ป้าลีสายชง

1325 Words
ปิ๊งรักคุณพ่อลูกติด ผ้ายับที่พับไว้ เขียน บทที่ 8 ------ (บูม) “แล้วแกก็ปล่อยให้ครูเขาไปโดยที่ไม่พูดอะไรเลยน่ะเหรอ” พอผมเล่าจบป้าลีก็ตะโกนใส่หูผมอย่างดังลั่น ทันทีที่รู้เรื่องผมรีบพาน้องแบมมาฝากไว้ที่บ้านป้าลีแล้วรีบตรงไปที่โรงเรียนตั้งใจจะไปรับครูไอรินแล้วก็จะไปขอโทษเขาด้วย “เบาๆ ก็ได้ป้า อยู่กันแค่นี้” “อีนิ้งนะอีนิ้ง เสียดายมันหนีไปก่อนไม่งั้นป้าจะไปด่ามันให้เปิงเลย” พอผมกลับมาถึงบ้านนิ้งมันก็ขับรถออกไปพอดี ไม่รู้มันไปเอารถมาจากไหน “แล้วเมื่อไหร่จะเอาจริงเอาจังกับมันสักที บูมไม่ไล่มัน มันก็อยู่แบบนี้ ถึงบูมจะไม่มีใครก็ไม่ได้แปลว่ามันจะมาลอยหน้าลอยตาอยู่ในบ้านได้แบบนี้นะ คนอื่นเขามองเราเสียๆ หายๆ ผัวทำงานงกๆ อีเมียร่านไปโน่นไปนี่ แบมือขอเงินไปวันๆ ลูกก็ไม่เลี้ยง กินแต่เหล้าดูสาระรูปมันสิ ดูได้ที่ไหน” ป้าลีบ่นเรื่องนี้มากี่ร้อยรอบแล้วผมก็ไม่แน่ใจ “ใครจะพูดยังไงผมไม่ได้สนใจหรอก ผมแค่รอเวลาให้น้องแบมโตกว่านี้สักหน่อย แล้วจะพูดกับลูกให้เข้าใจ” “นี่ก็โตแล้วบูม ป้าเชื่อว่าแบมมันจะเข้าใจ” “แล้วแม่ผมกับแม่นิ้งล่ะ ท่านจะเข้าใจด้วยเหรอ” อีกอุปสรรคที่สำคัญก็คือผู้ใหญ่ ผมพูดตามตรงว่าตรงจุดนี้ใครไม่มาอยู่ในครอบครัว ไม่มาเป็นคนในไม่มีทางเข้าใจเรื่องที่มันละเอียดอ่อนพวกนี้แน่ ถ้าย้อนไปตั้งแต่วันที่พ่อแม่นิ้งพามันมาเจรจากับที่บ้านผม ตอนนั้นผมจะรับแต่เด็ก แล้วไม่รับมันก็ยังได้ แต่เพราะแม่ผมเป็นคนบังคับให้ผมรับผิดชอบ ผมทำมันท้อง ผมก็ต้องเลี้ยงเด็กในท้อง และแต่งงานเพื่อรับผิดชอบ ทั้งๆ ที่แม่ก็ไม่เคยชอบมันเลย ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงมีความคิดแบบนั้น “เออแม่แกก็นะ รู้ทั้งรู้ว่าอีนิ้งมันร้ายแค่ไหน ก็ยังอยากจะเก็บมันไว้เป็นสะใภ้ ไม่รู้จักอายชาวบ้านชาวเมืองเขาบ้าง” “เดี๋ยวผมลองคุยกับแม่ดูก่อน ผ่านมาตั้ง 5-6 ปีแล้ว แม่อาจจะเข้าใจแล้วก็ได้” “อืม ๆ งั้นเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เอาเรื่องนี้ก่อนดีกว่า” “เรื่องไหน?” ผมถามด้วยความสงสัยก็อยู่ๆ ป้าลีก็เปลี่ยนเรื่องไปอย่างไม่เท้าความ “เรื่องครูไอรินนี่ไง” “ทำไม” “ก็จะพาแกไปขอโทษเขาน่ะสิ มานี่ ๆ” ป้าลีลุกขึ้นแล้วเดินนำไปที่ครัว “อะไรเนี่ยป้า” “กับข้าวไง ตอนแรกตั้งใจจะให้แกพาครูมากินข้าวที่นี่ แต่อีนิ้งดันทำเสียเรื่อง” “แล้วไง ป้าก็เลยชวนผมมากินข้าวสองคนเหรอ” เพราะแม่มารับน้องแบมไปแล้วตอนนี้ที่บ้านเลยเหลือแต่ผมกับป้าลี “ติดเชื้อโง่มาจากอีนิ้งหรือไง ก็จะห่อไปกินบ้านครูไอรินไง” “ป้า....ผมไม่กล้าไปกับป้าหรอกนะ” “ทำไมต้องกลัว” ป้าลีถามทั้งที่มือยังวุ่นอยู่กับการจัดปิ่นโต “ผมเป็นต้นเหตุให้เขาโดนนิ้ง....มันไปโวยวายใส่นะ” “นั่นยิ่งต้องไปเลย” ป้าลีหันมาแล้วใช้กระบวยที่กำลังตักกับข้าวชี้มาที่ผม “ผมมีเรื่องที่ต้องบอกป้า” “อะไร” ผมชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง คิดว่าควรเล่าดีหรือเปล่า “ผมเคยขอเบอร์ครูแล้ว” “เหรอ!! แล้วครูเขาว่าไง” “แล้ว.... แล้วครูเขาก็กลัวผมไปเลย” “แค่นี้? แค่นี้แกก็ยอมแพ้แล้วเหรอ” ผมยืนนิ่ง ยอมแพ้อะไรกัน “ก็ผมตั้งใจขอเบอร์ครูเขาก็เพื่อเอาไว้ติดต่อเวลามีธุระหรือเจอเรื่องอะไรที่มันฉุกเฉิน ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ครูดันเข้าใจไปว่าผมไปทำชีกอใส่ แล้วก็พยายามหนีหน้าจากผม ผมเองก็เห็นว่าครูเขาไม่อยากเจอหน้าผม ก็เลยไม่อยากไปยุ่งกับครู” “ไม่ได้อย่างใจเลยเว้ย!!” ป้าลีสบถอย่างหัวเสีย “ป้าถามแกตรงๆ เลยนะที่แกไม่ยอมมีเมียใหม่สักทีเนี่ย เพราะอะไรกันแน่หึ!!” ป้าลีหันมาอีกครั้งพร้อมกับคว้าไหล่ผมแน่นเพื่อเค้นถาม “แกยังไม่ลืมแฟนเก่าจริงๆ อย่างที่อีนิ้งมันบอก หรือว่าแก...ผูกพันกับอีนิ้งเลยไม่ยอมเอาใครมาแทนมัน” ไปกันใหญ่แล้ว “โห่ป้าลี ไม่ใช่ทั้งสองอย่างนั้นแหละ แฟนเก่าน่ะผมลืมเขาไปตั้งนานแล้ว จนเขาแต่งงานมีลูกไปแล้วมั้ง” “งั้นแล้วเหตุผลข้อหลังล่ะ แกผูกพันกับอีนิ้งมันเหรอ” “นี่ก็ไม่ใช่ จะไปผูกพันอะไรล่ะ วันๆ มันแทบจะไม่อยู่บ้านเลย” “งั้นแล้วแกทำไมไม่ยอมมีเมีย ป้าหาใครมาให้แกก็ไม่เอา” จะบอกยังไงดีวะก็แบบไม่อยากมีใคร อยากอยู่กับลูก อยู่แบบนี้มันก็สบายดีแล้วนี่ “ก็....” “หืมมมม ตอบดีดีนะ!!” “ก็แค่อยากอยู่กับลูก เลี้ยงน้องแบมก็ไม่มีเวลาทำอะไรแล้วนะป้า ไหนจะต้องดูร้านอีก” “นี่ไง!! ถ้าแกมีเมียดีดีสักคนแบบครูไอริน ต่อไปแกก็ไม่ต้องเอาเจ้าแบมมาฝากป้าแล้ว ไม่ต้องเทียวไปเทียวมารับส่งให้วุ่นวาย เลิกงานมาก็กลับบ้านไปหาลูกหาเมีย ลูกหลับก็ไม่ต้องปลุกทำลูกเพิ่ม...” “ป้า...” “ก็มันจริงนี่หว่า ดีซะอีกหาแม่ใหม่ให้เจ้าแบมให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย แกไม่สงสารลูกหรือไงมีแม่เฮงซวยแบบนั้น ถ้ามันมีจิตสำนึกอยากกลับตัวบ้างป้าจะไม่ว่าสักคำ นี่อะไรมีแต่จะหนักขึ้นทุกที” ผมยืนนิ่งคิดตามที่ป้าลีพูด มันก็จริง ทุกวันนี้จะไปดูร้านที่ก็ต้องวุ่นวายหอบลูกไปฝากป้า กว่าจะเลิกงานบางวันลูกก็หลับแล้ว จะรับกลับก็ต้องปลุก “แต่...” “แกจะแต่อะไรนักหนาวะ เชื้อเจ้าชู้มันตายห่าไปหมดแล้วหรือไง เมื่อก่อนเห็นควงไม่ซ้ำหน้า” “นั่นมันแต่ก่อน ตอนนี้ผมโตจนมีลูกแล้วนะ ลูกสาวด้วยจะไปทำอย่างตอนนั้นมันไม่ได้แล้ว” “ก็ไม่ได้ให้ทำขนาดนั้นสักหน่อย คำถามสุดท้าย แกว่าครูสวยมั้ย” “ก็...สวยไง ป้าจะถามทำไม” “แล้วชอบมั้ย?” ถ้าพูดในมุมที่ไม่ใช่เชิงชู้สาวส่วนตัวผมชอบผู้หญิงที่รู้กาลเทศะแบบนี้อยู่แล้ว อย่างที่ทุกคนรู้ว่าผมเคยหลงแก้มจนหัวปักหัวปำ ตอนนั้นก็เพราะแก้มเป็นผู้หญิงที่ดูเรียบร้อยในสายตาผม ต่อให้จริงๆ แล้วแก้มจะเป็นยังไง แต่การวางตัวของแก้มมันทำให้ผมรู้สึกประทับใจ “ถามอะไรเยอะแยะป้า กับข้าวจะเย็นหมดแล้ว จะไปไหนก็รีบไปสิ เดี๋ยวขับรถให้” ผมบ่ายเบี่ยงไม่ตอบคำถาม “ฮั่นแน่ เปลี่ยนเรื่องแบบนี้ เตรียมซื้อทองรอรับขวัญน้องไอ้แบมได้เลยสิ” เฮ้อป้าลีนะป้าลีคนอยู่เป็นพ่อลูกติดมาได้ตั้ง 5-6 ปี อยู่ดีดีจะให้ไปจีบใครที่ไหน จีบสาวสมัยนี้เขาต้องจีบกันยังไงไอ้บูมทำไม่เป็นแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD