ตอนที่ 5
วันนี้ที่โรงแรมจะมีงานเลี้ยงฉลองงานแต่งของลูกสาวท่านประธานใหญ่ของโรงแรม คือท่านประธานคิม หรือว่าชื่อเต็ม คุณคิมหัน ธาราพงษ์ พนักงานทุกคนจำต้องอยู่ช่วยจัดเตรียมงานให้พร้อม
วันนี้กัวเซิงหลินแต่งตัวภูมิฐาน เขาเดินเข้ามาในงานเลี้ยงพร้อมกับนันทินีแม่ของเอมอร งานแต่งงานของลูกสาวของสาวประธานคิมจัดที่โรงแรมนี้ ก็ถือว่าเขาก็เป็นหุ้นส่วนหนึ่งในโรงแรมนี้หรือจะว่าเป็นแขกสำคัญของงานเลยก็ว่าได้
การแต่งกายที่ภูมิฐานและประกอบกับงานเลี้ยงที่จัดอย่างใหญ่โตสมฐานะของคู่บ่าวสาวนั้นมีแขกเหรื่อจากการเชื้อเชิญของญาติฝ่ายต่าง ๆ จนไม่มีใครจะจำทุกคนได้หมดว่าเป็นแขกของใคร ทำให้กัวเซิงหลินนั้นแทรกตัวอยู่ในงานได้อย่างโดดเด่น
กัวเซิงหลินมองใบหน้างามซึ้งของเอมอรพีอาร์สาวแสนสวยแล้วก็ต้องนึกในใจอย่างอิจฉาชัชวาลผู้จัดการหนุ่ม เพราะผู้ชายเหมือนกันก็มักจะดูกันออก เขาดูเอมอรสนิทสนมกับผู้จัดการหนุ่มแล้วเกิดอิจฉาขึ้นมา
“วันนี้ลูกสาวคุณสวยจังครับ”
“ยัยเอมน่ะเหรอคะ” นันทินีหัวเราะเบา ๆ
“เธอได้แม่มาเยอะค่ะ”
“อืม!.. ก็จริงอยู่นะ ทั้งสวย ทั้งสง่า เธอไม่น่ารีบแต่งงานเลยนะ”
“เรื่องยัยเอม ฉันคงช่วยอะไรคุณไม่ได้หรอกค่ะ”
“งั้นคืนนี้ถ้าเสร็จงานแล้ว เราไปเล่นบาคาร่ากันมั้ย ผมมีงบให้คุณไม่อั้น ขออย่างเดียวผมอยากนั่งทานข้าวกับลูกสาวคุณในงานคืนนี้”
“ถ้าแค่นั้น ก็ได้ค่ะ ไหนล่ะคะ..เงิน” กัวเซิงหลินยื่นบัตรเครดิตของเขาให้กับนันทินี
“คุณเอาเครดิตการ์ดของผมไปแลกชิพได้เลย”
“ดี!..ฉันจะเรียกยัยเอมมานั่งที่โต๊ะ รอเดี๋ยวนะคะ” นันทินีเดินไปตามเอมอรให้มานั่งที่โต๊ะอาหารของเธอภายในงาน เอมอรไปนั่งเพราะแม่เธอบอกว่าไม่อยากนั่งอยู่สองต่อสองกับกัวเซิงหลิน เอมอรจึงยอมมานั่งกับแม่ พอทานอาหารไปได้สักพัก นันทินีก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำแล้วหายเข้าบ่อน โดยนันทินีไลน์บอกลูกสาวว่าจะขอเข้าบ่อน และขอให้เอมอรนั่งคุยเป็นเพื่อนกับกัวเซิงหลินไปสักพัก
เอมอรไม่พอใจที่คุณแม่ทำกับเธอแบบนี้ เอมอรลุกขึ้นขอตัวเข้าห้องน้ำแล้วโทรไปตามให้แม่กลับมา แต่ระหว่างนั้นชัชวาลที่เพิ่งเสร็จงานก็โทรหาเอมอรพอดี
“เอมมานั่งโต๊ะของคุณแม่ค่ะ แต่ว่าตอนนี้ท่านไม่อยู่แล้ว”
“อ่าว!.. แล้วเอมมีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ”
“เอมอยากกลับบ้าน ถ้ายังไงคุณชัชช่วยไปส่งเอมหน่อยได้มั้ยคะ”
“ได้ครับ เดี๋ยวคุณรอสักครู่นะครับ”
ระหว่างนั้นชัชวาลจึงเดินไปบอกอรณิชาพีอาร์สาวอีกคนในงานว่าเขากำลังจะกลับ ทำให้เธอแอบน้อยใจ เพราะคืนนี้เธออยากจะควงผู้จัดการหนุ่มสักหน่อย
“แม่คุณหลอกให้คุณมาทานข้าวกับคุณกัวเซิงหลิน..ทำไมกัน”
“เอมพอจะรู้ค่ะ เขาน่าจะให้เงินแม่ไปเข้าบ่อนนะสิ”
“คุณจะกลับเลยมั้ย หรือว่าจะไปบอกเขาก่อน”
“เดี๋ยวเอมไปบอกเขาก่อนก็ได้ค่ะ ไม่อยากเสียมารยาท” เอมอรเดินมาที่โต๊ะ กัวเซิงหลิน ซึ่งกำลังนั่งดื่มอยู่เขาก็ขอชนแก้วกับเธอ เอมอรยอมดื่มไปสองสามแก้ว จากนั้นก็ขอตัวลุกจากโต๊ะแล้วเดินจากไป
กัวเซิงหลิน ทุบโต๊ะทันทีด้วยความโมโห ที่เป้าหมายของเขาหลุดลอยไปแล้วสำหรับคืนนี้ จิ้งจอกสวาทอย่างเขาจึงตัดใจละทิ้งความต้องการที่จะได้ตัวเอมอรไปก่อน และหันมากวาดตามองไปรอบ ๆ งานเลี้ยงที่หรูหรา และเต็มไปด้วยสาว ๆ ที่แต่งกายกันอย่างสวยเซ็กซี่ สาวตาของจิ้งจอกสวาทกวาดมองไปตามเรือนกายของบรรดาพีอาร์สาว ๆ เหล่านั้นแทน
ฉับพลันนั้นความขาวกระจ่างของแผ่นหลังที่เป็นประกายล้อแสงไฟของหญิงสาวร่างระหงนางหนึ่งก็วาบเข้ามาสู่สายตาของเขา ดวงตาลุกโพลนเขารีบเดินเลี่ยง ๆ ไปอีกข้างหนึ่งแล้วเบิกตามองไปยังสาวสวยที่อยู่ในชุดแสนจะเซ็กซี่สีแดงเพลิง
ชุดด้านบนเป็นผ้าเนื้อเบาพลิ้วคอคว้านลึกจนเป็นร่องอกที่อวบอิ่มเป็นน้ำนวลขาวราวกับน้ำนมด้านหลังนั้นเว้าไปจนถึงสะโพก อวดแผ่นหลังที่ขาวเนียนไร้ริ้วรอยไฝฝ้าใด ๆให้เป็นที่หมองตาเลยแม้แต่น้อยกระโปรงชุดราตรียาวนั้นผ่าขึ้นมาลึกจนเวลาเดินนั้นโชว์ช่วงขาขาวเรียวงามราวกับสลักจากหยกขาว กัวเซิงหลินมองแล้วต้องกลืนน้ำลายอย่างกระหายหิวตามสันดาน
ถึงแม้ใบหน้าของสาวสวยได้ชุดสีแดงเพลงจะสวยสู้เอมอรไม่ได้แต่ก็จัดอยู่ในระดับสวยบาดตาบาดใจที่หาได้ยาก วงหน้าเรียวยาว ดวงตารีจมูกโด่งและริมฝีปากบางรูปกระจับทาสีชมพูสดหัวเราะเจื้อยแจ้วอยู่ท่ามกลางหมู่ของชายหนุ่มที่เวียนเข้าไปทักทายเรียกหาราวกับดอกไม้งามล้อหมู่ภมรหนุ่ม
เธอคือพีอาร์สาวอีกคนที่เขารู้จักนั่นเองแต่ว่าวันนี้เธอด้วยสวยจนผิดหูผิดตา เขารู้จักเธอเป็นอย่างดีเพราะเธอทำงานคู่กับเอมอรในแผนกประชาสัมพันธ์ซึ่งจริง ๆ แล้วหน้าที่นี้ทุกคนต้องไปเชียร์แขกในโรงแรมเพื่อเข้าบ่อนด้วยการทำหน้าที่เชิญชวนแนะนำ ให้ลูกค้าเข้าไปใช้บริการ โดยนำเสนอแพคเกจ หรือ โปรโมชั่นชวนให้เข้ากาสิโน รวมถึงการขอตรวจหลักฐานพาสปอร์ตเพื่อทำเรื่องการซื้อตั๋วเข้ากาสิโน และด้วยหน้าที่นี้เองที่ทำให้เอมอรถูกกัวเซิงหลินลวนลามจนบางครั้งชัชวาลต้องให้อรณิชาทำหน้าที่นี้แทนเอมอรในบางครั้งเมื่อกัวเซิงหลินมาพัก
“สวัสดีครับ มาคนเดียวเหรอครับ”
“ค่ะ..ดิฉันมาแสดงความยินดีกับเจ้าสาว คุณละคะ”
“ผมก็เป็นแขกคนสำคัญของงานนี้ จะรังเกียจมั้ยครับถ้าเพลงหน้าผมจะขอคุณเต้นรำ”
“ค่ะ” อรณิชาตอบเบา ๆ เมื่อเธอยอมเต้นรำกับกัวเซิงหลิน เขาจึงชวนเธอไปนั่งดื่มต่อที่โต๊ะหลังจากเต้นรำเสร็จ พออรณิชากำลังจะลุกไปเธอก็เหมือนไม่มีแรง กัวเซิงหลินอาสาประคองเธอเดินออกจากงานไป และบอกกับทุกคนว่า อรณิชาหน้ามืด เหมือนจะเป็นลม กัวเซิงหลินจำต้องใช้ยาอีกตัวที่แรงกว่าใช้กับเอมอรเมื่อสักครู่ ยาตัวนี้เหยื่อจะไม่สามารถขัดขืนหรือเดินหนีได้เหมือนเอมอร เพราะคืนนี้เขาไม่อยากพลาดอีกแล้ว
ทางด้านของเอมอร ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถของผู้จัดการหนุ่ม ตัวยาที่เธอกินเข้าไปก็เริ่มจะออกฤทธิ์ เธอขอร้องให้ชัชวาลช่วยเร่งแอร์ให้และเสื้อคลุมตัวนอกเธอก็ถอดออกเหลือไว้เพียงเสื้อกล้ามเท่านั้น
ชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงรีบตัดสินใจพาเอมอรกลับไปที่คอนโดเพราะเห็นว่าหล่อนต้องถูกเสือผู้หญิงอย่างกัวเซิงหลินวางยาเป็นแน่ เพราะเขารู้นิสัยของกัวเซิงหลินดีแต่วันนี้ก็เหมือนนายทุนจีนคนนี้เตะหมูเข้าปากหมาและหมารับใช้อย่างชัชวาลก็พร้อมจะทรยศหุ้นส่วนใหญ่ของเจ้านายได้อยู่แล้วและอีกอย่างกัวเซิงหลินก็ไม่เห็นด้วยว่าเขาเป็นคนพาเอมอรกลับจากโรงแรม