การเก็บเกี่ยวผลผลิตในแปลงนาเสร็จสิ้นไปด้วยดี ผลผลิตที่ได้เป็นที่พอใจของทุกคน พวกเขาเห็นผลผลิตที่ได้ในครั้งนี้ต่างรู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
อีกสามวันงานแต่งของพี่รองฮุ่ยเจินก็จะเริ่มขึ้น และต้องย้ายไปอยู่บ้านสามีในเมืองแล้ว วันนี้เจียงหนานจึงมาที่บ้านฮุ่ยเพื่อช่วยพี่รองเตรียมตัว
" ผิวดีขึ้นมากเลยค่ะพี่รอง ดูสิสดใสขึ้นมากค่ะ "
"จริงเหรอน้องสะใภ้ "
" จริงสิคะ พี่รองสวยขึ้นมากด้วยนะคะ " ฮุ่ยเจินยกยิ้มอย่างพอใจในคำพูดของน้องสะใภ้คนนี้ เธอส่องกระจกดูใบหน้าของตนเองพลางรู้สึกตามที่เจียงหนานบอกไม่มีผิด
เจียงหนานกลับมาบ้านในตอนเย็นเธอเข้าครัวทำอาหารเอาไว้รอสามี อาหารวันนี้เป็นอาหารจากโลกก่อนที่เธอชอบกิน มันคือ กระเพราหมูไข่ดาวไม่สุก เธอทำเอาไว้สองจาน และมีน้ำซุปกระดูกหมูคนละถ้วยด้วย
เมื่อฮุ่ยหมิงกลับมาถึงบ้านเขาก็ได้กลิ่นหอมฉุนของอาหารที่ภรรยาทำ เขารีบอาบน้ำมากินข้าวพร้อมกับเธอที่ตอนนี้นั่งรออยู่ที่โต๊ะแล้ว
" อาจจะเผ็ดร้อนไปหน่อยนะคะ แต่รับลองได้ว่าอร่อยมากๆ "
หลังจากที่ฟังภรรยาพูดจบเขาก็ตักผัดกะเพราคำแรกเข้าปาก ความหอมและรสชาติที่เผ็ดร้อนนั้นทำเอาเขาน้ำตาแทบไหล แต่ไม่สามารถหยุดกินได้เลย ไม่นานนักข้าวในจานก็หมดเกลี้ยงไม่มีเหลือสักเม็ด
" หนานหนาน คือว่า วันพรุ่งนี้ผมขอแบบนี้อีกจานได้ไหมครับ มันอร่อยมาก ผมชอบมากจริงๆ "
"ได้สิคะ งั้นฉันจะทำให้บ้านใหญ่กินด้วยนะคะ เอาเป็นมื้อกลางวันดีไหมคะ คุณรู้ไหมว่าการที่กินอาหารรสเผ็ดจะช่วยให้มีแรงมากขึ้นและยังช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าด้วยนะคะ "
"เรื่องจริงหรอครับเนี่ย ผมไม่เคยรู้มาก่อน คงเพราะเรียนจบแค่ประถม จริงสิคุณเรียนจนสูงไหมครับ "
"อืม จะบอกยังไงดีล่ะ ฉันจบมัธยมปลายค่ะ ถ้ามีโอกาสฉันจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยด้วยนะคะ "
" เรียนที่ปักกิ่งใช่ไหมครับ "
" ค่ะ "
ทั้งสองนั่งเล่นพูดคุยเรื่องต่างๆของกันและกัน แต่ส่วนมากแล้วเจียงหนานจะเป็น ฝ่ายเล่าเสียมากกว่า เขาเพียงแค่นั่งฟังเท่านั้น
"เราไปอาบน้ำเข้านอนกันดีกว่าค่ะ "
หลังอาบน้ำเตรียมเข้านอนแล้ว คืนนี้ฮุ่ยหมิงก็นอนกอดภรรยาเช่นเคยแต่ผิดปกติตรงที่วันนี้เขากลับรู้สึกว่าอยากทำอะไรมากกว่านั้น อีกทั้งกลิ่นกายที่หอมหวานของภรรยานั้นทำให้เราไม่อาจห้ามใจได้อีก
เขาค่อยๆเลื่อนมือลงมายังแผ่นหลังของเธอ จากนั้นก็ลูบไล้วนไปมาจนกระทั่งมาถึงซาลาเปานุ่มๆทั้งสองข้าง เขาบีบเค้นอยู่นานจนอดใจไม่ไหวพลิกกายของภรรยาให้นอนราบจากนั้นก็ดูดกลืนยอดอกของเธอจนได้ยินเสียงครวญคางแผ่วเบาจากปากของเธอ
ไม่นานนักบทรักของทั้งคู่ก็เริ่มต้นขึ้น จนดึกดื่นจึงได้หยุดลง ฮุ่ยหมิงช่วยเช็ดร่างกายของเธอในขณะที่เธอนั้นหลับคาอกของเขาไปแล้ว เขากระชับออ้มกอดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหลับตามเธอไปในที่สุด ในหัวใจของเขาสุขล้นจนบรรยายออกมาได้อย่างไม่รู้จบ
เพราะเมื่อคืนถูกสามีจับพลิกไปมาอยู่หลายครั้ง เช้านี้เจียงหนานจึงรู้สึกปวดเมื่อยไม่น้อย แต่เธอก็ยังตื่นขึ้นมาทำอาหารเข้าเอาไว้ให้เขาก่อนที่เข้าจะไปช่วยงานของหน่วยผลิต ในวันนี้จะมีการแบ่งสรรปันส่วนให้กับชาวบ้านหลังจากที่เก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จแล้ว และเพราะชาวบ้านหลายคนไม่รู้หนังสือสามีของเธอจึงต้องไปช่วยงานในส่วนนี้นั่นเอง
เจียงหนานหันมาเห็นสามียืนยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่หน้าห้องครัวก็อดที่จะรู้สึกหมั่นใส้เขาไม่ได้
" ไม่ต้องมายิ้มค่ะ ไปอาบน้ำเดี๋ยวจะสาย "
ฮุ่ยหมิงไม่ได้เอ่ยอะไรเพียงแต่เดินเข้ามาหาภรรยาก่อนจะกดจูบที่ขมับของเธอเบาๆก่อนจะเข้าห้องน้ำไปจัดการตนเองและออกมากินข้าวต้มที่เธอทำเป็นมื้อเช้า พร้อมกับไข่ลวกที่เธอเตรียมเอาไว้ และออกไปที่หน่วยผลิต ส่วนเจียงหนานนั้นเธอตั้งใจจะทำหมูแดดเดียวเอาไว้เป็นเสบียงในหน้าหนาวที่ใกล้จะถึงนี้
เพราะวันนี้เป็นวันที่ 1ตุลาคมแล้ว คาดว่าหลังปีใหม่อากาศก็จะเริ่มหนาวแล้วละนะ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากเพราะในมิตินั้นมีอาหารเพียงพออยู่แล้ว แต่ถ้าหากไม่ทำเลย ชาวบ้านอาจจะสงสัยเอาได้ เพราะฉะนั้นเธอจึงเลือกที่จะเตรียมเอาไว้
เพราะแต้มของเธอกับสามีนั้นมีมากถึง 18แต้ม ส่วนแบ่งที่ได้รับมานั้นจึงมีมากพอสมควร สามารถกินได้หลายเดือนเลยทีเดียว และเจียงหนานได้ให้สามีแบ่งธัญพืชที่ได้รับมานั้นนำไปมอบให้บ้านใหญ่ตามธรรมเนียมด้วย
" คุณ เดี๋ยวเอาข้าวกับธัญพืชพวกนี้แบ่งไปบ้านใหญ่ด้วยนะคะ "
" ครับ ขอบคุณมากที่คุณเข้าใจ และกตัญญูต่อบ้านเดิมของผม "
" ค่ะฉันยินดี " ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาของอาหารกลางวันแล้ว เจียงหนานจึงเข้าครัวทำผัดกะเพราไก่สับพร้อมกับไข่ดาวให้ทุกคนได้กิน ซึ่งเธอกับฮุ่ยหมิงจะช่วยกันยกไปกินที่บ้านใหญ่อีกด้วย