“พี่ไม่กล้าคิดอย่างนั้นดอก คงต้องสอบถามเอาจากแม่บุษก่อน เพราะจากที่ดู คุณพระท่านก็ยกย่องแม่บุษดีอยู่ดอก กุญแจกำปั่นก็ให้ถือมิใช่รึ เงินทองมากมาย แม่บุษก็หยิบใช้สอยได้สะดวก พี่จึงไม่กล้าเดาเรื่องหมองใจของแม่บุษดอก คงต้องถามเอาให้รู้ความนั่นแหละ” “อย่างนั้นวันพรุ่งเราไปหาแม่บุษกันนะคะ น้องห่วงแม่บุษ แม้จะออกเรือนไปแล้ว แต่เราพี่น้องก็ยังร่วมทุกข์ร่วมสุขกันดังเดิม น้องไม่อยากเห็นแม่บุษมีความทุกข์ ในขณะที่พวกเราต่างคิดว่าน้องนั้นคงสุขมาก” พิกุลมองประยงค์ที่น้ำตารื้น เอื้อมมือไปกระชับฝ่ามือของน้องสาว “แม่ประยงค์ไม่ต้องห่วง แม่บุษน่ะเป็นแก้วตาดวงใจของเรา พี่ก็จะไม่ยอมให้แม่บุษต้องเป็นทุกข์ดอก ไม่ว่าเรื่องนั้นจะหนักหนาสักแค่ไหน พี่ก็จะร่วมแก้ วันพรุ่งเราไปหาน้องกันตั้งแต่เช้าเลยนะ หากหนักหนาจนแก้ไม่ได้จริงๆ เราก็นำความไปปรึกษาคุณพ่อกับคุณย่าน้อยกัน คุณพ่อกับคุณย่าต้องช่วยได้แน่ๆ” พิกุลเอ่ยให