“ยัยกิ๊บ แกก็ทำให้ชีควาดิมรักแกจริงๆ แล้วก็แต่งงานอยู่ด้วยกันจนแก่ไปเลยนะ” ไอยวรินทร์แอบกระซิบเชียร์เจ้าสาวที่กำลังจะเข้าห้องหอด้วยแววตาตื่นเต้น ที่ได้เพื่อนสนิทมาเป็นสะใภ้อยู่ในตระกูลเดียวกัน แม้จะเริ่มต้นด้วยการเป็นตัวปลอมแต่ก็อาจจะเป็นตัวจริงในไม่ช้านี้ก็ได้ใครจะไปรู้
เวลาผ่านไปรวดเร็วจนวันนี้มาถึง กวินตรามาที่แลตโกเวียและเตรียมความพร้อมอยู่พักใหญ่ เมื่อแต่งงานตามหลักศาสนาของชีคหนุ่มแล้ว ชีคคามูนาก็จัดให้มีการเข้าห้องหอแบบไทยผสมผสานกันไปด้วย ชีควาดิมเองก็ยอมแต่งงานง่ายๆ เพราะเข้าใจเรื่องนี้ดี และรู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นแค่การแต่งงานหลอกตาผู้คนและองค์ราชินีเท่านั้น
แม้ไม่ได้รักกันจริงแต่ผู้คนก็เชื่อสนิทใจ เพราะรู้กันถ้วนทั่วว่าชีควาดิมชื่นชอบหญิงไทยเป็นพิเศษ คนรักเก่าก็เป็นหญิงไทยเช่นกัน จึงดูไม่แปลกหากจะมีความรักกับหญิงไทยอีกคนจนถึงขั้นแต่งงานกัน ไอยวรินทร์อยู่เคียงข้างกวินตราตลอดเวลาในงานแต่งงาน และคอยให้คำปรึกษาทะลึ่งๆ จนอดไม่ได้ต้องหยิกเตือนสติเสียหน่อย
“คิดเรื่อยเปื่อยไปได้ยัยอัยย์ อย่าพูดอย่างนี้อีกนะ ฉันไม่ชอบ ฉันแต่งงานตามหน้าที่อยู่นะแก ไม่ได้มีเวลาคิดเรื่องแบบนั้นหรอก” กวินตรากล่าวสำทับคนที่ร้องโอดโอยแบบเจ็บเกินจริงน้ำเสียงเบา
“แหม แกก็ทำตื่นตูมไปได้ ฉันก็แค่ล้อเล่น เห็นเคยชมว่า ชีควาดิมหล่อ ไม่น่าเชื่อนะว่าอยู่ดีๆ จะได้แต่งงานกันจนได้”
“ฮื่อ พูดเรื่อยเปื่อยมากแก หัดพูดอะไรดีๆ บ้าง ลูกในท้องจะได้นิสัยดี” กวินตราบ่นอุบ อยากให้เพื่อนเลิกพูดเรื่องนี้เหลือเกิน เพราะยิ่งพูดเธอก็ยิ่งเข้าเนื้อมากขึ้นเท่านั้น
“แกนี่เขินแล้วชอบด่าฉันจัง ไม่แซวก็ได้ เดี๋ยวไม่อย่างนั้นใครบางคนจะจิกหมอนด้วยความเขิน” ไอยวรินทร์หัวเราะ ก่อนที่ทั้งสองจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของกวินตราดังขึ้น
“ใครโทรมา เบอร์ของเมืองไทยนี่” กวินตราพึมพำ เธอมาที่นี่ได้พักใหญ่แต่ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือ และยังเปิดโรมมิ่งไว้เพราะยังติดต่อกับเพื่อนหลายๆ คนเรื่องการหุ้นกันเปิดบริษัทส่งออกเสื้อผ้า คนจากทางเมืองไทยจึงยังติดต่อมาได้
“ฮัลโหล หนูกิ๊บเหรอ นี่น้าเองนะ”
กวินตรานิ่วหน้า... จำเสียงได้ว่าใครโทรมา แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้พูดกับเธอด้วยถ้อยคำมธุรสวาจาผิดปรกติเหลือเกิน
“น้ามุกดา”
“หนูกิ๊บ น้าได้ยินข่าวจากทางทีวีว่าหนูได้แต่งงานกับ ชีคเมืองอาหรับเหมือนหนูอัยย์หรือ ทำไมไม่บอกน้าล่วงหน้าก่อนเลยล่ะลูก... สามีหนูคงรวยมากใช่ไหม รู้ไหมว่าคนไทยทางนี้อิจฉาหนูใหญ่เลย...”
พอจับเค้าได้รางๆ ว่าอีกฝ่ายนั้นพูดจาดีกับเธอเพราะคิดว่าเธอกำลังจะได้ดี โธ่ นางช่างเป็นคนที่ลืมง่ายเหลือเกิน สงสัยว่าจะลืมว่าเดือนก่อนนางเคยไล่เธอออกจากบ้านด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ตอนนี้พอได้ข่าวแล้วว่าเธอจะแต่งงานกับเจ้าของ บ่อน้ำมันและโรงแรมห้าดาวกับท่าเรือใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศก็ทำเป็นพูดดีกับเธอจนแทบลืมว่าที่ผ่านมาขัดแย้งอะไรกัน...
แม้กวินตราจะไม่อาฆาตแค้นใคร แต่เธอก็ไม่โง่พอที่จะจำไม่ได้ว่าใครทำอะไรกับเธอไว้บ้าง
“ก็ใช่ค่ะ แต่งงาน ทำไมเหรอคะ”
“ทำไมไม่บอกน้าเลยว่าแต่งงาน ไม่เชิญกันเลยนะ แล้วหนูจะมีญาติผู้ใหญ่ไปงานหรือเปล่า... ค่าสินสอดอะไรยังไง หนูต้องอย่าให้เสียเปรียบนะ ตอนนี้น้ากับไข่มุกอยู่ที่สนามบิน หนูกิ๊บช่วยให้คนมารับน้าไปที่งานหน่อยสิลูก อ้อ ลุงอักษรมาด้วยนะ เขาขอโทษเรื่องวันนั้นด้วย เห็นว่าเข้าใจผิดกันนิดหน่อยจ้ะ ลุงอักษรเมาแล้วเดินเข้าห้องผิดไปห้องหนูกิ๊บ นึกว่าหนูกิ๊บเป็นน้า พอโดนหนูกิ๊บตีก็มึนหัวนึกว่าโจรเลยตีกลับ ตอนนั้นน้าเองก็หึงหน้ามืดเลยไม่ไตร่ตรองดีๆ ก่อน เราคุยกันแล้วก็เลยคิดว่าจะมาขอโทษหนูกิ๊บ แล้วก็มางานแต่งงานเพื่อเป็นสักขีพยาน ไม่ให้หนูได้น้อยหน้าใคร”
กวินตราอยากจะหัวเราะออกมาให้ดัง... คนเราพอได้หน้าด้าน ได้แถ มันก็แถได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด คำพูดที่พูดออกมา คิดว่าพูดให้เด็กอมมือฟังอยู่หรือยังไงไม่รู้ ถึงได้พูดเรื่องไม่จริงออกมา
“น้ามุกดาพูดถูกนะคะ...”
“ใช่จ้ะ” นางรับคำ
“ฟังกิ๊บให้จบก่อนสิคะ”
กวินตราท้วง จริงๆ แล้วแกล้งพูดเพื่อให้มุกดาดีใจก่อนจะตลบหลังไปต่างหาก
“น้ามุกดาพูดถูกอยู่อย่างเดียวว่า วันนั้นน้าหึงจนหน้ามืดไม่ไตร่ตรองดีๆ แล้วเรื่องที่น้าแต่งมาหลอกกิ๊บ คิดว่ากิ๊บโง่จนจะเชื่อเหรอคะ กิ๊บจบเกียรตินิยมนะคะ ไม่ได้ติดเอฟครึ่งหนึ่งได้เกรดดีด็อกครึ่งหนึ่งจนต้องโดนรีไทร์เหมือนยัยไข่มุก กิ๊บมีสมองตรองกว่านั้นค่ะ แล้วอีกอย่างนะคะ พวกน้าตีตั๋วกลับประเทศไปได้เลยค่ะ น้ากับครอบครัวไม่มีความจำเป็นที่จะอยู่ที่นี่ เพราะกิ๊บไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไร ทางนี้พ่อแม่ยัยอัยย์จัดการให้หมดแล้วทุกอย่าง แล้วงานพิธีก็เสร็จทุกอย่าง เหลือแต่เข้าหอแล้วก็ไปฮันนีมูนเท่านั้นค่ะ กิ๊บอยากพึ่งคนใกล้ตัว ไม่อยากพึ่งคนอื่นเลยไม่ได้แจ้งข่าวไป... หวังว่าขาดกันแล้วก็ขาดกันเลยนะคะ อย่าตามมารังควานกิ๊บอีก ไม่อย่างนั้นกิ๊บขอให้สามีกิ๊บจัดการขั้นเด็ดขาดแน่ แค่นี้นะคะกิ๊บไม่ว่าง” หญิงสาวตอกกลับอย่างสะใจ แม้จะไม่สนิทกับสามีสักนิดแต่ก็แอบอ้างชื่อเขาเอาไว้ เพราะไหนๆ เธอก็ใช้นามสกุลเขาแล้ว เขาคงไม่ปล่อยเธอให้ต่อสู้กับคนเลวร้ายแบบนี้เพียงลำพังแน่ๆ
กวินตราวางสายแล้วเล่าให้ไอยวรินทร์ฟัง สองสาวหัวเราะออกมา ทั้งสะใจที่ได้เอาคืนและสมเพชครอบครัวนั้นเหลือเกิน นี่ละหนาเขาเรียกว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว
“เจ๋งมากเลยยัยกิ๊บ”
“ป่านนี้น้ามุกดาคงแทบกระอัก” กวินตรารู้สึกสงสารอยู่เหมือนกันที่อีกฝ่ายคงผิดหวังมาก แต่ก็นั่นแหละ เธอเจ็บแล้วจำคงกลับไปทำดีด้วยไม่ได้ อยากได้อะไรเธอก็ให้ไปหมด ดังนั้นแล้วขาดกันแล้วก็ขอให้ขาดกันเลย อย่าได้มารังควานกันอีกแล้วกัน