ตอนที่ 11 ความจริง

1736 Words
“ข้าว วันนี้แกไปกับฉันด้วยนะ แกต้องตัดชุดด้วย” ลลัลนาบอกฟางข้าว ระหว่างที่นั่งรอนัทธีมารับหลังเลิกเรียน “อือ ฉันเตรียมตัวละ ลดความอ้วนมาเรียบร้อย” ฟางข้าวแซวเพื่อนสนิท “พอแล้วแก ไม่ต้องลดละ แค่นี้ก็ผอมจะแย่ ช่วงนี้แกหน้าซีดๆนะ เป็นอะไรหรือเปล่า” “เอาไว้ฉันพร้อมฉันจะบอกนะ” ฟางข้าวบอกเธอเสียงเหนื่อยๆ “แกไหวนะ” “อืม ยังพอไหว” สองสาวจับมือให้กำลังใจกันเงียบๆ ก่อนจะพากันขึ้นรถเมื่อนัทธีขับมาจอดรับพวกเธอ หลังจากมาถึงที่ร้าน ฟางข้าวกับลลัลนาแยกกับนัทธีเพื่อไปลองชุด “ลัลว่าช่วงหน้าอกคับไปหน่อยค่ะ” ลลัลนาบอกพนักงานที่กำลังช่วยเธอแต่งตัว “หน้าอกใหญ่ขึ้นอีกแล้วเหรอ” ฟางข้าวถามเพื่อนสนิท “มั้ง ไม่รู้สิ ไม่ได้สนใจ” เธอตอบเพื่อนพลางยกแขนขึ้นให้พนักงานวัดตัว “คุณลัลหน้าอกขยายขึ้นอีกนิ้วครึ่งค่ะ เดี๋ยวพี่แก้ชุดให้นะคะ” พนักงานพูดจบก็เดินออกไป “แก ฉันถามอะไรแกหน่อยดิ” ฟางข้าวทำท่าทางลังเล แต่ก็ตัดสินใจเลือกที่จะถามเพื่อนสนิทไป “อะไร” “แกมีอะไรกับพี่นัทหรือยังวะ” “ยังอะ” “เหลือเชื่อ” “จริงๆ อันที่จริง ฉันลืมคิดเรื่องนี้ด้วยซ้ำ” พนักงานเข้ามาในห้องพอดี ทำให้บทสนทนาจบลงเพียงแค่นั้น หลังลองชุดเสร็จ นัทธีกับลลัลนา ไปส่งฟางข้าวที่บ้าน “กลับมาแล้วค่ะ” หญิงสาวก้าวเข้าบ้าน ตรงไปทิ้งตัวลงที่โซฟาในห้องนั่งเล่น “พี่เฟรมล่ะคะ” “ยังไม่กลับค่ะ” หัวหน้าแม่บ้านตอบหญิงสาว พลางทำท่ากระอักกระอ่วน “มีอะไรหรือเปล่าคะป้าตา” “คือ…ป้ามีอะไรจะบอกคุณหนูน่ะค่ะ” ครืด ครืด “ฮัลโหล” “คำตอบ” “ฉันขอเวลาหน่อย” ฟางข้าวถอนหายใจ ก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้ข้างตัว โดยที่ลืมว่าตัวเธอยังไม่ได้กดวางสาย “ขอโทษค่ะป้าตา เมื่อกี้ป้าบอกว่ามีอะไรจะบอกข้าวเหรอคะ” “คือ เรื่องคุณเฟรมน่ะค่ะ ป้าไม่อยากให้คุณหนูใกล้ชิดมากเกินไปน่ะค่ะ” “ทำไมล่ะคะ พี่เฟรมเป็นพี่ของข้าวนะคะ” “ไม่ใช่ค่ะ คุณไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันค่ะ” “หมายความว่ายังไงคะ” “เอาไว้รอให้คุณผู้หญิงเป็นคนบอกคุณหนูเองดีกว่านะคะ ป้าไปเตรียมมื้อเย็นให้นะคะ” หัวหน้าแม่บ้านพูดจบก็เดินไปทำหน้าที่ของตนเอง ทิ้งให้ฟางข้าวมองตามไปอย่างครุ่นคิด ก่อนจะถอนหายใจ หันไปคว้ากระเป๋ากับโทรศัพท์ เดินขึ้นห้องนอนไป “คุณวิทยา ผมรบกวนหน่อยนะครับ ช่วยสืบข้อมูลอะไรให้ผมหน่อย” ‘ว่ามาได้เลยครับ’ “รบกวนคุณสืบประวัติ สมาชิก พรหมพรเพชรรัตน์ ให้หน่อยนะครับ” ‘ได้ครับ’ “ขอบคุณครับ” หลังจากที่ฟางข้าวเอาโทรศัพท์วางไว้ข้างตัวโดยที่ไม่ได้กดวางโทรศัพท์ ณดลเลยได้ยินสิ่งที่หัวหน้าแม่บ้านบอกกับเธอ หลังการสนทนานั้นจบลง เขาจึงกดวางสายและโทรบอกให้วิทยา เลขาของบิดา สืบหาประวัติของสมาชิกในตระกูล ‘พรหมพรเพชรรัตน์’ ให้เขา เมื่อบอกสิ่งที่ต้องการจบจึงวางสายจากวิทยา ณดลเตรียมตัวจะเข้าไปที่ผับต่อ ก่อนจะ ชะงักไปพลางคิดอะไรบางอย่างในใจ ติ๊ง ‘แต่งตัวซะ เดี๋ยวฉันไปรับ’ ฟางข้าวที่เพิ่งออกมาจากห้องแต่งตัว ได้ยินเสียงข้อความเข้า เดินตรงมาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนจะโยนลงบนเตียงอย่างไม่สนใจ ‘อย่าให้ฉันบุกเข้าไปในบ้านเธอ อีก 10 นาทีลงมารอข้างล่าง’ “นายนี่มัน…” ฟางข้าวบ่นพึมพำออกมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะก้าวยาวๆเดินกลับเข้าไปในห้องแต่งตัว หยิบเสื้อไหมพรมแขนยาว มาใส่คลุมเสื้อสายเดี่ยวสีดำที่เธอใส่อยู่ หันไปคว้ากระเป๋ามาสะพาย เดินตรงออกจากห้องไป “ป้าคะ เดี๋ยวข้าวมานะคะ น่าจะดึกหน่อยค่ะ ไม่ต้องรอนะคะ” “คุณหนูจะไปไหนคะ” “พอดีเพื่อนข้าวจะมารับค่ะ” “มันมืดแล้วนะคะ” “ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ เพื่อนข้าวเปิดร้านอาหาร คงจะพาไปที่ร้านน่ะค่ะ ไม่ต้องบอกพี่เฟรมนะคะ” “ค่ะ” หญิงสาวสั่งแม่บ้านได้เพียงครู่ ณดลก็ขับรถเข้ามาจอด เธอเดินตรงไปเปิดประตูขึ้นไปนั่งก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไป “มีอะไร” ขึ้นรถมาได้ ฟางข้าวก็ถามณดลทันทีที่เห็นหน้าเขา ณดลไม่ตอบอะไร แตะคันเร่งเคลื่อนรถออกไปเงียบๆ หางตาเหลือบมองหญิงสาวข้างๆ เห็นเธอถอนหายใจทำหน้างอ เขาละความสนใจออกจากเธอ ก่อนจะตรงไปที่โรงแรมด้วยความเร็ว หลังจากมาถึงที่โรงแรม ณดลจับข้อมือเล็กของหญิงสาวตรงไปที่ผับ เดินตรงขึ้นไปชั้น 2 ของผับ ที่เป็นส่วนของออฟฟิศ ถึงยอมปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระ “ไปนั่ง ฉันจะทำงาน” “จะทำงานแล้วพาฉันมาทำไม” หญิงสาวบ่นพลางทิ้งตัวนั่งลงโซฟาเต็มแรง ณดลไม่ตอบอะไร เดินไปนั่งที่โต๊ะเพื่อเคลียร์งานที่ค้างไว้ระหว่างที่เขาไม่อยู่ “อ้าว คุณดล ทำไมวันนี้มาเร็วล่ะครับ” มานพ ผู้จัดการผับที่ตั้งใจเอาเอกสารมาวางไว้ให้ แต่เปิดเข้ามาเจอณดลนั่งอยู่พอดี “วันนี้เคลียร์ที่บริษัทเสร็จเร็วครับ เออคุณนพ เดี๋ยวช่วยเอาวอดก้าตัวใหม่มาให้ผมหน่อยนะครับ แล้วก็ขอค็อกเทลเบาๆ ให้ผมด้วย” “ได้ครับ” มานพเหลือบตามองไปที่ฟางข้าวก่อนจะออกจากห้องไป “ทำไมลูกน้องนายมองฉันแบบนั้น” “เพราะฉันไม่เคยพาใครมาที่นี่” ฟางข้าวชะงักไปกับคำตอบของชายหนุ่ม ร่างบางลุกขึ้นเดินสำรวจไปรอบๆห้อง ณดลเป็นคนเจ้าระเบียบมากกว่าที่เธอคิด มุมโต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่ครองเกือบครึ่งห้อง ชั้นวางเอกสาร อยู่ผนังด้านหนึ่งที่อยู่หลังโต๊ะทำงานยาวทั้งแถบ ผนังด้านซ้ายของโต๊ะทำงานเป็นจอที่แสดงภาพกล้องวงจรปิดทั้งหมดในผับ ด้านขวาของโต๊ะทำงานมีชุดโซฟาตั้งอยู่ริมผนังอีกฝั่ง ที่อยู่แนวตรงข้ามกับชั้นวางเอกสาร ด้านซ้ายของชุดโซฟา เป็นกระจกทั้งแถบ สามารถมองเห็นบริเวณพื้นที่ภายในผับเกือบทั้งหมด ก๊อก ก๊อก “ขออนุญาตครับ คุณนพสั่งให้ผมนำเครื่องดื่มมาให้ครับ” ชายหนุ่มเจ้าของห้องเงยหน้าขึ้นจากเอกสาร พยักหน้าให้ผู้มาใหม่นำเครื่องดื่มไปวางบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา พนักงานที่เข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่มให้เจ้านาย เหลือบตามองแขกสาวของเจ้านายด้วยความแปลกใจ เขาทำงานที่นี่มาหลายปี แต่ไม่เคยเห็นเจ้านายพาผู้หญิงขึ้นมาที่ออฟฟิศ ถ้าพาเพื่อนมา อย่างมากก็ให้อยู่ในห้องวีไอพี หลังวางเครื่องดื่ม พนักงานหนุ่มก็ขอตัวออกไป “เทวอดก้าให้ฉันที” ณดลสั่งหญิงสาวทั้งที่ไม่ได้ละสายตาจากเอกสารตรงหน้า “พาฉันมาใช้งานหรือไง” ฟางข้าวบ่นอุบ แต่ก็เดินไปเทวอดก้าใส่แก้วช็อตให้ชายหนุ่ม แล้วเอามาวางให้ที่โต๊ะทำงาน “หืม รู้จักชนิดเหล้าด้วยเหรอ” เขาว่าพลางยกแก้วขึ้นจิบชิมรสชาติ “ดื่มๆไปเถอะ อย่าถามมาก” หญิงสาวค้อนใส่ กลับหลังเดินไปทิ้งตัวนั่งที่โซฟา ก่อนจะยกแก้วค็อกเทลของตัวเองขึ้นดื่ม ณดลมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความแปลกใจ ก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อ จนกระทั่งเวลาผ่านไปพอสมควรชายหนุ่มถึงได้เงยหน้าจากเอกสารตรงหน้า ลุกขึ้นหยิบแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะมาหย่อนตัวนั่งที่โซฟา “เธอดื่มวอดก้าด้วยเหรอ” ณดลถามหลังจากเห็นว่าหญิงสาวเทวอดก้าใส่แก้วค็อกเทลที่เธอดื่ม และของเหลวภายในขวด ลดลงไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว “อืม บางทีก็มาดื่มบ้างเป็นบางครั้ง” “มากับใคร” “ลัล” “ไม่น่าเชื่อนะ” “ทำไม” “ก็เธอดูไม่น่าดื่มอะไรพวกนี้เป็น” “ฉันอายุ 22 แล้วนะ อีกอย่างฉันก็เหมือนคนทั่วไป มีเที่ยวบ้าง แต่ไม่บ่อย” “อืม” ชายหนุ่มไม่พูดอะไรต่อ นั่งจิบเครื่องดื่มเงียบๆ “แล้วพาฉันมาทำไม” ฟางข้าววางแก้วในมือ พลางมองสบตาเขา “ฉันต้องการคำตอบ” “ฉันไม่มีคำตอบจะให้” “ทำไม” ครืด ครืด ณดลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับ หลังมองชื่อที่ขึ้นหน้าจอ “อืม งั้นเหรอ” “ครับ ขอบคุณนะครับคุณวิทยา” ชายหนุ่มกดวางสาย ก่อนจะมองหน้าหญิงสาวที่นั่งเอนที่โซฟาตัวใหญ่เขม็ง “อะไร…” “เธอบอกว่า คนๆนั้น เป็นพี่ชายเธอ” “ใช่… ทำไม” “แต่คนของฉันบอกว่าไม่ใช่นะ” “นายหมายความว่ายังไง…?” “มันไม่ใช่ลูกของลุงเธอ เป็นแค่ลูกบุญธรรม และตัวมันเอง ก็รู้ดีอยู่แล้ว” หญิงสาวที่ได้ฟัง เธอเด้งตัวลุกมานั่งตัวตรง “ว่าไงนะ...!!” ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรเธอ เธอจึงหยิบโทรศัพท์จากในกระเป๋า โทรออกหาเจ้าของหัวข้อทันที “ฮัลโหล ข้าว” “พี่เฟรม ตอบความจริงข้าวได้ไหมคะ” “อะไรเหรอ” “พี่เฟรมไม่ใช่พี่ของข้าวเหรอคะ” “หืม หมายความว่าไง พี่เป็นพี่ของข้าวนะ” “แต่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน” “…ข้าวรู้แล้วเหรอ” “ค่ะ ขอคำตอบได้ไหมคะ” “ใช่ พี่เป็นลูกบุญธรรมของคุณพ่อ ท่านรับพี่มาอยู่ด้วย ในวันที่คุณพ่อคุณแม่พี่เสียจากอุบัติเหตุ” “ทำไมพี่เฟรมไม่เคยบอกข้าวคะ” “พี่เห็นว่าไม่จำเป็นน่ะ อีกอย่าง พี่กับข้าวโตมาด้วยกัน เราก็เป็นพี่น้องกันตลอดไปนั่นแหละ” “งั้นเหรอคะ” “ข้าวมีอะไรหรือเปล่า” “ไม่มีค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะ” หญิงสาววางสายจากวัชระ เธอเองก็ตั้งตัวไม่ทันกับสิ่งที่ได้รู้ ณดลไม่ได้พูดอะไร เขาปล่อยให้ความเงียบโอบล้อมระหว่างตัวเขากับหญิงสาว เขานั่งจิบเครื่องดื่มเงียบๆ ปล่อยให้เธอจมอยู่กับความคิดของตัวเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD