โรงละครหลวงสวนมิสกวัน

909 Words
เพียงรถยนต์เคลื่อนเข้าใกล้โรงละครหลวงสวนมิสกวัน ดวงตาสวยหวานของบุษบาก็ทอดมองทุกสิ่งตรงหน้าด้วยความชื่นชม เพราะโรงละครนี้เมื่อเห็นในเวลากลางวันว่าสวยงามโอ่อ่ามากแล้ว ทว่าเมื่อได้มาเห็นยามค่ำคืนกลับสวยงามปานอยู่ในสรวงสวรรค์ เพราะไฟโคมและไฟระย้าที่ประดับประดาตามจุดต่างๆ ทำให้ทั่วทั้งบริเวณดูสว่างไสว ดุจสถานที่แห่งนี้ไม่เคยมีความมืดมิดใดๆ มาเยี่ยมเยือน บริเวณด้านหน้าโรงละครนั้นคลาคล่ำไปด้วยรถยนต์หรูหรา เคลื่อนเข้ามาจอดส่งเจ้านายชั้นสูง ข้าราชการ และเหล่าผู้ลากมากดี คหบดี พ่อค้าวาณิชที่ต่างพากันมาร่วมชมดนตรีในค่ำคืนนี้ ด้วยพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้การแสดงครั้งนี้จัดขึ้นสำหรับให้ประชาชนได้เข้าชม ผู้คนจึงต่างแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแพรพรรณงดงาม ชายนั้นบ้างก็สวมเสื้อราชปะแตนนุ่งโจง บ้างก็นุ่งโจงแต่ท่อนบนเป็นสูทพร้อมผูกหูกระต่าย แต่หากเป็นฝรั่งก็ล้วนแต่ใส่สูทและสวมกางเกงเข้าชุด ส่วนสุภาพสตรีนั้นนุ่งซิ่นลายเชิงพร้อมสวมเสื้อเข้าชุดกับซิ่น เสื้อนั้นบ้างเป็นลูกไม้เนื้อดี บ้างเป็นแพรเนื้อบาง หลากสีหลายแบบล้วนแล้วแต่เป็นไปตามที่สุภาพสตรีท่านนั้นชื่นชอบ ส่วนทรงผมนั้นทำเป็นทรงบ๊อบพร้อมคาดศีรษะด้วยผ้าลูกไม้ ผ้าปักดิ้นหรือไข่มุก ดูงดงามสูงค่า รถยนต์จากเรือนพระนาฏกรรมวิจิตร จอดบริเวณด้านหน้าทางเข้า คนขับซึ่งเป็นบ่าวในเรือนเดินอ้อมมาทางฝั่งซ้ายเพื่อเปิดประตู และเพียงร่างแน่งน้อยก้าวลงมาก็ตรึงสายตาสุภาพบุรุษที่ยืนอยู่ในบริเวณจนทั่ว หญิงสาวร่างงามระหงที่ก้าวลงมาคนแรก อยู่ในชุดเสื้อแพรสีขาวโปร่งตัดเย็บเข้ารูปแต่ไม่แนบเนื้อยาวคลุมสะโพก นุ่งซิ่นสีเขียวน้ำไหล เครื่องประดับติดกายมีเพียงต่างหูมุกรูปทรงหยดน้ำ เพียงนั้นก็มากพอแล้ว เพราะคงไม่มีเครื่องประดับใดจะงดงามได้เท่าเครื่องหน้าหมดจด เรือนผมยาวดำขลับดุจขนแม่กาน้ำจับน้ำมันและหวีเสยไปด้านหลัง เปิดใบหน้ารูปไข่งามแฉล้มโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นหน้าผากเกลี้ยงเกลา เรียวคิ้วโก่งสวย ดวงตาหวาน จมูกโด่งพองาม แก้มนวลระเรื่อรับกับริมฝีปากกระจับน้อยๆ ที่แย้มยิ้มในทันทีที่ทอดมองโรงละครโอ่อ่าตรงหน้า ใบหน้างามแหงนหน้าขึ้นมองโรงละครที่ก่อสร้างจากไม้สักทั้งหลัง ตกแต่งด้านนอกฉลุลายงดงามวิจิตร ทว่าด้านในนั้นหล่อนยังไม่เคยเห็นสักครา ได้ยินแค่แหม่มสอนภาษาอังกฤษบอกเล่าว่าด้านในนั้นยิ่งงดงามราวสวรรค์ ประยงค์และพิกุลก้าวลงจากรถตามมา เครื่องแต่งกายของสามพี่น้องคล้ายกันต่างเพียงสีและเครื่องประดับ และพิกุลนั้นคาดศีรษะด้วยสายมุกเม็ดเล็กถักทอ ประดับคอด้วยสร้อยมุกเม็ดโต กำไลมุกและแหวนเข้าชุด ส่วนประยงค์คาดศีรษะด้วยผ้าลูกไม้เส้นเล็ก เครื่องประดับก็มีพอประมาณ เพราะยังเขินกับการนุ่งซิ่นแทนที่จะเป็นโจงกระเบนอย่างเคย “แม่บุษ งามเหลือเกิน นอกจากพระบรมมหาราชวังแล้ว พี่ก็ไม่เคยเห็นที่ใดงามจะเยี่ยงนี้มาก่อน เป็นบุญตาของพี่เหลือเกินที่ได้มาเห็น” สถานที่โอ่อ่าประดับประดาไฟสวยงามมากมาย งดงามจนประยงค์อดไม่ได้ที่จะชื่นชม และยิ่งตื่นตาตื่นใจมากขึ้นเมื่อได้เห็นเครื่องแต่งกายของสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่ต่างทยอยกันเข้ามาในงาน “คุณพี่คะ แม่บุษ นี่เราอยู่ในเมืองฟ้าเมืองสวรรค์กันรึเปล่าคะเนี่ย ทำไมทุกคนล้วนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์งดงามเยี่ยงนี้” พิกุลแตะหลังมือที่ริมฝีปากปิดรอยยิ้ม อดไม่ได้ที่จะขันน้องสาว “โธ่... แม่ประยงค์ ก็สยามน่ะเปรียบประหนึ่งเมืองฟ้าเมืองสวรรค์จริงๆ น่ะสิจ๊ะ น้องดูสิ เหล่าเทวดานางฟ้าเดินกันให้วุ่นวาย และนี่เราก็กำลังจะเข้าไปชมดนตรีแห่งสวรรค์กันนะจ๊ะ” “คุณพี่น่ะ ล้อน้องอีกแล้ว” “ล้ออะไรกันจ๊ะ พี่พูดจริงที่สุด ก็น้องน่ะอยู่แต่ในเรือน ลองออกมาชมพี่แสดงละครบ้างสิ จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ขนาดพี่บอกว่าให้เลิกกินหมากเพราะสมัยนิยมฟันขาวแบบแหม่ม น้องก็ไม่ยอม ประเดี๋ยวน้องเข้าไปด้านใน น้องจะไม่ตกใจยิ่งกว่านี้รึ หรือยังไงแม่บุษ ไหนนำไปสิ” “ค่ะคุณพี่ เราเข้าไปดูด้านในกันเถอะค่ะ คุณแหม่มแอนนาเบล เธอบอกน้องว่าภายในนั้นยิ่งงดงามนัก โดยเฉพาะชั้นบนมีที่ประทับของพระเจ้าอยู่หัวด้วยค่ะ” บุษบายิ้มพร้อมจูงมือประยงค์ที่เกิดประหม่าอย่างเห็นได้ชัดให้เดินไปด้วยกัน โดยมีพิกุลคอยประกบอีกข้างให้ประยงค์ได้อุ่นใจว่ามีทั้งพี่และน้องขนาบข้างไม่มีสิ่งใดที่ต้องกลัว โดยทั้งสามใบเถาไม่รู้ตัวว่าตกเป็นเป้าสายตาของสุภาพบุรุษทั้งสูงศักดิ์และมากบรรดาศักดิ์หลายคนเข้าแล้ว เพราะทุกที่ที่มีการสังสรรค์ย่อมไม่ใช่แค่ประสงค์มาร่วมงาน ทว่าเสมือนเป็นการดูตัวของหนุ่มสาวที่อาจพึงใจกันและกัน และหลังจากค่ำคืนนี้แม่สื่อก็จะได้ชักพาให้หนุ่มสาวรู้จักกันในวาระต่อไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD