ตอนที่หนึ่ง วิวาห์ปรารถนารัก 1
ร่างบางก้าวเดินลงจากรถแท็กซี่ แหงนหน้ามองป้ายชื่อบ้านเพื่อนอันเป็นจุดมุ่งหมายของตน แล้วมองลอดรั้ว อัลลอยด์ของตัวบ้านเข้าไปเห็นรถยุโรปสีดำสนิทจอดอยู่หลายคัน มีบอดี้การ์ดชุดดำหลายคนยืนเฝ้าอยู่ในบริเวณบ้านบอกให้รู้ว่ามีคนที่สำคัญมากอยู่ในบ้านนั้น แสดงว่าเพื่อนเธอคงเดินทางกลับมาถึงเมืองไทยแน่แล้ว...
หญิงสาวตรงเข้าไปกดกริ่งด้วยลักษณะการเดินที่ไม่มั่นคงนัก เพราะความรวดร้าวจากแผลที่ได้รับจากการต่อสู้กับคนที่ทำร้ายตนเองสดๆ ร้อนๆ นั้นทำให้เจ็บปวดทุกครั้งที่ย่างก้าวเดินไป นิ้วมือเรียวเล็กกดห้ามเลือดจากแผลที่มุมปาก น้ำตารินไหลคลอหน่วยตา... แม้อยู่ในสภาพที่น่าอายเหลือเกินที่ต้องมาต้อนรับการกลับบ้านเพื่อนที่แต่งงานไปอยู่แลตโกเวีย[1]มาหลายเดือนแต่เธอก็เลือกที่จะเอาตัวเองในสภาพนี้มาหาเพื่อน เพราะมีเพียงแค่ไอยวรินทร์เท่านั้นที่ช่วยเธอได้...
รปภ. ของบ้านที่รู้จักเธอดีก็นำเธอเดินเข้าตัวบ้านของ พลโทกอบกิจบิดาของเพื่อนสนิท เมื่อมาถึงห้องรับแขก ไอยวรินทร์ก็เดินเข้ามาเธอ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเธอจะมาหาเวลานี้...
“ยัยกิ๊บ!” น้ำเสียงแรกที่ไอยวรินทร์เรียกเธอแต่มันหาใช่เสียงแห่งความดีใจไม่... มันคือน้ำเสียงตกใจเมื่อเห็นสภาพของกวินตรามากกว่า... “แกเป็นอะไร ทำไมถึงเป็นอย่างนี้” ไอยวรินทร์เดินเข้ามาจับเพื่อนไว้ แตะเนื้อตัวที่มีรอยแดงปื้นๆ ตามตัว และแผลได้เลือดในบางส่วน
“อัยย์ ช่วยฉันด้วย” กวินตราพูดเสียงแผ่ว น้ำตาไหลออกมาราวกับทำนบพัง โชคดีเหลือเกินที่ไม่มีใครอยู่ตรงนี้... เพราะคงไปนั่งเล่นที่สวนหลังบ้านกันหมด ไม่อย่างนั้นเธอคงได้อับอายมากกว่านี้หลายเท่า
“ไป ไปทำแผลก่อน ใจเย็นๆ นะยัยกิ๊บ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับแก ฉันช่วยแกแน่” ไอยวรินทร์พาเพื่อนสาวเดินขึ้นห้องนอนของตนเองที่อยู่ชั้นสองที่แม้ว่าตนเองจะไม่อยู่แต่ก็มีคนดูแลอย่างดี...
ไอยวรินทร์ทิ้งกวินตราไว้ในห้องนอน แล้วไปหา กล่องปฐมพยาบาลแล้วรีบกลับมาทำแผลให้เพื่อน ทักษะในการทำแผลของเธอค่อนข้างดีพอสมควร เพราะอยู่บ้านมีแต่พี่ๆ ผู้ชาย นอกนั้นยังเปิดบริษัทบอดี้การ์ด คนที่สนิทชิดเชื้อพบปะกันมีเรื่องให้เจ็บเนื้อเจ็บตัวมาหลายสาเหตุ จนรู้จักเป็นอย่างดีว่าแผลแต่ละชนิดจะต้องรักษาอย่างไร...
“ขอบใจแกมากนะอัยย์” กวินตราบอกอย่างขอบคุณ
“แล้วแกจะเล่าให้ฉันฟังได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น แกจะให้ฉันช่วยอะไร” คนเป็นเพื่อนถามอย่างร้อนใจเป็นห่วงเนื่องจากไม่เคยเลยสักครั้งที่จะเห็นเพื่อนมีสภาพเช่นนี้
“แกจำที่ฉันบอกในวันที่แม่เลี้ยงฉันแต่งงานใหม่ได้ไหมว่าฉันไม่ชอบพ่อเลี้ยงตัวเอง แล้วไอ้พ่อเลี้ยงนั่นมันก็ออกลายอย่างที่เห็นนั่นแหละ มันจะข่มขืนฉัน แต่ฉันสู้มันได้ พอออกจากห้องมาก็เจอกับแม่เลี้ยงจังๆ เลย”
“โอย ตายๆ ชีวิตแกทำไมมันเหมือนนิยายเข้าไปทุกที” คิ้วของไอยวรินทร์ขมวดเป็นปม... “ให้ฉันเดานะ ไอ้พ่อเลี้ยงแกต้องบอกแม่เลี้ยงแกว่า แกยั่วมันก่อน แล้วแม่เลี้ยงแกก็เชื่อใช่ไหม” คนที่รู้จักครอบครัวเพื่อนดี เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเดา...
เมื่อกวินตราพยักหน้า ไอยวรินทร์ก็ถอนหายใจออกมาดังๆ
ครอบครัวของไอยวรินทร์อยู่กันพร้อมหน้า รักและสามัคคีกัน แต่ครอบครัวของกวินตรากลับตรงกันข้าม เพราะชีวิตของเธอไม่ต่างจากซินเดอเรลล่าเลย... หลังจากที่บิดาของ กวินตราเสียชีวิตตอนเธออยู่ปีหนึ่ง ยังดีที่มีพี่ชายค้ำหัว มรดกที่ได้จึงไม่โดนแม่เลี้ยงฮุบไปหมด แต่พี่ชายของกวินตราก็เลือกผู้หญิงมากกว่า เขาไปอยู่กับแฟนที่ต่างประเทศไม่สนใจน้องสาว กรรมนั้นก็สนองให้เขาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตพร้อมๆ กับแฟนตามหลังพ่อไป ห่างกันแค่เพียงสามเดือนเท่านั้น...
สุดท้ายกวินตราไม่เหลือใครเลย แต่ก็ยังมีสมบัติที่พ่อเหลือไว้ให้คือเงินสดเล็กน้อยในบัญชี และสิทธิ์ที่จะอยู่บ้านร่วมกับแม่เลี้ยงและน้องๆ อีกสองคนที่เป็นลูกติดของแม่เลี้ยง กวินตรายังพึ่งตัวเองได้ไม่มากเพราะยังเรียนอยู่ เธอจึงตั้งใจเรียนและอยู่บ้านนั้นแม้จะไม่ถูกกันกับแม่เลี้ยงเท่าไหร่... ตอนนี้เรียนจบยังไม่นานนัก งานก็หาไม่ได้เธอจึงต้องอยู่ที่บ้านต่อจนเกิดเรื่องขึ้นมา
“ใช่ แล้วแม่เลี้ยงฉันก็ไล่ฉันออกจากบ้าน” กวินตราเอ่ยแค้นๆ
“ได้ไง แกมีสิทธิ์ในบ้านหลังนั้นนี่... จะไล่กันง่ายๆ ได้ยังไง”
“ไม่มีหรอก... บ้านนั้นพ่อยกให้แม่เลี้ยงไม่ได้ยกให้ฉัน แต่ว่าในพินัยกรรมให้ฉันอยู่ด้วยได้... ฉันกับพี่กัสได้แค่เงินสดเพราะพ่ออยากให้เป็นทุนการศึกษา ท่านคงไม่คิดว่าฉันจะมีปัญหากับแม่เลี้ยงหรอก เพราะตอนอยู่ต่อหน้าพ่อแม่เลี้ยงฉันดีกับฉันเหมือนไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย แล้วก่อนพ่อตายพี่กัสก็ยังไม่ตาย พินัยกรรมมันถึงออกมาอย่างนั้นไง”
“ถ้าอย่างนั้นแกออกมาดีกว่า อยู่นั่นคงได้เป็นเมียพ่อเลี้ยงแกสักวัน แล้วแกจะให้ฉันช่วยอะไร บอกมาได้ไม่ต้องเกรงใจนะกิ๊บ” ไอยวรินทร์บอกเพื่อน
“ฉันมาที่นี่เพื่อขอให้แกช่วยนั่นแหละ เพราะว่า ไอ้พ่อเลี้ยงของฉันมันเป็นพวกผู้มีอิทธิพล ฉันคิดว่ามันต้องขายยาหรือทำอะไรที่ผิดกฎหมายด้วยแน่ๆ เพราะบ้านมีผู้ชายหลายคนมาป้วนเปี้ยน แต่ละคนก็หน้าตาน่ากลัว... วันนี้ฉันทำมันไว้เยอะ ตอนนี้ไม่รู้ว่ามันฟื้นหรือยัง หรือว่าตายแล้วก็ไม่รู้...
ยัยอัยย์ฉันอยู่เมืองไทยไม่ได้แล้ว... ฉันอยากไปอยู่เมืองนอก ไปอยู่ในที่ที่อิทธิพลมืดของมันไปไม่ถึง เพื่อความปลอดภัย แกช่วยรับรองให้ฉันไปอยู่ประเทศเดียวกันกับแกได้ไหม ฉันจะไปหางานทำที่นั่น หรือหาไม่ได้ ฉันก็อยู่ได้หลายปี เพราะเงินยังเหลือเยอะ” กวินตราจับมือเพื่อนไว้ขอร้องอย่างไม่อาย... รู้ว่าหากไปแลตโกเวียคงจะมีชีวิตที่ปลอดภัยขึ้น เพราะกฎหมายที่นั่นเข้มงวด แต่ก็ไม่ง่ายนักที่ผู้หญิงตัวคนเดียวจะย้ายไปอยู่ที่นั่นได้ง่ายๆ เธอจึงต้องอาศัยเพื่อนช่วยเหลือ
“ได้ ฉันจะให้สามีฉันจัดการให้... แกได้กลับไปแลตโกเวียพร้อมฉันในอีกสี่วันแน่นอน แกไปอยู่กับฉันที่นั่นเลยก็ได้... เดี๋ยวค่อยหาทางขยับขยาย”
“ขอบคุณแกมากนะอัยย์” น้ำตากวินตราจะไหลอีกรอบ เพราะซึ้งใจเพื่อน
“ขอบคุณอะไรกันแก... ตอนเราเป็นเพื่อนกัน มีแต่แกที่ดูแลฉัน ดีกับฉันมาตลอด ฉันหนีเที่ยวเมื่อไหร่แกก็ออกรับกับ ที่บ้านแทนฉันทุกครั้ง แกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันนะกิ๊บ ฉันช่วยแกได้ทุกอย่างละน่า อย่าเกรงใจ” ไอยวรินทร์ตบไหล่เพื่อนเบาๆ “ว่าแต่แกไม่ได้เอาอะไรมาเลยใช่ไหมนี่”
“ไม่ได้เอามา ฉันรีบออกมาเลย กลัวพวกมันจับตัวไว้... แต่ฉันก็เสียดายของของฉัน อยากไปเก็บของตั้งหลายอย่าง แต่ฉันไม่กล้าเข้าไป”
“ไป ฉันจะขนการ์ดจากบริษัทของพ่อไปสักสิบห้าคน... เอาการ์ดของชีคซาอิดไปด้วยอีกสิบคน ฉันจะพาแกไปเอาของเอง งานนี้ไม่มีใครกล้าหือแน่”
ไอยวรินทร์ดึงแขนเพื่อนให้ลุก จะรีบพาไปให้ได้เดี๋ยวนี้เลย กวินตราเองก็ต้องการกลับไปเอารูปครอบครัวและสิ่งของต่างๆ ที่เป็นสิ่งเตือนความทรงจำติดตัวไป เพราะเธอคงไม่ได้กลับไปที่บ้านนั้นอีกแล้ว... ครั้งนี้เธอคงตัดใจจากบ้านที่อยู่มาตั้งแต่เด็ก เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
ยังไม่ทันที่สองสาวจะเดินไปถึงประตูห้อง บานประตูไม้สักก็ถูกเคาะและเปิดออกเสียก่อน... ชีคคามูนาก้าวเข้ามาแล้วก็เอ่ยทักกวินตราด้วย ท่านรู้จักว่าเป็นเพื่อนของ ไอยวรินทร์ตั้งแต่ตอนที่มีงานจัดเลี้ยงงานแต่งงานไอยวรินทร์แล้ว
“หนูกิ๊บ เป็นอะไรลูก ทำไมหน้าเป็นอย่างนั้น แล้วนี่กำลังจะไปไหนกัน” แม่สามีถาม... ไอยวรินทร์ถึงนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เธอไม่ได้เป็นคนตัวเปล่าเล่าเปลือยลุยได้ถึงไหนถึงกันเหมือนเมื่อก่อน เพราะตอนนี้เธอมีสามีที่ขี้หวงมากๆ มีแม่สามี มีคนที่บ้านอีก ที่สำคัญภายใต้หน้าท้องแบนๆ ของเธอยังมีชีคซาอิดน้อยๆ วัยเดือนกว่าอยู่ด้วย เธอจะออกบู๊ง่ายๆ ดั่งใจไม่ได้อีกแล้ว ถ้าไม่ได้รับความเห็นพร้อมจากทุกคน
งานนี้เห็นทีต้องเล่าเรื่องกวินตราให้ชีคคามูนาฟัง คนรักความยุติธรรมอย่างท่าน จะต้องช่วยเธอกับกวินตราจนถึงที่สุดแน่นอน...
[1]สหรัฐแลตโกเวีย คือประเทศสมมติที่ผู้เขียนจินตนาการขึ้นมาโดยสมมติว่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านของสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ ซึ่งเป็นดินแดนทะเลทราย ประกอบไปด้วยสี่รัฐคือรัฐราสอัลไมคาราฟปกครองโดยชีคซาอิด รัฐคอรีเยาะห์ปกครองโดยชีควาดิม รัฐมูซอรอฟปกครองโดยชีคอับดุลลา และมีเมืองหลวงคือรัฐแลตโกเวียปกครองโดยองค์สุลต่านชื่อประเทศแลตโกเวีย ชื่อบุคคลและสถานที่ต่างๆ ในนิยายเรื่องนี้เป็นจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น