บทที่ 3 ส่งท่านประธานไปทำงาน ตอนต้น

2197 Words
ยามเช้าผันผ่านมาถึงแล้ว วันเสาร์จิวไม่มีสอบ มีอีกทีวันอังคารหนึ่งตัว วันพฤหัสบดีสองตัวเช้าบ่าย และวันศุกร์ตอนบ่ายตัวสุดท้ายก็ปิดเทอมแล้ว แสงจากด้านนอกสาดส่องเข้ามาภายในห้องตอนหกโมงเช้า คนบนเตียงพลิกตัวไปมาอย่างสบายใจ เตียงใหม่นุ่มไม่น้อยไปกว่าที่บ้าน ผ้าห่มอุ่นพอ ๆ กัน แม้ห้องจะเล็กกว่าแต่มีความสุขกับห้องนี้ไม่น้อย จิวและพี่ภาสกลับมาถึงห้องก็เที่ยงคืนแล้ว อาบน้ำกันอีกรอบเพราะพี่ภาสให้เขาปั่นจักรยาน ส่วนตัวเองวิ่งตามเพราะล้อจักรยานเริ่มไม่ไหว ท้องอิ่มจะให้คนแก่กว่าวิ่งก็กลัวจะจุก เขาจึงปั่นช้า ๆ กินแคปหมูไปไม่รีบ กว่าจะอาบน้ำเสร็จได้เวลาพักผ่อนก็เที่ยงคืนแล้ว “อือ” นอนเต็มอิ่มแล้วจะนอนต่อก็ยาก เปลือกตาค่อย ๆ เปิดรับแสงในที่สุด จิวลุกขึ้นนั่งมองไปรอบ ๆ ปกติคุณแม่จะเข้ามาปลุกเขาในห้อง ลืมไปเลยว่าไม่มีใครแล้วนอกจากพี่ภาส มือถือบนหัวเตียงถูกหยิบขึ้นมาดู ไร้ข้อความ ไร้การโทรเข้า ไม่มีใครทักหา ไม่มีใครตามหา เหมือนลบเขาออกไปจากชีวิตได้เลยทันทีขณะที่จิวยังรออยู่ “เฮ้อ ช่างเถอะ” ร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์ ที่ทำได้ตอนนี้คงยอมรับความจริงและปลง คนพึ่งตื่นบิดขี้เกียจจากนั้นก็คลายลงจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำ วันนี้พี่ภาสบอกเขาว่ามีคุยงานตอนสิบโมง ตอนเช้าจะพาเขาไปตลาดก่อนซื้อของมาใส่ตู้เย็นไว้ เช้าวันนี้จิวใส่กางเกงขายาวเหมือนกางเกงนอนพร้อมกับเสื้อยืดเช่นเดิม ลงมาก็เห็นเจ้าบ้านกำลังเช็ดจักรยานอยู่ด้วยชุดเสื้อยืดกางเกงขายาวเช่นกัน วันนี้คนพี่ไม่ได้ทำอะไรกับผมทำให้ดูเด็กลงมาก ทั้งใบหน้ายังดูสดใสกว่าเมื่อวาน “อรุณสวัสดิ์ครับ” “อรุณสวัสดิ์ครับ ไปตลาดกัน” ภาสกรหันมาทักทายน้อง มองดูใบหน้าเล็กอย่างสำรวจ พบว่าไม่มีร่องรอยการร้องไห้เช่นเมื่อวาน เช้านี้น้องคงไม่ได้ร้องไห้อย่างที่เขากลัว ตัวเขาตื่นมาออกกำลังกายตั้งแต่เช้าเพราะความเคยชิน อาบน้ำเสร็จเลยออกมาเช็ดจักรยานรอ “เหมือนล้อใหญ่ขึ้นนะครับ พี่เติมลมเหรอ” “พี่ให้ช่างเอาไปเปลี่ยนล้อให้ใหญ่ขึ้นตั้งแต่ตีห้า ช่างคนในหมู่บ้าน สนิทกัน” พูดไปก็ยื่นข้าวของให้คนน้องช่วยถือก่อนกลับไปปิดรั้ว มือบางรับกระเป๋าเงินมาถือไว้เป็นครั้งที่สอง จากนั้นก็ขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายจักยานคันเดิม ไม่นานล้อก็เคลื่อนพาพวกเราไปตามถนน ปลายทางย่อมเป็นตลาดสดหน้าหมู่บ้าน ตลอดทางย่อมมีเสียงพูดคุยของเราสองคนเช่นเดิม ตอนเช้าอากาศดีไม่ร้อน เช้าวันนี้จิวได้ทักทายคุณลุงคุณป้าในหมู่บ้านด้วยโดยการแนะนำของพี่ภาส อีกฝ่ายเหมือนจะเงียบ ๆ แต่อัธยาศัยดีไม่น้อย คุณป้าคนหนึ่งถึงกับยัดกล้วยลูกเล็ก ๆ ใส่มือเขาเอาไว้กินระหว่างทาง “เมื่อคืนนอนสบายไหม มีอะไรที่ต้องแก้ก็บอกพี่” “หลับสบายมากครับ ไม่มีอะไรต้องแก้เลย” เสียงหวานเอ่ยขณะเคี้ยวของกินในมือ มีทั้งกล้วยทั้งขนมสองสามห่อ คุณป้าซื้อมาใส่บาตรพระเกินจึงยัดใส่มือเขาแทน จิวไม่ลืมยื่นให้คนปั่นจักรยานกินด้วยกัน ปากหยักก็รับไปกินเคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างเต็มใจ “ดีแล้ว มีอะไรก็คุยกันนะ” “อื้อ พี่ก็เหมือนกันนะ” “ครับ” ระหว่างทางได้เห็นต้นไม้ดอกไม้เต็มตา ปลูกไว้ริมรั้วสวยจริง ๆ จิวคิดว่าจะหาต้นคุณนายตื่นสายมาปักดินเอาไว้ ดอกไม้ชนิดนี้ติดง่ายยิ่งกว่าอะไร ปัก ๆ ไว้ก็โตแล้ว ทั้งยังดอกมีหลายสี ไม่กินพื้นที่ ในหมู่บ้านวันเสาร์ส่วนมากมีแต่ผู้ใหญ่ออกมาใส่บาตรรดน้ำต้นไม้กัน พี่ภาสบอกว่าปกติก็มีเด็ก ๆ ไปโรงเรียน รถจะเยอะกว่าวันหยุด พวกเรามองดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้จักเบื่อ ใช้เวลาไม่นานก็ถึงแล้ว ตลาดอยู่ไกลจากร้านก๋วยเตี๋ยวไม่มาก จิวมองดูร้านค้ามากมายอย่างสนอกสนใจ กลิ่นหมูปิ้งไก่ปิ้งลอยตลบอบอวลไปหมด เขาเดินตามพี่ภาสไปร้านนั้นทีร้านนี้ที ขนมบางอย่างซื้อแล้วเปิดกินระหว่างทางด้วย “เอาปลานิลขนาดกลางหนึ่งกิโลครับป้า” ภาสกรพาน้องมาหยุดที่ร้านขายปลาสด เอ่ยเรียกแม่ค้าอย่างสนิทสนม “อ้าวเจ้าณุ พาแฟนมาซื้อกับข้าวหรอ” “น้องชายที่รู้จักครับ น้องอยู่กับผมวันหน้าป้าคงจะได้เจอบ่อย ๆ” เสียงทุ้มเอ่ยตอบทันทีไม่รอให้คุณป้าเข้าใจผิดนานกลัวน้องจะเสียหาย เขาอายุจะสี่สิบอยู่แล้วไม่อยากทำน้องถูกเข้าใจผิด อนาคตจะเปลี่ยนไปทางไหนนั่นก็เรื่องของอนาคต ตอนนี้เราสองคนนับถือเป็นพี่น้องกันจริง ๆ “จิวนี่ป้าจ่อย สนิทกับแม่พี่ ป้าจ่อยนอกจากสวยแล้วยังใจดี” “ปากหวานจริง ๆ เลย ป้าแถมปลาให้ดีกว่า” พอได้ยินคำยินยอจากหลานป้าจ่อยก็ยิ้มหน้าบานเดินกลับไปตักชิ้นปลาเพิ่มให้อย่างอารมณ์ดี “ฮะฮะ นั่นไงบอกแล้ว” “สวัสดีครับป้าจ่อย ผมจิวนะครับ” ลู่จิวหัวเราะตามคุณป้า เหมือนพี่ภาสจะมาตลาดกับคุณแม่บ่อยทุกคนจึงรู้จักทั้งยังแถมให้หลายร้าน บางร้านก็ให้เขาชิมฟรี ๆ โดยไม่คิดเงินเลยก็มี “สวัสดีครับลูก น่ารักจังเลย” จิวยิ้มกว้างเมื่อถูกชม ร่ำลาคุณป้าเสร็จก็เดินซื้อของกันต่อ ตลาดที่นี่ไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่เล็ก อยู่ตรงกลางระหว่างสามหมู่บ้านตอนเช้าคนเลยค่อนข้างเยอะ ในมือจิวมีน้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋กับผลไม้นิดหน่อย ที่เหลืออยู่ในมือพี่ภาสหมดแล้ว อีกฝ่ายให้เหตุผลว่าเขาจะได้เปิดกระเป๋าจ่ายเงินสะดวก ของที่ซื้อมาเป็นของกินวันนี้และของสดเก็บไว้ มีเนื้อหมู กระดูกหมู ไก่ ปลา ไข่ไก่ และผักอีกหลายชนิด ผลไม้อีกถุงใหญ่ ๆ “ซื้อตะกร้าดีไหมครับ” นิ้วเรียวชีไปที่ร้านจักสานตรงหน้า มีตะกร้าหลายอันเอาของใส่ในนั้นน่าจะดีกว่าถือเองทุกถุงแบบนี้ ถึงพี่ภาสจะตัวใหญ่มีแรงเยอะแต่เขาก็เห็นใจจริง ๆ “ดีครับ พี่ก็เริ่มปวดแขนแล้วเหมือนกัน” “จิวบอกให้แบ่งมาให้จิวบ้าง” “แค่เดินเฉย ๆ เราก็สะดุดไปสามรอบแล้ว” จิวมองค้อนคนพี่เบา ๆ เดินนำไปร้านจักสาน ภาสกรพอได้กลั่นแกล้งคนอื่นก็หัวเราะชอบใจเดินตามไป ไม่นานก็ได้ตะกร้าอันใหญ่ที่คนแก่มักใช้ใส่อาหารไปวัดไปวา ใส่ของหนัก ๆ ลงไปถือแล้วไม่เจ็บมือเหมือนหิ้วหลายถุง ได้ที่แล้วพวกเราก็เดินกันต่ออีกไม่นานเพราะเขามีนัดสิบโมง จริง ๆ นัดสิบเอ็ดโมง แต่ต้องไปก่อนหนึ่งชั่วโมง ตอนนี้ก็เจ็ดโมงกว่าแล้วด้วย เก้าโมงสี่สิบทั้งสองก็เดินตามกันออกมา จิวเดินมาส่งพี่ภาสไปทำงานหลังกินข้าวกันเสร็จแล้ว ออกมาข้างนอกก็เห็นรถหรูคันหนึ่ง ส่วนเจ้าของเดินกลับไปปิดประตูบ้านหลังใหญ่ ที่แท้ก็เก็บรถไว้บ้านอีกหลัง ที่บ้านจึงมีเพียงจักรยานเท่านั้น “ไม่ต้องทำเยอะนะงานบ้าน พี่จ้างแม่บ้านแล้วอาทิตย์ละสามครั้ง เราบอกว่ามีสอบก็อ่านหนังสือเถอะ” ภาสกรย้ำคนน้องอีกครั้ง เขาไม่อยากให้จิวคิดว่ามาอยู่บ้านแล้วต้องทำงานบ้านทุกอย่างเหมือนแม่บ้าน เมื่อเช้าเขาบอกเลขาให้แจ้งแม่บ้านที่บ้านใหญ่แล้วให้เข้ามาทำให้ “วันนี้จิวแค่ทบทวนเนื้อหาเฉย ๆ ครับ อ่านมาหมดแล้ว มีสอบอีกทีวันอังคารนู่น” “พรุ่งนี้พี่หยุดเดี๋ยวพาไปซื้อของเข้าบ้าน” “ครับ” ร่างบางพยักหน้าหงึกหงักเชื่อฟัง ได้ออกไปเปิดหูเปิดตาก็คงจะดีไม่น้อย กระเป๋าหนังใส่เอกสารราคาแพงยื่นให้ผู้เป็นเจ้าของ ร่างสูงยิ้มบางรับไปถือไว้ “พี่ไปทำงานก่อนนะ” “เดินทางดี ๆ นะครับ ตอนเย็นจิวทำอาหารรอนะ” “ครับ” ภาสกรเดินยิ้มไปขึ้นรถ ไม่รู้ทำไมเหตุการณ์จึงดูเหมือนคู่รักส่งไปทำงานอย่างไรไม่รู้ ทั้งที่แม่เขาก็ทำแบบนี้อยู่ทุกวัน ส่งเขาไปทำงานพร้อมกำชับว่าอย่าขับรถเร็ว แต่พอเป็นจิวแล้วรู้สึกเคอะเขินไม่น้อย ส่งคนทำงานจนลับตาแล้วเขาก็กลับเข้ามาในบ้าน หลายอย่างถามไถ่พี่ภาสแล้วว่าทำหรือห้ามให้ทำอะไรกลัวบางอย่างจะมีคุณค่าทางจิตใจ อีกฝ่ายบอกเขาจัดการได้ทุกอย่าง ของคุณแม่นั้นเก็บไว้ที่ห้องเจ้าตัวหมดแล้ว หน้าต่างทุกบานขอบ้านถูกเปิดออกในรอบสามเดือนเพื่อรับแสงแดด ผ้าม่านถูกผูกเอาไว้ ด้านในโล่งลมพัดเข้ามา จิวเข้าไปจัดการในครัว เก็บของที่ซื้อมาออีกรอบจากนั้นจึงถือตะกร้าอันใหม่มาใส่ดอกไม้แห้งในแจกันเพื่อนำไปทิ้ง มือถือที่ไม่ได้คุยกับใครมาค่อนคืนถูกใช้เปิดเพลงที่ชอบ เปิดฟังไปพร้อมกับการทำงานบ้านอย่างที่ชอบทำ จิวชอบทำงานบ้าน ชอบปลูกต้นไม้ ถ้าได้ออกไปเที่ยวเขาก็ชอบไปเลือกซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือไม่ก็ร้านต้นไม้ เดินดูเฉย ๆ ไม่ต้องซื้อก็มีความสุขแล้ว ชายวัยยี่สิบสองปีขยับตัวไปตามเพลง ปากก็ร้องไปด้วยเบา ๆ ขณะมือกำลังล้างแจกันหลายสิบใบอยู่พร้อมถ้วยจานที่พึ่งกินไป ผ้ากันเปื้อนคุณแม่อยู่บนตัวเขาที่สูงร้อยเจ็ดสิบเก้าแล้วพอดิบพอดีเลย ช่วงสายวันนี้ร่างบางจึงเพลิดเพลินไปกับการทำงานบ้านจนถึงเที่ยง เสร็จจากนี้ด้านล่างก็ไม่มีอะไรให้ทำแล้วเขาจึงขึ้นห้องไปจัดห้องตัวเองบ้าง บางอย่างอยากย้ายสลับกันจิวก็ลงมือทันที ในตู้มีผู้ปูหลายสี จิวจึงเลือกสีเขียวอ่อนพาสเทลมาเปลี่ยนแทนสีขาว จากนั้นก็นำลงมาซักตากแดดเอาไว้ อาบน้ำใหม่อีกรอบจิวก็ถือจานข้าวและชีทเรียนออกมาจากบ้าน ตรงไปที่โต๊ะข้างสวนดอกไม้เหี่ยวเฉา ที่นี่จะเป็นที่กินมื้อเที่ยงและอ่านหนังสือตลอดทั้งบ่ายของเขาหลังจากนี้ อากาศตอนนี้ไม่ร้อนมาก ลมเย็นสบาย จิวนั่งอ่านหนังสือไปครู่หนึ่งก็หวนคิดถึงพ่อแม่ขึ้นมาอีกครั้ง พออยู่เงียบ ๆ ก็อดคิดถึงเรื่องนี้ไม่ได้ จะให้หายเศร้าในวันสองวันเขาทำไม่ได้จริง ๆ อยู่กันมาตั้งยี่สิบกว่าปี ชีวิตจิวแทบไม่รู้จักใครเลยนอกจากเพื่อนและครอบครัว งานสังคมเขาก็ไปกับป๊าม้าบ่อย ๆ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้สนิทสนมกับใครมากพอจะพูดคุยกันส่วนตัว ไปเที่ยวต่างประเทศพ่อแม่ก็พาไป ไปเรียนตั้งแต่เด็กจนโตก็มีคนรับส่ง พึ่งรู้ว่าโลกของเขาแคบมากก็ตอนได้ออกมารู้จักโลกจริง ๆ มือบางหยิบมือถือขึ้นมาก่อนกดเข้าในไลน์ จิวจะโทรหาคนรู้จักคนหนึ่ง ตอนนี้เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่บ้านเลย ครอบครัวเราก็ไม่มีใครเป็นดาราจึงไม่มีข่าว จิวก็พลอยไม่รู้เรื่องไปด้วย ได้แต่หวังว่าคนที่โทรหาจะให้คำตอบเขาได้ รอไม่นานเจ้าตัวก็รับสาย “คุณจิวครับ ผมทำงานให้คุณท่านพึ่งเสร็จกำลังบินกลับ อยากได้อะไรเหรอครับ” น้ำเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นด้วยความอ่อนโยนกว่าปกติ จิวได้ยินก็น้ำตาคลอ “คุณศรณ์ จิวไม่ใช่ลูกป๊าม้าแล้วครับ” ทันทีที่เสียงหวานเอ่ยจบปลายสายก็เงียบไปจนรู้สึกใจหวิว ๆ คุณศรณ์คือคนของป๊าที่จิวเห็นตั้งแต่เด็ก เขาอายุสี่สิบหกปีแล้ว เป็นเลขาส่วนตัวที่มักถูกป๊าใช้ไปคุยงานต่างประเทศบ่อย ๆ ตอนนั้นจิวจึงติดอีกฝ่ายมากเพราะเจ้าตัวจะได้ซื้อของฝากมาให้เยอะ ๆ “คุณจิวว่ายังไงนะครับ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD