ตอนที่ 8.

1517 Words
  คนที่ล็อกไว้น่าจะเป็นแม่บ้านหรือยาม แต่ลูกกุญแจมันอยู่ที่ไหนกันหนอ... หญิงสาวเงยหน้าดูกำแพงรั้วสูงท่วมหัวแล้วหันรีหันขวางมองหาวิธีปีนออกไป ท้องฟ้ามีเมฆดำกระจายเกลื่อนลมพัดมาค่อนข้างแรง ฝนคงกำลังจะตกในไม่ช้า หากไมรีบออกไป จะต้องเปียกฝนลำบากลำเค็ญกว่าเดิมแน่ ม่านไหมเดินเลาะกำแพงรั้วไปเรื่อยๆ ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเห็นต้นไม้ต้นใหญ่ขึ้นอยู่ข้างกำแพง กิ่งก้านสาขาของมันพาดผ่านกำแพงพอดี ถ้าเธอปีนขึ้นไปได้แล้วค่อยๆ หย่อนตัวไปฝั่งตรงข้าม เธอจะหนีออกจากที่นี่ได้ เร็วเท่าความคิดม่านไหมรีบวิ่งตรงไปยังต้นไม้ต้นนั้นทันที ร่างเล็กกระโดดเกาะลำต้นไว้ ค่อยๆ ป่ายปีนขึ้นไปทีละนิดร้องเท้าคัทชูทำให้การเกาะเกี่ยวทำได้ลำบาก พื้นรองเท้าลื่นเกินไปไม่สามารถยึดเกาะพื้นผิวได้ ต้องใช้แรงยึดเหนี่ยวจากแขนทั้งสองข้างมากกว่าปกติ การปีนจึงทำได้ช้า ม่านไหมพาร่างของตัวเองค่อยๆ ไต่เหมือนหนอนน้อยขึ้นไปบนต้นไม้สูง เมื่อขึ้นไปได้ราวเมตรหนึ่งก็พักหายใจไม่ทันจะไปต่อก็ถูกมือของใครคนหนึ่งดึงข้อเท้าไว้ หญิงสาวสะดุ้งเฮือกดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะตกใจคูณสองเมื่อเห็นใบหน้าของเจ้าของมือ “คุณหลี่!” “ลงมาเดี๋ยวนี้นะ ม่านไหม!” เสียงตะคอกของหลี่ไท่หยาง ทำให้ร่างน้อยผวาเยือกมือไม้อ่อนร่วงลงมาทันที “กรี๊ด!!!” ร่างของม่านไหมร่วงลงมาทับคนอยู่ด้านล่างจนหงายท้อง ร่างหนากลายเป็นเบาะรองรับชั้นดีทำให้คนอยู่ด้านบนไม่เจ็บตัวมากเท่าไหร่ ม่านไหม่ขยับลุกขึ้นวิ่งหนีทันที พร้อมๆ กับสายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาก่อนจะเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ร่างเล็กเปียกปอนไปทั้งตัว หลี่ไท่หยางขยับลุกขึ้นวิ่งไล่ตาม ช่วงขายาวกว่ากับการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำให้เขาตามทันในไม่กี่นาทีต่อมา มือหนาคว้าข้อมือน้อยไว้กระชากดึงให้หยุดวิ่ง ส่งผลให้คนกำลังวิ่งหน้าตั้งเสียหลักล้มลง ฉุดร่างคนตัวโตกว่าให้ล้มลงตาม กายหนาหนักทับร่างเล็กจนจุกไปหมด “ปล่อยฉันนะคุณหลี่!” ม่านไหมพยายามดันร่างหนาให้ออกพ้นจากร่างขยับจะลุกขึ้น แต่ถูกหลี่ไท่หยางกระชากให้ล้มลงอีก สองร่างยื้อยุดฉุดกันไปมา เมื่อเธอกำหมัดทุบถองหยิกข่วนก็ถูกเขารัดเอวไว้แน่น เขารวบข้อมือน้อยชูขึ้นเหนือศีรษะแล้วโถมกายกดร่างเล็กบางนั้นไว้กับพื้น โดยไม่สนใจว่าพื้นหญ้าจะเฉอะแฉะเลอะเทอะแค่ไหน “สิ้นฤทธิ์หรือยังแม่ตัวดี” หลี่ไท่หยางจ้องหน้าเนียนใสด้วยแววตาวาวโรจน์ เขาหายใจแรงเหนื่อยไม่น้อย เมื่อถูกหญิงสาวตัวเล็กแต่ฤทธิ์มากคนนี้ทั้งทุบถองเตะถีบดิ้นรนให้หลุดจากพันธนาการ หากคืนนี้เขาไม่ทำงานจนดึก แล้วลุกขึ้นมายืนสูบบุหรี่ที่ระเบียงด้านหลังห้องทำงาน คงไม่เห็นว่าจำเลยแค้นของเขากำลังจะพยายามปีนต้นไม้หนีข้ามกำแพงไป เขาชะล่าใจเองที่ไม่ขังเธอไว้ในห้อง ไม่คิดว่าม่านไหมจะกล้าหลบหนีออกไป บอดีการ์ดที่เคยดูแลความปลอดภัยรอบบ้านก็ถูกส่งไปดูแลเจนนี่ที่โรงพยาบาลส่วนหนึ่ง จำนวนน้อยลงทำให้หละหลวมต่อหน้าที่ จนหญิงสาวหลุดรอดสายตาเกือบหนีออกไปได้ “ฉันจะไปจากที่นี่ ปล่อยฉันนะ” ม่านไหมไม่ยอมจำนนง่ายๆ ดิ้นรนสุดแรง ร่างหนาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแกร่งของหลี่ไท่หยางกดทับเธอทั้งตัวจนอึดอัด เขาใช้น้ำหนักตัวกดร่างเธอไว้ไม่ให้ดิ้น มันหนักและหายใจแทบไม่ออก บวกกับสายฝนเย็นๆ กระหน่ำเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทำให้เนื้อตัวเปียกชื้นทั้งหนาวทั้งเย็นจนสั่นสะท้าน แต่ถึงอย่างนั้นไม่ทำให้หญิงสาวยอมแพ้ “นึกหรือว่าจะหนีพ้น ฉันไม่ยอมปล่อยให้เธอหนีฉันไปง่ายๆ หรอก แม่ตัวดี” หลี่ไท่หยางบีบคางหญิงสาวไว้แน่น บังคับให้มองหน้าเขา “เธอมันนางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ขืนฉันปล่อยเธอไป เธอคงไปทำความเดือดร้อนให้คนอื่นอีกไม่รู้เท่าไหร่” คำบริภาษของเขาช่างไร้เหตุผลในความคิดของคนฟัง ม่านไหมนึกทบทวนความทรงจำของตัวเองนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าเธอเคยไปทำอะไรให้ผู้ชายคนนี้เจ็บแค้นนักหนา เขาถึงได้ทำท่าเกลียดชังเธอขนาดนี้ “ฉันไปทำอะไรให้คุณ ถึงได้ทำบ้าๆ แบบนี้กับฉัน” “ทำอะไรเหรอ เธอน่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าเธอเคยทำเรื่องเลวๆอะไรไว้บ้าง” มือหนาเพิ่มแรงบีบคางเล็ก จนอีกฝ่ายนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ แต่เขาหาได้สนใจไม่ “เธอกับไอ้ลายเมฆพี่ชายเลวๆของเธอ ร่วมมือกันทำอะไรกับใครไว้มากมายสิท่า ถึงได้นึกไม่ออกว่าทำอะไรกับใครไว้ยังไงบ้าง ม่านไหมหยุดดิ้น เมื่อรู้ว่าผู้ชายคนนี้รู้จักลายเมฆพี่ชายของเธอ คนเป็นน้องรู้นิสัยพี่ชายตัวเองดีว่าเจ้าเล่ห์กระล่อนปลิ้นปล้อนแค่ไหน หากจะมีสักเรื่องที่ลายเมฆก่อไว้คงไม่พ้นเรื่องเจ้าชู้ ชอบโปรยเสน่ห์จนผู้หญิงหลงรัก ลายเมฆคงไปทำอะไรไม่ดีไว้กับเขาหรือญาติพี่น้องของเขาสินะ หลี่ไท่หยางถึงได้พูดออกมาแบบนี้ “คุณหลี่ ถ้าพี่ชายของฉันทำอะไรไม่ดีไว้ ฉันขอโทษแทนเค้าด้วย” ม่านไหมเอ่ยขอโทษเสียงแผ่ว แววตาลุแก่โทษ หลี่ไท่หยางคลายมือที่กดล็อกออก เขาขยับลุกขึ้นยืน ดึงแขนหญิงสาวให้ลุกขึ้นตาม ฝนยังคงตกหนักในตึกไร้ผู้คนจนดูวังเวง ม่านไหมยอมเดินตามชายหนุ่มเข้ามาด้านในโดยไม่ขัดขืน หญิงสาวต้องการรู้เรื่องที่พี่ชายทำไว้ หวังจะหาวิธีทำให้เขารับคำขอโทษ หลี่ไท่หยางลากแขนพาเธอเดินเข้าไปในห้องนอนของเขา แล้วตรงรี่เข้าไปในห้องน้ำ “เอ่อ... คุณหลี่คะ ฉันว่าฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องของฉันจะสะดวกกว่า แล้วเราค่อยมาคุยกันเรื่องของพี่ชายฉันพรุ่งนี้เช้าดีไหมคะ ตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว” ม่านไหมขืนกายไว้ ไม่ยอมตามเขาเข้าไปในห้องน้ำ ภาพเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนวาบเข้ามาในหัว เธอกลัวว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอยเดิม ท่าทางของชายหนุ่มหื่นโหดน่ากลัวไม่น้อย หลี่ไท่หยางตวัดสายตามองร่างเล็กด้วยสายตาขุ่นจัด “เข้ามาดีๆ ฉันไม่ยอมให้เธอคิดหนีอีกแน่” เขาแขนลากเธอกระชากดึงเข้าไปในห้องน้ำด้วยกันโดยไม่ฟังคำคัดค้าน ม่านไหมยื้อตัวเกร็งร่างไว้สุดฤทธิ์ไม่ยอมให้เขาพาเข้าไป “ไม่นะคะ ฉันไม่เข้าไป” “อย่าทำตัวน่ารำคาญได้ไหม ฉันเกลียดคนที่ขัดใจฉันที่สุด มานี่!” เขาตวาดเธอเสียงดัง แล้วกระชากร่างบางมาปะทะอกแกร่ง ก่อนจะช้อนอุ้มพาเดินเข้าไปด้านใน ม่านไหมขยับจะดื้นหนีแต่ต้องหยุดดิ้นทันที เมื่อสายตาดุๆ ของเขาจ้องมา “อย่าดิ้นนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะจูบเธอให้ขาดใจตายตรงนี้แหละ” ร่างนุ่มนิ่มในอ้อมแขนเปียกโชกทั้งตัว ผ้าเปียกน้ำแบบนี้บางจนมองทะลุไปเห็นเนื้อนวลด้านใน ยิ่งเธอดิ้นเนื้อตัวยิ่งเสียดสีร่างหนา จนปลุกเร้าความรู้สึกบางอย่างให้ลุกโชนขึ้นมา หลี่ไท่หยางพยายามสะกดกลั้นความรุ่มร้อนในอก ความอดทนของเขามีขีดจำกัดเมื่อไม่เคยต้องกลั้นความปรารถนาของตัวเองสักครั้ง ยามใดอยากปลอดปล่อยก็มีหญิงงามดาหน้ามาให้เลือก จะกี่ครั้งกี่คราก็ไม่เคยต้องอดทน ยิ่งรูปร่างผิวพรรณนุ่มเนียนมือถูกใจแบบนี้ ยิ่งทำให้อารมณ์ปรารถนาพุ่งขึ้นสูงง่ายดายนัก เมื่อครู่เขาทั้งกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับหญิงสาวอยู่นานสองนาน กายแกร่งเสียดสีกับโนมเนื้อนุ่มหยุ่นจนก่อปฏิกิริยาทางอารมณ์ สมองเบลอจนเผลอพูดให้เธอรู้เรื่องที่เขาโกรธเคืองเธอออกมา “คุณหลี่คะ อย่า... อย่าทำฉันเลยนะ” ม่านไหมบอกเสียงสั่น แววตาวาววามของเขาบอกว่าพร้อมจะทำตามคำพูดทันทีที่เธอขัดใจ หญิงสาวรู้สึกกลัวขึ้นมา ผู้ชายคนนี้อารมณ์แรงและร้ายกาจกว่าผู้ชายหลายคนที่เธอเคยรู้จัก 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD