รินลณีกำลังนั่งก้มหน้าก้มตารับกรรมที่ตัวเองก่อ และคนที่รับกรรมไปพร้อม ๆ กับเธอไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือระพีพัฒน์ คู่ขาแฟนเก่าของเธอนั่นเอง ใครจะคิดว่าแผนการทั้งหมดของเธอดันกลายมาเป็นอย่างนี้ ถ้าไม่เรียกว่าซวยก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว
“คุณระพี คุณพรรณี เราจะเอายังไงกันดีครับ” กิตติ พ่อของรินลณีนั่งหน้าบอกบุญไม่รับ ถามความคิดเห็นของระพีและพรรณี พ่อแม่ของชายหนุ่มที่นั่งคุกเข่าอยู่กลางห้องรับแขกคู่กับเธอ
ระพีพัฒน์ หรือเอกซ์เทิร์นพัฒน์ นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ชั้นปีที่หกซึ่งเป็นปีสุดท้าย และกำลังจะได้เป็นว่าที่คุณหมออยู่รอมร่อแล้ว แต่กลับต้องมามีเรื่องวุ่นวายกับยายตัวแสบที่นั่งข้าง ๆ เขานี่แหละ
ก่อนที่จะมีใครพูดอะไรออกมา ชายหนุ่มก็ตัดสินใจเอ่ยขึ้น
“ผมจะรับผิดชอบน้องเองครับ” เสียงที่เปล่งออกไปช่างไร้อารมณ์ จะให้ทำอย่างไรได้ ก็ในเมื่อภาพมันฟ้องเสียขนาดนั้น
ใครได้เห็นก็คงจะคิดไปถึงไหนต่อไหน ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว มันก็ต้องไปให้สุด…ชายหนุ่มบอกกับตัวเอง
ระพีกับพรรณีถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเพราะกลัวว่าลูกชายตัวดีจะไม่ยอมรับผิดชอบสาวน้อยตรงหน้า ไม่อย่างนั้นทั้งสองครอบครัวคงมองหน้ากันไม่ติด เหตุเพราะเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียงและนับถือกันมานาน
ระพีและพรรณีอาศัยอยู่ที่นี่มายี่สิบห้าปีแล้วตั้งแต่แต่งงานกันใหม่ๆ จนเมื่อสิบปีที่แล้วกิตติและสายไหมย้ายเข้ามาอยู่บ้านข้างๆ ความเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียงจึงสนิทกัน
เด็กทั้งสองก็สนิทสนมกันตั้งแต่เด็ก มาห่างๆ กันก็ตอนโตที่ต่างคนต่างเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ที่สำคัญสาวน้อยข้างบ้านมีแฟนเป็นน้องรหัสของลูกชาย แล้วใครจะคิดว่าสุดท้ายทั้งสองครอบครัวจะได้มาดองกันแบบไร้วี่แววแบบนี้
“งั้นก็ให้จดทะเบียนกันไปก่อน รอให้หมอพัฒน์เป็นหมอเต็มตัวแล้วค่อยจัดงานแต่งดีมั้ย” สายไหมเสนอขึ้นมาหลังจากนั่งลุ้นอยู่นาน ไหนๆ ข้าวสารก็กลายเป็นข้าวสุกแล้ว เธอจะพูดอะไรได้ล่ะ
ในเมื่อระพีพัฒน์ก็เต็มใจรับผิดชอบ แถมยังได้ลูกเขยเป็นหมอ แม่ยายคนไหนจะไม่อยากได้บ้าง และยิ่งเป็นหมอพัฒน์ด้วยแล้ว บอกได้คำเดียวว่าลูกสาวเธอโชคดีจริง ๆ
“แม่ ไม่เอานะ หนูไม่อยากแต่ง” รินลณีรีบตอบทันที จะให้เธอแต่งงานกับเขาได้อย่างไร ในเมื่อเธอกับเขาไม่ได้รักกันสักหน่อย แถมเขายังเป็นเกย์อีก แล้วเธอต้องมานั่งระแวงว่าผัวตัวเองจะไปเป็นเมียใครอีก ไม่เอาด้วยหรอก แค่คิดก็สยองแล้ว
พอรินลณีนึกภาพที่ระพีพัฒน์ยืนจูบอยู่กับนาวิน ไอ้แฟนเก่าเฮงซวยของเธอ เธอก็ยิ่งโมโห
“รินณี...ทำตามที่ผู้ใหญ่พูดเถอะ” ระพีพัฒน์ยื่นมือไปจับและมองหน้าหญิงสาว คนอื่นคงจะคิดว่านี่คือสายตาแห่งความรัก ความหวังดี
แต่...
มันไม่ใช่เลย มันคือสายตาของซาตาน เขากำลังจะแก้แค้นเธอ เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้ว่าเขาเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกันเลยยอมแต่งงานกับเธอ เพื่อใช้เธอบังหน้า...ไม่นะ เธอไม่ยอมให้ชีวิตอับเฉาแบบนั้นหรอก
ไม่อยากโดนใช้เป็นเครื่องมืออีกแล้ว เกือบสองปีที่เธอโดนหลอก มันทรมานนะ ทั้งเสียใจและเสียเวลา สู้เอาเวลาไปตามหารักแท้ไม่ดีกว่าเหรอ แล้วนี่อะไร ไม่นะ...ไม่ ใครก็ได้ช่วยเอาช่วงเวลาที่หายไปคืนมาให้เธอที
“น้อง!” ระพีพัฒน์มองหน้าหญิงสาวพร้อมกับพยักหน้าว่าให้ยอมทำตามที่ผู้ใหญ่บอก
รินลณีกวาดตามองสีหน้าคาดหวังของพ่อแม่เของขาและพ่อแม่ของเธอแล้ว คำพูดปฏิเสธที่มาจ่อถึงปากจึงได้แต่กล้ำกลืนลงไป จำต้องข่มใจและก้มหน้าตอบตกลง
เมื่อคิดตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้ว เธอจะทำอะไรได้ นอกจากต้องให้เรื่องมันจบแบบนี้ ชีวิตเธอคงหนีพวกเก้งกวางไม่พ้น ทั้งที่เพิ่งอกหักจากแฟนเก่าที่เธอจับได้ว่าเขาเป็นเก้งไปหมาด ๆ หลังจากนั้นอาทิตย์เดียว เธอก็ได้สามีตีทะเบียนเป็นผัวเก้ง และยังเป็นผัวของแฟนเก่าเธอ...นอกจากงงชีวิตแล้ว เธอยังงงในการลำดับความสัมพันธ์ของตัวเอง
เธอไม่น่าทำอะไรพิเรนทร์ ๆ นั่นเลย….ฮือ...ฮือ...
ชีวิตของรินลณีต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลเพราะรูปบ้า ๆ นั่น
ย้อนไปเมื่อคืนวาน
‘รินณี แกจะมาหาฉันที่คอนโดไหม’ เสียงของภัคณิกาถามเพื่อนสาวคนสนิท ทั้งสองอยู่บ้านติดกันและอายุเท่ากัน รินลณี หรือรินณี นักศึกษาวิศวกรรมโยธาชั้นปีที่สอง วันนี้เพื่อนคงเป็นห่วงเธอมาก เมื่อได้รับรู้ว่าแฟนของเธอนอกใจ
หญิงสาวพยายามข่มความโกรธ เธอไม่รู้ว่าจะโกรธใครดี ระหว่างนาวิน แฟนที่คบหากันมาตั้งแต่เธออยู่ปีหนึ่ง เขาเป็นรุ่นพี่ปีห้า คณะแพทยศาสตร์ แถมพ่วงตำแหน่งเดือนคณะ และยังเป็นน้องรหัสพี่ชายข้างบ้านของเธออีกด้วย ทุกอย่างมันเหมือนจะไปได้สวย เพราะเขาไม่เจ้าชู้ ไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงให้เธอลำบากใจ ไม่มือไม้ไวกับเธอถึงจะมีโอกาสหลายหน
เป็นความรักที่ดีจนเธอคิดว่าชีวิตนี้คงแต่งงานกับผู้ชายคนนี้แหละ แต่เวลาเกือบสองปีของเธอต้องจบลงเมื่ออาทิตย์ก่อน แผลรักยังสดใหม่ เธอเองก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ แต่กลับมาโดนเก้งหักอก ทำไมชีวิตมันถึงได้บัดซบแบบนี้ เขาหลอกเธอได้อย่างไรตั้งเกือบสองปี สองปีเลยนะโว้ย สองปีมีตั้งยี่สิบสี่เดือน เจ็ดร้อยสามสิบวันเลยนะ หมื่นกว่าชั่วโมงเลยนะที่เธอเสียไป
ถ้าวันนั้นไม่ได้เห็นกับตา ก็คงคิดว่าที่เขาไม่แตะต้องเธอเลยเพราะเป็นสุภาพบุรุษ
หึ ๆ ...ที่ไหนได้ เขาไม่ได้ชอบเธอ
ไม่ได้ชอบแล้วมาคบทำไม!
ไม่ได้ชอบแล้วจะมาทนคบกันได้อย่างไรตั้งนานขนาดนี้
แล้วเขาก็มากระชากเธอออกจากทุ่งดอกลาเวนเดอร์ด้วยเหตุการณ์นั้น
แฟนเธอกับพี่ชายข้างบ้านจูบกัน!!
สิ่งที่รินลณีคิดมาตลอดว่านาวินไม่ทำอะไรเธอเพราะเขาอยากให้คืนแรกของเราเกิดขึ้นในวันเข้าหอ...หึ! ห้องหอบ้าบออะไรไม่มีหรอก คิดแล้วก็ยิ่งแค้น ไม่รู้สองคนนั้นแอบคบกันลับหลังเธอมานานแค่ไหนแล้ว
รินลณีได้แต่กักเก็บความคับแค้นใจนี้มาตลอดทั้งสัปดาห์
คอยดูนะ รินลณีคนนี้แหละจะทำให้พวกเขาเลิกกัน คิดว่าจะอยู่กันอย่างมีความสุขรึ...ฝันไปเถอะ
‘โอเค ณิกา เดี๋ยวเราไปหา’ รินลณีไม่อยากอยู่คนเดียว อย่างน้อยการไปหาภัคณิกาก็ช่วยให้เธอระบายความอัดอั้นตันใจลงได้บ้าง แต่เธอก็พูดอะไรมากไม่ได้ เพราะคู่ขาของอดีตแฟนตัวดีคือระพีพัฒน์ พี่ชายของภัคณิกานั่นเอง เธอไม่อยากบอกเรื่องนี้กับภัคณิกาเพราะอีกฝ่ายเข้าใจว่าพี่ตัวเองดี เท่ หล่อ เหมาะกับการเป็นหลัวของสาวทั้งประเทศ ขนาดเธอเองยังแอบเสียดายเลย
พี่หมอพัฒน์...นั่นเดือนมหาวิทยาลัยเลยนะ!
...
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน ซึ่งเป็นวันเกิดของนาวิน รินลณีตั้งใจจะไปเซอร์ไพรส์วันเกิดแฟนหนุ่มถึงโรงพยาบาล ซึ่งวันนั้นเขาไปช่วยงานอาจารย์หมอ โดยไม่คิดว่าจะโดนเขาเซอร์ไพรส์กลับด้วยฉากยืนจูบระหว่างนาวินกับระพีพัฒน์ตรงบันไดหนีไฟ และเธอคงไม่มีทางได้เห็นภาพนี้ถ้าไม่แอบขึ้นมาทางบันไดหนีไฟเพราะจะเซอร์ไพรส์เขา
‘พี่วิน!...นี่มันอะไรกัน!!’
รินลณีโพล่งออกมาอย่างตกใจ หัวใจเธอเต้นแรงเหมือนมันจะหลุดออกมาจากอก มึนชาไปทั้งร่าง แทบไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะยืน ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะมาเห็นภาพแบบนี้
นาวินเองก็ตกใจพอกัน แต่ภาพที่เธอเห็น เขาคงปฏิเสธไม่ได้เพราะมันชัดเจนมากขนาดนี้...ชายหนุ่มได้แต่พูดกับเธอว่า ‘ขอโทษ...รินณี เราเลิกกันเถอะ’ แล้วหันไปพูดกับอีกคนโดยไม่สนใจเธอเลย ‘พี่พัฒน์ ผมชอบพี่’
‘ไอ้เลว!’ รินลณีด่าออกไปทั้งน้ำตา ขณะระพีพัฒน์ยืนเอามือล้วงกระเป๋าเสื้อกาวน์ด้วยท่าทีเฉยเมย นี่มันอะไรกัน ชะนีแบบเธอช่างอยู่ยากจริง ๆ เธอวิ่งลงบันไดออกไปจากสถานการณ์ตรงนั้นทันที ขึ้นรถไฟฟ้ากลับคอนโดมิเนียมโดยไม่สนใจเสียงเรียกของนาวิน ได้แต่นอนร้องไห้กับภาพอดีตของเธอกับนาวินที่ไหลผ่านเข้ามาไม่หยุด
เพราะเขาเป็นเกย์ใช่ไหม เธอกับเขาเลยเข้ากันได้ดี ไม่ว่าจะไปทำผม ช็อปปิง เขาไม่เคยบ่น ไม่เคยว่ามันน่าเบื่อ
เพราะเขาเป็นเกย์ใช่ไหม เขาจึงไม่เคยจูบเธอ มากสุดคือหอมแก้ม เธอคิดมาตลอดว่าเขารักเลยไม่อยากให้เธอเสียหาย
เพราะเขาเป็นเกย์ใช่ไหม เขาถึงไม่ทำอะไรเธอทั้ง ๆ ที่มีโอกาสตั้งมากมาย
เพราะเขาเป็นเกย์ใช่ไหม ถึงใช้เธอเป็นตัวหลอกพ่อแม่ของเขา
เพราะอย่างนี้สินะ นาวินถึงชอบพูดถึงระพีพัฒน์ พี่รหัสของเขาบ่อย ๆ และคอยถามเรื่องราวของระพีพัฒน์ในอดีตตลอด เธอก็คิดว่าเขาคงอยากรู้เพราะอีกฝ่ายเป็นพี่รหัสและเป็นพี่ชายข้างบ้านของเธอ
ยิ่งคิดหาเหตุผลก็ยิ่งแค้นนาวินเข้าไปอีก ตอนที่เรียนปีหนึ่งมีคนมาจีบเธอมากมาย แต่เธอเลือกคบกับนาวินเพราะว่าเขาดูอบอุ่น อ่อนหวาน เข้าใจผู้หญิง ใช่สินะ ก็เขามีจิตใจเป็นผู้หญิงนี่นา เธอไม่ได้โกรธไม่ได้รังเกียจที่เขาเป็นเกย์ สมัยนี้แล้ว มันเป็นเรื่องรสนิยมของคนอื่น เธอเข้าใจ แต่โกรธที่นาวินหลอกลวงเธอ
เธอแค้นเขาทั้งสองคน พวกเขาจะต้องเจ็บปวดเหมือนที่เธอได้รับอยู่ตอนนี้ คิดจะมาหักอกชะนีอย่างรินณี คอยดูเถอะ เธอจะหาโอกาสเล่นงานทั้งคู่ให้สาสมกับสิ่งที่พวกเขาทำ
…
‘รินณี...ริน เป็นอะไรรึเปล่า เงียบไปเลย ปล่อยเราพูดคนเดียวอยู่ได้’ เสียงของภัคณิกาเรียกรินลณีให้ตื่นจากภวังค์
‘ณิกา เท่านี้ก่อนนะ เดี๋ยวเรารีบไปหา’
คอนโดมิเนียมของเธอกับภัคณิกาอยู่ใกล้กัน เดินเพียงไม่กี่ช่วงตึกก็ถึง แต่เมื่อเทียบกันแล้ว คอนโดมิเนียมของภัคณิกานั้นหรูหราและกว้างกว่ามากโข เพราะคอนโดของเธอแม้จะมีสองห้องนอนก็จริง แต่มีแค่ชั้นเดียว ส่วนห้องของภัคณิกาเป็นแบบสองชั้น โดยในส่วนข้างบนมีพี่ชายสุดที่รักของภัคณิกาครอบครอง หากไม่ใช่คนรวยจริงก็คงซื้อไม่ได้ แบบนี้ถ้าครอบครัวประกอบกิตกุลไม่รวยแล้วจะเรียกว่าอะไร
เพียงไม่นานรินลณีก็เดินเข้ามาในห้องของภัคณิกาเพราะเธอมีคีย์การ์ดที่อีกฝ่ายให้ไว้
ทั้งสองครอบครัวสนิทกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ต่างมีคีย์การ์ดของกันและกัน
‘รินณี แกโอเคไหมวะ’ ภัคณิกามองหน้าเพื่อนที่ดูหม่นหมอง เบ้าตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า ดวงตาบวมช้ำ ดูก็รู้ว่าร้องไห้มาอย่างหนัก
‘ฉันโอเค วันนี้ไม่เมาไม่เลิกรา’ รินลณีตั้งใจจะเมาประชดรักให้เต็มที่
‘เออ วันนี้แกค้างกับฉันนี่ละ ปิดเทอมแล้วด้วย’ ภัคณิกาพอจะรู้เรื่องราวของเพื่อนรักบ้างว่าถูกเก้งหลอก จึงอดสงสารเพื่อนไม่ได้จริง ๆ
‘แล้วพี่พัฒน์ล่ะ’ รินลณีเอ่ยถามเพื่อน เพราะเธอไม่ได้มาแค่ดื่มกับเพื่อนเท่านั้น แต่กะจะมาแก้แค้นด้วย คิดว่ามาหลอกกันแล้วจะหนีไปมีความสุขกันสองคนเหรอ คนอย่างรินลณีไม่ทางปล่อยไปง่ายๆ หรอก
งานนี้ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!
‘พี่พัฒน์อยู่บนห้องแน่ะ น่าจะนอนละ เมื่อคืนเห็นว่าไม่ได้นอนเลย มีอุบัติเหตุรถชน คนไข้ฉุกเฉินเยอะกว่าปกติ’
‘แล้วเราดื่มกันจะรบกวนพี่เขาไหม’ รินลณีแสร้งทำเป็นเกรงใจ
‘โอ๊ย! รินณี แกก็รู้ว่าพี่ชายฉันเวลาหลับนึกว่าซ้อมตาย ดื่ม ๆ ไปเถอะ ไม่ต้องสนใจหรอก ไม่เมาไม่เลิกรา’
เรื่องหลับหรือซ้อมตาย อันนี้รินลณีรู้ดีเพราะว่าเคยแกล้งเขาหลายครั้งตอนหลับ สมัยทั้งสองยังอยู่ที่บ้าน ตอนนั้นก็เหมือนจะสนิทกันนะ แต่มาห่างกันตอนเธอเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งแล้วมีแฟนนี่แหละ
‘โอเค้ เต็มที่ วันนี้ไม่เมาไม่เลิก’ รินลณีตอบรับพร้อมทั้งจับมือภัคณิกาเหมือนเป็นคำมั่นสัญญาระหว่างกัน
‘ตกลงไอ้เก้งอีกตัวนั่น...มันคือใครวะ’ เสียงภัคณิกาอ้อแอ้เต็มที หลังจากดื่มไวน์ไปเกือบหมดขวด
‘แกไม่ต้องรู้หรอก อย่ารู้เลย ฉันไม่อยากพูดถึง’ รินลณีว่า ตาก็เหม่อมองออกไปนอกตัวอาคารซึ่งข้างหน้าคือวิวมหาวิทยาลัยในตอนกลางคืน คอนโดมิเนียมของเพื่อนเธอวิวดีจริง ๆ
‘รินณี แกโอเคจริงนะ’ ภัคณิกาถามย้ำ
‘อืม...ก็ยังเจ็บอยู่’ รินลณียอมรับกับเพื่อน เธอยังเจ็บอยู่ จะไม่เจ็บได้อย่างไร แผลใจยังสดขนาดนี้
‘ไม่เป็นไรนะเพื่อนรัก ผู้ชายมีมากกว่าฝูงลิง’
‘อืม แต่ผู้ชายที่เป็นเดือนคณะก็หาได้ไม่ง่ายนะแก’ รินลณีแกล้งเย้าเพื่อนกลับไป
‘ชอบผู้ชายหน้าตาก็งี้แหละ เลยโดนหลอก’ ภัคณิกาสรุปพร้อมกับเบ้หน้า
‘อืม’ รินลณีครางรับตามที่เพื่อนว่า เธอชอบคนหน้าตาดีอย่างที่เพื่อนว่านั่นแหละ…หล่อมากก็เสี่ยงสูง
เวลาผ่านไป แม้สองสาวจะดื่มกันหนัก แต่คนที่เมาจนฟุบไปมีแค่ภัคณิกา สาวเอกการละครหรือจะมาดื่มสู้เด็กวิศวะอย่างรินลณี เมื่อเห็นอีกฝ่ายหลับไปแล้ว รินลณีจึงลากเพื่อนขึ้นไปนอนบนโซฟาตัวยาวข้าง ๆ ที่พวกเธอนั่งดื่มกันเพื่อให้นอนสบายขึ้น คนมีแผนการในหัวยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์...
ไอ้เก้งบ้าแฟนเก่าเธอมันต้องเจออะไรแบบนี้
แกร๊ก!...เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น แต่ไม่ใช่ห้องนอนของภัคณิกา กลับเป็นห้องนอนของระพีพัฒน์ แสงจากนอกหน้าต่างทำให้เห็นว่าเขานอนอยู่ใต้ผ้าห่มหนา
สาวทั้งมหาวิทยาลัยคงเสียใจกันน่าดู ถ้ารู้ว่าที่แท้หมอพัฒน์ก็ชอบไม้ป่าเดียวกัน...หญิงสาวได้แต่บ่นในใจ แอบแง้มดูใต้ผ้าห่ม เป็นจริงอย่างที่เพื่อนเธอเคยบอกว่าพี่ชายไม่ชอบใส่อะไรนอน รินลณีจัดการเสื้อผ้าของเธอออกจากร่าง เหลือเพียงชุดชั้นในลายลูกไม้สีดำ จากนั้นก็พาตัวเองเข้าไปใต้ผ้าห่ม
‘อืม’ เสียงชายหนุ่มร้องครางเหมือนคนละเมอ
‘อุ๊ย!’ หญิงสาวอุทานตกใจเล็กน้อยเพราะเขาเอี้ยวตัวมากอดเธอไว้แน่น ใบหน้าของเขาซุกมาตรงอกนุ่มหยุ่นให้ใจสาวเต้นแรง
เลือดลมสูบฉีดไปทั่วร่าง คิดเข้าข้างตัวเองว่าคงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีขนาดนี้ อีกความคิดหนึ่งเธอก็อยากล้มเลิกแผนการ แต่มาถึงขั้นนี้แล้วมันก็ต้องไปให้สุดทาง
เธอปลดตะขอเสื้อชั้นในดึงมันออกไปให้พ้นทาง ใบหน้าชายหนุ่มยิ่งแนบซุกกับอกกลมกลึงพร้อมมืออีกข้างที่กอบกุมหน้าอกเธอ ทำให้เธอใจสั่นหนักกว่าเดิม มือไม้ก็สั่นไปด้วยขณะหยิบมือถือมาเลือกมุมแล้วกดบันทึกภาพรัว ๆ ให้ดูเหมือนโดนแอบถ่าย
ไอ้พี่วิน แกเห็นรูปนี้ต้องกระอักเลือดแน่
เมื่อได้รูปแล้วหญิงสาวกำลังจะกดส่งรูปไปยังห้องแชตกับอดีตแฟน
‘ว้าย! พี่พัฒน์!!’ จู่ ๆ ชายหนุ่มที่ตอนแรกแค่เอาหน้าซุกกับหน้าอกเธอ เขากลับงับยอดอกไปเต็มปากเต็มคำ พร้อมทั้งดูดดึงอย่างรุนแรง
เธอตกใจจนมือถือร่วงลงข้างเตียง พยายามผลักคนตัวโตที่เม้มยอดอกของเธอออก
‘อื้อ...ปล่อยนะ...ปล่อย!’
รินลณีจะแกะแขนเขาออกจากตัวเธอ ทว่า...เสียงโทรศัพท์ก็ดังไม่หยุดจนเธอต้องรีบควานหามือถือ กว่าจะเจอก็ทุลักทุเลเพราะแขนคนที่กอดเธอรัดแน่นเหลือเกิน
‘พ่อโทร.มาทำไมตอนดึกคะ’ หญิงสาวค่อนข้างแปลกใจ
‘ยัยรินณี! แกกับหมอพัฒน์ทำอะไรกัน’
‘หา!’ หญิงสาวตกใจสุดขีด ทำไมพ่อรู้ พ่อรู้ได้อย่างไร!
‘นี่แกกล้าส่งรูปแบบนี้มาในไลน์กลุ่มครอบครัวได้ไง’
‘หา!’ ร่างเปลือยเปล่าชาไปทั้งตัวเมื่อได้ยินสิ่งที่พ่อพูด
‘กลับบ้าน! เรียกหมอพัฒน์มาด้วย ตอนนี้ เดี๋ยวนี้!’
หญิงสาวหน้าซีด ทำอะไรไม่ถูก เมื่อวางสายแล้วก็รีบกดเข้าไปในแอปไลน์
‘เชี่ย!’ เสียงสบถดังขึ้นมาทันที ภาพที่เธอตั้งใจส่งให้แฟนเก่าดู แต่มันกลับไปโผล่หราอยู่ในไลน์กลุ่มครอบครัว
และนั่นเป็นเหตุผลที่เธอกับเขามานั่งอยู่กลางห้องรับแขกบ้านตัวเอง โดยมีผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายนั่งอยู่พร้อมหน้า
กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง แต่มันสนองเร็วไปไหม!?
ยิ่งกว่าคลื่น 5G อีกอะ...