บทที่5.ลุงที่หน้าเด็กกว่าพ่อ
มื้อค่ำทับทิมเลยใช้วิธีหลบ เธอไม่อยากไปนั่งประจันหน้ากับคนที่ตนเองไม่ชอบหน้า หญิงสาวนอนอ่านหนังสือบนเตียง นิยายเล่มเดิมนั่นแหละ แค่อ่านหลายรอบเพราะความชอบ เธอกำลังอ่านหนังสือเพลินๆ ประตูห้องข้างๆ ก็ถูกเปิด มีเสียงพูดเบาๆ จนทับทิมต้องลุกขึ้นมาตะแคงหูฟัง
“ที่นี่อาจจะไม่สะดวกเท่าโรงแรมในเมืองนะครับคุณเหนือ แต่หากอยากได้บรรยากาศตอนค่ำเงียบๆ รับประกันได้ หลังสี่ทุ่มที่นี่เงียบเหมือนป่าช้าเลยครับ”
เสียงบิดาของเธอบอกใครบางคน
“แสงไฟในห้องข้างๆ แยงลอดรอยแตกมา ทับทิมหย่อนขาลงบนพื้น เธอย่องไปแนบหน้ามองผ่านรอยแตกนั่น
หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ แผ่นหลังตึงแน่นอุดมไปด้วยมัดกล้าม ชายคนนั้น คนที่อายุมากกว่าบิดาของเธอ เขาถอดเสื้อยืนอยู่หน้าเตียงนอน ทำท่าจะถอดกางเกงด้วย ทับทิมเลยรีบชักส่ายตากลับ
หัวใจเธอเต้นเร็วจนแทบวาย
หญิงสาวยกมือลูบอก ชำเลืองมองรอยแตกของเนื้อไม้ที่มีแสงแยงผ่านรอยเหล่านั้นมาด้วยสายตาแหยงๆ
สาวรุ่นจิปาก เธอถอยหลังมานอนที่เตียง เพราะได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาหยุดหน้าประตูห้องตนเอง
“ทิมๆ” เสียงบิดาเรียกเบาๆ ตามด้วยเสียงเคาะเรียก ก็อกๆ
“พ่อมีอะไรคะ ทิมจะนอนแล้ว” หญิงสาวตอบ ยกมือลูบหน้า พยายามเกลื่อนอาการตื่นตกใจให้ราบเรียบ
“เปิดประตูหน่อยสิ” หญิงสาวจำใจเดินไปเปิดประตู
“พ่อมีแขก จะทำอะไรเบาๆ หน่อยล่ะ” หลังประตูเปิด ทัพรีบพูด
“จ้ะ” ทับทิมรับคำ เตรียมจะปิดประตู
“พี่ทิม จ้อยนอนด้วยนะคืนนี้” เธอเงยหน้ามองบิดา ท่านคงสั่งให้จ้อยมาควบคุมความประพฤติ คงกลัวเธอฉีกหน้าท่าน เหมือนมื้อค่ำที่ผ่านมานั่นเอง
“ไม่เอา ไม่ชอบ” ทับทิมปฏิเสธ ถึงเธอจะรักจ้อยเหมือนน้องชาย แต่เพราะนอนคนเดียวมาตั้งแต่เด็ก ทับทิมเลยไม่ชินกับการมีใครอีกคนในห้องนอน
จ้อยเงยหน้ามองทัพเหมือนขอความเห็น
“กลับไปนอนที่ห้องเอ็งเถอะจ้อย พี่เขาไม่ให้นอนด้วยหรอก” ทัพรู้นิสัยทับทิมดี หากบังคับตอนนี้ เขาอาจจะขายขี้หน้าอดีตนายเก่า
ทับทิมปิดประตู เดินไปนั่งห้อยขาที่ริมเตียง “ไหนบอกนอนโรงแรม เสล่ออยากนอนเอาบรรยากาศชนบทเหรอ?”
หญิงสาวบ่น เธอแอบค้นหาประวัติของเจ้านายเก่าบิดา
ไม่น่าเชื่อ คนคนนั้นจะรวยเหลือเชื่อ เขาเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทยักษ์ใหญ่ เป็นทายาทของผู้ดีเก่า และที่สำคัญ...เขาอายุเท่าที่มารดาบอกจริงๆ
หลายภาพที่ถูกอัฟโหลดไว้ใน IG ส่วนตัวเขา แต่ละภาพมีคนกดไลค์ไม่น้อยเลย เขาเป็นขวัญใจสาวๆ ทั้งที่มีอายุขนาดนี้ ทับทิมไม่อยากเชื่อ ไม่ว่าจะหน้าตาหรือหุ่นที่แสนจะเฟิร์มของเขา มันขัดกันกับอายุที่อยู่ในบั้นปลายของคนหนุ่ม
ทับทิมแอบเบ้ปาก เขาถ่ายรูปขึ้น แต่เธอก็เถียงอีกไม่ได้ ตัวจริงเขาก็ไม่ได้แตกต่างกับรูปถ่ายที่ถูกอัพอยู่ในโลกโซเซียลหรอก
ตัวเป็นๆ อยู่ในห้องใกล้ๆ เธอนี่ไง
“โอ้ย...ตาลุงนั่นหุ่นเฟิร์มจนหนุ่มๆ อาย”
หญิงสาวหงายหลังผึ่งบนที่นอน บ่นพึมพำด้วยความไม่พอใจ
“ฉันจะคอยถ่ายคลิปแฉสันดานลุงให้หมด ดูสิสาวๆ ยังจะคลั่งผู้ชายนิสัยแย่ๆ แบบนี้อีกไหม?”
ใช่เลยเธอต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเอาคืนคนคนนั้น เขาอายุเกินครึ่งคนยังมารยาทแย่ เขามองไม่เห็นหัวคนอื่น ไร้น้ำใจ สิ่งที่ตาลุงนั่นควรทำคือการขอโทษเธอกับจ้อย ไม่ใช้ขับรถเลยไปทำเป็นมองไม่เห็น
หรือเขาจะไม่เห็นจริงๆ
มีเสียงแย้งในหัว ทับทิมไม่ได้เข้าข้างเขา จ้อยอาจจะตกใจจนหักหน้ารถหลบ เลยทำให้รถล้ม เดาจากหมวกกันน็อคที่เขาสวม ฟิมล์ดำทึบนั่นอาจะทำให้การมองด้านข้างของเขาขัดข้องก็ได้
“ไม่จริงหรอก!!” หญิงสาวหลุดปากแย้งออกมา ในหัวของเธอแบ่งเป็นสองฝ่าย และกำลังทุ่มเถียงกันอย่างหนัก
“ตาลุงนั่นนิสัยแย่จริงๆ” เธอย้ำกับตัวเอง
เหนือนั่งบนเก้าอี้ที่ตั้งชิดริมหน้าต่าง เขามองดวงจันทร์ และท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งด้วยแววตาระริก ชายหนุ่มจำไม่ได้แล้วว่าตนเองได้นั่งเงียบๆ แบบนี้ครั้งสุดท้ายตอนไหน ชีวิตของเขายุ่งจนแทบไม่มีเวลาส่วนตัว ภาระที่แบกไว้ทำให้เหนือมุ่งโฟกัสไปที่เรื่องงานอย่างเดียว
เขาทำงานหนัก ไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทมากนัก
พอมีเวลาว่างเพื่อนๆ ที่คบมาต่างก็มีครอบครัวไปจนหมด เขาเกรงใจที่จะไปมาหาสู่ เพราะคนมีครอบครัวส่วนใหญ่ก็วุ่นวายไม่น้อย เขาเลยหันความสนใจหลังเวลาเลิกงานเป็นสถานเริงรมแทน มันใช้ได้ผลสำหรับการแก้เหงาในช่วงสั้นๆ แต่มันไม่ช่วยให้เขารู้สึกเต็มอิ่ม หากมีเวลาว่าง ความเหงาก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง
ดังนั้นเขาเลยใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย...
ดื่มกับควงสาวไม่ซ้ำหน้า...พอนานวันเข้า...ความเบื่อก็กลับเข้ามาอีกครั้ง มันคงถึงจุดอิ่มตัวสำหรับการใช้ชีวิตเสเพลเช่นนั้น
เขาใช้เวลาเคลียร์งานหลายสัปดาห์ สำหรับการท่องเที่ยวแบบใหม่ ตะเวณไปเรื่อยๆ เพื่อสัมผัสบรรยากาศ เขารู้สึกดีขึ้น แต่ก็ยังเหมือนเดิม...ความรู้สึกเหงาจู่โจมจนแน่นอกไปหมด
ชายหนุ่มถอนใจแรงๆ
ใครบางคนผุดวาบเข้ามาในหัว
รอยยิ้มเหยียดๆ แววตาเยาะหยัน สิ่งเหล่านั้นเหนือไม่เคยเจอ ไม่มีผู้หญิงคนไหนเมินเขามาก่อน แต่เด็กนั่นแสดงความไม่พอใจออกมาโจ่งแจ้ง เขาทำอะไรให้เธอไม่พอใจนะ เหนือเผลออมยิ้ม เขาอารมณ์ดีทุกครั้ง หากได้เจอเธอคนนั้น
“เด็กนั่นอายุห่างกับเรา31ปี พอที่จะเป็นลูกได้เลยนะ” ชายหนุ่มคราง เขาแก่กว่าหญิงผู้นั้นจนไม่อยากคิด
“นอนได้แล้ว” เขาปรามตัวเอง ผุดลุกขึ้นยืน ช่วงนี้คงว่างจัดเขาเลยมีเวลาคิดเรื่องไร้สาระเช่นนี้
บ้านของลูกน้องเก่าไม่ใช่โรงแรมที่เขาเคยพัก ดังนั้นห้องนี้จึงไม่มีห้องน้ำส่วนตัว เหนือฉวยผ้าที่ทัพเอามาให้ขึ้นพาดบ่า เขาชั่งใจระหว่างเดินเปลือยอกออกไปแบบนี้ หรือหาเสื้อใส่ให้เรียบร้อย
แต่ดึกแล้วนี่ คงไม่มีใครนั่งถ่างตาเหมือนเขา ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย นอกจากเสียงแมลงกลางคืน
ชายหนุ่มเลยเดินออกมาแบบนั้น เขาพาดผ้าเช็ดตัวเนื้อนุ่มไว้ที่ไหล่ เปิดประตูเดินตามแสงไฟไปยังจุดที่ทัพบอกไว้ก่อนหน้า
ประตูห้องน้ำปิดสนิท มีแสงไฟส่องลอดออกมา
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว คงมีสมาชิกในบ้านตื่นขึ้นมากลางดึก เพื่อมาทำธุระส่วนตัว เขาเตรียมจะหมุนตัวกลับประตูห้องน้ำก็เปิดอ้า
บุตรสาวคนเดียวของลูกน้องเก่าเขา ยืนอยู่กลางประตู มีแสงไฟจากภายในส่องลอดชุดนอนที่หล่อนสวม
เหนือหรี่เปลือกตาลง...
เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เนื้อผ้าอาจจะไม่บางเท่าที่เคยเห็น แต่พอมีแสงไฟเข้ามาเกี่ยว มันเลยทำให้เกิดจินตนาการ เงาดำใต้เสื้อปราศจากชั้นใน เขาเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของคนตรงหน้าชัดเจน และมันทำให้เกิดปฏิกิริยาแปลกๆ สำหรับเขานั่นเอง
ทับทิมชะงัก เธอเผลอตัวยืนขวางประตู เมื่อเดินออกมาแล้วเจอใครบางคนยืนอยู่ตรงหน้า
หญิงสาวก้มหน้าลงและแอบเบ้ปาก เธอหันข้างให้แสงไฟ นั่นเท่ากับทำให้เหนือเห็นพุ่มพวงของสาววัยแรกแย้มเข้าเต็มตา
ก้อนเสมหะแข็งค้างอยู่กลางลำคอ อาการปากแห้งเกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน ปลายลิ้นสีสดแลบออกมาเลียริมฝีปากด้านล่าง…