แม้จะปฏิเสธแค่ไหน แม้จะพยายามบอกเล่าความจริงยังไง พวกเขาก็ไม่มีใครยอมฟังหล่อน สุดท้ายหล่อนก็กลายเป็นหมาหัวเน่า เป็นสัตว์เดรัจฉานที่ทุกคนเกลียดชัง ในขณะที่โดมินิกกับทิพย์เกสรกลับไปคืนดีกัน และแพลนงานแต่งงาน
เรื่องมันช่างน่าเศร้านัก หล่อนพยายามที่จะลืมมันตลอดเวลา แต่ก็ทำไม่ได้เลยสักครั้ง สุดท้ายก็เลยต้องจมปลักอยู่กับความเจ็บปวดนี้อย่างไร้ทางหลีกหนี
“ฉันถาม หูตึงหรือไง”
หล่อนตื่นจากภวังค์เศร้าเมื่อเสียงขุ่นกระด้างของโดมินิกดังขึ้นอีกครั้ง
“เอ่อ...พี่ทิพย์มีงานค่ะ ก็เลยให้นวลเอาชุดมาแก้ให้ค่ะ”
หล่อนเห็นสันกรามเขียวจางๆ ของโดมินิกขบกันแน่น ดวงตาของเขาที่มองมายังหล่อนเต็มไปด้วยความว่างเปล่า หล่อนยิ้มเศร้าๆ ให้กับตัวเอง
“แต่...ไม่ต้องกังวลนะคะ พี่ทิพย์เสร็จงานแล้วจะรีบมาค่ะ”
โดมินิกที่มารอทิพย์เกสรอยู่นานเกือบยี่สิบนาทีกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ ละสายตาจากผู้หญิงหน้าตาจืดชืดอย่างนวลลออมาที่โทรศัพท์มือถือราคาแพงแทน เขาจิ้มกดเบอร์โทรศัพท์ของหญิงคนรัก
“ไหนทิพย์ว่าจะมาไงครับ”
“พอดีทิพย์มีงานกะทันหันน่ะค่ะ”
“งั้นก็น่าจะแคนเซิลผมก่อน ไม่ใช่ให้ผมมารออยู่แบบนี้”
“มิกขา...ทิพย์ขอโทษนะคะ ตอนแรกทิพย์ก็จะไม่รับงานนี้หรอกค่ะ แต่ยัยนวลน่ะสิคะ คะยั้นคะยอให้ทิพย์รับงานนี้ และขันอาสาว่าจะเป็นคนเอาชุดไปแก้ให้เองค่ะ ทิพย์ขอโทษนะคะ...”
โดมินิกตวัดตามองไปยังนวลลออด้วยสายตาชิงชัง กรามแกร่งขบกันแน่น
“คราวหน้าต้องแจ้งผมก่อน คุณก็รู้นี่ว่าผมไม่อยากเจอหน้าน้องสาวของคุณ”
คำพูดของโดมินิกดังกระแทกเข้ามาในหู หน้าของหล่อนชาดิก ดวงตารื้นไปด้วยหยาดน้ำตา หล่อนเจ็บปวด แต่ก็พยายามที่จะซ่อนเร้นมันเอาไว้สุดกำลัง
หล่อนไม่ได้เป็นคนรักของเขานี่...เขาจะโกรธ หรือจะเกลียด มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา
“โอเค ผมไม่โกรธคุณก็ได้ แต่ผมจะกลับเดี๋ยวนี้”
แล้วผู้ชายตัวสูงใหญ่ หน้าตาหล่อราวกับเทพบุตรลงมาจุติก็ตัดสายสนทนาทิ้ง ก่อนจะมองข้ามหล่อนไปยังเจ้าหน้าที่ของร้านเวดดิ้งที่ยืนฉีกยิ้มรออยู่
“ผมจะกลับแล้ว เจ้าสาวไม่ว่างมา”
“เอ่อ ดิฉันว่าคุณเจ้าบ่าวรอดูงานแก้ของชุดเจ้าสาวก่อนดีไหมคะ คืองานมันก็ใกล้เข้ามาแล้ว ทางเรากลัวจะแก้ให้ไม่ทันน่ะค่ะ”
กรามแกร่งของโดมินิกขบกันแน่น พลางตวัดตามองมาที่หล่อนอย่างโมโห
“ก็เจ้าสาวไม่มา คุณจะแก้งานได้ยังไง”
“เอ่อ...พี่ทิพย์สั่งนวลมาแล้วค่ะ คุณมิกไม่ต้องกังวลนะคะ” หล่อนรีบตอบไปตามความจริง ก่อนจะหัวหดเมื่ออีกฝ่ายเค้นเสียงไม่พอใจใส่หน้า
“ถ้าเป็นคนอื่น ฉันคงไม่กังวลเท่าเป็นเธอหรอก นวลลออ”
“เอ่อ...”
หล่อนพูดไม่ออกกับวาจาชิงชังของผู้ชายใจร้ายอย่างโดมินิก น้ำตาพานจะไหล โชคดีที่พนักงานร้านเวดดิ้งเอ่ยขึ้นเสียก่อน
“แต่เท่าที่มอง หุ่นของคุณน่าจะใกล้เคียงกับเจ้าสาวนะคะ”
นวลลออฝืนยิ้มและพยักหน้ารับ
เจ้าหน้าที่ร้านเวดดิ้งละสายตาจากร่างกายของหล่อน หันไปพูดกับ โดมินิก “ดิฉันรบกวนคุณเจ้าบ่าวรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวทางเราจะรีบแก้ชุดให้ค่ะ”
โดมินิกถอนหายใจอย่างไม่มีทางเลือก “ครับ”
เขาตอบและไม่แม้แต่จะชายตาแลหล่อนอีกเลย
นวลลออฝืนยิ้มให้กับพนักงานร้านเวดดิ้ง ขณะเดินหอบถุงใส่ชุดแต่งงานตามเข้าไปภายในร้าน
ขอให้เรื่องราวในวันนี้จบลงโดยเร็วทีเถอะ เพราะหล่อนทนเห็นสายตาเกลียดชังของโดมินิกที่สาดซัดใส่มาไม่ไหวอีกแล้ว
เวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาที สายตาของโดมินิกที่ตรึงอยู่บนนิตยสารในมือก็มีอันต้องถูกรบกวน เมื่อเสียงเรียกของพนักงานร้านเวดดิ้งดังขึ้น พร้อมๆ กับบางอย่างที่ทำให้เขาอดตกตะลึงจนต้องเผลอเบิกตากว้างไม่ได้
นวลลออ ผู้หญิงนิสัยร้ายกาจในชุดเจ้าสาวสีขาวแสนสวยฟูฟ่อง แม้เส้นผมจะถูกรวบขึ้นเอาไว้กลางศีรษะลวกๆ ไม่ได้จัดแต่งอะไร แต่กระนั้นก็สามารถทำให้เส้นของดวงหน้าชัดเจนขึ้น หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงจืดชืดอย่างที่เขาเคยคิดเอาไว้อีกแล้ว
เขาพยายามควบคุมระบบการหายใจของตัวเอง และเตือนสติว่าผู้หญิงตรงหน้าไม่ใช่ทิพย์เกสรหญิงคนรัก แต่กระนั้นสายตาไม่รักดีมันยังคงทรยศไม่เลิกรา มันไล่เลื่อนต่ำจากดวงหน้าขาวนวลลงไปยังลำคอระหง บ่าบอบบาง และเนินหน้าอกที่ล้นทะลักออกมาทักทายสายตา เขาลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก ระบบประมวลผลในสมองพิกลพิการไปทันที เมื่อสายตาไล่ตามลงมายังบริเวณลำตัวของหญิงสาว เอวคอดเล็กจนน่าใจหาย ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงที่เขาเคยมองว่าไร้เสน่ห์ใดๆ ทั้งปวงอย่างนวลลออจะสวมชุดเจ้าสาวได้น่ามองถึงเพียงนี้ หล่อนใส่สวยยิ่งกว่าทิพย์เกสรเสียอีก
บ้าเอ๊ย! นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่!
สติวิ่งแล่นกลับเข้ามา และมันก็ทำให้เขาสามารถกัดฟันละสายตาจากเรือนร่างของนวลลออได้สำเร็จ เขาขบกรามแน่น และตวัดตามองพนักงานร้านเวดดิ้งด้วยความโมโห
“พวกคุณทำบ้าอะไรกัน?!”
พนักงานสามสี่คนตกใจสะดุ้งโหยง รวมถึงหล่อนด้วยเช่นกัน
“เอ่อ...ต้องขอโทษคุณเจ้าบ่าวด้วยนะคะ ที่ชุดยังดูไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ คือว่า...น้องนวลหุ่นเท่าๆ กับเจ้าสาวก็จริง แต่ช่วงหน้าอกของน้องนวลจะมีมากกว่า และเอวก็คอดกว่า ก็เลยทำให้ชุดดูคับๆ ไปน่ะค่ะ แต่ถ้าเจ้าสาวได้ใส่ต้องพอดีอย่างแน่นอนค่ะ”