เสียงโหวกเหวกดังขึ้นด้านนอกห้องจัดเลี้ยงของรีสอร์ตในสวนส้มของทางภาคเหนือที่มีทีมงานกองถ่ายละครกำลังดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน ความโกลาหลเกิดขึ้นทันทีเมื่อ กวิน พระเอกของละครเรื่องนี้อุ้มคนรักซึ่งเป็นผู้จัดละครออกมาจากห้องพัก
“เอารถออกทีครับ คุณแป้งโดนงูกัด”
“ว้าย คุณแป้ง”
ทีมงานผู้หญิงกรีดร้องโวยวาย บ้างวิ่งไปมุงดู บ้างพากันหลีกทางให้กับพนักงานของรีสอร์ตที่คว้ากุญแจรถยนต์แล้วพุ่งตัวมาหาพระเอกหนุ่ม
“ผมพาไปครับ ขึ้นรถเลย”
รถยนต์ของรีสอร์ตขับออกไปแล้วพร้อมกับรถยนต์ของผู้จัดการกองถ่าย ตามมาด้วยรถของผู้กำกับการแสดงหนุ่มหล่อที่ออกตัวจนฝุ่นตลบ
เหตุการณ์ทุกอย่างสงบลงไปแล้ว แต่ทีมงานยังจับกลุ่มพูดคุยกันเสียงดังด้วยใบหน้าตื่นตระหนก ไม่มีใครยอมกลับที่พักสักคน ในขณะที่นางเอกละครของเรื่องนี้ยืนหลบอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องอาหาร ดวงตากลมโตเบิกโพลงมีน้ำตาเอ่อคลอด้วยความตกใจสุดขีด
“มะ ไม่จริง พี่แป้งจะโดนงูกัดได้ยังไง ไม่จริง”
“เอาล่ะทุกคน รีบแยกย้ายกันไปพักผ่อนก่อนดีไหม”
ทีมงานอาวุโสเรียกสติของทีมงานคนอื่น ๆ เพราะการมายืนพูดคุยกันแบบนี้มันไม่มีประโยชน์ รังแต่จะยิ่งทำให้ทุกคนแตกตื่นมากกว่าเดิมเพราะเริ่มคาดเดาสถานการณ์กันไปต่าง ๆ นานา
“แต่เราอยากรอฟังอาการของพี่แป้งก่อนนี่คะ”
“คุณแป้งไม่เป็นอะไรมากหรอก เชื่อพี่สิ แยกย้ายกันไปพัก ถ้ามีอะไรคืบหน้าพี่จะไลน์บอกในไลน์กลุ่ม”
“งั้นก็ได้ค่ะ พวกเรา กลับห้องกันก่อนเถอะ”
คนที่ยังพอมีสติประคองกันกลับห้องพัก นางเอกสาวที่ยืนเบิกตาโพลงในมุมมืดถึงกับต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่ออยู่ ๆ ก็มีคนมาสะกิด
“น้องน้ำตาล ตกใจแย่เลยสิคะ พี่แป้งไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ น้องน้ำตาลกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อนเถอะนะคะ เดี๋ยวพี่พาไปนะ”
น้ำตาล นาตาลี นางเอกละครชื่อดังวัยยี่สิบปีที่เพิ่งแสดงละครเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ยอมให้หนึ่งในทีมงานพยุงพาเธอเดินกลับบ้านพักหลังน้อยของตัวเอง เพราะตอนนี้ขาแข้งของเธอแทบไม่หลงเหลือเรี่ยวแรงให้ก้าวเดินแล้ว
ทันทีที่กลับเข้าไปอยู่ตามลำพังในห้อง นาตาลีก็พุ่งตรงไปเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำอุ่นจนเต็มอ่างแล้วนั่งแช่อยู่ในนั้นหลายนาทีเพื่อให้หัวใจที่กำลังสั่นเพราะความกลัวมันหายไป ดวงตากลมโตเบิกโพลงกลอกไปมา มือเล็กสั่นเทาจนต้องยกมากุมกันแน่นทั้งสองข้าง แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่ดีขึ้น จึงรีบอาบน้ำแล้วออกมาแต่งตัว
“พี่แป้ง น้ำตาลไม่ได้ตั้งใจ อย่าตายนะ น้ำตาลขอโทษ”
เหตุการณ์ทุกอย่างย้อนกลับเข้ามาในมโนสำนึกเป็นฉาก ๆ ตั้งแต่ที่เธอเห็นกวินครั้งแรกบนหน้าจอทีวี เธอก็ตกหลุมรักเขาเข้าอย่างจัง สาบานกับตัวเองเลยว่าจะต้องเข้าวงการบันเทิงมาเป็นนางเอกละครคู่ขวัญกับเขาให้ได้ และเธอจะทำทุกวิถีทางให้เขาตกหลุมรักผู้หญิงแสนสวยโปร์ไฟล์เลิศอย่างเธอเอง
ที่ไหนได้ หลังจากที่เขาอกหักจากคู่จิ้นคนก่อน เขาดันมาตกหลุมรักไก่แก่แม่ปลาช่อนอย่างปุณณดา ผู้จัดละครคนสวยที่อายุห่างจากเขาถึงสิบปี และท่าทางเขาจะหลงเจ้าหล่อนมากจนไม่ชายตาแลเธอแม้แต่น้อย
ความหวังที่กำลังริบหรี่ลุกโชนขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้ความจริงที่ว่าเขาคือคู่หมายของเธอ เพราะพ่อของเธอกับพ่อของเขาเป็นเพื่อนเรียนปริญญาโทด้วยกันที่ต่างประเทศ เธอเข้าหาเขาในฐานะว่าที่คู่หมั้น แต่เขากลับไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย
ตอนนั้นเธอก็ดันได้รับรู้เรื่องราวในอดีตของปุณณดาและเจนณรงค์ ผู้กำกับการแสดงของละครเรื่องนี้ ว่าสองคนนี้เคยคบกันเป็นแฟนตอนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย แต่เจนณรงค์ที่เป็นรุ่นพี่ดันไปเรียนต่อต่างประเทศ เขาทนความเหงาไม่ไหวแอบนอกใจปุณณดาจนทำผู้หญิงท้อง จึงต้องเลิกกับปุณณดาเพื่อรับผิดชอบชีวิตน้อย ๆ ที่ทำให้เกิดขึ้น แต่สุดท้ายชีวิตครอบครัวก็ไปไม่รอด ไม่กี่ปีเขาก็หย่าขาดกับภรรยาชาวต่างชาติแล้วหอบลูกกลับมายังประเทศไทย
เธอจึงเข้าหาเขาหวังให้เขาร่วมมือด้วย และตอนนั้นเขาเองก็อยากได้ปุณณดากลับคืนจนยอมร่วมมือกับเธอในการแยกสองคนนั้นจากกัน แต่อยู่ ๆ เขาก็กลับคำ ไม่ยอมร่วมมือกับเธอดื้อ ๆ แถมยังขู่เธอสำทับว่าห้ามยุ่งกับผู้หญิงคนนั้น แต่คิดหรือว่าคนอย่างเธอจะกลัว
จึงวางแผนกำจัดปุณณดาออกจากชีวิตเธอและกวินด้วยการจ้างคนงานในสวนส้มจับงูพิษมาปล่อยในห้องน้ำของปุณณดาในคืนที่ทุกคนกำลังผ่อนคลายอยู่ในงานเลี้ยง
คืนนั้น เธอได้รู้ว่าพ่อกับแม่ของเธอไปทวงสัญญาปากเปล่านั่นให้เธอแล้ว แต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว กวินไม่รักเธอ เธอเสียใจมากจนแทบคลุ้มคลั่ง แต่เพราะเจนณรงค์คนนี้เข้ามาให้สติและปลอบใจจนเธอคิดได้ในที่สุด จึงตั้งใจยับยั้งแผนการด้วยการบอกยกเลิกงานที่สั่งไว้กับคนงานในสวนส้ม แต่กลับตามหาเขาไม่เจอและได้ข้อมูลว่าเขาเชิดเงินเธอหนีไปแล้ว
ร่างบางในชุดนอนซีทรูบางเบาสีชมพูหวาน กัดเล็บที่ตกแต่งอย่างสวยงามแล้วผุดลุกผุดนั่ง ดวงตากลอกมองไปมาด้วยความตื่นกลัวและกังวล
จะเป็นไปได้อย่างไรที่ปุณณดาถูกงูกัด ก็ไหนคนงานเก็บส้มบอกว่านายป๋องขี้ยานั่นหลอกเชิดเงินของเธอไปแล้วไง ไม่มีทางที่งานซึ่งเธอใช้เขาทำจะสำเร็จหรือไม่มีทางที่เธอจะได้เงินคืน แต่ทำไมเขาถึงกลับมา
วันทั้งวันเธอไม่ได้นิ่งนอนใจ ก่อนงานเลี้ยงเริ่มเธอก็ไปยืนรอเขา จนงานเลี้ยงเริ่มไปแล้วเป็นชั่วโมง เขาก็ยังไม่มา แถมพอเธอกลับขึ้นไปนั่งในงานเลี้ยงนั่น แค่ครึ่งชั่วโมงเธอก็ลงไปยืนรอเขาอีก จนเวลาล่วงเลยไปจึงคิดว่าเขาไม่มาแน่ ๆ เธอถึงวางใจได้
แต่ทำไมคนที่ไม่น่าเชื่อถือ ลักขโมยของชาวบ้านและเชิดเงินคนอื่นเป็นประจำ กลับมาซื่อสัตย์ทำตามคำพูดอย่างเคร่งครัดเอาวันนี้
ต้อยติ่ง ผู้จัดการกองถ่ายกับส้มซ่า ผู้จัดการส่วนตัวของพระเอกหนุ่ม มาถึงอนามัยในเวลาไล่เลี่ยกัน ก่อน เจน เจนณรงค์ ผู้กำกับการแสดงหนุ่มรูปหล่อวัยสามสิบสามปีซึ่งมีสถานะเป็นพ่อม่ายเนื้อหอมจะตามมาสมทบอย่างรวดเร็ว
“กวิน แป้งเป็นยังไงบ้าง”
เจนณรงค์เอ่ยถามผู้ชายที่ได้หัวใจของผู้หญิงที่เขารักที่สุดไป มือใหญ่สั่นเทาอย่างไม่อาจห้าม กลัวเหลือเกินว่าปุณณดาจะเป็นอะไรไป แม้ว่าเขาจะไม่มีหวังได้เธอคืนเพราะครั้งหนึ่งเขาเคยทำเรื่องเลวร้ายที่สุดด้วยการนอกใจเธอจนมีหลักฐานออกมาประจานความชั่วเป็นชีวิตน้อย ๆ เกิดขึ้น แต่ในวันนี้ที่เธอกำลังมีความสุขกับกวิน ขอพระเจ้าอย่าใจร้ายกับเธอเกินไปนักเลย
“อยู่ในห้องกับหมอครับ ยังไม่ออกมาเลย”
“กวินใจเย็นนะ พี่แป้งต้องไม่เป็นอะไร”
กวินที่อ่อนล้าทั้งกายใจ สวมกอดส้มซ่าแน่น ร้องไห้โฮออกมาอย่างสุดกลั้น ความกดดันในหัวใจมันแตกออกมาหมดเมื่อได้อยู่กับคนที่สนิทและรู้ใจ
“พี่ส้ม ผมกลัว”
“ใจเย็น ไม่ต้องกลัว ที่นี่มีเซรุ่มต้านพิษงูแล้วก็ใกล้รีสอร์ตเรานิดเดียว ยังไงก็ต้องช่วยคุณแป้งทันแน่ๆ”
เจนณรงค์มองดาราหนุ่มที่ร้องไห้โฮหมดมาดพระเอกเพราะกลัวว่าจะสูญเสียคนรักไป แค่นี้ก็วางใจได้แล้วว่าเด็กคนนี้รักปุณณดาของเขามากขนาดไหน
ไม่นาน คุณหมอวัยกลางคนก็เปิดประตูออกมา พร้อมบอกทั้งข่าวร้ายและข่าวดีในคราวเดียวกัน
“ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วนะครับ เพราะมีการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องและระยะทางก็ใกล้ แต่ที่หมอกังวลคือ คนไข้กำลังตั้งครรภ์ หมอต้องรีบส่งคนไข้ไปโรงพยาบาลตอนนี้เลย เพราะเสี่ยงมากที่คนไข้จะแท้งครับ”
กวินทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างไร้เรี่ยวแรงอีกครั้ง น้ำตาลูกผู้ชายไหลอาบแก้ม กรามแกร่งขบกันจนสันขึ้นนูน ดวงตาแดงก่ำ มือใหญ่กำแน่น ก่อนลุกขึ้นชกผนังห้องด้วยความแค้นใจและเจ็บปวดในโชคชะตา
“กวิน อย่าทำอย่างนั้น”
สองสาวพุ่งตัวไปดึงเขาลงมานั่งที่เก้าอี้ แล้วกอดกันร้องไห้ ช่างเป็นภาพสุดสะเทือนใจแก่ผู้พบเห็น โดยเฉพาะเจนณรงค์ที่ยืนกำมือแน่น กัดกรามกรอด พยายามข่มอารมณ์ที่กำลังจะถึงจุดแตกดับเต็มที
เหตุเพราะเขารู้ ว่าใครเป็นคนทำให้ปุณณดาโดนงูกัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด และสาบานเลยว่าเขาจะตามเช็กบิลกับคนคนนั้นให้เธออย่างสาสม
“ทำไม พี่ส้ม ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ผมกับแป้งกำลังจะมีลูก มันควรจะเป็นข่าวดีไม่ใช่เหรอ ถ้าลูกผมเป็นอะไรไป ผมจะทำยังไง แค่นี้ผมก็ดูแลแป้งกับลูกไม่ได้แล้ว ผมมันเฮงซวย”
“อย่าโทษตัวเองกวิน มันไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น พี่แป้งกับลูกต้องไม่เป็นอะไร รีสอร์ตก็รู้สึกผิดที่ประมาท ใช้หน้าต่างระบายอากาศในห้องน้ำแบบที่ไม่มีตาข่ายกั้น ไม่มีใครรู้เลย ว่างูมันเลื้อยเข้าไปในช่องนั้นได้ยังไง มันไม่เคยเกิดขึ้น กวินใจเย็นๆ ก่อน อย่าให้พี่แป้งเห็นว่ากวินเป็นแบบนี้”
พระเอกหนุ่มปาดน้ำตาออกจากใบหน้าทันที ลุกขึ้นยืนแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ กัดกรามแน่น รอรับคนรักของตัวเองที่เจ้าหน้าที่กำลังจะเข็นเตียงไปขึ้นรถพยาบาล
เมื่อกวินขึ้นไปกับรถพยาบาลแล้ว ต้อยติ่งกับส้มซ่าก็เตรียมขับรถตามไป
“พี่ต้อยติ่งครับ ผมฝากทางนั้นด้วย ผมจะกลับไปดูเด็กๆ ที่รีสอร์ตก่อน ยังไงส่งข่าวด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะคุณเจน พี่ฝากเด็กๆ ทางนั้นด้วยนะคะ พรุ่งนี้ก็ให้เดินทางกลับกันได้เลย พี่จะรอกลับพร้อมคุณแป้ง คงต้องพักกองกันก่อนจนกว่าคุณแป้งจะหาย อ้อ ฝากดูน้องน้ำตาลด้วยค่ะ ท่าทางตกใจน่าดู ยังไงพาน้องกลับกรุงเทพฯ พร้อมคุณเจนพรุ่งนี้ด้วยนะคะ”
“ได้ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้”
เจนณรงค์กลับเข้ามานั่งในรถยนต์ของทางรีสอร์ต กำพวงมาลัยแน่น แล้วกระชากรถออกตัวอย่างแรงจนฝุ่นตลบ แต่มันก็ยังไม่เท่ากับความรู้สึกในหัวใจของเขาอยู่ดี