ตอนที่ 8

1625 Words
พเยียไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเป็นอะไรไปกันแน่ ทำไมถึงได้ดูกระวนกระวายอยากให้เวลาเดินเร็วกว่านี้เหลือเกิน หรือหากเป็นไปได้หล่อนอยากให้ตอนนี้ถึงเวลาหกโมงเย็นเพื่อที่หล่อนจะได้ไปดินเนอร์กับมาร์คอส หนุ่มรูปหล่อนัยน์ตาสีทองอร่ามคนนั้นนัก หล่อนกำลังถูกมนต์ร้าย หรือมนต์ขลังจากพ่อมดผู้เรืองเดชคนไหนอยู่หรือเปล่านะ เอ้... หรือว่ามาร์คอสจะเป็นพ่อมดเสียเอง ใช่แน่เลย... ก็ตั้งแต่เห็นหน้าของเขา ได้สบตาสีทองคู่นั้น หล่อนก็เหมือนคนไม่มีสติ สมองโหยหาแต่เขาคนนั้นแต่เพียงผู้เดียว หล่อนไม่เคยมีอาการคลั่งไคล้ผู้ชายคนไหนมากมายแบบนี้มาก่อน ขนาดเดนนิส โอซิล หล่อนยังไม่เป็นเอามากขนาดนี้เลย โอ้... ตายล่ะ หล่อนคงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ภาพใบหน้าหล่อเหลาดูแสนอันตรายของมาร์คอสผุดขึ้นมาในสมองอีกครั้ง หลังจากที่หล่อนพึ่งสลัดออกไปได้เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเอง เขาหล่อมาก ตาดุแต่ก็สวยชวนมอง ริมฝีปากแสนเซ็กซี่และก็ร้อนมากๆ ด้วยยามที่แนบลงมาบนปากของหล่อน เขาดูลึกลับและน่าค้นหายิ่งนัก ยามที่เขาทอดสายตาคมกริบมองมายังหล่อน โลกทั้งโลกก็เหมือนจะหยุดหมุนไปด้วย สัญชาตญาณของนักล่าอันเก่งฉกาจสะท้อนออกมาจากดวงตาสีทองของเขา และมันก็มีผลทำให้หัวใจของหล่อนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง หรือว่านี่จะเป็นพรหมลิขิตกันนะ... พรหมลิขิตอย่างนั้นหรือ? สาวน้อยตาลอยหวนนึกไปถึงคำของหมอดูไพ่ยิปซีคนหนึ่งที่เคยทายทักเกี่ยวกับคู่ครองของตัวเองเมื่อ 2 ปีก่อนขึ้นมาในทันที ‘คู่ครองของแม่หนูจะเป็นหนุ่มอีกซีกโลกหนึ่ง’ ‘เป็นฝรั่งหรือคะ ชาติไหนคะ แล้วลูกครึ่งรวมด้วยหรือเปล่า’ ตอนนั้นถามออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ตามประสาของผู้หญิงที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องชู้สาวเลยแม้อายุจะเหยียบเลขสองมาสองปีกว่าแล้วก็ตาม ‘ไพ่บอกว่าเป็นคนอีกซีกโลกหนึ่ง แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นลูกครึ่งหรือเปล่า’ ‘ถ้าอยู่ไกลอย่างนั้นจะเจอกันได้ยังไงคะ หรือว่าหนูต้องบินไปหาเขา... แต่จะไปได้ยังไงล่ะหนูยังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นคนชาติไหน อีกซีกโลกหนึ่งมีตั้งเป็นร้อยๆ ประเทศ’ พเยียจำได้ว่าตอนนั้นตัวเองบ่นอุบเลยทีเดียว แถมยังไม่เชื่อซะเป็นส่วนใหญ่อีกต่างหาก และที่หลงมาดูก็เพราะว่าเพื่อนชวนมากหรอกนะ ‘เขาจะเป็นฝ่ายมาหาแม่หนูเองนั่นแหละ แต่การมาของเขาจะทำให้หนูเจ็บปวด’ ‘ถ้าเขาเป็นคู่แท้ของหนู ทำไมหนูต้องเจ็บปวดด้วยล่ะคะ หนูว่ามันชักจะมั่วไปกันใหญ่แล้ว’ ตอนนั้นหล่อนจำได้ว่าตัวเองรีบยกมือไหว้และลุกหนีไปอย่างเสียมารยาทเพราะไม่เชื่อในคำพูดของแม่หมอเจ้าของไพ่ยิปซีแม้แต่น้อย ‘ทุกอย่างถูกลิขิตมาแล้ว อีกไม่นานก็จะได้พบกัน และความรักท่ามกลางความเจ็บปวดก็จะเริ่มต้นขึ้น แม่หนูจะตกหลุมรักเขาเพียงแค่สบตา และจะไม่มีวันต้านทานเสน่หาของเขาได้’ แม้ว่าจะเดินออกมาไกลแล้วก็ตาม แต่เสียงของแม่หมอคนนั้นดังเข้ามาในหูจนได้ ตอนนั้นจำได้ว่าตัวเองหยุดเดินและรีบหันกลับไปตั้งใจจะตอบโต้ แต่ก็ประหลาดใจสุดขีดเมื่อแม่หมอที่พึ่งพูดไล่หลังของหล่อนอยู่เมื่อครู่นี้อันตรายหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือแต่โต๊ะเตี้ยที่มีไพ่วางอยู่เท่านั้น “หรือว่าจะเป็นจริงกันนะ... บราซิลก็อยู่อีกซีกโลกหนึ่งนี่...” พึมพำออกมาอย่างใช้ความคิด สมองยังจดจำดวงตาสีทองอร่ามของมาร์คอสติดตา แรงดึงดูดที่เขามีต่อหล่อนช่างมีอำนาจมหาศาลเหลือเกิน “หรือว่ามาร์คอสจะเป็นผู้ชายคนนั้น...” “พูดอะไรอยู่คนเดียวหรือ พเยีย” เสียงเรียกทุ้มหูที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้พเยียที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเองสะดุ้งโหยง ก่อนจะรีบรวบรวมสติของตัวเองให้มั่นคง และหันกลับไปเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงด้วยท่าทางกริ่งเกรง “เอ่อ... คือว่า...” “ถามว่ากำลังพูดอะไรอยู่คนเดียวไง พเยีย...” หญิงสาวจ้องมองหนุ่มสุดหล่อเบื้องหน้าที่โน้มตัวเข้ามาหาด้วยความตื่นตกใจ ก่อนจะรีบขยับถอยหลังออกห่างอย่างรวดเร็ว “พเยีย... เอ่อ... พูดไปเรื่อยเปื่อยน่ะค่ะ ว่าแต่เจ้านายมีอะไรกับพเยียหรือคะถึงได้มาหาถึงฝั่งซ้ายแบบนี้” เดนนิสหัวเราะออกมากับการเอาตัวรอดของเลขาสุดเฉิ่มของตัวเอง ก่อนจะเคลื่อนตัวไปนั่งบนโซฟาหนังแท้สีฟ้าจัดซึ่งเป็นสีเดียวกับนัยน์ตาของเขาด้วยท่าทางสง่างาม นี่หากเป็นเมื่อก่อนหล่อนคงจะหัวใจเต้นเร็ว และแทบเป็นลมไปกับท่วงท่าและความหล่อร้ายกาจของเดนนิส โอซิลไปแล้ว แต่ตอนนี้หล่อนกับสามารถเงยหน้าสู้สายตาคมกริบสีฟ้าจัดของเขาได้อย่างไม่มีท่าทางขัดเขินใดๆ อีก ก็สมองของหล่อนตอนนี้มุ่งไปอยู่ที่หนุ่มตาสีทองอย่างมาร์คอสเพียงคนเดียวนี่ ทำไมหล่อนถึงได้โลเลนักนะ... “ไม่ได้เจอหน้าคุณตั้ง 3 วัน คิดถึงน่ะ...” “อะไรนะคะ? คิดถึง?” ร้องออกไปด้วยน้ำเสียงแปร่งแปลกจนตัวเองยังแทบจะจำไม่ได้เลยว่านั้นคือเสียงของหล่อนเอง เดนนิสพยักหน้าช้าๆ ยิ้มกว้างมอบมาให้ “ใช่ คิดถึงมากด้วย ปกติเราต้องเห็นหน้ากันทุกวันนี่ เอ่อ แล้วเย็นนี้ว่างหรือเปล่า ผมอยากชวนคุณไปทานมื้อค่ำนอกบ้าน” เอาแล้วไง โอ๊ย... อยากจะบ้าตาย ทำไมผู้ชายสองคนถึงเกิดอยากจะมาชวนหล่อนไปดินเนอร์พร้อมๆ กันด้วยนะ แล้วนี่หล่อนจะทำยังไงดี รับปากมาร์คอสไปแล้วด้วย และหัวใจของหล่อนก็อยากไปกับเขาเสียด้วยสิ แต่ก็อดเกรงใจเดนนิสไม่ได้ เพราะนี่ถือว่าเป็นคำชวนดินเนอร์ครั้งแรกในรอบ 5 ปีจากปากของเดนนิสเชียวแหละ “เอ่อ... แต่วันนี้เจ้านายมีนัดกับคุณมารีน่าไม่ใช่หรือคะ มื้อค่ำและยาวถึงเช้าด้วย” “ความจำคุณดีจนผมอดนับถือไม่ได้เลยนะพเยีย แต่ไม่ต้องเป็นกังวลหรอก ผมยกเลิกนัดกับมารีน่าไปแล้ว วันนี้ผมอยากทำตัวสบายๆ กับเลขาจอมเชยของตัวเองสักวัน...” เดนนิสมองพเยียด้วยสายตาลึกซึ้งแบบที่ไม่เคยมองมาก่อน ทำเอาสาวเจ้าหนาวๆ ร้อนๆ ขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด “คุณจะให้เกียรตินั้นกับผมได้ไหมพเยีย...” คนตัวโตลุกขึ้นยืน และเดินเข้ามาหา ก่อนที่มือใหญ่จะฉวยข้อมือบางของหล่อนเข้าไปกุมเอาไว้ ก่อนจะยกมันขึ้นจุมพิตเบาๆ ที่หลังมือ พเยียตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบชักมือหนีทันที “เอ่อ เจ้านายกินยาผิดหรือเปล่าคะเนี่ย นี่พเยียนะคะ ไม่ใช่ผู้หญิงคนอื่นของเจ้านาย...” พเยียเอ่ยเตือนเสียงไม่ปกตินัก รู้สึกอึดอัดเหลือเกินกับการกระทำแบบนี้ของผู้ชายตรงหน้านัก เดนนิสไม่เคยแสดงท่าทางรุ่มร่ามแบบนี้กับหล่อนมาก่อนเลย และหากเขาแสดงมันออกมาก่อนที่หล่อนจะได้เจอกับมาร์คอสหล่อนก็คงจะไม่รู้สึกแย่แบบนี้ “หรือว่าคุณมารีน่าไม่ถูกใจเจ้านายคะ” “ตอนนี้ไม่มีใครถูกใจผมทั้งนั้นแหละ...” คนตัวโตถอนใจออกมาแรงๆ ยกมือใหญ่ขึ้นเสยผมด้วยท่าทางหงุดหงิดงุ่นง่าน ขณะก้าวถอยหลังออกไปหลายก้าว แต่กระนั้นสายตาคมกริบสีฟ้าจัดก็ยังคงจับจ้องมาที่หล่อนเขม็ง “ไปแต่งตัวเถอะ ผมให้เวลาครึ่งชั่วโมง...” “แต่ว่า... พเยีย...” “จะบอกว่ามีนัดแล้วอย่างนั้นหรือ” หนุ่มหล่อแค่นหัวเราะ ก่อนจะพูดต่อออกมา “ผมไม่มีทางเชื่อหรอกน่า คุณไม่เคยเดท ไม่เคยมีแฟน ดังนั้นการดินเนอร์ครั้งนี้ของเรา คุณจะถือว่าเป็นเดทแรกของตัวเองก็ได้นะ ผมไม่ว่า...” สรุปเองเสร็จสรรพ จากนั้นก็หมุนตัวเดินลิ่วๆ กลับไปยังอาณาจักรของเขาในอีกฝั่งหนึ่งอย่างสง่างาม ไม่สนใจเลยว่าคู่สนทนาอย่างหล่อนจะรู้สึกเช่นไร หากเป็นเมื่อก่อนหล่อนคงกระโดดดีใจจนตัวลอย แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว หัวใจรู้แล้วล่ะว่าตัวเองต้องการใคร... ‘มาร์คอส... ฉันขอโทษ’ ความรู้สึกผิดอัดแน่นอยู่ในอก แต่หล่อนจะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อผู้ชายจอมเผด็จการอย่างเดนนิส โอซิลไม่มีทางยอมให้หล่อนขัดคำสั่งอย่างแน่นอน แล้วมาร์คอสล่ะ เขาจะนั่งรอหล่อนอยู่ที่สวนสาธารณะนั่นทั้งคืนไหม... ไม่หรอกแค่ 10 นาทีหากไม่เห็นหล่อนเขาก็คงจากไปแล้วล่ะ... หญิงสาวคิดหาคำตอบที่มันจะทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น รู้สึกผิดน้อยลงขึ้นมาไว้แน่นอก ก่อนจะเดินคอตกเข้าห้องนอนเพื่อไปเตรียมตัวออกไปดินเนอร์กับเจ้านายหนุ่มหล่อของตัวเองด้วยท่าทางไร้ชีวิตชีวา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD