“แกควรเลิกทำตัวแบบนี้ได้แล้วนะ” เสียงชายหนุ่มเอ่ยตำหนิผู้เป็นน้องออกไปอย่างเหนื่อยใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เป็นห่วง แต่บางทีการแสดงออกความเป็นห่วงมากเกินไป กลับยิ่งทำให้คนตรงหน้าอ่อนแอมากเท่านั้น
“พี่ไม่เคยรักใคร พี่ก็พูดได้สิ” เสียงราบเรียบเอ่ยออกมาอย่างคนไม่มีชีวิตชีวา สำหรับบางคน การผิดหวังกับความรักมันอาจจะเจ็บนิดเดียว ไม่นานก็หาย แต่สำหรับชายหนุ่มตรงหน้าเขากลับทำใจไม่ได้ เพราะนั่นเป็นรักแรกของเขา และเขาก็หวังมาก
“มันไม่เกี่ยวว่าเคยรักหรือไม่เคย แต่สิ่งที่แกต้องทำคือรักตัวเอง!” ผู้เป็นพี่ชายยังคงพูดออกมาเหมือนเดิม เพราะเป็นห่วงถึงได้พูด เพราะเขาเฝ้ามองน้องชายของเขามาตลอด เขาคิดว่าจะดีขึ้น แต่ไม่เลย ยิ่งนับวันอาการยิ่งแย่ แล้วพาลให้พ่อกับแม่เป็นห่วง โดยเฉพาะผู้เป็นแม่ที่เห็นลูกกินไม่ได้นอนไม่หลับ ยิ่งกังวลมากกว่าเดิมหลายเท่า
“.....” ไร้เสียงตอบรับจากคนที่เขาสนทนาด้วย เพราะชายหนุ่มผู้เป็นน้องชายเอาแต่นั่งกอดรูปหญิงสาวที่ตนรักไม่คลาย
มันอาจจะมองดูเป็นเรื่องตลกและไร้สาระสำหรับหลายๆคน ที่คนๆหนึ่งเสียผู้เสียคนเพราะความรัก แต่ก็นั่นแหละ ความเข้มแข็งของคนไม่เหมือนกัน ยิ่งเป็นคนที่จริงจังกับทุกอย่างชายหนุ่มคนนี้แล้วด้วย ทำให้ความผิดหวังในสิ่งที่เขาหวังมากมันกลายเป็นสิ่งที่พังทุกอย่างไปจนเขาเสียศูนย์ไปเลย
“แกรักคนอื่นได้ แต่แกต้องรักตัวเอง แล้วแกอย่าลืม ว่ายังมีพ่อแม่ที่เป็นห่วงแกมาก แกจะปล่อยให้ผู้หญิงแค่คนเดียวทำให้ทั้งแกและแม่ป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลไหม แกถึงจะคิดได้ว่าตัวเองต้องทำอะไร” ผู้เป็นพี่ชายยังคงพูดออกไปหวังให้น้องชายของเขาคิดได้
“.....” แล้วก็ยังคงไร้เสียงตอบรับจากผู้เป็นน้องชายเหมือนเดิม จนเขาไม่รู้เลยว่าน้องเขาคิดได้หรือรับรู้สิ่งที่เขาพูดบ้างหรือเปล่า แต่เขาก็เลือกจะพูดต่อ เพื่อตัวของน้องชาย และความสงสารผู้เป็นแม่
“แกควรจะรีบจัดการหามหาลัยได้แล้วนะไอ้เมฆ อีกไม่ถึงเดือนมหาลัยก็จะเปิดแล้ว ถ้าแกยังมัวทำตัวซังกะตายให้แม่ต้องทุกข์ใจแบบนี้อีก แกไม่ควรเรียกตัวเองว่าเป็นลูกได้อีก!” ผู้เป็นพี่ชายพูดขึ้นทั้งความหงุดหงิด สงสาร จัดใจ มันปนเปกันไปหมด ใจหนึ่งเขาก็อยากไปกระชากน้องชายตัวเองขึ้นมาต่อยสักสามสี่หมัดเผื่อให้มันคิดได้ แต่อีกใจก็ทำไม่ลงเพราะดูสภาพน้องตัวเองตอนนี้ก็แย่เอาการ
เมื่อเขาเห็นว่าน้องชายตัวเองไม่ตอบอะไรกลับ และยังคงนั่งนิ่งมองออกไปยังหน้าต่างด้านนอก เขาก็เลือกจะไม่พูดอะไรอีก แต่สิ่งที่เขาทำคือ การเดินไปค้นหัวเตียงของน้องชายตัวเองด้วยความเงียบเพื่อไม่ให้เจ้าของห้องรู้ตัว ก่อนจะเขาจะเจอกับสิ่งที่เขากำลังต้องการ
เขาหยิบรูปภาพแผ่นหนึ่งติดมือก่อนจะออกจากห้องน้องชายตัวเองออกมาแล้วจ้องมองคนในรูปนั้นด้วยความเกลียดชัง ทั้งที่เขาควรจะปล่อยให้เป็นเรื่องความรักของเด็กๆ ได้รู้จักรัก รู้จักเจ็บ จะได้เป็นประสบการณ์ชีวิตแล้วเรียนรู้จากสิ่งพวกนี้เพื่ออนาคต แต่ตอนนี้เขาต้องเปลี่ยนความคิดนั้นแล้ว เพราะยิ่งเห็นน้องชายไม่เป็นอันทำอะไร บวกกับแม่ที่ต้องระทมใจที่ทนมองสภาพลูกชายคนเล็กแต่กลับช่วยอะไรไม่ได้ มันยิ่งทำให้เขาอยู่นิ่งไม่ได้
“ฉันจะทำให้เธอได้รู้จักความเจ็บปวดสักครั้งในชีวิต” เขาพูดขึ้นกับรูปภาพด้วยสายตาดุดันก่อนจะขยำมันด้วยความโกรธ โกรธทั้งน้องตัวเอง โกรธทั้งผู้หญิงที่น้องตัวเองรัก