ตอนที่ 7 ง้อ
[เพทาย]
หลังจากที่เคลียร์ปัญหา ผมก็มานั่งเซ็งอยู่ในห้องทำงานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิด แอปพลิเคชัน facebook ผมเป็นคนไม่ค่อยรับคนมั่วในเฟสเลยมีเพื่อนไม่ถึงพัน แต่คนติดตามของผมไม่ใช่น้อยเลยนะไม่รู้ว่ามันผมไปสนิทกับพวกมันตอนไหนถึงได้มาติดตามของผมเกือบหมื่น
นึกขึ้นได้ว่าเมียสดๆ ร้อนๆ อย่างไอ้ไผ่มันกำลังงอนอยู่ผมเป็นคนไม่เคยง้อใครแล้วจะง้อยังไงละเนี่ย จะไปถามพวกไอ้ดิวก็กลัวเสียฟอร์ม ผมเลยกดโพสต์เล่นๆ ที่หน้าเฟสตัวเองรอไปไม่นานก็มีเสียงแจ้งเตือนขึ้นรัวๆ ผมกดเข้าไปอ่านแก้เซ็ง
"จะง้อใครหรอคะพี่เพทาย "
" พี่เพทายมีเมียแล้วหรอ "
" ใครคือคนที่พี่เพทายจะง้อ"
" กรี๊ด! ง้อๆ เมียๆ "
พี่ดิวคนหล่อ: ไอ้สัสเผลอแป๊บเดียวมึงมีเมียแล้วหรอ
แทน แท่น แท้น: มึงนี่มันสุ่มจริงๆ บอกกูมานะว่าเป็นใคร
Petay : เสือก
ตึ้งงง
เสียงแจ้งเตือนทำให้ผมเข้าไปดูเป็นแชทกลุ่มพวกไอ้ดิวกับไอ้แทนมันเข้ามาทักในแชทกลุ่มพร้อมกันเหมือนว่าพวกมันอยากจะเสือกเรื่องนี้เต็มที ผมกดเข้าไปอ่าน
แทน แท่น แท้น : มึงจะไปง้อใครบอกกูมาเลยนะไอ้เพทายมึงอย่ามาอุบอิบ
ดิวคนหล่อ: ใช่มึงยังเห็นพวกกูเป็นเพื่อนอยู่ไหม
Petay :พวกมึงอยากเสือกก็บอกมาตรงๆ ไม่ต้องมาอ้างนู่นอ้างนี่ไอ้พวกห่าอย่าคิดว่ากูไม่รู้ทันพวกมึงนะ
ดิวคนหล่อ: ถ้ารู้ก็รีบๆบอกให้กูยิ่งอยากรู้อยู่
แทน แท่น แท้น: ช่ายยย
Petay : ก็ไม่มีอะไรมากแค่เมียกูงอนเฉยๆ แล้วกูก็ไม่รู้จะง้อยังไงด้วย
แทน แท่น แท้น: พวกกูถึงทักมาหามึงนี่ไงกูอยากรู้ว่าเมียมึงคือใคร
ดิวคนหล่อ: มึงอย่ามาเล่นตัวรีบบอกกูเดี๋ยวนี้
Petay: พวกมึงก็น่าจะเดาได้ไอ้ไผ่ไง
แทน แท่น แท้น: กูว่าแล้วแสดงว่าหลังจากนั้นพวกมึงไปอึ๊บกันใช่ไหม
ดิวคนหล่อ: มึงเลวมาก
Petay: อะไรของพวกมึงเนี่ยนี่บอกวิธีง้อมาให้กูได้แล้วกูรู้ว่าพวกมึงมันเสือผู้หญิงหาวิธีง้อได้เยอะแยะ
ดิวคนหล่อ: มึงก็จับกดไงเรื่องง่ายดี
แทน แท่น แท้น:พ่องมึงดิ มึงพาน้องมันไป ช๊อปปิ้งเดี๋ยวก็หาย
Petay :พวกมึงแม่งโคตรไร้ประโยชน์กูไปและเสียเวลามากกว่าการที่กูคุยกับพวกมึง
ผมกดออกจากแอปพลิเคชัน facebook แล้วโยนโทรศัพท์ไปบนโซฟาอย่างเซ็งๆ มองนาฬิกาเรือนหรูบนฝาผนังตอนนี้บ่าย 3 กว่าแล้ว ค่อยง้อตอนที่มันมาทำงานก็แล้วกัน
[ไผ่]
หลังจากที่ผมเห็นโพสต์นั้นผมก็ไม่เห็นพี่เพทายทำอะไรอีกเลยเหมือนกับทิ้งไว้เฉยๆ อะไรของพี่แกไม่คิดจะง้อกันเลยหรือไงอุตส่าห์บอกไปจะแท้ว่างอนอยู่!! ตอนนี้ 6 โมงกว่าแล้วผมรีบแต่งตัวเพื่อที่จะไปทำงาน ถึงผมจะงอนอยู่แต่ผมก็ไม่ยอมให้งานผมเสียหรอกนะตั้งคืนละ 500 เสียดาย นั่งรถเมล์มาสักพักก็ถึงกับตอนนี้ ยังไม่มีคนมาเพราะยังไม่ถึงกับเปิดทุกอย่างดำเนินไปเปิดปกติผมเดินไปแต่งตัวรอลูกค้า
"ไงไผ่วันนี้มาไวนะ " เมื่อผมเดินออกมาจากห้องแต่งตัวก็เห็นพี่กราฟยืนยิ้มๆให้
" สวัสดีครับพี่กราฟ ยังขยันเหมือนเดิมเลยนะครับ " ผมหันไปไหว้ทัก ใจจริงอยากจะถามหา ผัวเอ๊ย! ไม่ใช่พี่เพทายแต่ว่าก็ติดที่งอนอยู่ไม่กล้าถาม
" ขึ้นไปดูนายหน่อยไหมไม่รู้เป็นไรทำท่ากระฟัดกระเฟียดตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว " พี่กราฟมองแล้วยิ้มให้อย่างล้อๆ คงเพราะรู้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่เพทายดี
" ช่างเถอะครับผมขอตัวไปเตรียมตัวทำงานก่อนนะ " ผมก้มหัวให้ก่อนจะเดินผ่านพี่กราฟระหว่างรอลูกค้าผมก็ทำอะไรไปเรื่อยจนกระทั่ง 2 ทุ่มเริ่มมีลูกค้าทยอยเข้ามากันเป็นกลุ่มกลุ่มบางคนก็มาคนเดียวบางคนก็มาเป็นคู่
ผมที่กำลังก้มหน้าก้มตาเช็ดโต๊ะอยู่รู้สึกว่ามีสัมผัสอะไรมาคลอเคลียอยู่ที่ข้างหลังเลยหันกลับไปมองก่อนจะสะดุ้งไม่ได้เมื่อเห็นว่าคนที่มาคลอเคลียเป็นใคร
"เอ่อ พี่เพทายมีอะไรหรือเปล่าครับ " ผมถามได้อย่างสงสัยเวลานี้เป็นเวลาทำงานไม่คิดว่าอีกคนจะมาทำท่าเล่นแบบนี้
" อะไรมึงก็ทำงานไปสิ " ร่างสูงบอกอย่างไม่ใส่ใจมือยังกอดเอวบางของผมไว้อยู่
" แต่ผมทำไม่ถนัด " ผมหันไปบอกแต่พี่เพทายก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรผมเลยหันหน้าก้มหน้าก้มตาเช็ดโต๊ะต่อเมื่อโต๊ะนี้เสร็จก็ไปที่อื่นแต่ร่างสูงก็ยังคงเคลียร์อยู่ที่ข้างหลังผมเหมือนเดิม จนอดรำคาญไม่ได้ จนเวลาผ่านไปพักใหญ่ๆ อีกคนก็ยังไม่ห่างออกจากตัวผม
" พี่เพทายออกไปทำงานของตัวเองเลยผมจะทำงานเนี่ยไม่เห็นหรอว่าผมทำงานไม่ถนัดมีแต่คนมองเต็มไปหมดเลยเนี่ย " ผมบ่นตอบมาเบาๆก็จะไม่ให้มองได้ยังไงล่ะผู้ชายแต่งตัวดูดีกำลังกอดเอวพนักงานเช็ดโต๊ะอยู่แถมคนกอดยังหล่อเหลาขนาดนี้ด้วยมีทั้งผู้ชายผู้หญิงทอดสะพานมาให้
" อะไรกูก็กำลังง้ออยู่นี่ไงมึงจะทำอะไรก็ทำไปสิ " ผมแทบจะสำลักน้ำลายตัวเองตายเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายทำแบบนี้เพราะง้อ!! ง้อบ้านไหนของพี่แกวะ!!
" พรืดดดดดด ฮ่าๆ นี่เป็นการง้อของพี่เพทายหรอโคตรแปลกเลย ถ้าไม่บอกผมไม่รู้นะเนี่ย! " ผมวางมือจากโต๊ะแล้วหมุนตัวหันไปมองร่างสูงพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างทนไม่ไหว
" อะไรของมึงกูจะคิดตั้งนานกว่าจะได้วิธีง้อนะ " ร่างสูงอดที่จะหน้าแดงไม่ได้เมื่อเห็นคนร่างเล็กหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตายหน้าหล่อหันไปทางอื่น อย่างไม่พอใจ
"โอ๋ๆ เค้าหายงอนแล้วนะตัวเอง อย่าโกรธไปเลยดีกันนะ ดีกันๆ "ผมรีบพูดเมื่อเห็นว่าร่างสูงเหมือนจะงอน ยกนิ้วก้อยเล็กๆ ขึ้น
"อะไรกูไม่ใช่เด็ก 3 ขวบ "ถึงจะบอกแบบนั้นแต่ร่างสูงก็ยกนิ้วก้อยขึ้นมาเกี่ยวแต่ก็ไม่ยอมสบตากับอีกคน ผมอดที่จะอมยิ้มไม่ได้ไม่คิดว่าพี่แกมีมุมแบบนี้ด้วยถึงมันจะไม่เข้ากับหน้าเราหล่อๆ โหดๆ แบบพี่แกก็เถอะ
"อะ แฮ่มม ถ้าเจ้านายยังไม่ปล่อยให้น้องไผ่ทำงานต่อไปผมจะตัดเงิน "เสียงที่มาขัดขวางไม่ได้ทำให้ผมสนใจเท่าคำพูดตัดเงินแสดงว่าคืนนี้ผมจะไม่ได้ตังค์ 500 สิเมื่อได้ยินดังนั้นผมก็รีบผลักพี่ไปถ่ายออกอย่างไว!!
" มึงมันมารผจญ! " พี่เพทายพูดก่อนจะหันหลังเดินขึ้นบันไดไปสงสัยจะกลับไปที่ห้องทำงาน
"ไปทำงานต่อได้แล้วครับน้องไผ่เดี๋ยวจะไม่ได้ตังค์นะ " เสียงพูดเหมือนมารร้ายยิ่งทำให้ผมรีบวิ่งกลับไปทำงานต่อผมว่าคนที่มีอำนาจมากที่สุดในผับนี้ไม่ใช่พี่เพทายแล้วล่ะแต่เป็นพี่กราฟมากกว่า!!
++++++++ต่อ++++++++
"ขอบคุณที่มาส่งครับ" ผมหันไปขอบคุณพี่เพทาย เมื่อเห็นอีกคนพยักหน้าให้ผมก็เปิดประตูลงไปแต่ก่อนที่จะเดินเข้าบ้านก็ต้องชะงักเท้าก่อนเมื่อหันไปมองร่างสูงที่เดินตามลงมา
"ทำไมยังไม่กลับมาครับ " ผมหันไปทัก
"เหนื่อยง่วงขอนอนด้วย " ผมกะพริบตาปริมๆ อย่างไม่เข้าใจสมองมวลผลคำที่ร่างสูงพูด หมายความว่าพี่เพทายจะมานอนกับผมหรอ!!
" ทำไมละครับปกติก็ไม่เห็นเป็นนี่" ถึงจะบอกว่าง่วงแต่หน้าตาของอีกคนก็ยังคงสดใสหล่อเหลาเหมือนเดิมไม่ได้มีอาการตาปรือเหมือนคนง่วงมันจะทำให้ผมเชื่อลงได้ยังไง
"อย่ามาเถียงกูง่วงถ้าเกิดกูขับรถไปเกิดอุบัติเหตุมึงจะทำยังไงถึงจะรับผิดชอบไหม ถ้าเกิดกูพิการมากูจะไล่มันออก "ร่างสูงอ้างเหตุผลร้อยแปด
"โห่! พูดแค่นี้เองเออเออเข้ามาเถอะ " ผมเดินไปเปิดรั้วบ้านเพื่อให้รถคันหรูเข้ามาจอดข้างในถ้าจอดข้างนอกคงจะล่อตาล่อใจพวกโจรไม่น้อย
เมื่อรั้วบ้านเลื่อนรถคันหรูก็วิ่งเข้าไปจอดข้างในร่างสูงเดินออกมาจอดรถแล้วเดินเข้ามาหาผมปากหนากระตุกยิ้มน้อยๆ อย่างอารมณ์ดี
ผมเดินเข้ามาในบ้านภายในบ้านมืดสนิทผู้เป็นพ่อคงยังไม่กลับมาถึงอีกคนจะชอบหายออกจากบ้านไปบ่อยๆ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ผมเดินไปกดสวิตช์ไฟ ไฟที่สว่างจ้าขึ้นอย่างทันทีทำให้ผมอดที่จะเบือนหน้าหนีแสงสว่างไม่ได้ เมื่อสายตาเริ่มชินแล้วผมก็มองไปรอบๆบ้าน
"พี่เพทายจะกินอะไรสักหน่อยไหมเดี๋ยวผมไปทำให้ "ผมหันไปถามร่างสูง
"ไม่ละ" ผมก็ไม่ได้พูดอะไรเดินขึ้นไปบนชั้นสองพี่เพทายเดินตามมา ผมมายืนอยู่ที่ประตูบานที่คุ้นเคยเปิดเข้าไปเป็นห้องที่คุ้นเคยขนาดไม่ใหญ่มาก
"ผมขอไปอาบน้ำก่อนนะครับ" ว่าแล้วผมก็เดินหยิบของเข้าไปในห้องน้ำ
[เพทาย]
ตอนนี้ผมยืนเคว้งคว้างอยู่กลางห้องนอนขนาดเล็กเมื่อเทียบกับห้องนอนของผมที่คอนโดของเมียสุดๆ ใหม่ๆ รอบๆห้องไม่มีอะไรมากมีเตียงขนาดเล็กวางอยู่กลางห้อง มีโต๊ะเครื่องแป้งและโต๊ะหนังสือขนาดกลาง ตู้เสื้อผ้าเตี้ยๆ
ผมเดินไปมองดูกรอบรูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเป็นรูปครอบครัวพ่อแม่ลูก 3 คน ผมมองร่างเล็กที่อยู่ตรงกลางระหว่างคนที่น่าจะเป็นพ่อกับแม่ รอยยิ้มสดใสที่ยิ้มจนแทบจะเห็นฟันทั้ง 32 ซี่ ดวงตากลมโตมองมาอย่างเป็นประกายแห่งความสุข ไผ่เป็นคนที่หน้าเหมือนแม่มากๆ แทบจะถอดแบบออกจากกันมาเลยส่วนคนเป็นพ่อแทบจะไม่มีเขาโครง
ผมถอดรองเท้าก่อนจะขึ้นไปนอนแผ่บนเตียงข้ออ้างที่บอกว่าง่วงนอนจนกลับบ้านไม่ได้เป็นเรื่องที่ผมโกหกเองทั้งสิ้น นานๆ ทีจะมีโอกาสแบบนี้แถมยังเจอแจ๊คพ็อตพ่อของร่างเล็กไม่อยู่ด้วยแบบนี้.....หึหึ
แกร๊ก
หลังจากที่ผมอาบน้ำทำอะไรเรียบร้อยเสร็จก็เดินออกมาเห็นร่างหนาของพี่เพทายนอนนอนนิ่งอยู่บนเตียงจนอดที่จะเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วเอานิ้วจิ้มแก้มเบาๆ ไม่ได้
" พี่เพทายหลับแล้วหรอผม"สะกิดอีกคนแต่เมื่อเห็นว่าอีกคนยังนิ่งอยู่ผมก็เลิกสนใจ คงจะเหนื่อยอย่างที่ปากบอกจริงๆ ..
"เชี้ย! " ผมสะดุ้งล้มตัวลงไปนอนบนเตียงหลังจากที่ถูกแรงดึงของอีกคน
"พี่เพทายทำอะไรเนี่ยผมตกใจหมดถ้าผมหัวใจวายจะทำยังไงผมมีคนเดียวในโลกนะทะนุถนอมผมหน่อย "ถึงจะตกใจแต่ผมก็อดบ่นออกมาไม่ได้ ดูขนาดตัวผมกับพี่แกสิผมนี่ยังกับตะเกียบดูหุ่นพี่เพทายอย่างกับท่อนซุง!
"มึงนี่นอกจากพูดมากขี้งกแล้วยังขี้บ่นอีก"ผมหันไปมองตาเขียวใส่อีกคน แสดงว่าที่นิ่งไปก็แกล้งหลับสินะ!
" พี่เพทายปล่อยได้แล้วทำอะไรเป็นเด็กไปได้ แล้วนี่ยังมาแกล้งนอนหลับอีกปล่อยผมได้แล้ว "ผมทำเสียงเข้มใส่เด็กโข่ง
"ไม่"ร่างสูงพูดเสียงเข้มกลับมาอย่างเอาแต่ใจ ก่อนจะก้มหน้าลงบนซอกคอผมสูดหายใจเข้าแรงๆ พลางขบเม้มจนเป็นรอยแดง
"อืออ มันจั๊กจี้ "ผมหดคอหนีสัมผัสร้อนๆ ของริมฝีปากหนา มือแกร่งซุกซนเริ่มสอดใส่เข้ามาในชุดนอนตัวบาง อะไรกันนี่ผมจะเสียตัวอีกแล้วหรอ! ไม่นะ!
ผมยังไม่พร้อมเลยจริงจริ๊ง!!