‘แม่หนูจะตกหลุมรักเขาเพียงแค่สบตา และจะไม่มีวันต้านทานเสน่หาของเขาได้’
คำทำนายบ้าบอนั้นกลับมาในหัวอีกแล้ว ให้ตายเถอะ นี่หล่อนจะต้องทำยังไงนะ ถึงจะสามารถลบลืมไอ้คำพูดพวกนี้ไปจากสมองได้
“แต่ตอนนี้ไม่มีร้านไหนยอมให้เราเข้าไปดินเนอร์แล้วล่ะ”
น้ำเสียงของเขามีผลทำให้สมองของหล่อนหยุดทำงานได้อย่างเหลือเชื่อ และจากที่จูบซับน้ำตาให้เพียงอย่างเดียว คราวนี้หนุ่มหล่อก็เริ่มเดินหน้าเคล้าคลึงกลีบปากอิ่มอีกครั้ง สาวน้อยรีบเผยอปากจูบตอบในทันที จนคนตัวโตหัวเราะเบาๆ อย่างพึงพอใจ
จุมพิตที่นุ่มนวลในตอนแรกค่อยๆ ทวีความเร่าร้อน หนักหน่วงขึ้นจนในที่สุดหญิงสาวก็เริ่มรู้สึกตัวแล้วล่ะว่ากำลังเล่นอยู่กับไฟ และมันหาใช่ไฟธรรมดาไม่ เพราะมันคือไฟบรรลัยกัลป์ที่ร้อนรุ่มแผดเผาจนเลือดสาวในกายของหล่อนเดือดพล่านได้อย่างน่าอัศจรรย์
“เอ่อ...”
ก้มหน้าหลบตาคมกริบสีทอง ดวงหน้างามแดงซ่านด้วยความขัดเขิน หัวใจเต้นระรัวอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าตอนนี้มาร์คอสจะหยุดการรุกรานริมฝีปากเหลือเพียงแค่โอบกอดธรรมดาแล้วก็ตาม
“ผมขอโทษนะครับที่ทำกับคุณแบบนี้...”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการขอโทษขอโพยทำให้พเยียต้องช้อนตาขึ้นมอง และก็ได้เห็นสายตาสีทองที่เต็มไปด้วยความละอายเต็มเปี่ยม
เขาไม่ได้ผิดคนเดียวสักหน่อย หล่อนก็ผิดด้วย หล่อนไม่ขัดขืน แถมยังพยายามจูบตอบเขาอีกต่างหาก
“มันไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกค่ะมาร์คอส ฉันเองก็ผิด... ไม่ต้องขอโทษฉันหรอกนะคะ”
“นี่แสดงว่าคุณไม่ติดใจอะไรใช่ไหมครับ”
ไม่รู้ว่าหูฝาดไปหรือว่าหล่อนคิดไปเองกันแน่ ที่รู้สึกเหมือนว่าน้ำเสียงของมาร์คอสในประโยคนี้ติดเหยียดหยันแปลกประหลาด และด้วยความที่เข้าใจในความหมายที่แตกต่างออกไปทำให้หญิงสาวเลือกที่จะพยักหน้ารับ โดยหารู้ไม่ว่าการตอบรับแบบนี้ของตัวเองจะทำให้ผู้ชายตรงหน้าทวีความชิงชังมากขึ้นเพียงไหน
“ค่ะ ฉันผิดต่อคุณ... และไม่รู้จะไถ่โทษยังไง...”
“คุณไถ่โทษให้ผมแล้วยังไงล่ะครับ”
สายตาสีทองอร่ามทรงอนุภาพที่ก้มต่ำลงมาสบประสานสายตากันนั้น ทำให้ลมหายใจของหล่อนสะดุดอย่างรุนแรง และหล่อนก็คงจะล้มระทวยลงไปกองกับพื้นแล้วล่ะหากไม่มีมือใหญ่สีแทนของมาร์คอสโอบกระชับเอวคอดเล็กของตัวเองเอาไว้แน่นอย่างนี้
“ไถ่โทษ?”
“จูบของคุณไง...”
มาร์คอสกวาดแลดวงหน้าขาวเนียนของพเยียนิ่ง หากไม่มีเจ้าแว่นตาขนาดใหญ่ปิดบังอยู่แม่คุณคงจะงดงามน่ามองยิ่งกว่านี้ ดังเช่นที่เขาเห็นมาแล้วเมื่อตอนบ่ายที่ผ่านมา แต่ช่างเถอะ หล่อนจะใส่แว่นหรือไม่ใส่ก็ช่าง เพราะหากถึงเวลาที่เขาลากเจ้าหล่อนขึ้นเตียงเมื่อไหร่ แม่เมียเก็บของคู่ปรับคนสำคัญคนนี้ก็จะต้องถอดทุกอย่างออกจากเนื้อตัว ไม่เว้นแม้กระทั่งแว่นตาน่ารำคาญอันนี้ด้วย
“มันหวานมากนะ พเยีย... ผมติดใจมัน และติดใจคุณ”
“คุณหมายความยังไงคะ... เอ่อ แล้วปล่อยฉันก่อน...”
คงพึ่งนึกได้กระมั้งว่าไม่ควรให้ผู้ชายยืนกอดในที่สาธารณะ หญิงสาวค่อนขอดตัวเองอยู่ภายในอกด้วยความไม่พอใจกับความใจง่ายของตัวเอง
หนุ่มหล่อคลายอ้อมแขน ปล่อยร่างของหล่อนให้เป็นอิสระ พเยียเซเกือบล้มเมื่อไม่มีหลักให้เกาะอีกแล้ว หญิงสาวรีบถอยหลังไปทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาว ขณะเงยหน้ามองคนตัวโตที่กำลังเดินเข้ามาใกล้อย่างตื่นๆ
“ผมอยากเป็นแฟนกับคุณ...”
โลกของหล่อนหยุดหมุนในทันที จินตนาการหวือหวาจำนวนมากถล่มยับอยู่ในสมอง การเป็นแฟนกับผู้ชายรูปหล่ออย่างมาร์คอส ผู้ชายที่แฝงด้วยอันตรายในทุกท่วงท่า แถมเขายังสามารถปลุกเร้ากระแสความต้องการทางเพศที่หล่อนไม่เคยคิดเลยว่ามันมีอยู่ในตัวให้มันพุ่งพล่านขึ้นมาอย่างรุนแรงจนน่าตกใจ
ร่างกายของหล่อนมีปฏิกิริยาต่อรูปลักษณ์และอำนาจลึกลับจากสายตาสีทอง เรือนกายกำยำทรงพละกำลังของเขาอย่างมหาศาล ยิ่งได้อยู่ใกล้กันอย่างนี้ หล่อนก็ยิ่งไม่อาจจะห้ามเนื้อตัวของตนเองให้ลดการสั่นสะท้านลงได้ สมองเคว้งคว้างไม่สั่งการ
มาร์คอสเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้หล่อนประพฤตินอกลู่นอกทางแบบนี้ โอ้...พระเจ้านี่ชะตาชีวิตของหล่อนกำลังจะเดินไปตามคำทำนายอย่างนั้นหรือนี่ แล้วหากเป็นอย่างนั้นจริงๆ มาร์คอสจะทำให้หล่อนเจ็บปวดยังไงนะ เขาจะฆ่าหล่อนด้วยความหล่อเหลา และเสน่ห์ยวนใจของบุรุษเพศอย่างนั้นหรือ
แล้วหล่อนกล้าที่จะเสี่ยงกับมันหรือเปล่าล่ะ...
กล้าไหมพเยีย?
ร้องถามตัวเอง และคำตอบที่ได้ก็คือ ไม่กล้า? มาร์คอสคนนี้ดูอันตรายและลึกลับเกินกว่าที่ผู้หญิงแสนธรรมดาอย่างหล่อนจะรับมือได้
“ไม่ค่ะ... ฉันเป็นแฟนกับคุณไม่ได้...”
“เพราะคุณมีคนที่รักอยู่แล้วใช่ไหม”
มาร์คอสถามเสียงต่ำ หรี่ตามองเหยื่อสาวนิ่ง แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าแม่คุณหลงรักเดนนิส โอซิล แต่เขาก็เลือกที่จะถามเพื่อเกมที่เขาสร้างขึ้นจะได้ดูแนบเนียนที่สุด
“ไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่มีใคร” ส่ายหน้าปฏิเสธจนเส้นผมกระจาย แว่นแทบจะหลุดจากหน้า
“แล้วทำไมเป็นแฟนกับผมไม่ได้ล่ะ...”
นัยน์ตาสีทองเป็นวาววับด้วยอันตรายบางอย่างที่ทำให้คนมองอย่างหล่อนรู้สึกกริ่งเกรงยิ่งนัก จนต้องรีบก้มหน้าหลบตาคมกริบคู่นั้น
“เอ่อ... คือว่า...”
“ทำไม...? ผมอยากรู้เหตุผลของคุณ”
มาร์คอสไล่บี้ กวาดต้อนจนพเยียตกใจ การคาดคั้นของเขาทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนกับตอนนี้ตัวเองเป็นนักโทษอาชกรรมร้ายแรงที่กำลังรอฟังคำพิพากษาจากอัยการก็ไม่ปาน
“คือว่าฉัน...”
“ผมรอฟังเหตุผลของคุณอยู่ คุณพเยีย ศุภกานต์”
สาวน้อยช้อนสายตาขึ้นมองคู่สนทนาหนุ่มที่ตอนนี้กำลังย่อเข่าลงมานั่งบนส้นเท้าจ้องหน้าหล่อนแล้วด้วยความหวาดหวั่นที่ปิดไม่มิด
“เราพึ่งรู้จักกัน...”
“นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ดีเลยนะพเยีย”
หญิงสาวถอดใจออกมาแรงๆ หลายครั้ง เมื่อหนุ่มหล่อตรงหน้าไม่ยอมผ่อนปรนเอาเสียเลย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายส่วนใหญ่ในโลกใบนี้จะมีนิสัยเผด็จการเหมือนกันไปหมด อยากได้อะไรก็ต้องให้ได้ซะงั้น
“มองผมนะพเยีย แล้วตอบ...” แล้วเขาก็ตรึงปลายคางของหล่อนด้วยนิ้วแกร่งสีแทนแน่น บังคับให้หล่อนสบประสานสายตากับเขาจนได้
“ตอบมาว่าทำไมคุณถึงไม่ยอมเป็นแฟนกับผม รู้ไหมว่าไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธผมมาก่อน คุณเป็นคนแรก และผมก็จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ด้วย”
รู้สิ... ก็หล่อเลิศจนน่าตกใจเช่นนี้ หล่อจนหล่อนแทบลืมหายใจ หากนางฟ้าบนสวรรค์ผ่านมาเห็นก็ต้องเหลียวหลังมองจนร่วงจากสวรรค์เลยเชียวแหละ
มาร์คอสหล่อเหมือนกับไม่ใช่คนจริงๆ ทุกสิ่งในร่างกายกำยำนั้นสะท้อนความสมบูรณ์แบบเยี่ยงชายชาตรีออกมาอย่างมหาศาล ความดิบเถื่อน แสนอันตรายอัดแน่นอยู่ในดวงตาสีทองอร่ามนั้นมากมายจนน่าตกใจ
เดนนิส โอซิล เจ้านายหนุ่มรูปหล่อของหล่อนก็หล่อระเบิดเช่นนี้ไม่ใช่หรือ แล้วทำไมหล่อนถึงได้เปลี่ยนใจมาคลั่งไคล้มาร์คอสได้ล่ะ ร้องถามตัวเองอยู่ภายในอกด้วยความเคลือบแคลงใจ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้
“คุณอันตรายเกินไปค่ะ”
“ผมไม่ใช่ผู้ชายอันตรายหรอก ผมใจดี... หากไม่ถูกขัดใจ”
“นั่นแหละค่ะ ฉันไม่รู้นี่ว่าคุณชอบอะไร บางทีอาจจะเผลอขัดใจคุณเข้าสักวันก็ได้ และอีกอย่างก็คือฉันแตกต่างจากคุณเกินไปค่ะ”
“แตกต่างยังไงครับ คุณมีสามขาหรือ” เขาใช้อารมณ์ขันได้อย่างถูกเวลาจริงๆ เพราะมันทำให้หล่อนรู้สึกผ่อนคลายลงได้มากทีเดียว
“ไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่สวย เฉิ่ม เชย แถมยังน่าเบื่ออีก ต่างจากคุณที่ทั้งหล่อ และฉันมั่นใจเหลือเกินว่าคุณต้องเป็นพวกมหาเศรษฐีแน่ๆ” คำพูดของสาวน้อยทำให้มาร์คอสระบายยิ้มออกมา ขณะกวาดมองไปทั่วดวงหน้านวลด้วยสายตาพึงพอใจ
ไม่อยากจะเชื่อว่ามหาเศรษฐีอย่างมาร์คอส โรเจอริโอ จะเกิดความรู้สึกพึงพอใจผู้หญิงที่ทุกคนต่างลงความเห็นว่าจืดชืด น่าเบื่อ และไม่ได้มีอะไรเทียบเคียงกับสตรีที่เขาเคยเชยชมบนเตียงเลยแม้แต่กระเบียดนิ้วเดียวมากมายขนาดนี้นะ
มันชักจะล้อเล่นกับความรู้สึกตัวเองไม่ได้แล้วสิ...
พเยีย ศุภกานต์คนนี้ มีบางอย่างที่เขาต้องรีบหลีกหนีให้ไกล หล่อนทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะเพียงแค่ได้สบตาเท่านั้น
“คุณรู้ได้ยังไงครับพเยียว่าผมเป็นเศรษฐี บางทีผมอาจจะเป็นยาจกก็ได้นะ”
“เพราะคุณแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพง และที่สำคัญยาจกไม่มีทางบินข้ามโลกมาถึงเมืองไทยได้หรอก ค่าตั๋วเครื่องบินแพงจะตาย”
หญิงสาวจับจ้องไปที่ไหล่กว้างกำยำของหนุ่มหล่อตรงหน้านิ่ง เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่มันมีระดับพอๆ กับที่เดนนิส โอซิล เจ้านายของหล่อนสวมใส่นั่นแหละ
“แล้วถ้าผมเป็นยาจก คุณจะยินดีเป็นแฟนกับผมหรือเปล่าล่ะพเยีย” สายตาสีทองอร่ามที่จ้องประสานมานั้นทำให้หญิงสาวไม่สามารถถอนสายตาไปมองสิ่งอื่นใดได้เลย
ถ้าเขาเป็นยาจกจริงๆ ก็คงจะเป็นยาจกที่หล่อที่สุดในโลกอย่างแน่นอน พเยียคิดอย่างมึนเมา
“ฉันไม่สนคนที่ฐานะอยู่แล้วค่ะ ขอแค่จริงใจ...”
“ก็เหมือนผมนั่นแหละ ผมไม่ได้มองผู้หญิงแค่ภายนอกเท่านั้น ผมมองถึงข้างใน...”
เขาตรึงสายตาของหล่อนเอาไว้ด้วยนัยน์ตาสีทองที่ตอนนี้กำลังเข้มจัด หญิงสาวเหมือนถูกสะกดด้วยอำนาจลึกลับบางอย่าง
“และตอนนี้ผมก็กำลังอ้อนวอนขอให้คุณเมตตาผม... เป็นแฟนกับผมนะพเยีย”
“แต่ว่าเราพึ่งรู้จักกัน...”
“บางทีพรหมลิขิตอาจจะขีดเส้นมาให้เราได้รักกันก็ได้นะ คุณเชื่อรักแรกพบหรือเปล่าล่ะ”
สาวน้อยเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึง หัวใจเต้นระรัวรุนแรง คำทำนายที่เคยได้รับมาเมื่อ 2 ปีก่อนกำลังจะเป็นจริงหรือนี่
“ฉันไม่เคยเชื่อ...”
“แต่ตอนนี้คุณต้องเชื่อแล้วล่ะ พเยีย... เพราะผมตกหลุมรักคุณตั้งแต่แรกเห็น”
ใบหน้าหล่อเหลาของมาร์คอส โรเจอริโอเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม ที่คนมองอย่างหล่อนไม่สามารถเข้าใจมันได้เลยว่ามันคือรอยยิ้มอะไรกันแน่ ดีใจ พอใจ หรือว่าสะใจกันแน่
“ตกลงนะ พเยีย...”
สุดท้ายหัวใจก็เอาชนะสมองได้อย่างราบคาบ “ค่ะ ฉันตกลง...” ตอบออกไปด้วยรอยยิ้มหวานฉ่ำ
“ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง...”
ดวงตาสีทองไม่หลงเหลือเยื่อใยใดๆ อยู่เลยยามที่ตอบออกมา แต่กระนั้นสาวน้อยก็ไม่มีทางได้เห็นมัน เพราะมัวแต่จมอยู่กับความขัดเขิน
และทุกอย่างในค่ำคืนนั้นก็จบลงด้วยการที่หญิงสาวปล่อยให้มาร์คอสจุมพิตตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่แสดงอาการขัดขืนใดๆ ออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังโอบกอดตอบสนองรสรักจากปากของคนตัวโตด้วยความเต็มอกเต็มใจอย่างน่าละอายอีกต่างหาก