SENIORS 35
*********************************
วันต่อมา
พี่อาร์มารับฉันตามปกติและไปมหาลัยด้วยกัน วันนี้เขามีธุระเลยให้ฉันกลับเอง ระหว่างทางเขาก็เอาแต่ขอโทษฉันไม่เลิกสักที
ฉันไม่ได้โกรธหรือน้อยใจอะไรเขาหรอกนะเพราะเข้าใจว่าเขามีงานที่ต้องทำ เมื่อก่อนฉันก็ไปไหนมาไหนคนเดียวอยู่แล้วแค่นี้สบายมากสำหรับฉัน
“เหมยไม่โกรธพี่นะครับที่ไปส่งเราไม่ได้”
พี่อาร์หันหน้ามามองฉันตอนที่รถจอดติดไฟแดง ฉันยิ้มให้เขาแล้วส่ายหน้าเพื่อบอกว่าฉันไม่โกรธ
ฉันไม่ได้งี่เง่าขนาดนั้นที่ไม่เข้าใจอะไรเขา อีกอย่างคือเรายังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะไม่ต้องกลัวว่าฉันจะโกรธก็ได้
“งั้นถ้าพี่เสร็จธุระแล้วพี่จะรีบไปหาเราที่ห้องนะ”
“มาทำไมคะ?”
“ก็อยากเจอหน้า”
“ตอนนี้ไม่ได้เจอหรือไง?” ฉันถามกลับ
ตอนนี้เราก็เจอกันไงแล้วทำไมต้องอยากเจอหน้าตลอดเวลาด้วยล่ะ พี่อาร์ที่ได้ยินฉันพูดแบบนั้นก็หุบยิ้มทันทีเหมือนเขาไม่ชอบให้ฉันพูดเหมือนฉันไม่อยากเจอหน้าเขา
เขาอยากให้ฉันไม่ต้องขัดใจเขา ฉันก็แค่ถามหรือเปล่าล่ะ
“เฮ้อ พี่แม่งโคตรเหนื่อยเลยว่ะเหมย”
“…”
“ทำไมเราไม่เข้าใจพี่สักทีว่าพี่จริงจังกับเรามากแค่ไหน พี่ทำขนาดนี้แล้วเรายังไม่เข้าใจอีกไง”
“ก็ได้ค่ะ ถ้าพี่อาร์อยากมาก็มาสิคะ”
ฉันไม่อยากทะเลาะกับพี่อาร์ก็เลยตามใจเขาถ้าเขาอยากมาก็มา พอฉันพูดแบบนั้นคนตรงหน้าก็ยิ้มกว้างเหมือนดีใจที่ฉันไม่ได้ห้ามเขาแล้ว
เมื่อกี้ล่ะทำเป็๋นน้อยอกน้อยใจ พี่อาร์มาส่งฉันที่หน้าคณะพอฉันกำลังจะลงจากรถเขาก็คว้ามือฉันเอาไว้ก่อน ทำให้ฉันหันไปมองเขาก็เห็นว่าเขาเองก็ยิ้มให้ฉันแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“ตั้งใจเรียนนะคะน้องเหมยของพี่อาร์”
“ไปแล้วนะคะ”
ฉันหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาที่ได้ยินพี่อาร์พูดว่าฉันเป็นของเขา เมื่อก่อนก็ไม่ได้เขินอะไรแบบนี้
แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้มันถึงได้เขินให้เขา บ้าเอ้ย ทำไมฉันต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะไม่ชอบตัวเองเลยจริงๆ
ฉันเดินเข้ามาในห้องเรียนก็เห็นหวานนั่งอยู่ก่อนแล้ว เธอหันมายิ้มให้ฉันแล้วบอกว่าวันนี้พี่แทนมาส่งเร็วก็เลยได้มาเร็วกว่าฉัน
ฉันนั่งเรียนกับหวานสักพักก่อนจะออกมาเข้าห้องน้ำเมื่ออาจารย์ขอพักเบรกสิบห้านาที ฉันเดินมาตามทางเดินแล้วก็บังเอิญเจอกับพี่มิหวาพอดี
ก็ไม่รู้จะเรียกว่าบังเอิญได้หรือเปล่าเพราะดูเหมือนเธอตั้งใจที่จะมายืนรอฉันโดยเฉพาะเลย
ฉันแกล้งทำเป็นไม่เห็นแล้วเดินผ่านแต่เธอก็เข้ามาขวางเอาไว้ พอเห็นว่าเธอน่าจะมีเรื่องที่อยากจะคุยกับฉัน ฉันก็เลยอยู่คุยด้วย
เชื่อสิว่าไม่พ้นเรื่องพี่อาร์อีกแน่ๆ เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องพี่อาร์เธอก็คงไม่อยากมาคุยกับฉันหรอก
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ได้ข่าวว่าวันนี้อาร์จะไม่ได้ไปส่งเธอใช่มั้ย?”
รู้สึกว่าเรื่องของฉันกับพี่อาร์จะเข้าหูเธอเร็วไปนะ แต่มันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกที่เธอจะรู้ก็เธอเล่นตามติดชีวิตพี่อาร์ยิ่งกว่าสตอลค์เกอร์ซะอีก ไม่รู้น่ะสิแปลก
และน้ำเสียงที่ใช่พูดกับฉันก็เป็นเชิงเย้ยหยันอย่างเห็นได้ชัดเลย ส่วนสีหน้าที่เธอแสดงออกไม่ต้องถามหรอกนะขนาดน้ำเสียงยังฟังดูไม่รื่นหูเลยแล้วหน้าจะเป็นยังไง
ฉันทำหน้านิ่งไม่ได้ตอบอะไรเพราะไม่รู้ว่าที่เธอมาพูดแบบนี้คือต้องการอะไรจากฉัน
“ที่วันนี้เขาอยู่กับเธอไม่ได้เพราะเขาต้องอยู่กับฉัน”
“…”
“ฉันกับอาร์จะอยู่ด้วยกันเย็นนี้”
“เหรอคะ?” ฉันเลิกคิ้วถาม
ฉันรู้นะว่าที่มาบอกฉันแบบนี้เพราะต้องการที่จะให้ฉันระแวงพี่อาร์หรือหาเรื่องทะเลาะกับเขา
แต่ขอโทษทีฉันกับพี่อาร์เราไม่ได้เป็นอะไรกันต่อให้เธอพูดมากกว่านี้ฉันก็เฉยๆ มาก และจุดประสงค์ที่เธอมาบอกคงไม่ได้หวังดีกับฉันหรอก
ฉันรู้ว่าเธอชอบพี่อาร์จนไม่อยากให้ใครไปยุ่งกับเขาและก็ไม่อยากให้เขาไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นทั้งที่เธอก็ไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเขาด้วยซ้ำเพราะเธอเองก็ไม่ได้คบกับเขา
อีกอย่างพี่อาร์ก็ไม่ได้ประกาศบอกใครว่าใครคือแฟนของเขาด้วย เท่าที่ดูและคนที่คณะพอรู้ก็คือเขากำลังตามจีบฉันเท่านั้นจนมีคนเข้ามาถามฉันบ่อยมากว่าพี่อาร์จีบฉันจริงๆ หรือเปล่า
ข่าวลือของฉันกับพี่อาร์ดังมากในคณะ อย่าลืมนะว่าพี่อาร์เป็นคนดังและรุ่นน้องรู้จักกันเยอะมาก เวลาที่เขาขยับตัวทำอะไรก็มีแต่คนรู้ไปหมด
แต่เรื่องของพี่มิหวาไม่เห็นมีใครรู้เลยนี่มีแต่เธอพูดอยู่คนเดียว ฉันเองก็ไม่ได้อยากมีเรื่องกับเธอหรอกนะ
แต่ในเมื่อเธอเดินเข้ามาหาเรื่องฉันเองฉันก็ไม่เกี่ยงเหมือนกัน ถ้ามันจะต้องมีก็ให้มันมีไปเลยแล้วกันเหอะ
“พูดเหมือนไม่รู้อะไรแต่ในใจนี่ร้อนอยู่่ล่ะสิ อย่างว่าแหละเล่นตัวเพื่อให้เขาสนใจแต่พอเขาไม่อยู่ก็ร้อนรน”
พี่มิหวามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วยิ้มเยาะเหมือนกำลังดูถูกฉันอยู่ ฉันไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะเพราะสิ่งที่เธอพูดน่ะมันไม่จริงเลย
ถ้าฉันร้อนรนฉันก็คงถามพี่อาร์ตั้งแต่ที่่เขาบอกว่ามารับฉันไม่ได้แล้วล่ะ แล้วอะไรที่ทำให้เธอคิดว่าฉันร้อนรนไม่อยากให้เขาไปอยู่กับเธอกัน
คนที่มันกำลังร้อนรนวิ่งเต้นอยู่เนี่ยเป็นเธอหรือเปล่า ที่มาหาฉันก็เหมือนกันคืออยากประกาศมากงั้นว่าพี่อาร์สนใจเธอ
เหอะ ตลกล่ะ ถ้าเขาสนใจเธอ เธอจะเล่นวิ่งตามเขาไปทุกที่หรือเปล่าล่ะ
“…”
“เป็นยังไงล่ะพอเขาไม่สนใจก็รู้สึกเสียหน้าใช่มั้ย ไอ้หน้านิ่งๆ ของเธออ่ะมันปิดไม่มิดหรอกกิ่งเหมย”
“…”
“เธอก็เป็นรุ่นน้องที่อาร์อยากช่วยเหลือเท่านั้น เขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอจริงจังหรอกอย่าหลงตัวเองไปเลย และที่เขาตามจีบเธอเพราะเขาอยากได้แค่ตัวเธอเท่านั้น ถ้าคิดว่าเขาชอบเธอจริงๆ ก็ลองเสียตัวดูสิแล้วเธอจะได้รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของอาร์เป็นยังไง”
ฉันนี่แทบอยากเอามือทาบอกตัวเองทันทีเลยที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนี้
แต่ความจริงแล้วฉันก็ได้แค่ยิ้มเท่านั้นและไม่ได้พูดอะไรกับเธอ พูดไปก็เปลืองน้ำลายใครอยากคิดยังไงก็คิดไปฉันรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรก็พอแล้ว
ฉันเดินหนีออกมาเพื่อที่จะไปเข้าห้องและเวลาพักเบรกก็ใกล้จะหมดแล้วด้วย ฉันไม่อยากเสียเวลามาคุยกับคนที่ไม่หวังดีกับฉัน
แต่พอจะเดินหนีเธอก็ไม่ยอม นี่ก็งงเหมือนกันนะว่าทำไมเธอถึงหาเรื่องฉันไม่เลิกสักที เธอเองก็น่าจะรู้นะว่าฉันไม่ได้ยุ่งอะไรกับพี่อาร์เลยเขามายุ่งกับฉันเองต่างหากล่ะ
นี่ฉันก็เริ่มเบื่อมาก ทำไมพี่อาร์ไม่บอกพี่มิหวาให้เคลียร์ๆ ไปเลยว่าจะเอายังไงกันแน่ เพราะถ้าเขาไม่บอกเธอให้เข้าใจเธอก็คิดว่าตัวเองยังมีโอกาสอยู่ไง
หรือไม่ถ้าพี่อาร์รู้สึกดีกับเธอก็บอกเธอไปเลยเธอจะได้เลิกยุ่งกับฉันสักที เพราะฉันเบื่อมากที่ต้องมาเจอแบบนี้ ฉันไม่ได้อยากมีเรื่องเข้าใจหรือเปล่า
“ถ้าเธอรู้จักอาร์ดีเธอจะรู้ว่าคนอย่างอาร์ไม่ลดตัว ไม่สิ ถ้าพูดว่าไม่ลดตัวนี่ก็จะทำร้ายเธอเกินไป ต้องบอกว่าเขาไม่เอาตัวเองไปยุ่งด้วยน่าจะเหมาะกว่า”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
ฉันยิ้มให้คนตรงหน้าทันทีที่เธอพูดจบ และไม่ได้ต่อว่าหรือพูดจาหาเรื่องเธอด้วย ฉันไม่อยากเสียเวลากับคนแบบนี้ เวลาของฉันไม่ได้มีไว้ให้กับคนที่ไม่หวังดี
ฉันรู้ว่าทุกคำทุกประโยคที่เธอพูดมาก็เพื่อให้ฉันเลิกยุ่งกับพี่อาร์เท่านั้น และความจริงก็คือฉันไม่ได้ยุ่งอะไรกับพี่อาร์เลยแต่เขามายุ่งกับฉันเอง จะดีมากเลยนะถ้าเธอเป็นคนบอกพี่อาร์ไม่ใช่ฉัน
“เหมยไปได้หรือยังคะพอดีปวดขี้อ่ะค่ะ”
“...”
พี่มิหวาที่ยิ้มอยู่นั้นก็หุบยิ้มทันทีเพราะฉันเน้นคำว่าขี้ชัดเจนมาก พอเห็นว่าเธอไม่พูดฉันก็เลือกที่จะเดินหนีมาเอง
พอผละออกจากเธอฉันถึงกลับถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายออกมา ให้ตายเหอะนี่ฉันจะต้องมาเจอเธออีกนานแค่ไหนเนี่ย
เครียดเรื่องเรียนเรื่องงานก็ว่าปวดหัวอยู่แล้วนะนี่ต้องเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเข้าสมองอีก
ฉันเองก็กำลังคิดอยู่นะว่าตัวเองจะเป็นโรคเครียดหรือโรคซึมเศร้าหรือเปล่าเพราะทุกวันที่ฉันต้องเจอมันเป็นอะไรที่แย่มาก
พอเข้าห้องน้ำเสร็จฉันก็เดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นไข่มุกยืนกอดอกมองหน้าฉันอยู่พอดี
วันนี้เรามีเรียนคลาสเดียวกันแต่ไข่มุกไปนั่งกับเพื่อนอีกกลุ่ม อย่างที่บอกนั่นแหละว่าเธอไม่อยากนั่งกับหวาน
ไม่ใช่ว่าไม่ชอบหวานนะแต่ไม่อยากมีเรื่องกับพี่แทน ทุกคนในมหาลัยนี้จะรู้กันดีว่าพี่แทนเป็นบุคคลที่อันตรายมาก
“มายืนรอเข้าห้องน้ำหรือมายืนรอฉันล่ะ?”
“รอแก”
“มีอะไร?”
“เหมยเมื่อกี้ทำไมแกไม่ด่าอีเจ๊นั่นไปเลยอ่ะ ทำไมถึงยืนให้มันพูดจาน่าแตะปากแบบนั้นกับแก?”
ฉันมองหน้าไข่มุกที่มันได้ยินที่ฉันพูดกับพี่มิหวา มันบอกว่ามันเองก็ออกมาเข้าห้องน้ำเหมือนกัน
และเดินตามหลังฉันมาติดๆ แต่พอเห็นว่าฉันยืนคุยกับพี่มิหวาอยู่มันก็เลยแอบฟังเพราะมันเห็นว่าหน้าตาของพี่มิหวาดูไม่น่าไว้ใจยังไงไม่รู้
ฉันก็คิดว่าจะมีแค่ตัวเองเท่านั้นที่คิดไปเองว่าหน้าของเธอมันดูไม่ประสงค์ดี แต่ก็ยังมีคนอื่นที่คิดเหมือนฉันด้วย
“อีเจ๊นี่ใช่ป่ะที่ชอบมาเกาะแกะพี่อาร์อ่ะ เห็นมีคนพูดถึงบ่อยเหมือนกันว่าพี่อาร์เขาจีบแกแล้วทำไมอีเจ๊นี่มันโผล่มาได้”
“ช่างมันเหอะฉันไม่ได้ใส่ใจอะไรหรอก”
ถ้าฉันเอาเรื่องพวกนี้เก็บมาคิดมากฉันคงได้ผูกคอตายพอดี เรื่องบางเรื่องเราไม่จำเป็นต้องเก็บเอามาคิดก็ได้ปล่อยผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดีได้เหมือนกัน
โดยเฉพาะเรื่องของพี่มิหวาฉันไม่อยากเอามาใส่ใจให้ตัวเองต้องปวดหัว คนแบบนั้นไม่ได้มีค่าอะไรที่จะทำร้ายฉันได้
และถ้าเธอยังไม่หยุดหาเรื่องฉัน ฉันเองก็จะฟาดกลับเหมือนกันให้มันรู้กันไปเลยว่าใครจะตายก่อนกัน ฉันหรือว่าเธอ
เพราะฉันก็คงไม่ยอมให้ใครได้มาทำร้ายฉันได้ง่ายๆ หรอก