ตอนที่2 หอมกรุ่นเนื้อสาว
ยอดชายนั่งมองรูปถ่ายใบหนึ่งระหว่างนั่งพิงหลังกับหัวเตียงภายในห้องพักของโรงแรม ในรูปถ่ายมีตัวเขายืนอยู่ตรงกลางขนาบข้างด้วยชายหนุ่มวัยเดียวกันและชายสูงวัยแต่งกายลักษณะเหมือนนายพราน ฉากหลังเป็นชายป่าต้นไม้เขียวขจี เมื่อสามปีก่อนเขาและรักชาติเพื่อนทหารร่วมรุ่นเดียวกันเคยมาเข้าป่าล่าสัตว์ในจังหวัดแห่งนี้มาก่อน จุดหมายก็คือผืนป่าภูวัวผืนป่าใหญ่ที่กินเนื้อที่กว่า 124,662 ไร่ ผืนป่าทอดยาวเกือบติดกับอาณาเขตพรมแดนประเทศเพื่อนบ้าน
การเข้าป่าล่าสัตว์ในปีนั้นเขาและรักชาติได้ว่าจ้างพรานท้องถิ่นนำทางชื่อว่าพรานคม ซึ่งเป็นนายพรานอาวุโสฝีมือฉกาจ การเข้าป่าล่าสัตว์เมื่อคราวนั้นสร้างความตื่นเต้นน่าประทับใจหลายอย่าง จนเขาและรักชาติสัญญากันไว้ว่าจะหาโอกาสมาเข้าป่าล่าสัตว์กันอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่เพื่อนรักของเขาได้มาด่วนจากไปเสียก่อน เนื่องจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่มของเขากับผู้ก่อการร้าย การที่เขาเดินทางมายังจังหวัดแห่งนี้ก็เพื่อระลึกความหลังและอยากหาความตื่นเต้นให้กับชีวิตโดยการเข้าป่าล่าสัตว์อีกครั้ง ยอดชายถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงการจากไปก่อนวัยอันควรของรักชาติเพื่อนรัก เก็บรูปถ่ายแห่งความทรงจำยัดใส่กระเป๋ายกแก้วเหล้ากระดกเข้าปาก
ก็อกๆๆ
“เข้ามาสิ ฉันไม่ได้ล็อกประตู”
ยอดชายหันไปบอกใครบางคนซึ่งอยู่หน้าประตูห้องพักของเขา เพียงชั่วอึดใจเดียวหญิงสาวเจ้าของเรือนร่างสะโอดสะอง ผิวขาวเหลืองแต่งกายด้วยผ้าซิ่นพื้นเมืองก็เดินนวยนาดเข้ามาในห้องพร้อมด้วยรอยยิ้มสดใส
“สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อจันแรมคืนนี้ฉันจะมาให้บริการคุณ”
หล่อนบอกกับยอดชายแล้วหันกลับไปปิดประตู
“จันแรม ชื่อน่ารักดี”
“ขอบคุณจ้ะคุณ”
สาวจันแรมเดินมาหยุดอยู่ปลายเตียง
“คุณต้องการให้จันแรมบริการอย่างไรเป็นพิเศษบอกได้นะจ้ะ จันแรมจะอยู่บริการคุณตลอดทั้งคืน”
หล่อนบอกแล้วนั่งลงปลายเตียงประสานมือวางไว้บนตัก สาวจันแรมหน้าตาสะสวย ตาคม ผมยาวเกล้ามวยสูง คิ้วเข้ม ริมฝีปากบางได้รูปแต่งแต้มด้วยสีชมพูอ่อนๆ ยามหล่อนแย้มยิ้มสามารถสะกดให้จับจ้องอยู่บนดวงหน้าหวานได้เนินนาน ยอดชายเองก็ผ่านสังเวียนเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงมาอย่างโชกโชนยังต้องยอมรับเลยว่าสาวจันแรมสวยระดับนางงามประจำอำเภอเลยทีเดียว
“เรียกฉันว่าพี่ยอดดีกว่านะ ฟังเธอเรียกคุณแล้วมันจั๊กจี้หูแปลกๆ ฉันก็เป็นแค่คนธรรมดานี่แหละไม่ใช่เจ้าขุนมูลนายที่ไหนหรอก”
“ได้จ้ะ พี่ยอด”
“แล้วจันแรมทำอะไรที่พิเศษๆ ได้บ้างล่ะ หืม” สายตาคมกล้าฉายแววเจ้าชู้ประสาชายหนุ่มโสด เขาตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกใช้บริการของหญิงสาวแบบเหมาทั้งคืน
“จันแรมทำให้ได้ทุกอย่างจ้ะ สุดแล้วแต่พี่ยอดต้องการ”
แม่สาวจันแรมยิ้มขวยเขิน ปรกติหล่อนต้องทำงานบริการไม่สามารถเลือกได้ว่าจะพบเจอแขกแบบไหน สูงต่ำ ดำขาว พวกกักขฬะ สุภาพ หยาบคาย ก็สุดแล้วแต่เวรแต่กรรม ทว่าคืนนี้เหมือนสวรรค์จะเข้าข้างให้แม่สาวจันแรมมาพบกับยอดชาย อดีตนายทหารหนุ่มหล่อท่าทางสุภาพ
“หากจันแรมถามความต้องการของฉันในคืนนี้ล่ะก็ ฉันจะบอกตามตรงว่าอยากได้จันแรมเป็นเมีย เธอสวยถูกใจฉันเหลือเกิน”
“พี่ยอดนี่รูปหล่อแล้วยังปากหวานอีกนะจ้ะ สมแล้วที่เขาว่าพวกหนุ่มกรุงเทพฯ ปากหวาน และก็เจ้าชู้ที่หนึ่ง สาวชาวบ้านอย่าได้ไปหลงคารมเป็นอันขาดเดี๋ยวได้ช้ำใจตาย”
“มันก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่ฉันจะปากหวานด้วย ก็จันแรมสวยจริงๆ นี่”
ยอดชายกระเถิบเข้ามาหาสาวจันแรมแล้วโอบรวบร่างอรชรเอาไว้ในอ้อมอก เนื้อตัวของสาวเจ้านุ่มนิ่มหอมกรุ่น กระตุ้นให้ตัณหาเติบกล้า จันแรมเอียงใบหน้าหนีการรุกรานจากปลายจมูกโด่งพัลวันด้วยจริตจะก้านมารยาหญิง
“พี่ยอดนี่ปากว่ามือถึงเหมือนกันนะจ้ะ”
“ฉันไม่ใช่พระอิฐพระปูนสักหน่อยนานๆ จะมาเจอช้างเผือกในป่าอย่างเธอใครเลยจะอดใจไหว อืม แก้มของจันแรมหอมชื่นใจฉันเหลือเกิน” ชายหนุ่มกดปลายจมูกลงไปบนพวงแก้มเนียนสูดซับความหอมหวานของไอกลิ่นสาวเข้าปอดเฮือกใหญ่
“ฉันชักอยากจะกินจันแรมไปทั้งตัวซะแล้วสิ”
น้ำเสียงของยอดชายเริ่มเปลี่ยนเป็นแหบปร่า ความปรารถนาในรสสัมผัสระหว่างเพศทำให้เกิดความคับแน่นกลางกายหนุ่ม
“ขอจันแรมถอดเสื้อผ้าออกก่อนนะจ้ะ พี่ยอดจะได้กินจันแรมสมใจอยาก”
ยอดชายยอมปล่อยหล่อนออกจากอ้อมกอด แม่สาวจันแรมลุกยืนขึ้นค่อยๆ ปลดเสื้อผ้าของหล่อนออกทีละชิ้นละชิ้นอย่างอ้อยอิ่ง ระหว่างนั้นสายตาหวานฉ่ำก็จ้องมองยอดชายชนิดไม่ยอมละสายตา
“สวย ขาว อวบอิ่มไปทั้งตัว” ยอดชายพูดเหมือนคนกำลังละเมอ