SENIORS 22
***************************
“แกว่าอะไรนะ?”
“ฉันถามว่าแกมีอะไรกับพี่อาร์แล้วเหรอ?”
มันคิดได้ยังไงว่าฉันจะไปมีอะไรกับพี่อาร์ นี่มันเห็นเพื่อนของมันเป็นคนนิสัยยังไง
ถ้าฉันบอกไม่ก็คือไม่ไงทำไมไม่เชื่อใจกันบ้างเลยเนี่ย ฉันดึงมือตัวเองออกจากมือของไข่มุกที่มันจับฉันเอาไว้แน่น
ฉันทำหน้าผิดหวังในตัวมันมากที่มันถามคำถามแบบนี้กับฉัน เราเป็นเพื่อนกันมากี่ปีทำไมมันจะไม่รู้นิสัยของฉันว่าฉันเป็นคนยังไง
พอมันถูกฉันจ้องหน้าแบบนี้มันก็เริ่มทำหน้าเลิ่กลั่กเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองทำผิดไปที่มาถามเหมือนฉันเป็นผู้หญิงไม่ดีอ่ะ
“นี่เหมยอย่าทำหน้าแบบนี้ได้ป่ะ ฉันก็แค่ถามอ่ะ”
“แล้วคำถามของแกอ่ะมันคือการเชื่อใจเพื่อนหรือเปล่า แกถามฉันมาหลายรอบแล้วนะฉันก็ตอบแกไปแล้วว่าฉันกับพี่อาร์เราไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่แกก็ถามไม่เลิกอ่ะเหมือนคิดว่าฉันมันไม่ดีขนาดนั้นเลย”
“เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้นนะเหมย”
“แกสบายใจที่จะคิดแบบนี้ก็เรื่องของแก”
ฉันเดินหนีขึ้นห้องตัวเองเพราะไม่อยากพูดกับมัน ที่จริงก็ไม่ได้โกรธมันจริงจังอะไรหรอกก็แค่ไม่อยากให้มันมาคาดคั้นหรือมาถามอะไรมากก็เลยแกล้งทำเป็นโกรธเท่านั้นเอง
ไข่มุกมันจะรู้ดีว่าฉันไม่เคยโกรธอะไรเพื่อนเลยไม่ว่าเพื่อนจะแกล้งฉันมากแค่ไหนก็ตาม มันวิ่งตามฉันมาแล้วทำหน้ารู้สึกผิดที่เผลอพูดไม่ดีกับฉันไป
“ฉันก็แค่เป็นห่วงแกอ่ะ กลัวว่าแกจะเผลอไปมีอะไรกับพี่อาร์ จริงอยู่ที่เขาเป็นคนดีแต่เขาจะดีได้แค่ไหนกัน ฉันกลัวว่าถ้าเขาได้แกแล้วเขาอาจจะไม่ดีกับแกก็ได้”
ไข่มุกทำหน้าจริงจังขึ้นมา มันก็คงจะเป็นห่วงฉันจริงๆ แหละ ฉันยิ้มให้มันและบอกมันว่าฉันไม่ได้มีอะไรกับพี่อาร์เพราะฉันไม่ได้คิดอะไรกับเขา แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะเชื่อหรือเปล่า
“แกเชื่อใจฉันเหอะฉันไม่ได้มีอะไรกับพี่อาร์ และไม่คิดที่จะมีด้วย”
“อืม ไม่มีก็ดีแล้วอยากเพิ่งให้เขาได้เอาแกก่อนแล้วกันไม่งั้นแกเสียตัวให้เขาฟรีๆ แน่”
“แกพูดเหมือนพี่อาร์ไม่ดี?”
“เปล่า พี่อาร์อ่ะเป็นผู้ชายที่แสนดีมากนะแต่ฉันก็แค่กลัวอ่ะ กลัวว่าความแสนดีของเขาจะไม่ได้ดีตลอดไปแล้วอาจทำให้แกเสียใจก็ได้”
“เออ รู้แล้ว ฉันไปนอนแล้วนะ”
“อืม”
ฉันกลับเข้ามาในห้องก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาด้วยความเหนื่อย วันนี้ฉันรู้สึกว่ามันยาวนานกว่าทุกวัน กว่าจะผ่านวันนี้ไปก็ช้ามาซะเหลือเกิน
ไลน์
อาร์_อากะอิ : ฝันดีครับน้องเหมย
อาร์_อากะอิ : คิดถึงนะครับ
เสียงข้อความไลน์ดังขึ้นทำให้ฉันเปิดดูก็เห็นว่าเป็นพี่อาร์ที่ส่งข้อความมาบอกฝันดีและมีสติ๊กเกอร์เป็นหน้าเขาด้วย
ฉันเผลอหัวเราะออกมาก่อนจะลุกไปอาบน้ำเพื่อที่จะเข้านอน พออาบนน้ำเสร็จเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำเสียงมือถือของฉันก็ดังขึ้น เป็นพี่อาร์นั่นเองที่โทรมา
นี่เขายังไม่นอนอีกเหรอเที่ยงคืนแล้วนะ ฉันกะว่าจะไม่รับแต่เขาก็ยังโทรเข้ามาเป็นสายที่สอง นี่ถ้าฉันไม่รับเขาก็จะคงโทรมาเรื่อยๆ สินะ ฉันเลยเลือกที่จะรับ
“เหมยหลับแล้วค่ะ”
ฉันพูดตัดเพื่อที่จะไม่ต้องคุยอะไรกับเขามาก และเขาก็ตอบมาประโยคหนึ่งที่ทำให้ฉันตกใจมากเหมือนกัน ก็ไม่คิดว่าเขาจะบ้าขนาดนี้
[น่าแปลกที่ห้องของเรายังเปิดไฟอยู่]
ฉันเดินไปที่ระเบียงเพื่อที่จะมองหาเขาและก็เจอเขายืนโบกมือให้ฉันอยู่ด้านล่างด้วย
อย่าบอกนะว่าตั้งแต่ที่มาส่งฉันจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่กลับอีก แล้วเขาทำอะไรของเขา คือจะอยู่จนกว่าฉันจะปิดไฟงี้เหรอ
นี่ก็เกินไปหน่อยมั้ยไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดไงที่มีคนมารอหรือมาเฝ้าแบบนี้อ่ะ
“ทำไมยังไม่กลับอีกคะ?”
ฉันยืนคุยโทรศัพท์กับพี่อาร์ที่ระเบียงเพื่อที่จะมองเขาที่อยู่ด้านล่างด้วย เขาส่งยิ้มมาให้ฉันก่อนจะตอบคำถาม
[อยู่รอส่งเหมยเข้านอนไงครับ]
ฉันเงียบไปที่พี่อาร์พูดออกมาอย่างนั้น ฉันไม่คิดว่าเขาจะทนอยู่ข้างนอกเพื่อรอให้ฉันปิดไฟแล้วเขาถึงจะไป นี่ถ้าฉันนอนดึกเขาก็จะไม่กลับหรือไง เขาบ้าไปแล้ว
“กลับได้แล้วค่ะเหมยจะนอนแล้ว”
ฉันไม่อยากให้พี่อาร์ขับรถตอนกลางคืนเพราะมันค่อนข้างที่จะอันตรายมาก ฉันวางสายจากเขาก่อนจะโบกมือลาแล้วกลับเข้ามาในห้องปิดไฟทันทีเพื่อให้เขากลับห้องตัวเองได้แล้ว
ฉันเปิดผ้าม่านแอบมองพี่อาร์ว่าเขาจะกลับไปหรือไงก็ยังคงเห็นเขายืนมองขึ้นมาที่ห้องของฉัน
แต่เขาไม่ได้เห็นฉันหรอกเพราะฉันปิดไฟแล้ว ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้ยืนมองหน้าฉันแบบนี้และแววตาที่เขามองขึ้นมามันดูมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก หรือไม่ฉันก็คิดไปเองก็ได้
[AR : SAID]
ผมยืนมองห้องของเหมยที่ตอนนี้ปิดไฟไปแล้ว ผมมองขึ้นไปแล้วยิ้มให้ทั้งที่ก็รู้ว่าเธอไม่มีทางได้เห็นมันแน่
ผมก็แค่อยากมาส่งเธอเข้านอนเท่านั้น ที่จริงแม่งก็อยากมาส่งเธอเข้านอนทุกคืนนั่นแหละ
เวลาที่ผมได้อยู่กับเหมยมันทำให้ผมยิ้มได้ตลอดเวลาผมก็เลยชอบที่จะอยู่กับเธอทุกวัน
พอเห็นว่าเธอปิดไฟแล้วผมก็ขับรถกลับมาที่ห้องของตัวเอง ผมไม่เคยลืมสัมผัสจากมือของเหมยที่จับมือผมตอนอยู่ที่ตลาดนัด
ผมเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเธอจะกล้าจับมือผมก่อน เพราะเธอก็แสดงออกชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่ได้คิดอะไรกับผม
แต่พอเธอทำแบบนั้นผมก็อยากจะเดินหน้าจีบเธอต่อไป เผื่อว่าสักวันเธอจะยอมใจอ่อนให้ผมบ้าง
ผมไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครมาก่อนเลยนะเธอแม่งเป็นคนแรกเลยเว้ย ก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าผมชอบใครผมถึงจะเข้าหาเอง และผมก็ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับชีีวิตผมด้วย
แต่กับเธอผมอยากให้เธอได้เข้ามาเรียนรู้ชีวิตผมเหมือนที่ผมเองก็อยากเรียนรู้เธอเหมือนกัน
ตอนที่มิหวามาปรากฏตัวต่อหน้าผมกับเหมยแล้วเหมยก็ทำหน้าเย็นชามากมันทำให้ผมแอบโมโหเหมือนกันนะที่เธอเมินเฉยได้มากขนาดนี้
รู้แล้วว่าไม่ได้คิดอะไรแต่ช่วยทำหน้าเหมือนไม่พอใจสักนิดก็ยังดีไง ผมเองก็โมโหได้แค่แป๊บเดียวเท่านั้นแหละ
พอมองหน้าเธอที่ทำหน้าไร้เดียงสาผมก็หายโกรธเธอแล้ว ผมเองก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นว่าจะอะไรกับเธอมากเลย
แต่พอเธอมาบอกว่าชอบผมมันก็ทำให้ผมกล้าที่จะเข้าหาเธอก่อน อาจจะเป็นเพราะว่าทุกครั้งที่เธอมาหาผมและพูดคุยกับผมมันทำให้ผมรู้สึกดีโดยไม่รู้ตัวก็ได้
และตอนนี้ผมก็รู้ตัวเองแล้วว่าผมชอบที่จะอยู่กับเหมยมากกว่าคนอื่น ผมเลิกคิดเรื่องของเธอก่อนจะลุกไปอาบน้ำแล้วเข้านอน
เพราะตอนนี้ก็เกือบจะตีหนึ่งแล้วแต่ก็มีคนโทรเข้ามาหาผมซะก่อน ปกติแล้วเวลาแบบนี้จะไม่ค่อยมีใครโทรมาหาผมหรอก
เพราะคนที่รู้จักผมต่างก็เกรงใจจะมีก็แต่คนที่สนิทด้วยมากๆ เท่านั้นที่จะโทรมาหากมีธุระสำคัญ และผมก็ชอบปิดเสียงมือถือเวลานอนด้วย
ผมหยิบมือถือขึ้นมาดูว่าเป็นใครที่โทรเข้ามาพอเจอชื่อที่โชว์หราอยู่ผมก็โยนมือถือตัวเองกลับไปที่เดิมแล้วเดินเข้าห้องน้ำทันที
ผมอาบน้ำประมาณครึ่งชั่วโมงพอเดินออกมาจากห้องน้ำเสียงมือถือก็ยังคงดังอยู่และก็เป็นชื่อเดิมที่โทรเข้ามาด้วยนั่นก็คือมิหวา
ตอนแรกผมก็ไม่รับหรอกเพราะขี้เกียจคุย ผมลุกไปเขียนนิยายของตัวเองที่แต่งค้างไว้เมื่อสองวันที่แล้ว
ผมเป็นคนที่นอนดึกมากแต่ก็ยอมถ่อสังขารตัวเองไปรับเหมยแต่เช้าทั้งที่ตัวเองได้นอนไม่ถึงสามชั่วโมงด้วยซ้ำ
ผมใช้เวลาเขียนนิยายประมาณสองชั่วโมงก่อนจะเดินมานอน ผมหยิบมือถือขึ้นมาดูมิหวาก็ยังคงโทรมาไม่หยุด
นี่จะเป็นร้อยสายแล้วมั้งเพราะเธอโทรมาไม่หยุดเลย นี่ก็จะตีสามแล้วด้วยผมก็เลยกดรับสายเพื่อให้มันจบๆ ไป
“ครับ”
[อาร์ทำอะไรอยู่อ่ะเราโทรหาก็ไม่รับเลย]
เสียงตัดพ้อดังขึ้นมาทันที เธอเองก็ไม่น่าถามเลยนะว่าทำไมผมถึงไม่รับสายเธอ นี่เธอดูนาฬิกาหรือเปล่าว่ามันกี่โมงกี่ยามแล้วถึงโทรมาไม่เกรงใจคนอื่นแบบนี้
ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ เพื่อไม่ให้ปลายสายได้ยิน ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่คนดีอะไรหรอกนะ
แต่การที่จะให้ต่อว่าผู้หญิงมันก็ไม่ใช่นิสัยของผม ผมก็เลยไม่ได้ต่อว่าอะไรเธอ เพราะต่อให้ว่าเธอแล้วเธอก็ไม่คิดที่จะทำตามอยู่ดี
ตอนตีสามโทรมาแบบนี้รู้แล้วล่ะว่าเธอเป็นคนยังไง แต่ผมก็เลือกที่จะเงียบไว้
“เราหลับไปแล้วอ่ะมันดึกแล้วนะมิหวา มิหวาก็ควรนอนได้แล้วนะ”
ผมเดินไปปิดไฟแล้วมาล้มตัวลงนอนที่เตียงอยากจะวางสายก็ทำไม่ได้เพราะผมเองก็เพิ่งจะกดรับสายเธอไม่ถึงหนึ่งนาทีเลยมั้ง
การที่เธอโทรหาคนอื่นตอนตีตามเธอจะรู้หรือเปล่าว่ามันเสียมารยาทมากแค่ไหนและเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำด้วย ต่อให้จะสนิทกันมากแค่ไหนก็ตามก็ไม่ควรว่ะ
ผมแม่งยิ่งอยากโทรหาเหมยอยากทักไปหาเธอแต่ก็อยากให้เธอได้พักผ่อนเลยเลือกที่จะไม่ทักหรือโทรไปไง
[พรุ่งนี้เราอยากรบกวนอาร์ให้มารับเราหน่อยได้มั้ยอ่ะ ของที่เราจะเอาไปส่งอาจารย์มันเยอะและหนักมากเลยเราไปเองไม่ไหว]
ไอ้ที่โทรมาเป็นร้อยๆ สายเพื่อที่จะมาขอร้องให้ผมไปรับเธอพรุ่งนี้งั้นเหรอ รู้งี้ไม่รับดีกว่าว่ะ แล้วนี่ผมจะปฏิเสธเธอยังไงในเมื่อเธอพูดมาขนาดนี้
[แค่วันเดียวเอง เราขอร้องนะอาร์ อาร์คงจะไม่ใจร้ายที่จะปฏิเสธเราหรอกใช่มั้ย?]
“โอเคครับ พรุ่งนี้เจอกัน”
ผมขี้เกียจคุยแล้วก็เลยตอบตกลงแล้ววางสายไป พรุ่งนี้ผมตั้งใจว่าจะไปรับเหมยและพาเธอไปกินข้าวตอนเช้าก่อนไปมหาลัยแต่ดูท่าแล้วแพลนที่ผมวางไว้จะพังไม่เป็นท่า
ผมเปิดไลน์เหมยขึ้นมาตอนนี้เธอน่าจะนอนแล้ว ถ้าเป็นเหมยที่โทรเข้ามาผมแม่งจะกดรับตั้งแต่สายแรกเลยไม่ปล่อยให้เธอรอนาน
แต่ก็รู้ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้เพราะสายตาที่เหมยมองผมมันทำให้ผมรู้ว่าเธอไม่ได้คิดอะไรกับผมเลยนอกจากรุ่นพี่เท่านั้น
ผมตัดสินใจส่งไลน์ไปบอกเหมยว่าพรุ่งนี้ผมมีธุระไม่ว่างไปรับเธอ เธอเองก็น่าจะดีใจอยู่หรอกที่ผมไม่ได้ไปตามตื๊อเธอ
ผมจะให้เธอให้เป็นอิสระแค่วันเดียวเท่านั้นเพราะหลังจากนั้นผมจะไม่ปล่อยให้เธอห่างจากผมเลย
ทีแรกกะว่าจะไม่ไลน์ไปนะแต่ผมรู้ว่าเธอนอนแล้วมักจะปิดเสียงมือถือเอาไว้คงไม่รบกวนอะไรเธอ เพราะมันจำเป็นจริงๆ
อาร์_อากะอิ : พรุ่งนี้พี่ไม่ได้ไปรับนะครับ
อาร์_อากะอิ : พี่มีธุระเอาไว้เสร็จแล้วจะรีบไปหา
[AR : SAID END]