ตอนที่4 เผชิญหน้า
ลูกปัดเดินออกมาจากห้องด้วยชุดเดรสรัดรูปสายเดี่ยว มีเสื้อคาร์ดิแกนสวมทับด้านนอกอีกชั้น ใบหน้าหวานแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางๆ เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด รู้สึกประหม่าเมื่อต้องเดินผ่านหน้าห้องผู้ชายที่เธอเพิ่งวิ่งหนีออกมาเมื่อเช้า
สองเท้าเล็กค่อยๆ เดินผ่านไปทีละห้อง มองไปที่บานประตูห้องของคิมหันต์ จู่ๆ หัวใจดวงน้อยก็เต้นแรงโครมครามแทบจะหลุดออกมา ก่อนที่หญิงสาวจะรีบวิ่งไปกดลิฟต์ลงไปยังชั้นล่าง
ลูกปัดเดินมาขึ้นรถของตัวเอง เพื่อไปหาธันวาตามที่นัดแนะกันเอาไว้ แต่ความซวยดันเกิด เมื่อรถคู่หูดันสตาร์ตไม่ติดสะงั้น
"อ้าว นี่..เป็นอะไรไปเนี่ย" เธอพยายามสตาร์ตรถครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่ติด เธอจึงเปิดฝากระโปรงหน้ารถแล้วลงไปดู
"เฮ้ย อย่าบอกนะว่าแบตเตอรี่รถหมดอ่ะ" ลูกปัดยืนส่องยืนมองอยู่นาน และดูเหมือนว่ารถตัวเองแบตเตอรี่รถจะหมด แต่ทว่ากลับมีเสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นมาจากด้านหลัง
"รถเป็นอะไร"
"...!" ลูกปัดถึงกับสะดุ้งตกใจแล้วหันไปมองเจ้าของเสียงนั้น แต่แล้วก็ต้องตกใจยิ่งกว่า เมื่อเขาคือผู้ชายที่เธอเพิ่งนอนด้วยเมื่อคืนนี้
"เอ่อ คะ..คุณ" หญิงสาวเอ่ยเรียกเขาเสียงเบา ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองใบหน้าคมคายนิ่ง ราวกับกำลังหยุดหายใจไปชั่วขณะ เมื่อร่างสูงยืนอยู่ข้างๆ
"ไม่เป็นไรค่ะ แค่รถสตาร์ตไม่ติดเท่านั้นเอง" เธอตอบแบบปัดๆ ไม่ใช่ว่าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา แต่ด้วยเพราะไม่กล้ามองหน้าเขาเท่าไหร่
คิมหันต์ไม่พูดอะไร เขาเดินเข้ามาดูว่ารถของเธอเป็นอะไร เขาทำราวกับว่าเรื่องเมื่อคืนนี้มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่กลับลูกปัด มันเป็นเรื่องที่น่าอายที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ เธอไม่รู้จะสู้หน้าเขาได้ยังไง
"แบตเตอรี่หมดงั้นเหรอ" ชายหนุ่มหันมาถาม ทำเอาคนตัวเล็กที่กำลังคิดอะไรฟุ้งซ่านก็รีบพยักหน้าตอบ
"เธอขับรถไม่ตรวจสภาพรถบ้างเหรอ" คิมหันต์พูดพร้อมกับปิดฝากระโปรงรถ แล้วหันมาประชันหน้ากับหญิงสาว
"เอ่อ ปกติฉันขับอย่างเดียวหน่ะค่ะ เลยไม่มีเวลาเช็คเครื่องรถ"
"จะไปไหนล่ะ เดี๋ยวไปส่ง" คำถามของเขาทำเอาหญิงสาวรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า
"มะ ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวฉันเรียกแท็กซี่ไปเองดีกว่าค่ะ" ลูกปัดตั้งท่าจะเดินเลี่ยงเขาออกไปเพื่อเรียกรถแท็กซี่ แต่ทว่าเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอหยุดชะงักล้วงหยิบมือถือในกระเป๋าออกมากดรับสาย
"ค่ะแม่"
(ลูกปัด นี่ลูกอยู่ไหน ทำไมยังไม่มาอีก แม่กับพ่อนั่งรออยู่ร้านอาหารกับพี่ธันวาแล้วนะลูก)
"อะไรนะคะ นี่แม่ก็อยู่ร้านอาหารกับพี่ธันเหรอคะ"
(ก็ใช่หน่ะสิ วันนี้แม่อยากคุยเรื่องงานแต่งกับพี่เขาด้วย รีบออกมานะ อย่าให้พี่เขารอนานล่ะ)
ไม่รอให้ลูกสาวได้ทักท้วงอะไรมากกว่านั้น คนเป็นแม่ก็ตัดสายทิ้งไป ลูกปัดไม่คิดว่าพ่อกับแม่ของเธอจะมาด้วย เธอตั้งใจว่าจะไปคุยเรื่องนี้กับธันวาแค่สองคน และอยากจบเรื่องนี้ไปด้วยเลย
เธอถอนหายใจพรืดใหญ่อย่างหนักใจ เพราะถ้าหากเธอไปคุยเรื่องยกเลิกงานแต่ง มีหวังพ่อกับแม่เธอต้องไม่พอใจแน่
"คุณคะ" ลูกปัดตัดสินใจหันไปหาชายแปลกหน้า ที่เรียกว่าคู่นอนชั่วคราวของเธอเมื่อคืน แม้ว่ามันจะเป็นความผิดพลาดของเธอเองที่เข้าห้องผิดก็ตาม
คิมหันต์ที่ยังคงยืนมองเธออยู่ที่เดิม ขมวดคิ้วสงสัย เมื่อหญิงสาวเดินเข้ามาหา ลูกปัดแม้ว่าภายในใจเธอจะยังหวาดหวั่นกับเรื่องเมื่อคืน แต่เธอต้องการอยากให้เขาช่วย
"ฉันลูกปัดนะคะ คุณชื่ออะไรคะ" เธอมองเขาตาปริบๆ
"..คิมหันต์" คิมหันต์แนะนำตัวเอง แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจกับท่าทางของลูกปัดในตอนนี้ ทั้งที่เมื่อครู่ยังดูเหมือนจะไม่อยากเจอหน้าเขาอยู่เลย จู่ๆ ก็เข้ามาทักทายพร้อมกับถามชื่อ
"คุณคิมหันต์คะ เอ่อ คุณยังไม่มีแฟนใช่มั้ยคะ" คำถามต่อมาของเธอ ทำเอามาเฟียหนุ่มยืนเงียบไปครู่หนึ่ง ผู้หญิงอย่างเธอที่ดูเรียบร้อยอ่อนหวาน กลับตีสองหน้าเข้าหาผู้ชายง่ายๆ ทั้งๆ ที่ยังดูเหมือนไม่สนใจเขา
คิมหันต์จ้องหน้าหวานนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบเสียงราบเรียบ
"อืม" เขาครางตอบสั้นๆ
"อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะ คือ...ฉันอยากจะขอร้องให้คุณช่วยอะไรฉันหน่อยได้มั้ยคะ"
"..."
@ร้านอาหารใจกลางเมืองกรุงเทพฯ
ร้านอาหารที่นี่อยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นร้านอาหารตามสั่ง ที่มีทั้งอาหารทะเล อาหารไทย ของคาวหวานพร้อมเสิร์ฟ บรรยากาศโดยรอบถือว่าแดดกำลังดี ไม่ร้อนมาก
ลูกปัดนั่งรถมากับคิมหันต์เพื่อมายังร้านอาหารที่นี่ โดยที่พ่อแม่ของเธอและพ่อแม่ของธันวามานั่งรออยู่ก่อนนานแล้ว
มาเฟียหนุ่มยอมช่วยตามที่ลูกปัดขอ เขาขับรถพาหญิงสาวมาที่ร้าน แม้ว่าจะไม่ได้เตรียมตัวในเรื่องนี้
"เอ่อ คุณไม่ต้องพูดอะไรนะคะ แค่นั่งเงียบๆ" ลูกปัดหันไปบอก ขณะที่กำลังเดินเข้าไปในร้านพร้อมกันกับเขา คิมหันต์เงียบไม่ตอบอะไร ก่อนที่เธอจะพาเขาเข้าไปนั่งที่โต๊ะรวมกันกับคนอื่นๆ
"มาแล้วค่ะพ่อแม่" หญิงสาวยืนเอ่ยทักทาย พร้อมกับส่งยิ้มให้กับพ่อแม่ของธันวา ทุกคนต่างหันมามอง แต่แล้วสีหน้าแววตาก็เกิดความสงสัย เมื่อชายร่างสูงที่ไม่คุ้นเคยยืนอยู่ข้างๆ ลูกปัด
"เอ่อนั่งก่อนสิ" หญิงสาวหันไปบอกกับคิมหันต์ให้เขานั่งเก้าอี้อีกตัวที่ยังว่าง โดยที่เธอเองก็นั่งลงข้างๆ ติดๆ กัน
"นี่ใครเหรอลูก" ญาดา ผู้เป็นแม่ของลูกปัดเอ่ยถาม
"อ๋อ พอดีเลยค่ะ นี่แฟนปัดนะคะ เขาชื่อ..คิมหันต์ค่ะ" ลูกปัดเข้าประเด็นทันที
เพียงแค่นั้นก็ทำเอาพ่อแม่ของเธอและพ่อแม่ของธันวาถึงกับตาโตด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าลูกปัดจะกล้าพาแฟนมาเปิดตัวแบบนี้
สีหน้าของธันวาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถึงกับหน้าเสีย และเสียอาการ เมื่อลูกปัดกล้าพาคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนมาเปิดตัวกับครอบครัวแบบนี้ ทั้งๆ ที่เขานั้นตั้งใจว่าจะมาคุยเรื่องงานแต่งของเขาและเธอ
มาเฟียหนุ่มนั่งเงียบขรึมไม่พูดอะไร นอกจากนั่งมองหน้าลูกปัดที่ตอนนี้กำลังรู้สึกประหม่า เธอกลัวถ้าหากบอกว่าไม่พร้อมแต่งงานกับธันวาตรงๆ พ่อแม่ของเธอก็ต้องไม่ยอมแน่
"คือ..ไหนๆ ทุกคนก็นัดมาเจอกันแล้ว ลูกปัดขอพูดตรงนี้เลยแล้วกันนะคะ ว่าปัดมีคนรักอยู่แล้ว"
"อะไรกันเนี่ย นี่มันหมายความว่ายังไงกัน" อภิชาติ ผู้เป็นพ่อของหญิงสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัยและยังไม่ปักใจเชื่อสิ่งที่ลูกสาวพูดนัก
"นั่นสิคะ แล้วสรุปที่คุยกันไว้ จะยังไงต่อล่ะคะเนี่ย" ผู้เป็นแม่ของธันวาชักสีหน้าไม่พอใจ มองหน้าชายหนุ่มข้างกายหญิงสาว
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ยลูกปัด" คนเป็นพ่อของธันวาก็เอ่ยถามตามอีกคน มีเพียงธันวาที่ยังคงนั่งเงียบ เขาจ้องหน้าคิมหันต์ด้วยแววตาที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก
"คือ..ก็อย่างที่ทุกคนได้ยินค่ะ ลูกปัดมีคนรักอยู่แล้ว และเรื่องงานแต่งลูกปัดอยากจะให้ยกเลิกไป"
"นี่มันไม่ง่ายเกินไปเหรอ นี่ป้าอุตส่าห์ตั้งใจอยากจะช่วยบริษัทพ่อลูกปัดนะ เราจะรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันอยู่แล้ว ทำไมมาปฏิเสธแบบนี้ล่ะ"
ป้าอาพรเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเท่าไหร่นัก เพราะได้ให้เงินกับครอบครัวของลูกปัดไปลงทุนก่อนแล้วหลายล้าน และป้าอาพรไม่ได้ต้องการเงินคืน แต่ขอแค่ลูกปัดได้ตกแต่งกับลูกชายของตนก็พอ
"หนูต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่..ลูกปัด"
"ทำไมต้องบังคับคนที่ไม่ได้ชอบกันให้แต่งงานด้วยล่ะ แบบนี้ไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอ" ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้พูดจบประโยค คิมหันต์กลับพูดแทรกแทน
คนบนโต๊ะต่างนั่งเงียบ หันมามองเขาเป็นตาเดียว เหมือนกันกับลูกปัด เธอใช้มือสะกิดแขนชายหนุ่มเบาๆ เพื่อเตือนว่าอย่าพูดอะไรเยอะ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ฟัง
"เท่าที่ฟังมาเนี่ย บริษัทคุณกำลังมีปัญหาใช่มั้ยครับ"
คิมหันต์หันไปถามอติชาต,อภิชาติ เพราะดูเหมือนครอบครัวของลูกปัดจะขาดทุน เท่าที่เขาจับใจความได้
"ถ้าผมสามารถช่วยให้ครอบครัวคุณไม่ขาดทุน และกลับมาฟื้นตัวได้ คุณจะยกลูกสาวคุณให้ผมดูแลมั้ย"
"อะไรนะ!"