กน้อยเริ่มแสดงออกมาให้เห็นอีกจนได้ ซามูร์แอบถอนหายใจ หากเขาตายไปจริงๆ คนตรงหน้าจะมีชีวิตรอดในป่าแห่งนี้ได้อย่างไรกัน
ซามูร์เปลี่ยนวิธีโดยการยกขึ้นมาชิมให้น้ำค้างเห็นตำตาก่อนว่ามันไม่เป็นอะไรเลย แถมยังชุ่มคอดีอีกด้วย นิ้วยาวจึงค่อยๆ จ่อเปลือกไม้ที่ถูกขยี้แล้วไปที่ริมฝีปากนุ่มหยุ่นที่เม้มเอาไว้จนแน่นอีกครั้ง
"น้ำค้าง หากข้าตายแล้วเจ้าจะอยู่ยัง.." ประโยคที่พูดไม่จบดี เพราะถูกฝ่ามือเล็กๆ ยกขึ้นไปปล้องอุดปากคนพูดสารธยายมากความจนเกินไป แถมน้ำค้างยังเอาแต่ส่ายหน้าไปมาราวกับไม่ให้ซามูร์พูดต่อ
"จะกินแล้ว ข้าจะชิมทุกอย่างที่เจ้าบอกเลย แต่เจ้าห้ามตายนะ ห้ามตายเด็ดขาด!"
นิ้วเรียวย้ายที่จากริมฝีปากหยักที่หุบปากเงียบเสียงสนิทไปแล้ว ยกขึ้นมาชี้หน้าออกคำสั่งปาวๆ อย่างเอาแต่ใจ แถมยังยอมหยิบเปลือกไม้ในมือของซามูร์เข้าปากไปเองแต่โดยดีจนเจ้าตัวต้องเผยใบหน้าขื่นขมออกมาให้เห็น
"แหวะ ขมอ่ะ ไหนว่าฝาดไง" ลิ้นแดงแลบออกมานอกริมฝีปากเชอร์รี่ ก่อนจะบ่นอุบตามออกมาติดๆ ด้วย
ซามูร์ถึงกับต้องรีบเบือนหน้าหนีทันที หากเขาไม่ทำเช่นนั้น จะต้องผิดคำพูดกับน้ำค้างก่อนหน้านี้แน่ๆ เพราะตอนนี้หัวใจของเขาเต้นสั่นระรัวราวกับกลองที่ถูกตีจนหน้ากลองมันสั่นไหวแทบจะระเบิดออกมาอยู่รอมร่อ
ยิ่งได้เห็นเรียวลิ้นเล็กสีแดงช่างดูเย้ายวนตรงหน้า จนรู้สึกน่าเอาปากเข้าไปประกบด้วยแล้วดูดชิมอย่างมูมมามซะเหลือเกิน
"ซามูร์ข้าไม่กินแล้ว" เสียงง่องแง่งทำเอาคนสติกระเจิงคิดดีไม่ได้ด้วยต้องยอมหันกลับมามองคนย่นจมูกใส่ พร้อมกับต้องยอมแบบมือรับเศษเปลือกจากมือเล็กที่ถือวิสาสะขโมยมือเขาเอาไปจับไว้เองตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
"รู้สึกฝาดจริงด้วย แต่กลืนน้ำลายแล้วก็หวานๆ ดี" ใบหน้าจิ้มลิ้มยกยิ้มขึ้นมา จนซามูร์แทบจะทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกความน่ารักของคนตรงหน้าโจมตีเข้าแสกหน้าอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หลังจากนั้นซามูร์ก็เริ่มสอนน้ำค้างไปเรื่อยๆ ว่าต้นนี้คืออะไร ใบนี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง แต่เหมือนอีกคนจะไม่ค่อยได้จดจำใส่ใจสักเท่าไหร่ เอาแต่พยักหน้าหงึกหงักส่งๆ แต่ซามูร์ก็ยังคงสอนถ่ายทอดวิชาอย่างตั้งใจไม่หยุดหย่อน
เมื่อเดินมาจนถึงแทบที่เป็นที่รกทึบ ซามูร์จึงดึงน้ำค้างให้เข้ามาเดินเบียดใกล้ๆ กันเอาไว้ เมื่อดวงตาคมได้เห็นรอยเท้าของสัตว์ใหญ่ปรากฏขึ้นในบริเวณนี้
"ซามูร์จะ..// ชู่ว" น้ำค้างอ้าปากจะถามว่าดึงแขนให้มาเดินติดกันจนแทบจะเหยียบตีนกันอยู่แล้วทำไม แต่ทว่าซามูร์กลับยกนิ้วชี้ขึ้นมาบดบังริมฝีปากนุ่มหยุ่นให้หยุดพูดเอาไว้ซะก่อน
กรร~~ กรร~~
ดวงตากลมเลิ่กลั่กเกิดอาการล็อกแล่กขึ้นมาทันที มือเล็กคว้าหมับเข้าที่ท่อนแขนของซามูร์ไว้จนแน่น น้ำค้างเริ่มรู้สึกว่าแข้งขาของตนเองเริ่มอ่อนแรงขึ้นมาซะดื้อๆ แล้วสิ จนเจ้าตัวถูกซามูร์ช่วยรั้งประคองเอาไว้ไม่ให้ล้มลงไป
ก่อนที่น้ำค้างจะออกปากขอขี่คอซามูร์เอง เพราะในตอนนี้แข้งขาที่เริ่มจะอ่อนเปลี้ย จวนเจียนพร้อมที่จะยุบยวบลงไปนั่งกับพื้นอยู่รอมร่อแล้ว จนซามูร์ต้องยอมให้คนขี้กลัวได้ขี่หลังเพื่อเดินกลับไปจนถึงที่เพิงพักแต่โดยดี
ซึ่งวันนี้การได้พาน้ำค้างออกไปเรียนรู้การใช้ชีวิตและหาอาหารในป่าด้วยกันเป็นครั้งแรกก็ถือว่าพอทำเนาใช้ได้อยู่ ดังนั้นอาหารเย็นมื้อนี้ จึงได้ใบพืชผักบางชนิดติดไม้ติดมือกลับมาทำอาหารทานเป็นมือเย็นได้
แถมยังได้ผลไม้เป็นผลกลมๆ มีเปลือกสีเหลืองอมส้มที่ซามูร์ได้ยินน้ำค้างพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า “มันเหมือนมะม่วงเลย” แถมมีรสชาติหวานอร่อยติดมือกลับมาด้วยอีกสามสี่ลูก
ซามูร์คิดเอาไว้ว่าเดี๋ยวรอให้น้ำค้างเข้าไปพักผ่อนแล้วตนเองจะนั่งเหลาไม้ทำกับดักเอาไว้ล่าสัตว์มาให้คนที่กินแต่ผลไม้มาสองสามวันติดๆ กันแล้ว
จนตอนนี้น้ำค้างราวกับคนขาดสารอาหารไม่มีเรี่ยวแรง เพราะร่างกายน่าจะขาดโปรตีนมาหลายวันจนอดเป็นห่วงไม่ได้