SENIORS35:พูดให้คิด

2097 Words
SENIORS 35 ********************************* วันต่อมา พี่อาร์มารับฉันตามปกติและไปมหาลัยด้วยกัน วันนี้เขามีธุระเลยให้ฉันกลับเอง ระหว่างทางเขาก็เอาแต่ขอโทษฉันไม่เลิกสักที ฉันไม่ได้โกรธหรือน้อยใจอะไรเขาหรอกนะเพราะเข้าใจว่าเขามีงานที่ต้องทำ เมื่อก่อนฉันก็ไปไหนมาไหนคนเดียวอยู่แล้วแค่นี้สบายมากสำหรับฉัน “เหมยไม่โกรธพี่นะครับที่ไปส่งเราไม่ได้” พี่อาร์หันหน้ามามองฉันตอนที่รถจอดติดไฟแดง ฉันยิ้มให้เขาแล้วส่ายหน้าเพื่อบอกว่าฉันไม่โกรธ ฉันไม่ได้งี่เง่าขนาดนั้นที่ไม่เข้าใจอะไรเขา อีกอย่างคือเรายังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะไม่ต้องกลัวว่าฉันจะโกรธก็ได้ “งั้นถ้าพี่เสร็จธุระแล้วพี่จะรีบไปหาเราที่ห้องนะ” “มาทำไมคะ?” “ก็อยากเจอหน้า” “ตอนนี้ไม่ได้เจอหรือไง?” ฉันถามกลับ ตอนนี้เราก็เจอกันไงแล้วทำไมต้องอยากเจอหน้าตลอดเวลาด้วยล่ะ พี่อาร์ที่ได้ยินฉันพูดแบบนั้นก็หุบยิ้มทันทีเหมือนเขาไม่ชอบให้ฉันพูดเหมือนฉันไม่อยากเจอหน้าเขา เขาอยากให้ฉันไม่ต้องขัดใจเขา ฉันก็แค่ถามหรือเปล่าล่ะ “เฮ้อ พี่แม่งโคตรเหนื่อยเลยว่ะเหมย” “…” “ทำไมเราไม่เข้าใจพี่สักทีว่าพี่จริงจังกับเรามากแค่ไหน พี่ทำขนาดนี้แล้วเรายังไม่เข้าใจอีกไง” “ก็ได้ค่ะ ถ้าพี่อาร์อยากมาก็มาสิคะ” ฉันไม่อยากทะเลาะกับพี่อาร์ก็เลยตามใจเขาถ้าเขาอยากมาก็มา พอฉันพูดแบบนั้นคนตรงหน้าก็ยิ้มกว้างเหมือนดีใจที่ฉันไม่ได้ห้ามเขาแล้ว เมื่อกี้ล่ะทำเป็๋นน้อยอกน้อยใจ พี่อาร์มาส่งฉันที่หน้าคณะพอฉันกำลังจะลงจากรถเขาก็คว้ามือฉันเอาไว้ก่อน ทำให้ฉันหันไปมองเขาก็เห็นว่าเขาเองก็ยิ้มให้ฉันแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “ตั้งใจเรียนนะคะน้องเหมยของพี่อาร์” “ไปแล้วนะคะ” ฉันหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาที่ได้ยินพี่อาร์พูดว่าฉันเป็นของเขา เมื่อก่อนก็ไม่ได้เขินอะไรแบบนี้ แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้มันถึงได้เขินให้เขา บ้าเอ้ย ทำไมฉันต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะไม่ชอบตัวเองเลยจริงๆ ฉันเดินเข้ามาในห้องเรียนก็เห็นหวานนั่งอยู่ก่อนแล้ว เธอหันมายิ้มให้ฉันแล้วบอกว่าวันนี้พี่แทนมาส่งเร็วก็เลยได้มาเร็วกว่าฉัน ฉันนั่งเรียนกับหวานสักพักก่อนจะออกมาเข้าห้องน้ำเมื่ออาจารย์ขอพักเบรกสิบห้านาที ฉันเดินมาตามทางเดินแล้วก็บังเอิญเจอกับพี่มิหวาพอดี ก็ไม่รู้จะเรียกว่าบังเอิญได้หรือเปล่าเพราะดูเหมือนเธอตั้งใจที่จะมายืนรอฉันโดยเฉพาะเลย ฉันแกล้งทำเป็นไม่เห็นแล้วเดินผ่านแต่เธอก็เข้ามาขวางเอาไว้ พอเห็นว่าเธอน่าจะมีเรื่องที่อยากจะคุยกับฉัน ฉันก็เลยอยู่คุยด้วย เชื่อสิว่าไม่พ้นเรื่องพี่อาร์อีกแน่ๆ เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องพี่อาร์เธอก็คงไม่อยากมาคุยกับฉันหรอก “มีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ได้ข่าวว่าวันนี้อาร์จะไม่ได้ไปส่งเธอใช่มั้ย?” รู้สึกว่าเรื่องของฉันกับพี่อาร์จะเข้าหูเธอเร็วไปนะ แต่มันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกที่เธอจะรู้ก็เธอเล่นตามติดชีวิตพี่อาร์ยิ่งกว่าสตอลค์เกอร์ซะอีก ไม่รู้น่ะสิแปลก และน้ำเสียงที่ใช่พูดกับฉันก็เป็นเชิงเย้ยหยันอย่างเห็นได้ชัดเลย ส่วนสีหน้าที่เธอแสดงออกไม่ต้องถามหรอกนะขนาดน้ำเสียงยังฟังดูไม่รื่นหูเลยแล้วหน้าจะเป็นยังไง ฉันทำหน้านิ่งไม่ได้ตอบอะไรเพราะไม่รู้ว่าที่เธอมาพูดแบบนี้คือต้องการอะไรจากฉัน “ที่วันนี้เขาอยู่กับเธอไม่ได้เพราะเขาต้องอยู่กับฉัน” “…” “ฉันกับอาร์จะอยู่ด้วยกันเย็นนี้” “เหรอคะ?” ฉันเลิกคิ้วถาม ฉันรู้นะว่าที่มาบอกฉันแบบนี้เพราะต้องการที่จะให้ฉันระแวงพี่อาร์หรือหาเรื่องทะเลาะกับเขา แต่ขอโทษทีฉันกับพี่อาร์เราไม่ได้เป็นอะไรกันต่อให้เธอพูดมากกว่านี้ฉันก็เฉยๆ มาก และจุดประสงค์ที่เธอมาบอกคงไม่ได้หวังดีกับฉันหรอก ฉันรู้ว่าเธอชอบพี่อาร์จนไม่อยากให้ใครไปยุ่งกับเขาและก็ไม่อยากให้เขาไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นทั้งที่เธอก็ไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเขาด้วยซ้ำเพราะเธอเองก็ไม่ได้คบกับเขา อีกอย่างพี่อาร์ก็ไม่ได้ประกาศบอกใครว่าใครคือแฟนของเขาด้วย เท่าที่ดูและคนที่คณะพอรู้ก็คือเขากำลังตามจีบฉันเท่านั้นจนมีคนเข้ามาถามฉันบ่อยมากว่าพี่อาร์จีบฉันจริงๆ หรือเปล่า ข่าวลือของฉันกับพี่อาร์ดังมากในคณะ อย่าลืมนะว่าพี่อาร์เป็นคนดังและรุ่นน้องรู้จักกันเยอะมาก เวลาที่เขาขยับตัวทำอะไรก็มีแต่คนรู้ไปหมด แต่เรื่องของพี่มิหวาไม่เห็นมีใครรู้เลยนี่มีแต่เธอพูดอยู่คนเดียว ฉันเองก็ไม่ได้อยากมีเรื่องกับเธอหรอกนะ แต่ในเมื่อเธอเดินเข้ามาหาเรื่องฉันเองฉันก็ไม่เกี่ยงเหมือนกัน ถ้ามันจะต้องมีก็ให้มันมีไปเลยแล้วกันเหอะ “พูดเหมือนไม่รู้อะไรแต่ในใจนี่ร้อนอยู่่ล่ะสิ อย่างว่าแหละเล่นตัวเพื่อให้เขาสนใจแต่พอเขาไม่อยู่ก็ร้อนรน” พี่มิหวามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วยิ้มเยาะเหมือนกำลังดูถูกฉันอยู่ ฉันไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะเพราะสิ่งที่เธอพูดน่ะมันไม่จริงเลย ถ้าฉันร้อนรนฉันก็คงถามพี่อาร์ตั้งแต่ที่่เขาบอกว่ามารับฉันไม่ได้แล้วล่ะ แล้วอะไรที่ทำให้เธอคิดว่าฉันร้อนรนไม่อยากให้เขาไปอยู่กับเธอกัน คนที่มันกำลังร้อนรนวิ่งเต้นอยู่เนี่ยเป็นเธอหรือเปล่า ที่มาหาฉันก็เหมือนกันคืออยากประกาศมากงั้นว่าพี่อาร์สนใจเธอ เหอะ ตลกล่ะ ถ้าเขาสนใจเธอ เธอจะเล่นวิ่งตามเขาไปทุกที่หรือเปล่าล่ะ “…” “เป็นยังไงล่ะพอเขาไม่สนใจก็รู้สึกเสียหน้าใช่มั้ย ไอ้หน้านิ่งๆ ของเธออ่ะมันปิดไม่มิดหรอกกิ่งเหมย” “…” “เธอก็เป็นรุ่นน้องที่อาร์อยากช่วยเหลือเท่านั้น เขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอจริงจังหรอกอย่าหลงตัวเองไปเลย และที่เขาตามจีบเธอเพราะเขาอยากได้แค่ตัวเธอเท่านั้น ถ้าคิดว่าเขาชอบเธอจริงๆ ก็ลองเสียตัวดูสิแล้วเธอจะได้รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของอาร์เป็นยังไง” ฉันนี่แทบอยากเอามือทาบอกตัวเองทันทีเลยที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนี้ แต่ความจริงแล้วฉันก็ได้แค่ยิ้มเท่านั้นและไม่ได้พูดอะไรกับเธอ พูดไปก็เปลืองน้ำลายใครอยากคิดยังไงก็คิดไปฉันรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรก็พอแล้ว ฉันเดินหนีออกมาเพื่อที่จะไปเข้าห้องและเวลาพักเบรกก็ใกล้จะหมดแล้วด้วย ฉันไม่อยากเสียเวลามาคุยกับคนที่ไม่หวังดีกับฉัน แต่พอจะเดินหนีเธอก็ไม่ยอม นี่ก็งงเหมือนกันนะว่าทำไมเธอถึงหาเรื่องฉันไม่เลิกสักที เธอเองก็น่าจะรู้นะว่าฉันไม่ได้ยุ่งอะไรกับพี่อาร์เลยเขามายุ่งกับฉันเองต่างหากล่ะ นี่ฉันก็เริ่มเบื่อมาก ทำไมพี่อาร์ไม่บอกพี่มิหวาให้เคลียร์ๆ ไปเลยว่าจะเอายังไงกันแน่ เพราะถ้าเขาไม่บอกเธอให้เข้าใจเธอก็คิดว่าตัวเองยังมีโอกาสอยู่ไง หรือไม่ถ้าพี่อาร์รู้สึกดีกับเธอก็บอกเธอไปเลยเธอจะได้เลิกยุ่งกับฉันสักที เพราะฉันเบื่อมากที่ต้องมาเจอแบบนี้ ฉันไม่ได้อยากมีเรื่องเข้าใจหรือเปล่า “ถ้าเธอรู้จักอาร์ดีเธอจะรู้ว่าคนอย่างอาร์ไม่ลดตัว ไม่สิ ถ้าพูดว่าไม่ลดตัวนี่ก็จะทำร้ายเธอเกินไป ต้องบอกว่าเขาไม่เอาตัวเองไปยุ่งด้วยน่าจะเหมาะกว่า” “เข้าใจแล้วค่ะ” ฉันยิ้มให้คนตรงหน้าทันทีที่เธอพูดจบ และไม่ได้ต่อว่าหรือพูดจาหาเรื่องเธอด้วย ฉันไม่อยากเสียเวลากับคนแบบนี้ เวลาของฉันไม่ได้มีไว้ให้กับคนที่ไม่หวังดี ฉันรู้ว่าทุกคำทุกประโยคที่เธอพูดมาก็เพื่อให้ฉันเลิกยุ่งกับพี่อาร์เท่านั้น และความจริงก็คือฉันไม่ได้ยุ่งอะไรกับพี่อาร์เลยแต่เขามายุ่งกับฉันเอง จะดีมากเลยนะถ้าเธอเป็นคนบอกพี่อาร์ไม่ใช่ฉัน “เหมยไปได้หรือยังคะพอดีปวดขี้อ่ะค่ะ” “...” พี่มิหวาที่ยิ้มอยู่นั้นก็หุบยิ้มทันทีเพราะฉันเน้นคำว่าขี้ชัดเจนมาก พอเห็นว่าเธอไม่พูดฉันก็เลือกที่จะเดินหนีมาเอง พอผละออกจากเธอฉันถึงกลับถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายออกมา ให้ตายเหอะนี่ฉันจะต้องมาเจอเธออีกนานแค่ไหนเนี่ย เครียดเรื่องเรียนเรื่องงานก็ว่าปวดหัวอยู่แล้วนะนี่ต้องเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเข้าสมองอีก ฉันเองก็กำลังคิดอยู่นะว่าตัวเองจะเป็นโรคเครียดหรือโรคซึมเศร้าหรือเปล่าเพราะทุกวันที่ฉันต้องเจอมันเป็นอะไรที่แย่มาก พอเข้าห้องน้ำเสร็จฉันก็เดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นไข่มุกยืนกอดอกมองหน้าฉันอยู่พอดี วันนี้เรามีเรียนคลาสเดียวกันแต่ไข่มุกไปนั่งกับเพื่อนอีกกลุ่ม อย่างที่บอกนั่นแหละว่าเธอไม่อยากนั่งกับหวาน ไม่ใช่ว่าไม่ชอบหวานนะแต่ไม่อยากมีเรื่องกับพี่แทน ทุกคนในมหาลัยนี้จะรู้กันดีว่าพี่แทนเป็นบุคคลที่อันตรายมาก “มายืนรอเข้าห้องน้ำหรือมายืนรอฉันล่ะ?” “รอแก” “มีอะไร?” “เหมยเมื่อกี้ทำไมแกไม่ด่าอีเจ๊นั่นไปเลยอ่ะ ทำไมถึงยืนให้มันพูดจาน่าแตะปากแบบนั้นกับแก?” ฉันมองหน้าไข่มุกที่มันได้ยินที่ฉันพูดกับพี่มิหวา มันบอกว่ามันเองก็ออกมาเข้าห้องน้ำเหมือนกัน และเดินตามหลังฉันมาติดๆ แต่พอเห็นว่าฉันยืนคุยกับพี่มิหวาอยู่มันก็เลยแอบฟังเพราะมันเห็นว่าหน้าตาของพี่มิหวาดูไม่น่าไว้ใจยังไงไม่รู้ ฉันก็คิดว่าจะมีแค่ตัวเองเท่านั้นที่คิดไปเองว่าหน้าของเธอมันดูไม่ประสงค์ดี แต่ก็ยังมีคนอื่นที่คิดเหมือนฉันด้วย “อีเจ๊นี่ใช่ป่ะที่ชอบมาเกาะแกะพี่อาร์อ่ะ เห็นมีคนพูดถึงบ่อยเหมือนกันว่าพี่อาร์เขาจีบแกแล้วทำไมอีเจ๊นี่มันโผล่มาได้” “ช่างมันเหอะฉันไม่ได้ใส่ใจอะไรหรอก” ถ้าฉันเอาเรื่องพวกนี้เก็บมาคิดมากฉันคงได้ผูกคอตายพอดี เรื่องบางเรื่องเราไม่จำเป็นต้องเก็บเอามาคิดก็ได้ปล่อยผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดีได้เหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องของพี่มิหวาฉันไม่อยากเอามาใส่ใจให้ตัวเองต้องปวดหัว คนแบบนั้นไม่ได้มีค่าอะไรที่จะทำร้ายฉันได้ และถ้าเธอยังไม่หยุดหาเรื่องฉัน ฉันเองก็จะฟาดกลับเหมือนกันให้มันรู้กันไปเลยว่าใครจะตายก่อนกัน ฉันหรือว่าเธอ เพราะฉันก็คงไม่ยอมให้ใครได้มาทำร้ายฉันได้ง่ายๆ หรอก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD