ตอนที่6 ตัวตนมาเฟีย
ลูกปัดและคิมหันต์เดินกลับเข้ามานั่งที่โต๊ะ หลังจากที่คุยและตกลงกันได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปเธอคงต้องทำตัวเหมือนเป็นแฟนกันกับเขาเพื่อตบตาพ่อแม่
"ว่าไง สรุปเป็นแฟนกันนานรึยัง แล้วทำไมถึงเพิ่งมาบอกแม่" ญาดาทักถามลูกสาวในทันที เมื่อเธอทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ
"เอ่อ พอดีหนูกับพี่คิม เราเพิ่งจะคบกันไม่นานมานี้เองค่ะ เลยไม่ได้บอกพ่อกับแม่ หนูถึงบอกไงคะว่าหนูไม่อยากแต่งงาน"
เธออ้างไปเรื่อย เหลือบมองสายตาของคนเป็นพ่อและแม่อยู่เพียงนิด จะเรียกได้ว่านี้เป็นการโกหกครั้งแรกที่เธอยอมทำอะไรแบบไม่คิด ถึงกล้าเอาตัวเข้าแลก ทั้งที่ยังไม่รู้จักกับคิมหันต์ดีเลยด้วยซ้ำ
"แล้วนายเป็นใคร ทำงานอะไร ถึงกล้าพูดว่าจะลงทุนกับบริษัทของฉัน" อภิชาติหันไปถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงแข็งขืน เพราะจากที่มองการแต่งกายของเขาแล้วนั้น ดูไม่น่าจะมีเงินมากมายที่สามารถนำมาร่วมลงทุนด้วยได้
"ผมเป็นใครไม่สำคัญหรอกครับ รู้แค่ว่า...ผมมีปัญญาทำตามที่พูดก็พอ"
มาเฟียหนุ่มบอกด้วยการยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก็ไม่แปลกที่อภิชาติจะมองว่าเขานั้นดูไม่มีเงิน เพราะการแต่งตัววันนี้ของคิมหันต์เป็นการแต่งตัวธรรมดาๆ ที่ดูไม่ได้โดดเด่นอะไร
แต่ใครจะไปรู้ว่าเบื้องหลังเขานั้นเป็นใครมาจากไหน
ญาดาและอภิชาติต่างพากันนั่งเงียบไปชั่วขณะ ทั้งสองมองหน้ากันอย่างขอความคิดเห็น
"เรื่องเงินลงทุน ผมจะให้คนจัดการให้ภายในวันนี้ และเงินทุนที่คุณได้มาจากคุณอาพร ผมจะคืนให้เขาทุกบาท แต่มีข้อแม้ว่า...พวกคุณต้องยกลูกสาวให้ผม ตกลงมั้ยครับ"
ลูกปัดถึงกับหันไปถลึงตาใส่เขา เมื่อเขากล้าที่จะพูดต่อรองกับพ่อแม่เธอ ดูนิ่งๆ แต่ก็ร้ายไม่เบาเหมือนกัน นึกแล้วก็ก็รู้สึกปวดหัว
แต่ก็เอาเถอะ ถือว่าเล่นละครตบตาพ่อแม่ให้เชื่อว่าเธอกับคิมหันต์เป็นแฟนกันจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะดูเล่นจริงจัง ดูเหมือนจริงไปหน่อย แต่อย่างน้อยๆ พ่อแม่เธอก็จะได้ไม่ต้องมาคิดเรื่องแต่งงานกับเธออีก
ญาดาถึงกับตกใจเล็กน้อย ที่คิมหันต์บอกว่าจะจัดการเรื่องให้ทั้งหมดภายในวันนี้ แต่ก็ไม่คิดคนแบบเขาจะดูมีเงิน
"พ่อคะแม่คะ หนูกับพี่คิมเราก็มาเปิดเผย บอกพ่อแม่แล้วว่าคบกัน พ่อแม่ไม่ต้องห่วงเรื่องบริษัทแล้วนะคะ แฟนหนูเขาจะดูแลให้ทุกอย่างเองค่ะ"
ลูกปัดพูดต่อ เธอเล่นให้สมบทบาทเพื่อให้ดูเหมือนเป็นแฟนกับเขาจริงๆ ยิ้มแห้งให้พ่อแม่ด้วยความประหม่าเล็กน้อย และไม่รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังใช้ใครกันแน่มาเล่นเป็นแฟนเธอในตอนนี้ เพราะดูเหมือนเขาจะดูมีอำนาจและเงินตราเหลือเกิน
มาเฟียหนุ่มละสายตามามองคนตัวเล็กที่นั่งยิ้มเจือนๆ พ่อแม่ของหญิงสาวไม่พูดอะไรต่อ ปกติพวกท่านไม่ค่อยได้บังคับอะไรลูก และมักจะเลี้ยงเธอราวกับเจ้าหญิงเสียมากกว่า
แต่ที่ต้องบังคับเรื่องแต่งงาน เป็นเพราะต่างก็อยากให้บริษัทอยู่รอด และจะได้ปรองดองกับครอบครัวเพื่อนตัวเองด้วย
แต่ในเมื่อลูกสาวเพียงคนเดียวของพวกเขามีแฟนแล้ว ก็ไม่อยากจะบังคับให้ทำอะไรที่ฝืนใจอีก
@กาสิโนใจกลางเมือง
หลังจากที่ได้นั่งทานข้าวด้วยกันเสร็จแล้ว ลูกปัดก็ได้ขอแยกกับพ่อแม่มากับคิมหันต์ แต่ทว่าชายหนุ่มกลับไม่ไปส่งเธอที่คอนโด เขากลับพาเธอมาที่กาสิโนของเขาแทน
"นี่..คุณพาฉันมาที่นี่ทำไมคะ" หญิงสาวหันไปเอ่ยถาม เมื่อรถยนต์หรูขับเข้ามาจอดในลานจอดรถของกาสิโน
"ไม่อยากรู้จักฉันก่อนเหรอ ไหนๆ ก็เล่นเป็นแฟนกันแล้ว ไม่อยากรู้รึไงว่าฉันมีเงินไปลงทุนกับพ่อแม่เธอได้ยังไง"
ชายหนุ่มพูดโดยไม่หันมามองหน้าเธอ ก่อนที่เขานั้นจะเปิดประตูลงจากรถไป ลูกปัดจึงรีบปลดเข็มขัดลงจากรถเดินตามไป
มันก็จริงของเขา ที่เธอต้องรู้จักเขาเสียก่อน จะเล่นเป็นแฟนกันทั้งทีก็ต้องรู้จักหน้าที่การงานของเขาด้วย และเธอเองก็อยากรู้ว่าจริงๆ แล้วเขาทำงานอะไร เพราะเขาดูมั่นใจที่บอกว่ามีเงินมาลงทุนกับบริษัทพ่อเธอ
ร่างเล็กเดินตามหลังเขาต้อยๆ ผู้ชายแปลกหน้าค่าตาที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่กลับต้องมาแสดงเล่นเป็นคู่รัก ไหนจะเรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นอีก
ลูกปัดเดินตามหลังเขามาไม่ห่าง เมื่อเดินเข้ามาด้านในของกาสิโน ภายในบ่อนนั้นมืดสลัวผู้คนพลุกพล่าน และยังเต็มไปด้วยสิ่งของมึนเมาและของผิดกฎหมายมากมาย
อะไรกันเนี่ย นี่อย่าบอกนะว่าเขาทำงานเปิดบ่อนพนัน..
"สวัสดีครับนาย!" เสียงประสานพูดพร้อมกันของชายฉกรรจ์ที่อยู่ในชุดสูทสีดำทั้งสี่คนเอ่ยทักทายเจ้านายหนุ่มด้วยความเป็นกัน ราวกับเป็นพี่เป็นน้องเสียมากกว่า ท่าทางของพวกเขาทำเอาคนตัวเล็กมองด้วยความตกใจ
"อืม ดูแลงานที่นี่เป็นไงบ้าง" คิมหันต์พยักหน้าพร้อมกับถามลูกน้องของเขาที่ยืนเรียงแถวหน้ากระดาน
"งานที่นี่เรียบร้อยดีครับนาย พวกผมดูแลเป็นอย่างดีครับ"
ลีโอ ลูกน้องคนสนิทของคิมหันต์ที่ยืนขวามือสุดในบรรดาสี่คนที่ยืนเรียงกันอยู่นั้นพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม เขาดูเป็นมิตรเสียมากกว่า ดูต่างจากเจ้านายโดยสิ้นเชิงที่ทำหน้าตานิ่งขรึมอยู่ตลอดเวลา
"นายน้อยจะกลับมาดูแลงานที่นี่ต่อเลยมั้ยครับ ถ้ากลับมาแล้ว พวกเราก็จะได้ดื่มฉลองกัน" ภูผาที่ยืนอยู่ขวามือตรงกลาง ก็ถามขึ้นและดูดีใจมากที่ได้เจอเจ้านายตัวเอง ราวกับว่าคิมหันต์ไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว
"ก็คงต้องอย่างนั้น" เพียงคำตอบของชายหนุ่ม ก็ทำเอาลูกน้องทั้งสี่คนต่างพากันเฮ ด้วยความดีใจ เพราะก่อนหน้านั้นพ่อของเขาเป็นคนดูแลที่นี่ และหลังจากพ่อคิมหันต์เสียไป ชายหนุ่มก็ไม่ได้เข้ามาดูแลอย่างเป็นทางการ แต่เขาก็คอยให้ลูกน้องที่สนิทและไว้ใจที่สุดดูแล ก็คือพวกเขานั่นเอง
คิมหันต์มีงานที่ต้องดูแลคือบริษัทที่ทำการค้าขายกับต่างประเทศ เขาเลือกที่จะไปดูแลที่นั่นก่อน ส่วนที่นี่เขาจะโทรถามและตรวจสอบงานกับลูกน้องแทน
"นายน้อยจะมาดูแลที่นี่ต่อจากนายใหญ่แล้ว" ไบรอัน ที่ยืนอยู่ซ้ายสุดพูดขึ้น
"ขอบใจมากที่ช่วยกันดูแล และยังไม่ทิ้งที่นี่ไปไหน" มาเฟียหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เต็มไปด้วยความจริงใจ
ลูกปัดยืนมองพวกเขาอยู่นาน เธอรู้สึกอึดอัดที่มาอยู่แปลกถิ่นแบบนี้ หญิงสาวหันไปมองรอบๆ ก็มีแต่พวกคนที่ดูเหมือนจะขี้ยา แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนมีเงินและเป็นคนใหญ่คนโตแถวนี้ ถึงได้กล้าเข้ามาเล่นในบ่อน
ในนี้มีทั้งเสียงโหวกเหวกโวยวาย ไหนจะกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่อีก สถานที่ดูไม่น่าไว้วางใจเท่าไหร่
"เอ่อ..แล้วนี่ใครเหรอครับนาย ไม่คิดจะแนะนำให้พวกผมรู้จักสักหน่อยเหรอครับ" ทน ผู้ชายหล่อเข้มเป็นลูกน้องของคิมหันต์อีกคน เขายืนมองคนด้านหลังเจ้านายอยู่นานก็เลยทักท้วง
ลูกปัดกระอึกกระอักในทีแรก เมื่อตกเป็นเป้าสายตาของลูกน้องสี่คนที่หันมามอง คิมหันต์ชำเลืองมองคนตัวเล็กเพียงนิด ก่อนที่เขาจะแนะนำลูกน้องทั้งหมดให้เธอรู้จัก
"นี่ลูกน้องฉันเอง นี่ไอ้ทน ไอ้ไบรอัน ไอ้ภูผา ส่วนนี่ไอ้ลีโอ..แล้วนี่ ลูกปัดคนของฉันเอง" คิมหันต์แนะนำเธอให้ลูกน้องได้รู้จักอีกที ทุกคนต่างส่งยิ้มให้ หน้าตาดูไม่มีพิษมีภัยเท่าเจ้านายของพวกเขาเท่าไหร่
"สวัสดีค่ะ" ลูกปัดยกมือไหว้ทักทาย เพราะดูแล้วพวกเขาจะอายุเยอะกว่าเธอหลายปี แต่ทว่าพวกเขานั้นกลับพากันยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน ด้วยสีหน้าตกใจ เพราะปกติไม่ค่อยมีใครมายกมือไหว้พวกเขาแบบนี้ และยิ่งเป็นคนของคิมหันต์ที่พามาด้วยแล้ว ยิ่งต้องรักษามารยาท
"ไม่ต้องไหว้พวกผมหรอกครับคุณลูกปัด" ลีโอบอกพร้อมกับยิ้มเจือนๆ
ลูกปัดยกยิ้มหวานให้พวกเขา ไม่คิดว่าลูกน้องของคิมหันต์จะดูเป็นกันเองแบบนี้ สงสัยเขาคงเป็นคนที่ไม่ถือตัวกับลูกน้องเท่าไหร่ เหมือนอยู่กับครอบครัวมากกว่า
"พวกผมยินดีที่ได้รู้จักนะครับ มีอะไรให้พวกผมช่วย บอกได้เลยนะครับ" ภูผาเอ่ยบอก
"ขอบคุณนะคะ"
"ตามฉันมา" คิมหันต์เดินออกไปด้วยใบหน้าเรียบตึง ทำเอาลูกน้องทั้งสี่ต้องรีบโค้งตัวราวกับทำการเคารพ ลูกปัดจึงรีบวิ่งตามหลังไปติดๆ ทันที
ลูกปัดและมาเฟียหนุ่มเข้ามาในลิฟต์ส่วนตัวที่สามารถใช้ได้เฉพาะคนของเขา หลังจากที่เจ้านายเดินลับสายตาออกไปแล้ว ทั้งหมดก็เงยหน้าขึ้น
"เฮ้ย พวกมึงคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกับนายน้อยวะ" ไบรอันถามความคิดเห็นจากเพื่อนๆ เพราะปกติคิมหันต์ไม่เคยพาผู้หญิงเข้ามาในกาสิโนเลยสักครั้ง จะมีก็แค่พาเพื่อนและแขกมาที่นี่แทน
"นั่นดิ ท่าทางก็ไม่ได้ดูสนิทสนมกันนะ แล้วนายก็ไม่เคยพาผู้หญิงมาที่นี่เลยสักคนเดียว คุณลูกปัดเป็นคนแรกเลย แล้วก็น่ารักสะด้วย" ลีโอยิ้มหวานในทันที เมื่อนึกไปถึงรอยยิ้มและท่าทางน่ารักของหญิงสาว
"พอๆ ไอ้ลีโอ มึงนี่นะ คนของนายมึงห้ามล่วงเกินเด็ดขาด" ภูผาเตือน เพราะมองหน้าเพื่อนตัวเองแล้ว เหมือนพวกโรคจิต
"อะไรของมึงไอ้ผา กูไม่คิดทำอะไรเหี้ยๆ แบบนั้นหรอกครับ มึงนี่พูดจาไม่เข้าหูกูเลยนะ" ลีโอถึงกับชักสีหน้าไม่พอใจใส่ เมื่อได้ยินถ้อยคำหมิ่นประมาทจากปากเพื่อน จนไบรอันและทนถึงกับส่ายหัวนึกรำคาญสองคนนี้
"เฮ้อ แยกย้ายกันไปทำงานเถอะครับเพื่อน" ทนบอก ก่อนที่จะเดินเลี่ยงออกไปดูแลความเรียบร้อยต่อ