ยูมิวิ่งกลับมาบ้านโดยไม่ต้องอ้อมไปออกหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ เพราะป้าหลิงหลินได้ทำทางเดินลัดสนามหญ้าข้างคฤหาสน์ไปยังบ้านของเธอโดยทำประตูเล็กๆ ให้เปิดเชื่อมระหว่างสองบ้านได้ และเชื่อได้ว่าทางนี้มีแต่เธอที่ใช้บ่อยที่สุดวันหนึ่งก็หลายรอบได้ เพราะเธอมีภารกิจที่จะต้องทำทุกวันนั้นก็คือ การมาพบหน้าพี่เรียวสามีในอนาคตของเธอ
"กลับมาแต่เช้าเชียวลูก ตายแล้วยูมิ! หนูไปทำอะไรมา" เยาวภาเอ่ยทักเมื่อเห็นลูกสาวเดินเข้ามาในบ้าน แต่แล้วเธอก็ต้องถลาเข้าไปหาลูกสาวเพราะแผ่นขาวๆ ที่แปะอยู่บนหน้าผากนั่น เยาวภาถามเสียงตกใจ พลางจ้องมองผ้าปิดแผลบนหน้าผากของลูกสาว หน้าผู้เป็นแม่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยจนเด็กสาวใจเสีย
"ยูมิแค่ตกบันไดค่ะแม่" ตอบกลับเสียงอ่อยๆ พลางยิ้มแหย่ๆ
"ตกบันได!! หนูตกบันไดได้ยังไง บอกแม่มาเดี๋ยวนี้เลยนะ" ดึงแขนลูกสาวไปนั่งตรงโซฟาก่อนจะมองสำรวจคนตรงหน้าไปด้วยว่ามีบาดแผลอะไรเพิ่มนอกจากหน้าผากอีกหรือเปล่า
"แม่อย่าเสียงดังสิคะเดี๋ยวพ่อได้ยิน" ยูมิยกนิ้วขึ้นแตะปากเชิงบอกผู้เป็นแม่ให้เบาเสียงก่อนจะมองไปรอบๆ ว่าพ่อไม่ได้อยู่ใกล้ๆ พอไม่เจอก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ถ้ายังไม่เล่า แม่นี่แหละจะขึ้นไปบอกพ่อของเราด้วยตัวเอง"
"คุณแม่ขาอย่าใจร้ายกับยูมิสิคะ ยูมิกำลังจะเล่าให้ฟังอยู่นี่ไงคะ" แขนเรียวเล็กสอดเข้าไปกอดเอวของผู้เป็นแม่ไว้ ซบหน้าลงกับหน้าอกแล้วถูไถไปมาอย่างออดอ้อน
"เล่ามาให้หมด แม่รอฟังอยู่" ดันคนช่างอ้อนออกก่อนจะมองหน้าลูกสาวจริงจัง
ยูมิยิ้มอ้อนก่อนจะเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้เธอมีแผลอยู่บนหน้าผากในตอนนี้ แน่นอนว่าเธอเล่าแค่บางอย่างเพียงเท่านั้น ส่วนเรื่องที่เธอแอบเข้าไปนอนกับเรียวเธอจะบอกผู้เป็นแม่ไม่ได้เด็ดขาดไม่งั้นโดนตีตายเลย เพราะช็อกกับความใจกล้าบ้าบิ่นของเธอ ใช่ว่าเธอจะไม่เคยนอนกับเรียว ตอนเด็กๆ เธอก็ได้นอนกับเรียวบ่อยๆ แต่ไม่รู้ทำไมพอโตขึ้นพี่เรียวของเธอถึงขยันไล่เธอจัง จะเข้าใกล้ก็ด่า เธอละไม่เข้าใจพี่เรียวของเธอจริงๆ ว่ารังเกียจอะไรเธอนักหนา
ถึงแม้ผู้ใหญ่จะไม่ห้ามปรามที่เธอตามตื๊อเรียวออกจะตามใจเธอด้วยซ้ำไป แต่อย่างน้อยเธอก็มีสายเลือดไทยอยู่ในตัวจะทำอะไรก็คำนึงถึงประเพณีไทยอยู่บ้าง สักเล็กสักน้อยก็ยังดี
“ตายๆ ลูกสาวฉัน ดีนะไม่แข้งขาหักหรือเป็นอะไรมากกว่านี้” เธอมองผู้เป็นแม่ที่ยกมือขึ้นทาบอกทำท่าจะเป็นลมนั้นพลางยิ้มอ้อน ขอลุแก่โทษกับผู้ให้กำเนิด
“คราวหลังยูมิจะไม่ไปยืนใกล้บันไดแบบนั้นอีกแล้วค่ะแม่”
“ขอให้จริงเถอะ แม่ละไม่คิดเลยว่าหนูจะชอบเรียวจนไม่นึกถึงความปลอดภัยของตัวเองแบบนี้” เธอตำหนิลูกสาว
“แม่อย่าด่าหนู อย่าว่าพี่เรียวของยูมิเลยนะ พี่เรียวไม่ได้ตั้งใจทำร้ายยูมิเลยมันเป็นแค่อุบัติเหตุ” เด็กสาวซบหน้าถูแก้มกับหน้าอกของคนเป็นแม่เหมือนลูกแมวน้อยที่ชอบใช้ประจำเมื่อพ่อหรือแม่ดุเธอซึ่งมันก็ได้ผลเหมือนเดิม เยาวภาถอนหายใจออกมาก่อนจะส่ายหัวช้ากอดลูกสาวตัวเองแน่นพร้อมกับพูดออกไปเสียงกลั้วหัวเราะ
“แน่สิ ถ้าพี่เขาตั้งใจป่านนี้หนูคงกลายเป็นปุ๋ยหมักไปแล้วละ”
“แม่จ๋า พี่เรียวไม่ทำยูมิหรอก” เด็กสาวแย้งเสียงอ้อนๆ ผละออกจากอ้อมกอดผู้เป็นแม่ ทำแก้มพองลมดูน่ารักน่าชัง
“รู้ได้ยังไงฮึ หนูไปนั่งอยู่ในใจพี่เขาหรือไงเด็กน้อย”
“ก็พี่เรียวรู้ว่ายูมิรัก เพราะฉะนั้นพี่เรียวคงไม่ทำร้ายคนที่รักตัวเองหรอกค่ะ” เด็กสาวพูดด้วยความมั่นใจ จนเยาวภาอ่อนอกอ่อนใจกับความรักที่ลูกสาวมีให้กับมาเฟียหนุ่ม
“แล้วถ้าวันหนึ่งพี่เขาเกิดทำร้ายลูกสาวแม่ขึ้นมาละ หนูจะทำยังไง” ที่ถามไม่ใช่ว่าจะขัดขวางความรักของลูกสาว เพียงแต่เธอห่วงเพราะเรียวเป็นมาเฟียที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม ไม่เคยปรานีใคร ถึงแม้หลิงหลินมารดาของมาเฟียหนุ่มจะรักและเอ็นดูยูมิขนาดไหน แต่ถ้าเรียวจะทำร้ายยูมิจริงๆ เวลานั้นหลิงหลินจะช่วยลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอได้หรือเปล่า
“ถ้าวันนั้นมาถึง ยูมิจะหนีให้ห่างจากพี่เรียวไม่ให้เขาตามหายูมิเจอเลยค่ะ” เธอพูดขึ้นสีหน้าจริงจัง
ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ ต่อให้รักมากแค่ไหนเธอก็จะไป เธอไม่อยากให้ตัวเองถูกทำร้ายจนทำให้พ่อกับแม่ต้องทุกข์ใจ ยังไงพ่อกับแม่ก็คือที่หนึ่งในใจเธอเสมอ พวกท่านไม่เคยทำเธอเสียใจ ไม่เคยดุด่าหรือตีเธอ เพราะฉะนั้นถ้าวันหนึ่งเรียวผู้ชายที่เธอรักเขาทำร้ายเธอขึ้นมาเธอจะพาตัวเองให้ออกไปจากชีวิตเขาเอง
“แม่เชื่อจ้ะว่าลูกสาวแม่ทำได้” ลูบผมยาวสลวยของลูกสาวอย่างเอ็นดูในความเด็ดเดี่ยวของเธอ เธอเลี้ยงลูกสาวมาก็พอจะรู้ว่าลูกสาวมีนิสัยยังไง ต่อให้ยูมิเป็นเด็กช่างตื๊อน่ารักนักน่าเอ็นดู และดูบอบบางมากแค่ไหน พอถึงเวลาเอาจริงขึ้นมาลูกสาวเธอก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน โดยเฉพาะความเด็กขาดที่ได้ผู้เป็นพ่อมาเต็มๆ
“ยูมิรักแม่กับพ่อมากนะคะ แล้วก็รักพี่เรียวมากด้วย คิกคิก”
“จ้า ถ้ารักแม่ก็ต้องดูแลตัวเองโดยเฉพาะตอนนี้หนูขึ้นไปนอนพักก่อนดีไหมคะ”
“ค่ะแม่ ยูมิขอนอนเอาแรงก่อนนะ ตื่นมาจะไปหาพี่เรียวที่บ้านนู้น” พูดจบก็หอมแก้มผู้เป็นแม่แรงๆ ทั้งสองข้าง ก่อนจะวิ่งหายลับขึ้นไปชั้นบนท่ามกลางสายตาเป็นห่วงของเยาวภา
เรื่องบางเรื่องมันต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองถึงจะเข้าใจ....
“ยัยหนูละคุณ” ชุนหยางถามถึงลูกสาวเมื่อลงมาเจอแต่ภรรยานั่งอยู่เพียงคนเดียว
“ขึ้นไปนอนพักผ่อนนะสิคะคุณ” เธอส่ายหัวน้อยๆ จนสามีขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า เมื่อคืนยัยหนูไปนอนบ้านนู้นนี้น่า” พูดพลางชงกาแฟมานั่งดื่มข้างภรรยา เพราะพวกเขาจะต้องออกไปเปิดร้านอาหารต่อในตอนสายๆ หลังจากไปซื้อของมาจากตลาดเมื่อเช้ามืด
“ก็เรื่องเดิมๆ นั่นแหละค่ะ แต่รอบนี้ได้บาดแผลมานิดหน่อย” ถอนหายใจแรงๆ
“เรื่องเรียวนะเหรอ”
“ใช่ค่ะ ดูท่ายัยหนูจะรักเรียวมากเลยนะคุณ ฉันละกลัวจริงๆ” ชุนหยางเอื้อมมือไปจับมือภรรยาไว้อย่างปลอบใจให้เธอคลายความกังวล
“เรื่องบางเรื่องเราก็เลี้ยงได้แต่ตัวนะคุณ ให้ยัยหนูได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง สักวันแกคงจะเข้าใจ”
“ฉันก็หวังอย่างนั้นแหละค่ะ แต่ถึงยังไงก็อดกลัวไม่ได้อยู่ดี เรียวเป็นถึงมาเฟียเลยนะคุณไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาทั่วไป” มองหน้าสามีอย่างกังวลใจ
“ผมรู้ แต่คุณอย่าลืมสิว่ายังไงซะคุณหลิงหลินแกคงไม่ปล่อยให้ลูกชายตัวเองมาทำร้ายยัยหนูของเราได้หรอก”
“คุณมั่นใจเหรอคะ”
“มั่นใจสิ แล้วก็มั่นใจมากด้วยว่าคุณหลิงหลินแกจะดูแลลูกสาวของพวกเราได้ดีไม่แพ้พวกเราเลย”
“ค่ะ ฉันเชื่อคุณ” เยาวภามองสามีอย่างเชื่อมั่น
ชุนหยางดึงภรรยาเข้ามากอดพลางคิดถึงความเมตตาที่หลิงหลินมีให้ครอบครัวของเขา มันทำให้เขามั่นใจว่าลูกสาวของเขาจะต้องปลอดภัยแน่นอนเมื่อไม่มีพวกเขาอยู่ด้วย เพราะหลิงหลินจะคอยดูแลลูกสาวของผู้มีพระคุณที่ครั้งหนึ่งเคยช่วยชีวิตเธอไว้อย่างแน่นอน เขาเชื่อแบบนั้นเสมอมา เพราะไม่อย่างนั้นป่านนี้ยูมิคงไม่ได้เข้าไปเหยียบย่างเดินเล่นทุกซอกทุกมุมของคฤหาสน์เฟยหลงอย่างกับเป็นลูกสาวเจ้าของบ้านอย่างนั้นแน่นอน
------------------------------------------------------