"สวัสดีค่ะน้องอัญชัน เที่ยงนี้ไปทานข้าวกับพี่ไหมคะ?"
พี่ภูผาเอ่ยปากทักทายพร้อมด้วยรอยยิ้มขี้เล่น พลางยื่นช่อดอกกุหลาบสีแดงสดทำท่าราวกับว่าตัวเองเป็นเจ้าชาย ซึ่งสำหรับคนอื่นอาจจะคิดว่ารอยยิ้มขี้เล่นของเขาในตอนนี้มันมีคุณค่าทางจิตใจสูง แต่สำหรับฉันทำไมถึงรู้สึกว่ามันกวนเบื้องล่างสิ้นดี -_-
"ฉันไม่ว่าง!"
"แต่พี่ว่างนี่คะ - -"
อะ...ไอ้ผู้ชายคนนี้ -_-^
"นักศึกษานั่งที่ครับ เราจะเริ่มคลาสกันแล้ว..."
เสียงอาจารย์ที่พูดแทรกสถานการณ์เชิงซับซ้อนในตอนนี้ ทำให้เสียงกรี๊ดและเสียงฮือฮาภายในคลาสเงียบลงในทันที ทุกคนต่างพากันกลับไปนั่งประจำที่ของตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่ยัยปากแดงที่ดูจะแค้นฉันไม่หาย
"นักศึกษาตรงนั้นนั่งที่ด้วยครับ" อาจารย์ปรามเบาๆ และนั่นทำให้ ฉันรีบลดตัวลงนั่งประจำที่ตามคำสั่ง เว้นเสียแต่กับพี่ภูผาที่เหลียวหลังมองอาจารย์ช้าๆ ด้วยท่าทีหาเรื่อง
"คะ...คุณภูผา! อาจารย์ขอโทษครับ อาจารย์ไม่รู้ว่าเป็นคุณ"
"อาจารย์คุณรู้ไหม? คุณกำลังขัดการสวีทของผมกับแฟน" พี่ภูผาพูดทักทายอาจารย์กลับไปเสียงเรียบ แววตาเรียบเฉยแสดงความเย็นชาออกไปแบบชัดเจน
"แฟนคุณ... คะ คนไหนครับ?"
พี่ภูผาไม่พูดจาตอบโต้ใดๆ กลับไป แต่กลับเหลือบมองมาทางฉันที่นั่งนิ่ง ทำตาโตพร้อมๆ กับเสียงฮือฮาอีกระรอก
อะ อีตาบ้านี่พูดอะไรแบบนั้น!!
"อาจารย์ขอโทษครับ อาจารย์ไม่รู้ อาจารย์แค่จะมาชี้แจงเรื่องการฝึกงานของเด็กในคลาส"
"แล้วมันยังไง?"
"ขอความสงบให้อาจารย์ชี้แจงงานก่อนได้ไหมครับ?"
"ได้ครับ ผมไม่ขัดคุณหรอกอาจารย์" พี่ภูผากระตุกยิ้มมุมปากแบบเจ้าเล่ห์ หันไปสบตากับอาจารย์ประจำวิชาด้วยท่าทีที่ไม่ต่างจากเดิมนัก ก่อนจะเริ่มพูดต่อ "ชี้แจงเสร็จแล้วช่วยลงไปเซ็นต์ใบลาออกจากมหา’ลัยด้วยนะครับ!"
หน้าอาจารย์คนเดิมซีดเผือด ก้มหน้างุดคล้ายกับยอมรับชะตากรรมของตัวเองด้วยสีหน้าละห้อย ซึ่งนั่นดูจะทำให้พี่ภูผาพอใจเอาเสียมากๆ
เขาเดินมาทิ้งตัวลงนั่งยังโต๊ะเรียนใกล้ตัวฉันมากที่สุด ก่อนจะหันมาถามฉันด้วยท่าทางกวนๆ ว่า
"น้องอัญคะ พี่เจ๋งใช่ไหม?"
"เจ๋งกับผีสิ ปัญญาอ่อน สิ้นคิด - -" ฉันตอกหน้าเขากลับไปแบบไม่สนใจ เหลือบมองอาจารย์ที่ดูมีท่าทีตางออกไปจากเดิม
ปกติแล้วอาจารย์ท่านนี้จะค่อนข้างดุ แถมยังมั่นใจในตัวเองเอาเสียมากๆ แต่ดูเขาในเวลานี้สิ กลับเปลี่ยนไปเป็นอีกคนตั้งแต่โดนพี่ภูผาสั่งไล่ออกก็ดูซึมไปเลย...
ฉันละเบื่อผู้ชายสมองถั่วแบบหมอนี่เสียจริง -_-
"ทางมหาวิทยาลัยของเราลงความเห็นกันว่า อยากให้นักศึกษาของเราเริ่มฝึกงานเพื่อเรียนรู้และสร้างประสบการณ์ในการทำงาน วันนี้อาจารย์อยากให้นักศึกษาเขียน Resume เพื่อยืนในการขอเข้าฝึกงานของแต่ละบริษัทที่ตัวเองอยากเข้าฝึกงาน และจะเริ่มฝึกงานเก็บคะแนนทันทีที่บริษัทนั้นๆ เรียกตัวเข้าไปลองงาน”
เสียงบ่นอุบดังขึ้นอีกครั้งทันทีที่อาจารย์พูดจบ แน่ล่ะ! ในเมื่อทุกคนในที่นี้ไม่มีใครอยากจะเข้าฝึกงานกันสักคน ในเมื่อรายงานที่ต้องทำในแต่ละวันมันก็หนักจะตายอยู่แล้ว
"นี่ปูไท เธอจะเข้าฝึกงานหรือเปล่า?"
"คงไม่ละ ไม่อย่างนั้นเวลาทำงานพิเศษของฉันคงน้อยลง"
ฉันพยักหน้ารับฟังเธออย่างเข้าใจ
"อัญเองก็คงจะเข้าฝึกงานที่บริษัทของคุณพ่อตัวเองใช่ไหม?"
"คิดเอาไว้แบบนั้นเหมือนกัน"
"ไม่ได้นะคะน้องอัญชัน!" เสียงเข้มขัดดังลั่นทำเอาทุกๆ เสียงเงียบลงไปในทันที "น้องอัญชันห้ามไปฝึกงานที่ไหน นอกจากที่บริษัทของพี่ภูคนเดียว!"
"-_-"
"ถ้าฝึกงานที่บริษัทพี่รับรองเลยนะคะ พี่จะเข้าไปดูแลบริษัททุกวัน จะเพิ่มโบนัสให้ทุกวัน จะตามดูแล เทคแคร์เป็นห่วงน้องอัญตลอดเวลา..."
"พี่พูดบ้าอะไรของพี่น่ะ!" ฉันเค้นเสียงปรามร่างสูงข้างๆ พลางกวาดสายตามองไปรอบๆ คลาสเรียนที่ตอนนี้ทั้งฉันและพี่ภูผาเริ่มตกเป็นจุดสนใจของคนในคลาสอีกแล้ว
"เข้าใจไหมคะว่าพี่ห่วง ยิ่งน้องอัญชันแต่งตัวแบบนี้พี่ยิ่งหวง" เขาพยายามทำเสียงออดอ้อน ถือวิสาสะคว้ามือฉันกุมไว้แนบออก จนต้องรีบสะบัดมือออกด้วยความรังเกียจ
หมอนี่...ต้องการอะไรกันแน่!
"อาจารย์ครับ!" พี่ภูผายังคงแผลงฤทธิ์ไม่หยุด เขาเบี่ยงความสนใจจากฉันไปยังอาจารย์ที่เขาเพิ่งพิพากษาไล่ออกไปก่อนหน้านี้อีกครั้งด้วยท่าทางจริงจัง
"ครับ คุณภูผา..."
"จัดการโอนชื่อผู้หญิงคนนี้ไปฝึกงานที่บริษัทของผมที..." พี่ภูผาประกาศก้องก่อนหันมายักคิ้วใส่ฉันคล้ายกับคนที่มีอำนาจเหนือกว่าก่อนจะเบี่ยงสายตากลับไปหาอาจารย์หน้าชั้นอีกครั้งพร้อมคำพูดประโยคสั้นๆ "แล้วผมจะไม่ไล่คุณออก"
"ได้ ตามใจเลยครับคุณภูผา" อาจารย์ก้มหัวให้พี่ภูเล็กน้อยคล้ายกับน้อมรับคำ และนั่นทำให้เขาดูได้ใจขึ้นมา รีบคว้าตัวฉันให้ลุกจากที่นั่งพร้อมออกแรงดึงเบาๆ ให้ฉันเดินตามเขาออกจากคลาสเรียนโดยที่มืออีกข้างของเขายังคงถือช่อกุหลาบสีแดงสดแน่น ที่สำคัญเขายังไม่ลืมที่จะพูดสั่งกำชับอาจารย์ประจำคลาสของฉันด้วยว่า
"คาบนี้ผมขอตัวเธอไปเป็นเพื่อนทานข้าวนะครับ ถ้ายังไงเช็คว่าเธอเข้าคลาสด้วย"
"ปล่อยนะ! ฉันไม่หิวข้าว!" ฉันพยายามร้องพร้อมออกแรงสะบัดอย่างแรงเพื่อให้หลุดจากฝ่ามือหนาของพี่ภูผา แต่ดูเหมือนมันจะไม่สำเร็จ เพราะยิ่งสะบัดก็ยิ่งดูเหมือนว่าเขาจะจับฉันแน่นมากขึ้น
พี่ภูผาลากตัวฉันออกมาจากคลาสเรียน มือแกร่งจับมือฉันแน่นคล้ายกับกลัวว่าฉันจะหายไปไหน เขาพาฉันเดินผ่านจุดสำคัญต่างๆ ของทางมหาวิทยาลัย ซึ่งแต่ละที่มักจะเป็นจุดศูนย์รวมของเหล่านักศึกษา แน่นอนว่าคงไม่พ้นที่จะมีเสียงฮือฮาและเสียงซุบซิบจากนักศึกษาที่เห็นเราทั้งคูดังไล่หลังมา
"พี่ภู! ปล่อยอัญนะ!!!" คำพูดซ้ำๆ เดิมๆ ที่ฉันพูดมาตลอดทางพร้อมกับพยายามบิดมือให้หลุดจากมือหนาของเขา ในที่สุดมันก็ทำให้เขายอมหยุดฝีเท้าลงได้ ทันทีที่เราทั้งคู่มาหยุดยืนอยู่ที่รถสปอร์ตสีดำคันหรูที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถของอาจารย์
ฉันออกแรงผลักไปที่อกเขาอย่างแรงแบบไม่สบอารมณ์ ก่อนจะพยายามจ้ำเท้าเดินหนีโดยไม่คิดจะพูดอะไรต่อ
ทว่า…
เขากลับพุ่งมือคว้าตัวฉันเหวี่ยงชนเข้ากับประตูรถสปอร์ตที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนจะโยนช่อดอกกุหลาบสีแดงลงใส่เบาะหลัง
ตึง!
"ทำไมดื้อจังคะ?" เขาเอ่ยปากถามเสียงเรียบ พลางใช้มือทั้งสองข้างเท้ากับขอบประตูรถเพื่อกันฉันหนีเป็นหนที่สอง
"พี่ต้องการอะไร เอามือออกเดี๋ยวนี้ ฉันจะกลับไปเรียน"
"แต่พี่อยากให้น้องอัญชันไปทานข้าวเที่ยงกับพี่นี่คะ" เขาขัด
"พี่ก็ไปทานกับคนอื่นสิคะ! นี่มันเพิ่งจะสิบโมงเอง..." ยังไม่ทันพูดจบฉันก็กลับต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ เพราะเสียงของฉันกลับถูกทำให้เงียบด้วยริมฝีปากชืดตรงหน้าแบบไม่ทันให้ตั้งตัว
พี่ภูผาเลื่อนมือคว้าข้อมือทั้งสองข้างของฉันที่พยายามดิ้นเอาไว้แน่น และเหมือนเขาจะฉลาดพอที่จะใช้ขาแทรกที่หว่างขาของฉันเพื่อป้องกันการดิ้นขัดขืน
ลมหายใจอุ่นๆ กับริมฝีปากร้อนตรงหน้าเพิ่มแรงบดขยี้รุนแรงอย่างต่อเนื่อง คล้ายกับจงใจแกล้งฉันที่ไม่ทันระวังตัว
“อื้อ!...”
ฉันพยายามออกแรงทั้งหมดที่มีดิ้นจนหลุดจากมือแกร่งของร่างสูงตรงหน้าในที่สุด ก่อนใช้มือผลักอกคนตรงหน้าแรงๆ เพื่อให้เขาหยุด
"พี่ทำอะไรน่ะ!!!" ฉันโพล่งออกมาจนแทบจะเป็นตะคอก แต่กลับกันคนฟังกลับหัวเราะเบาๆ อย่างไม่รู้สึกผิด
“ถึงใจดีไหมคะ?”
“…”
"ต่อไปนี้ถ้าน้องอัญชันดื้อ พี่ภูจะใช้ปากลงโทษดีไหมคะ?"
"อย่ามาพูดจารุ่มร่ามใส่ฉันนะพี่ภู!"
"รุ่มร่ามอะไรคะน้องอัญ?" เขาย้อน
"ก็ที่พี่กำลังทำใส่ฉันอยู่นี่ยังไงล่ะ!"
"ทำไมน้องอัญชันต้องดุพี่แบบนี้ด้วยคะ ไม่น่ารักเลยนะ" เขาพูดด้วยท่าทางไม่รู้สึกรู้สาอะไร แถมยังยิ้มกวนๆ เห็นแล้วอยากจะดันหน้ากลับไปสักทีเหลือเกิน
"หึ" ฉันหัวเราะในลำคอเบาๆ ยกมือขึ้นกอดอก จ้องหน้าพี่ภูกลับไปเหมือนรู้ทน "อ๋อ...นี่พี่กะเคลมฉันอยู่ล่ะสิใช่ไหม?"
พี่ภูผาเลิกคิ้วมองฉันท่าทางงุนงงเหมือนตีหน้าซื่อไม่เข้าใจ
"คิดว่าการแกล้งฉันในร้านกาแฟแล้วมาร้องเพลงง้อที่หน้าบ้าน ตบท้ายด้วยการลากฉันออกจากคลาสเรียน แล้วพี่จะได้แอ้มฉันเหรอ?"
"น้องอัญพูดอะไรคะเนี่ย พี่ไม่เข้าใจ..."
"ฉันน่ะไม่เหมือนผู้หญิงของพี่หรอกนะคะ" ฉันจงใจพูดแทรกเสียงเรียบ "ถึงวันนี้ฉันจะแต่งตัวตามแฟชั่นนิยมเหมือนนักศึกษาทั่วๆ ไป แต่ขอโทษทีนะคะ กะอีแค่ความฮอตเวอร์ๆ กับจูบเดียวของพี่ ไม่มีทางได้แอ้มฉันเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ หรอกค่ะ"
"ทำไมน้องอัญพูดแบบนี้ล่ะคะ..." พี่ภูผาแย้งเสียงอ่อย
ทว่า… สีหน้าของเขาที่กำลังจ้องฉันในตอนนี้มันกลับไม่ใช่เลย โดยเฉพาะกับรอยยิ้มข้างมุมปากนั่น…
“…”
"เพราะเท่าที่พี่จำได้ คืนนั้นพี่ละเลงริมฝีปากไว้ทั่วตัวน้องอัญแล้วนะคะ"
วะ... ว่าไงนะ?!
"ไม่ว่าจะนิ้วมือ ตามแขน ซอกคอ แก้ม ปลายคาง หรือว่าจะเป็นซาลาเปาของน้องอัญ…"
ฉันรีบยกมือขึ้นปิดหน้าอกทันทีที่สายตาของเขามาหยุดอยู่ที่บริเวณเนินอก ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น แต่ว่าสายตาและน้ำเสียงของเขาก็ไม่ได้ดูเปลี่ยนไปเลย ซึ่งนั่นกำลังทำให้ฉันกลัว
"พี่ต้องการจะพูดอะไร"
"เรื่องที่ผับไงคะ ตอนงานวันเกิดพี่..."
นี่เขารู้เรื่องของฉันงั้นเหรอ?!
"เราสองคนได้เสียเป็นผัวเมียกันแล้วนะคะ แล้วมันผิดเหรอ? ถ้าพี่จะทำหน้าที่ของสามีที่ดี"
คำพูดประโยคถัดมาของพี่ภู หยุดความคิดและทุกๆ สิ่งที่ฉันพยายามจะทำลงในทันที
ฉันทำตาโตมองหน้าคนตรงหน้าแบบไม่เชื่อหู
มะ เมื่อกี้เขาว่ายังไงนะ?
"น้องอัญมาเป็นเมียพี่แบบถูกต้องตามกฎหมายได้ไหมคะ?"
WTF!?
พี่ภูผาทำตาปริบๆ รอยยิ้มหวานๆ มุมปากเริ่มทำฉันรู้สึกขนลุก พยายามตั้งสติเพื่อโต้ตอบเขากลับไปบ้าง
"พะ พี่พูดอะไรของพี่?"
"ที่พี่พูดคือคืนนั้นเราปั่มปั๊มกันเรียบร้อยแล้วยังไงล่ะคะ”
"พะ พี่มีอะไรมายืนยัน? -_-" ฉันย้อนเสียงตะกุกตะกัก แม้จะรู้ตัวดีว่าตัวเองเคยพลาดทำอะไรลงไป แต่ว่า... ขอทีเถอะต้องไม่ใช่กับผู้ชายคนนี้!!
"ร่างกายของพี่ค่ะ ถ้าน้องอัญไม่มั่นใจ เรามาลองฟื้นความจำกันอีกสักรอบดูไหม? พี่สัญญาพี่จะดันให้สด กระแทกให้หนักๆ จนกว่าน้องอัญจะจำได้เลยแหละ ♥"