บริษัทอัสดา อินทีเรีย
วันนี้ญาดาได้เข้ามาเริ่มทดลองงานในตำแหน่งเลขาผู้บริหารรถดับสูงเป็นวันแรก แต่ก่อนที่เธอจะเริ่มลงงานจริงเธอจะต้องเข้ารับการอบรมงานกับฝ่ายบุคคลก่อนเป็นเวลา 3 วัน
“นี่ญาต้องอบรมตั้ง 3 วันเลยหรอคะ.?”
“ใช่ครับ..น้องญายังไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการเป็นเลขามาก่อน แล้วงานเลขาก็ต้องรอบคอบและมีไหวพริบแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี คุณอัศวินจึงอยากให้น้องญาได้อบรมเพื่อเรียนรู้งานของบริษัทเราก่อนเบื้องต้นนะครับ..”
เธอทำหน้าเซ็งๆที่ได้รู้ว่าเป็นคำสั่งของเขา เธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะได้มาเจอหน้าคุณอัสดาเจ้าของบริษัท แต่กลับไม่เป็นไปตามแผนกว่ายะได้เจอหน้าเขาก็ต้องรออบรมให้จบก่อนตั้ง 3 วัน
เธอนั่งฟังสิ่งที่นพดนัยและน้อยหน่าเล่าความเป็นมาทั้งหมดของบริษัทให้เธอฟังอย่างระเอียด รวมทั้งรายชื่อของผู้บริหารทั้งหมดในบริษัทด้วยว่ามีใครบ้าง
“ประธานบริษัทอันสูงสุดของบริษัทอัสดา อินทีเรีย คือคุณ อัสดา ศิริไพศาลกุล เป็นเพียงผู้เดียวที่เป็นทั้งเจ้าของบริษัทและเป็นผู้ที่ถือหุ้น 70% ของบริษัทอีกด้วย โดยมีรองประธานเป็นคุณอัศวิน ศิริไพศาลกุล ที่เป็นลูกชายแต่เพียงผู้เดียว”
“...”
เธอตั้งใจฟังที่น้อยหน่าอธิบายด้วยความตั้งใจ
“และนี่ก็ประธานกรรมการ คุณภูเบศร์ อัศวะชัย น้องชายของภรรยาคุณอัสดา และนี่ก็รองประธานกรรมการ คือคุณโสภา อัศวะชัย ทั้ง 2 คนเป็นสามีภรรยากัน..”
“นี่เป็นธุรกิจในครอบครัวหรือไงคะ..?”
“จะเรียกว่าแบบนั้นก็ได้..เพราะบริษัทนี้คุณอัสดาเป็นผู้ก่อตั้งมาเองตั้งแต่ต้นจนประสบความสำเร็จมากจนถึงขนาดนี้..”
“แล้วภรรยาคุณอัสดาละคะ เธอทำตำแหน่งอะไรในบริษัทนี้..?”
“เธอเป็นกรรมการผู้จัดการนะ เธอแค่ดำรงตำแหน่งนี้แค่ชื่อเท่านั้น ส่วนใหญ่คุณโฉมจะอยู่บ้าน ไม่ค่อยเข้ามาที่บริษัทหรอก..”
น้อยหน่าเล่าผังผู้บริหารให้ญาดาฟังโดยไม่รู้เลยว่า ตอนนี้เธอกำลังนั่งจ้องรูปถ่ายของอัสดาอย่างใช้ความคิด
“เอาละครับพี่ว่านี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว เราไปทานข้าวเที่ยงกันดีกว่านะครับเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง..”
นพดนัยเดินเข้าไปหาญาดาเพราะสนใจในตัวเธอ
“เลี้ยงแต่คุณญาดาหรือไงพี่แล้วน้อยละ..?”
“เออๆ..แกจะไปไหมละฉันเลี้ยง..?”
“ไปซิจ๊ะ..ของฟรีใครจะไม่ไป.”
ญาดามองทั้ง 2 คนคุยกันก็ยิ้มในความน่ารักของทั้ง 2 คน ที่ดูเป็นมิตรเอามากๆ เธอคิดว่าถ้าได้เข้ามาทำงานที่นี่ก็คงต้องหวังพึ่ง 2 คนนี้นี่แหละ
...
หลังจากที่ทานอาหารเที่ยงข้างนิกบริษัทเสร็จเธอก็เดินกลับมาพร้อมกับนพดนัยและน้อยหน่า แต่สายตาของเธอหันไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่เธออยากเจอมาตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา และในที่สุดเธอก็เจอจนได้
“สวัสดีค่ะคุณอัสดา..”
“สวัสดีครับคุณอัสดา..”
ทุกคนที่เจอกับอัสดาต่างก็ยกมือไหว้ให้เขา แล้วก็ทำความเคารพเขากันทุกคน จนญาดาต้องยกมื้อไหว้ตามทุกคนไปด้วย
“คุณพ่อครับ..”
อัศวินที่เดินเข้ามาในบริษัทพอดีหลังจากที่ออกไปทานข้าวเที่ยงมาเหมือนกัน
“ว่าไงตาวิน..?”
“เย็นนี้คุณแม่ให้รีบกลับไปทานข้าวเย็นด้วยกันนะครับ วันเกิดของคุณแม่นะครับ..”
“พ่อจำได้..นี่พ่อเตรียมของขวัญไว้ให้แม่แกแล้วนะ แม่แกต้องเซอร์ไพรส์แน่ๆเลย..”
ญาดาเห็น 2 พ่อลูกคุยกันก็กำมือแน่นด้วยความโกรธ ที่เห็นพวกเขามีความสุขกันแบบนี้โดยไม่สะทกสะท้านถึงความเลวกับสิ่งที่ตัวเองทำเลยหรือไง
2 พ่อลูกเดินกอดคอกันคุยกันไปอย่างสนุกสนาน โดยมีทุกคนมองตามไปอย่างชื่นชม
“คุณอัสดานี่เป็นทั้งคุณพ่อที่อบอุ่น แล้วก็ยังเป็นสามีที่ดีของคุณโฉมอีกด้วยนะ นี่ถ้าไม่ติดว่าคุณอัสดาอายุเยอะนะน้อยอ่อยไปละ..”
“แกคิดว่าคุณอัสดาเขาจะชายตามามองแกหรือไง ดูตัวเองด้วยแต่งตัวทั้งเฉิ่มทั้งเชยแบบนี้..ต่อให้คุณอัสดาเขายังเป็นหนุ่มเอ๊าะๆเขาก็ไม่สนแกหรอก..”
“พี่นพ..นี่ปากหรอ..?”
“ขนาดฉันยังไม่สนแกเลย..”
“คอยดูนะพี่นพ ถ้าวันหนึ่งน้อยสวยขึ้นมาเมื่อไหร่อย่ามาตามจีบน้อยก็แล้วกัน..”
ญาดาไม่ได้สนใจฟังที่นพดนัยกับน้อยหน่ายืนเถียงกันเลย แต่สายตาของเธอกลับมองตามไปที่ 2 พ่อลูกคู่นั้นอย่างใช้ความคิด
“ลิฟต์ตัวนี้ของพวกผู้บริหารเท่านั้นหรอคะ..?”
“ใช่แล้วจ๊ะน้องญา..และคนที่จะขึ้นลิฟต์ตัวนี้ไปได้ต้องมีบัตรที่สแกนขึ้นชั้นผู้บริหารได้เท่านั้น ซึ่งคนนั้นต้องเป็นคนที่มีระดับสูงพอควร..”
“แหมพี่นพ..กำลังจะบอกว่าตัวเองระดับสูงจนตัวเองมีบัตรสแกนเข้าลิฟต์ได้งั้นสิ.”
“แล้วแกมีไหมละ..บัตรสแกนเข้าลิฟต์นะ..?”
“ขี้อวด..”
“นี่ไง นี่ไงบัตรสแกนเข้าลิฟต์ชั้นผู้บริหาร แกไม่เคยขึ้นไปเห็นเลยใช่ไหมละ แกไม่รู้หรอกว่าข้างบนเป็นยังไง เพราะแกไม่มีบัตรสแกนอย่างฉัน..”
“แหวะ..”
เธอมองบัตรสแกนเข้าลิฟต์ในมือของนพดนัยอย่างนึกสนใจ และเธอก็เริ่มมีแผนการในใจ
“พี่นพคะญารู้สึกปวดท้องมากเลยสงสัยเมื่อตอนเที่ยงจะทานเยอะไปหน่อย..ขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะคะ..”
หลังจากที่เธอเข้ามาอบรมตามปกติได้สัก 2 ชั่วโมง ก็ขอตัวนพดนัยออกไปเข้าห้องน้ำ
“ไหวไหมครับเนี้ยน้องญา..?”
“ไหวค่ะ..ญาโอเค”
“งั้นรีบไปเลยครับ แต่ถ้าไม่ไหวรีบอกพี่นะ”
“ค่ะ..”
เธอเดินออกมาจากห้องอบรมแล้วมาเจอกับน้อยหน่าหน้าห้องที่นั่งเคลียร์งานอยู่ เธอก็ส่งยิ้มแห้งๆกลับไป
"ญาปวดท้องนะคะ เลยอยากไปเข้าห้องน้ำ"
"ห้องน้ำเดินออกไปข้างนอกแล้วก็ลี้ยวซ้ายนะคะคุณญา.."
"ขอบคุณค่ะ.."
แล้วเธอก็เดินออกไปตามที่น้อยหน่าบอก แต่สายตาก็หันมามองที่น้อยหน่าอีกครั้ง ก็เห็นว่าเธอก้มหน้ากลับไปทำงานตามปกติแล้ว โดยไม่ได้สนใจเธออีก แล้วญาดาก็รีบเดินไปที่ลิฟต์ตัวของชั้นผู้บริหารทันที
ติ๊ด>>
....